การต่อวงจรและการวัดหลอดฟลูออเรสเซนต์, บัลลาสต์, สตาร์ทเตอร์ -
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
ธันวาคม 04, 2024, 12:40:23 pm *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: การต่อวงจรและการวัดหลอดฟลูออเรสเซนต์, บัลลาสต์, สตาร์ทเตอร์ -  (อ่าน 76698 ครั้ง)
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« เมื่อ: กันยายน 07, 2009, 01:33:07 pm »

..เนื่องจากมีนศ.มือใหม่จริงๆในงานช่างไฟฟ้า บางท่านสอบถามเข้ามา ถึงจะเป็นคำถามนอกบทเรียนไปหน่อยและเป็นความรู้เบื้องต้นที่ง่ายมาก .. ก็ยินดีลงให้เพื่อความรอบรู้ในงานไฟฟ้าครับ .. 


การต่อวงจรหลอดฟลูออเรสเซนต์, บัลลาสต์, สตาร์ทเตอร์ ง่ายนิดเดียวครับ หวังว่านศ.ทุกท่านคงเชี่ยวชาญอยู่แล้ว จะไม่อธิบายรายละเอียดมากมายนะครับ  HAPPY2!!


บันทึกการเข้า

ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 07, 2009, 01:38:28 pm »

รูปด้านบนเรียกว่า schematic diagram

รูปด้านล่างเรียกว่า wiring diagram แสดงการต่อสายจริง   HAPPY2!!
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: กันยายน 07, 2009, 01:40:15 pm »

ชื่อของอุปกรณ์ต่างๆมีไม่กี่ชิ้น .. แต่หลับตาต่อไม่ได้นะ ประเดี๋ยวไฟจะดูดเอา ..  HAPPY2!!
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: กันยายน 07, 2009, 02:03:31 pm »

เราทราบดีอยุ่แล้วว่า บัลลาสต์ประกอบด้วยลวดทองแดงพันรอบแกนเหล็ก
-หากวัดแล้วเข็มไม่กระดิกเลย(กรณีใช้มิเตอร์แบบเข็ม) แสดงว่าบัลลาสต์ตัวที่กำลังวัดนั้นขดลวดขาด
-หากวัดแล้วเข็มกระดิกชี้ที่ศูนย์โอห์ม(กรณีใช้มิเตอร์แบบเข็ม) แสดงว่าบัลลาสต์ตัวที่กำลังวัดนั้นขดลวดชอร์ทแล้ว

ดังนั้นหากบัลลาสต์ตัวที่กำลังวัดดี ควรมีความต้านทานใกล้เคียงดังภาพ เช่นตัวนี้วัดได้ 53.2โอห์ม(สาธิตการวัดพอเป็นแนวทาง...ความต้านทานของขดลวดจะขึ้นอยู่กับขนาดวัตต์ของตัวบัลลาสต์ด้วยนะครับ)
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: กันยายน 07, 2009, 02:09:48 pm »

การวัดหลอด 
-วัดไส้หลอดเป็นเบื้องต้น จะวัดโอห์มได้ใกล้เคียงภาพครับ ความต้านทานของไส้หลอดทั้ง2ด้าน ไม่จำเป็นต้องเท่ากัน แต่จะมีค่าใกล้เคียงกัน
-หากวัดได้ดังภาพแสดงว่าไส้หลอดยังไม่ขาด
-แต่บางหลอดไส้หลอดยังไม่ขาดก็เสียได้ครับ ...โดยมักจะมีเขม่าสีดำเกาะอยู่ใกล้ขั้วหลอด แสดงว่าหลอดนั้นเสื่อมแล้ว  อาการของหลอดเสื่อมเช่นเปิดแล้วติดสว่างช้า ต้องสตาร์ท นานเป็นต้น หรือเสื่อมมากๆก็ถึงกับเปิดไม่ติดเลยครับ  HAPPY2!!
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: กันยายน 07, 2009, 02:34:25 pm »

ส่วนการวัดสตาร์ทเตอร์นั้น จะวัดความต้านทานไม่ได้ครับ เพราะสตาร์ทเตอร์จะต่อวงจรเมื่อกระแสไฟไหลผ่านเท่านั้น โดยแก๊สจะแตกตัว ทำให้ขั้วไบเมทอลร้อนมาสัมผัสกัน ทำให้นำกระแสได้(ดูรูปล่างประกอบความเข้าใจครับ)

