พิมพ์หน้านี้ - นับถอยหลัง ศึกฟลอยด์ กับ ปาเกียว วันที่ 3 พฤษภาคม 2558

LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"

นานาสาระ => กีฬา => ข้อความที่เริ่มโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 01, 2015, 12:44:43 PM



หัวข้อ: นับถอยหลัง ศึกฟลอยด์ กับ ปาเกียว วันที่ 3 พฤษภาคม 2558
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 01, 2015, 12:44:43 PM
(http://www.leksound.net/uppic2558/5-2558/boxing_leksound-net_10.jpg)
ก่อนที่เมย์เวทเธอร์และปาเกียวจะโคจรมาเจอกันในวัย 30 กว่าๆ นั้น เส้นทางนักสู้ของทั้งสองคนมีความพัวพัน เฉียดกันไปกันมา โดยตลอด เห็นได้จากสถิติที่ระบุชัดว่า มีเพื่อนนักมวยร่วมวงการมากถึง 5 คน ซึ่งเคยปะหมัดวัดฝีมือกับทั้งฟลอยด์และปาเกียวมาแล้ว
 
รายแรก คือ “สุดหล่อ” ออสการ์ เดอ ลา โฮย่า ที่แพ้คะแนนเมย์เวทเธอร์อย่างไม่เป็นเอกฉันท์ในปี ค.ศ.2007 ก่อนจะยอมแพ้ปาเกียว หลังเกมการชกดำเนินไปได้ 8 ยก ในปี ค.ศ.2008
 
รายต่อมา คือ นักบู๊จากแมนเชสเตอร์ ริคกี้ ฮัตตัน ที่ขึ้นฟาดปากกับฟลอยด์ในปี ค.ศ.2007 ก่อนจะถูกจับแพ้อย่างหมดสภาพในยกที่ 10 หลังจากนั้น ในปี ค.ศ.2009 ฮัตตันมีโอกาสได้ขึ้นชกกับปาเกียว และแพ้น็อคไปอย่างหมดรูปในยกที่ 2
 
รายที่สาม คือ มิเกล ค็อตโต นักมวยฝีมือดีชาวเปอร์โตริกัน ซึ่งขึ้นชกกับปาเกียวในปี ค.ศ.2009 และถูกจับแพ้ทีเคโอในยกที่ 12 ต่อมา ในปี ค.ศ.2012 ค็อตโตขึ้นสังเวียนปะทะกับเมย์เวทเธอร์ และแพ้คะแนนไปอย่างเป็นเอกฉันท์
 
รายที่สี่ คือ “ชูการ์” เชน มอสลีย์ ยอดมวยอเมริกันอีกหนึ่งคน ซึ่งแพ้คะแนนให้แก่ฟลอยด์อย่างเป็นเอกฉันท์ในปี ค.ศ.2010 แล้วก็มาแพ้คะแนนให้ปาเกียวอย่างเป็นเอกฉันท์เช่นกันในปี ค.ศ.2011
 
ปิดท้ายด้วย ฮวน มานูเอล มาร์เกซ สุดยอดฝีมือชาวเม็กซิกัน ที่เคยขึ้นชกกับเมย์เวทเธอร์แค่เพียงครั้งเดียวในปี ค.ศ.2009 แล้วพ่ายคะแนนไปอย่างเป็นเอกฉันท์
 
อย่างไรก็ตาม มาร์เกซกลับเปิดศึกยืดเยื้อกับปาเกียวอย่างต่อเนื่องมากถึง 4 ไฟต์
 
ไฟต์แรก เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.2004 มาร์เกซขึ้นป้องกันตำแหน่งซูเปอร์แชมป์โลกรุ่นเฟเธอร์เวต ของสมาคมมวยโลก (WBA) และแชมป์โลกรุ่นเดียวกัน ของสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) โดยเขาตกเป็นฝ่ายถูกดาวรุ่งพุ่งแรงจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สอยร่วงไปถึง 3 นับ ในยกที่ 1 (ซึ่งถ้าการชกดำเนินไปตามกติกาบางรูปแบบ นักชกเม็กซิกันจะต้องถูกจับแพ้ทีเคโอไปแล้ว) แต่หลังจากนั้น มาร์เกซกลับค่อยๆ แก้เกมได้ เมื่อชกครบ 12 ยก กรรมการคนแรกให้มาร์เกซชนะ 115-110 คนที่สอง ให้เสมอกัน 11-113 และคนสุดท้าย ให้ปาเกียวชนะ 115-110 ทั้งคู่จึงเสมอกันไปอย่างดุเดือด
 
