![](http://www.leksound.net/uppic2558/5-2558/boxing_leksound-net_10.jpg)
ก่อนที่เมย์เวทเธอร์และปาเกียวจะโคจรมาเจอกันในวัย 30 กว่าๆ นั้น เส้นทางนักสู้ของทั้งสองคนมีความพัวพัน เฉียดกันไปกันมา โดยตลอด เห็นได้จากสถิติที่ระบุชัดว่า มีเพื่อนนักมวยร่วมวงการมากถึง 5 คน ซึ่งเคยปะหมัดวัดฝีมือกับทั้งฟลอยด์และปาเกียวมาแล้ว
รายแรก คือ สุดหล่อ ออสการ์ เดอ ลา โฮย่า ที่แพ้คะแนนเมย์เวทเธอร์อย่างไม่เป็นเอกฉันท์ในปี ค.ศ.2007 ก่อนจะยอมแพ้ปาเกียว หลังเกมการชกดำเนินไปได้ 8 ยก ในปี ค.ศ.2008
รายต่อมา คือ นักบู๊จากแมนเชสเตอร์ ริคกี้ ฮัตตัน ที่ขึ้นฟาดปากกับฟลอยด์ในปี ค.ศ.2007 ก่อนจะถูกจับแพ้อย่างหมดสภาพในยกที่ 10 หลังจากนั้น ในปี ค.ศ.2009 ฮัตตันมีโอกาสได้ขึ้นชกกับปาเกียว และแพ้น็อคไปอย่างหมดรูปในยกที่ 2
รายที่สาม คือ มิเกล ค็อตโต นักมวยฝีมือดีชาวเปอร์โตริกัน ซึ่งขึ้นชกกับปาเกียวในปี ค.ศ.2009 และถูกจับแพ้ทีเคโอในยกที่ 12 ต่อมา ในปี ค.ศ.2012 ค็อตโตขึ้นสังเวียนปะทะกับเมย์เวทเธอร์ และแพ้คะแนนไปอย่างเป็นเอกฉันท์
รายที่สี่ คือ ชูการ์ เชน มอสลีย์ ยอดมวยอเมริกันอีกหนึ่งคน ซึ่งแพ้คะแนนให้แก่ฟลอยด์อย่างเป็นเอกฉันท์ในปี ค.ศ.2010 แล้วก็มาแพ้คะแนนให้ปาเกียวอย่างเป็นเอกฉันท์เช่นกันในปี ค.ศ.2011
ปิดท้ายด้วย ฮวน มานูเอล มาร์เกซ สุดยอดฝีมือชาวเม็กซิกัน ที่เคยขึ้นชกกับเมย์เวทเธอร์แค่เพียงครั้งเดียวในปี ค.ศ.2009 แล้วพ่ายคะแนนไปอย่างเป็นเอกฉันท์
อย่างไรก็ตาม มาร์เกซกลับเปิดศึกยืดเยื้อกับปาเกียวอย่างต่อเนื่องมากถึง 4 ไฟต์
ไฟต์แรก เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.2004 มาร์เกซขึ้นป้องกันตำแหน่งซูเปอร์แชมป์โลกรุ่นเฟเธอร์เวต ของสมาคมมวยโลก (WBA) และแชมป์โลกรุ่นเดียวกัน ของสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) โดยเขาตกเป็นฝ่ายถูกดาวรุ่งพุ่งแรงจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สอยร่วงไปถึง 3 นับ ในยกที่ 1 (ซึ่งถ้าการชกดำเนินไปตามกติกาบางรูปแบบ นักชกเม็กซิกันจะต้องถูกจับแพ้ทีเคโอไปแล้ว) แต่หลังจากนั้น มาร์เกซกลับค่อยๆ แก้เกมได้ เมื่อชกครบ 12 ยก กรรมการคนแรกให้มาร์เกซชนะ 115-110 คนที่สอง ให้เสมอกัน 11-113 และคนสุดท้าย ให้ปาเกียวชนะ 115-110 ทั้งคู่จึงเสมอกันไปอย่างดุเดือด
ไฟต์ที่สอง เกิดขึ้นในอีก 4 ปีต่อมา ปาเกียวขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวต ของสภามวยโลก (WBC) จากมาร์เกซ คราวนี้ ยอดมวยฟิลิปปินส์เฉือนเอาชนะคะแนนไปอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ 115-112, 112-115 และ 114-113