หมายเหตุ::
ไบ= สอง
เมทอล=โลหะ
 ดังนั้นไบเมทอลคือโลหะ2แผ่น นำมาวางประกบกันอาจอยู่ติดหรืออยู่ห่างกันก็ได้ขึ้นอยู่กับการใช้งาน และโลหะทั้ง2แผ่นนั้นจะใช้วัสดุต่างชนิดกันหรือเป็นชนิดเดียวกันก็ได้ขึ้นอยู่กับการออกแบบ ยกตัวอย่างการใช้โลหะ2ชนิด เช่นแผ่นแรกใช้เหล็ก แผ่นที่2ใช้ทองแดง ..เมื่อได้รับความร้อนพร้อมกัน ทองแดงจะขยายตัวได้เร็วกว่าเหล็ก จึงโก่งงอไปชนกับเหล็ก ..หลักการนี้ใช้ในเครื่องไฟฟ้าหลายประเภทเช่น ปุ่มปรับความร้อนในเตารีด หม้อหุงข้าว สตาร์ทเตอร์ ไฟกระพริบ ฯลฯ


  ดังนั้นเมื่อเราวัดสตาร์ทเตอร์จะเห็นว่าเข็มมิเตอร์จะไม่กระดิกเลย เพราะเหตุผลดังข้างต้น  HAPPY2!!

 
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: กันยายน 07, 2009, 02:37:40 pm »

การวัดสตาร์ทเตอร์ทำได้โดยต่อวงจรดังภาพ
หลอดไฟ40-100วัตต์
-หากหลอดไฟไม่ติดเลย แสดงว่าสตาร์ทเตอร์เสื่อม ขั้วไบเมทอลเสียแล้ว
-หากหลอดไฟติดสว่างค้าง แสดงว่าสตาร์ทเตอร์ชอร์ท
-ถ้าสตาร์ทเตอร์ดี หลอดไฟจะกระพริบ   HAPPY2!!
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: กันยายน 07, 2009, 05:04:20 pm »

ภาพจริงเมื่อจ่ายไฟเข้าวงจร จะเห็นว่าหากสตาร์ทเตอร์ดี หลอดไฟจะกระพริบถี่ๆ และให้สังเกตด้วยว่าก๊าซภายในตัวสตาร์ทเตอร์จะแตกตัวทำงานเป็นสีม่วงกระพริบตลอดเวลา ...ในวงจรต่อใช้งานจริงกับหลอดฟลูออเรสเซนต์ ตัวสตาร์ทเตอร์จะทำงานเพียงช่วงสตาร์ทเท่านั้น เมื่อมีกระแสไฟไหลผ่านตัวหลอดโดยไหลผ่านไอปรอทแล้ว ทางเดินไฟจะไม่วิ่งผ่านสตาร์ทเตอร์อีกต่อไป แต่จะวิ่งผ่านหลอดฟลูออเรสเซนต์แทนครับ  THANK!!

https://www.ubmthai.com/forum%20picture/flash/ST.swf
บันทึกการเข้า
visut+
สนับสนุนLSV+
member
***

คะแนน107
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 224


« ตอบ #8 เมื่อ: กันยายน 07, 2009, 10:38:10 pm »

ชอบบทความแบบนี้มากเลยครับ อ่านเข้าใจง่ายๆ ได้ความรู้มาก Cheesy
บันทึกการเข้า

หากข้าพเจ้าจงใจหรือประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินบิดา มารดา ครูบาร์อาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะด้วยกาย วาจา ใจ ก็ดี ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #9 เมื่อ: กันยายน 08, 2009, 11:33:26 am »

แถมให้อีกนิดครับ หากเจอปัญหาเปิดสวิทซ์แล้ว มีเสียงรบกวนเข้าเครื่องเสียง ให้เพิ่มค่าคาปาซิเตอร์ในตัวสตาร์ทเตอร์จะลดการรบกวนในช่วงที่หลอดกำลังสตาร์ทได้มากครับ  HAPPY2!!
บันทึกการเข้า
taoybb
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: กันยายน 09, 2009, 07:37:48 pm »