ไฟต์ที่สอง เกิดขึ้นในอีก 4 ปีต่อมา ปาเกียวขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวต ของสภามวยโลก (WBC) จากมาร์เกซ คราวนี้ ยอดมวยฟิลิปปินส์เฉือนเอาชนะคะแนนไปอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ 115-112, 112-115 และ 114-113
 
นำมาสู่การรีแมตช์ในไฟต์ที่สาม เมื่อปี ค.ศ.2011 ซึ่งเป็นการป้องกันแชมป์โลกรุ่นเวลเตอร์เวต ขององค์กรมวยโลก (WBO) ของปาเกียว เกมการชกครั้งนี้ หลายฝ่ายมองว่ามาร์เกซทำได้ดีกว่า แต่ผลการตัดสินกลับออกมาตรงกันข้าม คือ ปาเกียวเป็นฝ่ายชนะคะแนนอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ 115-113, 114-114 และ 116-112
 
ศึกแก้มือไฟต์ที่สี่ จึงบังเกิดขึ้นตามมาในอีก 1 ปีให้หลัง โดยปาเกียวซึ่งเพิ่งแพ้คะแนนทิโมธี่ แบรดลีย์ มา ถูกมาร์เกซต่อยนับไปก่อนในยกที่ 3 ก่อนที่ปาเกียวจะสอยนักชกเม็กซิกันร่วงลงไปนับแปดเช่นกันในยกที่ 5 แต่แล้วยอดนักมวยฟิลิปปินส์กลับถูกหมัดเด็ดพ่ายน็อกไปอย่างเจ็บปวดและหลับสนิท ในวินาทีสุดท้ายของยกที่ 6
 
สงครามมหากาพย์ระหว่างปาเกียวกับมาร์เกซ จึง “ยุติ?” ลงด้วยผลลัพธ์ ปาเกียวชนะ 2 เสมอ 1 มาร์เกซชนะ 1
 
อีกหนึ่งเกร็ดข้อมูลที่น่าสนใจ ก็คือ เมื่อย้อนดูเส้นทางการชกมวยช่วงต้นๆ ของทั้งคู่แล้ว เราจะพบว่าฟลอยด์และปาเกียวต่างมีสายสัมพันธ์กับนักชกไทย



เมย์เวทเธอร์เคยเป็นตัวแทนนักชกรุ่นเฟเธอร์เวตของทีมชาติสหรัฐอเมริกา เข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่แอตแลนต้า ในปี ค.ศ.1996 เขาโชว์ฟอร์มเก่งกาจจนเข้าถึงรอบสี่คนสุดท้าย ก่อนจะพ่ายคะแนนให้แก่ เซราฟิม โทโดรอฟ จากบัลแกเรีย ไป 9-10
 
ฟลอยด์จึงคว้าได้เพียงเหรียญทองแดง ขณะที่โทโดรอฟได้เข้าไปชิงชนะเลิศกับ “สมรักษ์ คำสิงห์” ของไทย และเป็นฝ่ายสมรักษ์ที่เอาชนะคะแนนไปได้ จนสามารถนำเหรียญทองโอลิมปิกเหรียญแรกในประวัติศาสตร์ กลับสู่ผืนแผ่นดินไทยได้สำเร็จ
 
อย่างไรก็ดี ในเส้นทางสายนักมวยอาชีพ เมย์เวทเธอร์ไม่เคยประลองฝีมือกับนักมวยชาวไทยแต่อย่างใด
 
ผิดกับปาเกียวที่ดวลกำปั้นกับนักชกไทยเพื่อนบ้านร่วมภูมิภาคอุษาคเนย์ มาแล้วอย่างโชกโชน
 
ในปี ค.ศ.1997 เป็นครั้งแรก ที่ปาเกียวได้ปะหมัดกับคู่ต่อสู้ชาวไทย โดยเขาขึ้นชิงแชมป์รุ่นฟลายเวต ของสหพันธ์มวยภาคตะวันออกไกลและแปซิฟิก (OPBF) จาก”โชคชัย โชควิวัฒน์” และปาเกียวก็ชนะน็อคไปในยกที่ 5
 
ในปีเดียวกัน ปาเกียวชกป้องกันแชมป์ OPBF เอาชนะน็อก “พนมเดช อ.ยุทธนากร”ได้ในยกที่ 1
 