นำมาสู่การรีแมตช์ในไฟต์ที่สาม เมื่อปี ค.ศ.2011 ซึ่งเป็นการป้องกันแชมป์โลกรุ่นเวลเตอร์เวต ขององค์กรมวยโลก (WBO) ของปาเกียว เกมการชกครั้งนี้ หลายฝ่ายมองว่ามาร์เกซทำได้ดีกว่า แต่ผลการตัดสินกลับออกมาตรงกันข้าม คือ ปาเกียวเป็นฝ่ายชนะคะแนนอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ 115-113, 114-114 และ 116-112
ศึกแก้มือไฟต์ที่สี่ จึงบังเกิดขึ้นตามมาในอีก 1 ปีให้หลัง โดยปาเกียวซึ่งเพิ่งแพ้คะแนนทิโมธี่ แบรดลีย์ มา ถูกมาร์เกซต่อยนับไปก่อนในยกที่ 3 ก่อนที่ปาเกียวจะสอยนักชกเม็กซิกันร่วงลงไปนับแปดเช่นกันในยกที่ 5 แต่แล้วยอดนักมวยฟิลิปปินส์กลับถูกหมัดเด็ดพ่ายน็อกไปอย่างเจ็บปวดและหลับสนิท ในวินาทีสุดท้ายของยกที่ 6
สงครามมหากาพย์ระหว่างปาเกียวกับมาร์เกซ จึง ยุติ? ลงด้วยผลลัพธ์ ปาเกียวชนะ 2 เสมอ 1 มาร์เกซชนะ 1
อีกหนึ่งเกร็ดข้อมูลที่น่าสนใจ ก็คือ เมื่อย้อนดูเส้นทางการชกมวยช่วงต้นๆ ของทั้งคู่แล้ว เราจะพบว่าฟลอยด์และปาเกียวต่างมีสายสัมพันธ์กับนักชกไทย
เมย์เวทเธอร์เคยเป็นตัวแทนนักชกรุ่นเฟเธอร์เวตของทีมชาติสหรัฐอเมริกา เข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่แอตแลนต้า ในปี ค.ศ.1996 เขาโชว์ฟอร์มเก่งกาจจนเข้าถึงรอบสี่คนสุดท้าย ก่อนจะพ่ายคะแนนให้แก่ เซราฟิม โทโดรอฟ จากบัลแกเรีย ไป 9-10
ฟลอยด์จึงคว้าได้เพียงเหรียญทองแดง ขณะที่โทโดรอฟได้เข้าไปชิงชนะเลิศกับ สมรักษ์ คำสิงห์ ของไทย และเป็นฝ่ายสมรักษ์ที่เอาชนะคะแนนไปได้ จนสามารถนำเหรียญทองโอลิมปิกเหรียญแรกในประวัติศาสตร์ กลับสู่ผืนแผ่นดินไทยได้สำเร็จ
อย่างไรก็ดี ในเส้นทางสายนักมวยอาชีพ เมย์เวทเธอร์ไม่เคยประลองฝีมือกับนักมวยชาวไทยแต่อย่างใด
ผิดกับปาเกียวที่ดวลกำปั้นกับนักชกไทยเพื่อนบ้านร่วมภูมิภาคอุษาคเนย์ มาแล้วอย่างโชกโชน
ในปี ค.ศ.1997 เป็นครั้งแรก ที่ปาเกียวได้ปะหมัดกับคู่ต่อสู้ชาวไทย โดยเขาขึ้นชิงแชมป์รุ่นฟลายเวต ของสหพันธ์มวยภาคตะวันออกไกลและแปซิฟิก (OPBF) จากโชคชัย โชควิวัฒน์ และปาเกียวก็ชนะน็อคไปในยกที่ 5
ในปีเดียวกัน ปาเกียวชกป้องกันแชมป์ OPBF เอาชนะน็อก พนมเดช อ.ยุทธนากรได้ในยกที่ 1
ปีถัดมา เป็นจุดเริ่มต้นแห่งความยิ่งใหญ่ของยอดมวยชาวฟิลิปปินส์ เมื่อปาเกียวขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่นฟลายเวต สภามวยโลก (WBC) จาก ฉัตรชัย สาสะกุล (อีลิทยิม)แชมป์โลกชาวไทย เจ็ดยกแรก เป็นฝ่ายฉัตรชัยที่โชว์ชั้นเชิงได้เหนือกว่า ในใบให้คะแนนของกรรมการข้างเวที แชมป์ชาวไทยจึงมีคะแนนนำห่าง 70-64, 69-64 และ 68-65 แต่แล้วเมื่อฉัตรชัยเริ่มอ่อนแรง เขาก็ถูกผู้ท้าชิงหนุ่มน้อยชาวตากาล็อกไล่บี้ และโดนหมัดเด็ดโป้งเดียวลงไปนอนหมดสภาพแพ้น็อกในยกที่ 8 ท่ามกลางความตกตะลึงของกองเชียร์ชาวไทย
อย่างไรก็ตาม ในปี ค.ศ.1999 ปาเกียวเดินทางกลับมาป้องกันแชมป์ฟลายเวต WBC ที่เมืองไทย และแพ้น็อกเสียแชมป์ให้แก่ เม็ดเงิน กระทิงแดงยิม ไปอย่างง่ายดายในยกที่ 3 เนื่องจากมีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว
หลังจากนั้น ปาเกียวเลื่อนพิกัดน้ำหนัก และได้แชมป์อินเตอร์ฯ รุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวต ของ WBC ในปี ค.ศ.2001 เขาชกป้องกันแชมป์เอาชนะน็อก เวทย์ ศักดิ์เมืองแกลงไปได้ในยกที่ 6
ต่อมา นักชกฟิลิปปินส์สามารถคว้าเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นเดียวกันของสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) มาครองได้สำเร็จ ในปี ค.ศ.2002 เขาขึ้นชกป้องกันแชมป์เอาชนะน็อก ฟ้าประกอบ รักเกียรติยิม ในยกที่ 1
หลังชนะฟ้าประกอบไปแบบ นกกระจอกไม่ทันกินน้ำ ปาเกียวก็เดินหน้าโกอินเตอร์อย่างเต็มตัว ที่สหรัฐอเมริกา เขาประกาศศักดาพิชิตหนึ่งในยอดมวยแห่งยุค มาร์โก อันโตนิโอ บาร์เรร่า ลงได้อย่างราบคาบในยกที่ 11 และเสมอกับ ฮวน มานูเอล มาร์เกซ อย่างสุดมันส์
ล่วงเข้าปี ค.ศ.2004 ปาเกียวขึ้นชกในพิกัดเฟเธอร์เวตที่ประเทศบ้านเกิด เขาเอาชนะน็อก ฟ้าสั่ง สามเคแบ็ตเตอรี่ ไปได้ในยกที่ 4 และฟ้าสั่งก็ถือเป็นนักชกไทยคนสุดท้ายที่ได้ขึ้นสังเวียนปะหมัดกับปาเกียว
สรุปรวมแล้ว ปาเกียวเคยฟาดปากกับนักมวยสากลอาชีพชาวไทยจำนวน 7 ราย เขาเอาชนะได้ 6 ครั้ง เป็นการชนะน็อกทั้งหมด และพลาดท่าแพ้ 1 ครั้ง โดยเป็นการพ่ายน็อกเช่นเดียวกัน..
![](http://www.leksound.net/uppic2558/5-2558/boxing_leksound-net_11.jpg)
แมนนี ปาเกียว ยอดนักชก ชาวฟิลิปปินส์ เดินทางถึงลาส เวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เรียบร้อยแล้ว เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเตรียมขึ้่นชกไฟต์หยุดโลกกับ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ยอดมวยไร้พ่าย ชาวอเมริกัน ในวันเสาร์ที่ 2 พ.ค. ที่จะถึงนี้ ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงสายของวันอาทิตย์ที่ 3 พ.ค. ตามเวลาไทย
![](http://www.leksound.net/uppic2558/5-2558/boxing_leksound-net_12.jpg)
เดอะ แพ็คแมน วัย 36 ปี ในเสื้อสีแดง เดินทางกว่า 270 ไมล์ จากลอส แองเจลิส ที่เป็นฐานที่มั่นเก็บตัวมาหลายสัปดาห์ มาถึงลาส เวกัส ในเนวาดา ด้วยรถบัสส่วนตัวสุดหรูคันงาม ยี่ห้อวอลโว่ ซึ่งเพนท์ภาพหน้าของตนเองติดอยู่ข้างรถ โดย ปาเกียว มาพร้อมกับครอบครัว และทีมงานพร้อมหน้า และเข้าพักที่โรงแรมมันดาเลย์เบย์ ซึ่งจะใช้เป็นที่อาศัย และเก็บตัวตลอดช่วงสัปดาห์นี้
สำหรับการชกระหว่าง เมย์เวทเธอร์ กับ ปาเกียว ในช่วงสายของวันอาทิตย์ที่ 3 พ.ค. นี้ ตามเวลาไทย แฟนกีฬาสามารถรับชมการถ่ายทอดสดพร้อมกันทั่วประเทศได้ทาง ช่อง 7 สี ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไปจาก
http://www.1009seo.com/