แถมให้อีกนิดครับ หากเจอปัญหาเปิดสวิทซ์แล้ว มีเสียงรบกวนเข้าเครื่องเสียง ให้เพิ่มค่าคาปาซิเตอร์ในตัวสตาร์ทเตอร์จะลดการรบกวนในช่วงที่หลอดกำลังสตาร์ทได้มากครับ  HAPPY2!!
บางยี่ห้อใส่ให้แล้วนะครับ ดูๆหน่อยเวลาซื้อ เลือกที่ใส่ให้แล้วดีกว่าครับเป็นผลดีต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น
บันทึกการเข้า
pimdown
ชุมชนคนรักอาชีพช่าง
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 161


อีเมล์
« ตอบ #11 เมื่อ: กันยายน 21, 2009, 10:29:15 am »

ได้ความรู้เพิ่มอีกเพียบเลยครับ
บันทึกการเข้า
tongbai+
สนับสนุนLSV+
member
***

คะแนน107
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 166



« ตอบ #12 เมื่อ: กันยายน 25, 2009, 01:01:54 pm »

ได้รับความรู้เพิ่มอีกแล้วว่าการทำงานจริงๆมันเป็นอย่างไร รวมทั้งการตรวจเช็ค ขอบพระคุณครับ
บันทึกการเข้า
1100
member
*

คะแนน7
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 248


« ตอบ #13 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2009, 12:49:55 pm »

ขอบคุณมากๆๆครับท่านอาจาร์ย  ได้ความรู้เพิ่มอีกหนึ่ง
บันทึกการเข้า
tduangman
member
*

คะแนน1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13


อีเมล์
« ตอบ #14 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2009, 02:07:59 pm »

ขอบคุณครับ ท่านอาจารย์ได้ความรู้เพิ่มอีกมากเลยครับ  Cheesy
บันทึกการเข้า
kuni
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9


อีเมล์
« ตอบ #15 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2009, 11:34:58 pm »

ขอบคุณครับ ท่านอาจารย์ได้ความรู้เพิ่มอีกมากเลยครับ lv! lv! lv!
บันทึกการเข้า
mato
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10


« ตอบ #16 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2009, 03:16:35 pm »

ขอบคุณมากครับ
บันทึกการเข้า
p-khan
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18


« ตอบ #17 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2009, 01:36:08 pm »


 ถ้าผมจะใช้บัลลาสท็ 32 วัต 1 ตัว กับหลอคนีออน ขนาด 10 วัต 3 หลอดจะได้มั้ยครับ
 ถ้าได้ กรุณาเขียนวงจรด้วยครับ

  wav!!  wav!!
บันทึกการเข้า
syncmaster
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3


« ตอบ #18 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2009, 11:09:38 pm »

 lv!
บันทึกการเข้า
sutichai
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 48


อีเมล์
« ตอบ #19 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2009, 12:13:59 pm »

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
nunano
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 61

ถ้าวันนั้นไม่เจอปัญหา อัจฉะริยะวันนี้คงไม่เกิด


« ตอบ #20 เมื่อ: มกราคม 16, 2010, 08:55:39 am »

ขอบคุณมากครับ
แต่อยากทราบว่า บัลลาสต์เป็นเพียงแค่ขดลวดขดเดียวที่พันรอบแกนเหล็กตัวนี้มันมีหน้ามี่อะไรครับ
ที่แน่ๆมันคงมีเส้นแรงแม่เหล็กเกิดขึ้นนะครับ
บันทึกการเข้า

I am ok and you are ok.
by sound  tawaravadee resort hotel@prachinburi
bosszi
member
*

คะแนน3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 69

bosszi@hotmail.com
เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #21 เมื่อ: มกราคม 31, 2010, 08:51:48 am »

ขอบคุณครับ ได้ความรู้เพิ่ม เข้าใจง่ายมากครับ
บันทึกการเข้า
changtong
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 17


« ตอบ #22 เมื่อ: มีนาคม 09, 2010, 09:27:28 pm »

ทำไมวงจรต้องใช้ สตาร์ทเตอร์ด้วครับ

ไม่มีไฟจะไม่ติดหรอครับ
บันทึกการเข้า
Nattawut-LSV Team
E23IUY
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน808
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3581


อีเมล์
« ตอบ #23 เมื่อ: มีนาคม 10, 2010, 07:41:21 am »

ทำไมวงจรต้องใช้ สตาร์ทเตอร์ด้วครับ

ไม่มีไฟจะไม่ติดหรอครับ

ทำไมวงจรหลอดฟลูออเรสเซนต์ ต้องใช้สตาร์ทเตอร์ด้วย....