ปีถัดมา เป็นจุดเริ่มต้นแห่งความยิ่งใหญ่ของยอดมวยชาวฟิลิปปินส์ เมื่อปาเกียวขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่นฟลายเวต สภามวยโลก (WBC) จาก “ฉัตรชัย สาสะกุล” (อีลิทยิม)แชมป์โลกชาวไทย เจ็ดยกแรก เป็นฝ่ายฉัตรชัยที่โชว์ชั้นเชิงได้เหนือกว่า ในใบให้คะแนนของกรรมการข้างเวที แชมป์ชาวไทยจึงมีคะแนนนำห่าง 70-64, 69-64 และ 68-65 แต่แล้วเมื่อฉัตรชัยเริ่มอ่อนแรง เขาก็ถูกผู้ท้าชิงหนุ่มน้อยชาวตากาล็อกไล่บี้ และโดนหมัดเด็ดโป้งเดียวลงไปนอนหมดสภาพแพ้น็อกในยกที่ 8 ท่ามกลางความตกตะลึงของกองเชียร์ชาวไทย
 
อย่างไรก็ตาม ในปี ค.ศ.1999 ปาเกียวเดินทางกลับมาป้องกันแชมป์ฟลายเวต WBC ที่เมืองไทย และแพ้น็อกเสียแชมป์ให้แก่ “เม็ดเงิน กระทิงแดงยิม” ไปอย่างง่ายดายในยกที่ 3 เนื่องจากมีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว
 
หลังจากนั้น ปาเกียวเลื่อนพิกัดน้ำหนัก และได้แชมป์อินเตอร์ฯ รุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวต ของ WBC ในปี ค.ศ.2001 เขาชกป้องกันแชมป์เอาชนะน็อก “เวทย์ ศักดิ์เมืองแกลง”ไปได้ในยกที่ 6
 
ต่อมา นักชกฟิลิปปินส์สามารถคว้าเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นเดียวกันของสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) มาครองได้สำเร็จ ในปี ค.ศ.2002 เขาขึ้นชกป้องกันแชมป์เอาชนะน็อก “ฟ้าประกอบ รักเกียรติยิม” ในยกที่ 1
 
หลังชนะฟ้าประกอบไปแบบ “นกกระจอกไม่ทันกินน้ำ” ปาเกียวก็เดินหน้าโกอินเตอร์อย่างเต็มตัว ที่สหรัฐอเมริกา เขาประกาศศักดาพิชิตหนึ่งในยอดมวยแห่งยุค “มาร์โก อันโตนิโอ บาร์เรร่า” ลงได้อย่างราบคาบในยกที่ 11 และเสมอกับ “ฮวน มานูเอล มาร์เกซ” อย่างสุดมันส์
 
ล่วงเข้าปี ค.ศ.2004 ปาเกียวขึ้นชกในพิกัดเฟเธอร์เวตที่ประเทศบ้านเกิด เขาเอาชนะน็อก “ฟ้าสั่ง สามเคแบ็ตเตอรี่” ไปได้ในยกที่ 4 และฟ้าสั่งก็ถือเป็นนักชกไทยคนสุดท้ายที่ได้ขึ้นสังเวียนปะหมัดกับปาเกียว
 
สรุปรวมแล้ว ปาเกียวเคยฟาดปากกับนักมวยสากลอาชีพชาวไทยจำนวน 7 ราย  เขาเอาชนะได้ 6 ครั้ง เป็นการชนะน็อกทั้งหมด และพลาดท่าแพ้ 1 ครั้ง โดยเป็นการพ่ายน็อกเช่นเดียวกัน..



(http://www.leksound.net/uppic2558/5-2558/boxing_leksound-net_11.jpg)
 แมนนี ปาเกียว ยอดนักชก ชาวฟิลิปปินส์ เดินทางถึงลาส เวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เรียบร้อยแล้ว เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเตรียมขึ้่นชกไฟต์หยุดโลกกับ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ยอดมวยไร้พ่าย ชาวอเมริกัน ในวันเสาร์ที่ 2 พ.ค. ที่จะถึงนี้ ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงสายของวันอาทิตย์ที่ 3 พ.ค. ตามเวลาไทย