สตาร์ทเตอร์ทำงานเป็นสวิทช์ความร้อนครับ
เมื่อเปิดไฟ กระแสไฟจะวิ่งผ่านบัลลาส(เป็นขดลวดพันบนแกนเหล็ก) ผ่านใส้หลอด และผ่านสตาร์ทเตอร์ลงกราวน์ครบวงจร ทำให้เกิดความร้อนขึ้นที่ใส้หลอดและแผ่นไบเมทอลของสตาร์ทเตอร์จนถึงจุดหนึ่งแผ่นไบเมทอลที่ร้อนจนงอตัวออกทำให้สตาร์ทเตอร์ตัดวงจร  เมื่อไฟไม่ครบวงจรสนามแม่เหล็กรอบๆแกนบัลลาสจะหดตัวลงตัดกับขดลวดที่พันอยู่รอบๆทำให้เกิดไฟแรงสูงขึ้นในขดลวด(Back EMF) ไฟแรงสูงนี้จะทำให้อิเลคตรอนสามารถโดดข้ามจากใส้หลอดข้างหนึ่งผ่านไอก๊าซไปยังใส้หลอดอีกข้างหนึ่งได้ ทำให้หลอดฟลูออเรสเซนต์เรืองแสงได้(เมื่ออิเลคตรอนวิ่งผ่านได้แล้วก๊าซภายในหลอดจะมีความต้านทานลดลงคือนำไฟฟ้าได้ต่อเนื่อง สตาร์ทเตอร์จึงหมดความจำเป็นแค่นี้)
คาปาซิเตอร์ที่อยู่ในสตาร์ทเตอร์ใช้ป้องกันการอาร์คที่หน้าสัมผัสและลดสัญญาณรบกวน ดังที่ท่าน อาจารย์เล็กได้กล่าวไว้ข้างต้น....

ไม่มีสตาร์เตอร์ หลอดไฟก็จะไม่ติดครับ...
นอกเสียจากว่าเราหาสตาร์ทเตอร์ไม่ได้จริงๆ ให้เอาสายไฟ
ไปเขี่ยตรงขั้วของสตาร์เตอร์ แล้วหลอดไฟจะติด 
บันทึกการเข้า
changtong
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 17


« ตอบ #24 เมื่อ: มีนาคม 10, 2010, 07:01:24 pm »

อ๋อ

จิงด้วยครับ   

เยี่ยมจิงๆๆ ใครคิดคนแรกนิ   

ขอบคุณมากครับ
บันทึกการเข้า
herher
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3


อีเมล์
« ตอบ #25 เมื่อ: เมษายน 30, 2010, 04:31:37 pm »

ขอบคุณมากครับ
บันทึกการเข้า
bundhit
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13


อีเมล์
« ตอบ #26 เมื่อ: มิถุนายน 24, 2010, 10:35:26 am »

 ping!แหล่มเลยครับอาจารย์
บันทึกการเข้า
Manu00 (♥)
ซุปเปอร์ วีไอพี
member
*

คะแนน78
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 334

คิดว่าจะทำ ก็รีบทำจะได้รู้ผล


อีเมล์
« ตอบ #27 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2010, 08:56:18 am »

 lv! สุยอดเลยครับ ท่านอาจารย์ ส่วนมากเวลาไฟมีปัญหา ก็คิดว่าตัวนั้นเสีย ตัวนี้เสีย หาซื้อมาเปลี่ยน
เนื่องจากไม่รู้หลักการและวิธีทดสอบอุปกรณ์  ping!  Cheesy
บันทึกการเข้า

มนู โอวาท 142หมู่ 7 ต.เหล่ากวาง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ Tel 085-3136405  # ;วันนี้ช่วยเพื่อนสมาชิกหรือยัง
psound1
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8


อีเมล์
« ตอบ #28 เมื่อ: กันยายน 21, 2010, 01:43:43 pm »

เยี่ยมมากเลยครับ ละเอียดมากเลยครับ ขอบคุณครับ WAIT!! WAIT!! WAIT!!
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!