(http://www.leksound.net/uppic2558/5-2558/boxing_leksound-net_12.jpg)
  “เดอะ แพ็คแมน” วัย 36 ปี ในเสื้อสีแดง เดินทางกว่า 270 ไมล์ จากลอส แองเจลิส ที่เป็นฐานที่มั่นเก็บตัวมาหลายสัปดาห์ มาถึงลาส เวกัส ในเนวาดา ด้วยรถบัสส่วนตัวสุดหรูคันงาม ยี่ห้อวอลโว่ ซึ่งเพนท์ภาพหน้าของตนเองติดอยู่ข้างรถ โดย ปาเกียว มาพร้อมกับครอบครัว และทีมงานพร้อมหน้า และเข้าพักที่โรงแรมมันดาเลย์เบย์ ซึ่งจะใช้เป็นที่อาศัย และเก็บตัวตลอดช่วงสัปดาห์นี้



(http://www.leksound.net/uppic2558/5-2558/boxing_leksound-net_13.jpg)
สำหรับการชกระหว่าง เมย์เวทเธอร์ กับ ปาเกียว ในช่วงสายของวันอาทิตย์ที่ 3 พ.ค. นี้ ตามเวลาไทย แฟนกีฬาสามารถรับชมการถ่ายทอดสดพร้อมกันทั่วประเทศได้ทาง ช่อง 7 สี ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป


จาก http://www.1009seo.com/


หัวข้อ: ฟลอยด์ ชก ปาเกียววันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม นี้. 11.00น.
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 03, 2015, 09:24:28 AM
(http://www.leksound.net/uppic2558/5-2558/boxing_leksound-net_3.JPG)

วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม นี้ เวลา 11.00น. เวลาประเทศไทย ศึกมวยสากลคู่หยุดโลกของสองสุดยอดกำปั้นแห่งยุค ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ผู้ไม่เคยแพ้ใคร และ แมนนี ปาเกียว นักสู้ขวัญใจชาวเอเชีย จะเกิดขึ้นที่ เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ โฮเทล แอนด์ คาสิโน ที่ ลาส เวกัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อนชมไฟต์สำคัญลองมาดูตัวเลขที่น่าสนใจของทั้งคู่เป็นการอุ่นเครื่องกันหน่อย
       
       5 ปีกับ 50 วัน : คือการเจอกันครั้งสุดท้ายของทั้งคู่ หลังเคยมีโอกาสได้คุยเรื่องการตะบันหน้ากันมาแล้วเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2010 แต่ก็ล่มไปเพราะประเด็นเรื่องการตรวจสารกระตุ้นที่ "แพ็คแมน" ไม่ยินยอม
       
       1 ปี 9 เดือน 24 วัน : คือตัวเลขที่บ่งบอกถึงอายุที่ห่างกันระหว่าง ฟลอยด์ (38 ปี) และ ปาเกียว (36 ปี)
       
       13 : คือจำนวนไฟต์ที่ ปาเกียว น็อคคู่ต่อสู้ได้ตั้งแต่ปี 1997 ถึงปี 2001
       
       7 : คือจำนวนไฟต์ที่ "เดอะ มันนี" น็อคคู่ต่อสู้ตั้งแต่ปี 1997-1998
       
       47-0 : คือสถิติการขึ้นชกทั้งหมดของ เมย์เวทเธอร์ โดยไม่แพ้ใครจนได้ฉายานักชกไร้พ่ายจนถึงทุกวันนี้
       
       13-0 : คือสถิติสุดหรูของ เมย์เวทเธอร์ ที่ชนะคู่ต่อสู้ได้ทั้งหมดบนสังเวียน เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ โฮเทล
       
       7-3-1 : คือสถิติชนะ 7 แพ้ 3 เสมอ 1 ของ ปาเกียว เวลาขึ้นชกที่ เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ โฮเทล เช่นกัน
       
       10 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 328 บาท) : คือตั๋วเข้าชมการชั่งน้ำหนักของทั้งคู่ในคืนวันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม ที่สหรัฐอเมริกา แม้กฏหมายที่ เนวาดา จะระบุให้ทุกคนเข้าฟรีแต่เชื่อว่าน่าจะมีแฟนๆมาดูเยอะผู้จัดเลยขอคิดค่าเข้าชม ก่อนนำเงินไปช่วยเหลือองค์กรการกุศลต่อ
       
       99 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,168 บาท) : คือราคาที่แฟนมวยต้องจ่ายหากต้องการชมถ่ายทอดสดมวยคู่หยุดโลกทางทีวีที่บ้านแบบ เพย์-เพอร์-วิว ในระบบคมชัดเห็นทุกรูขุมขน
       
       3-4 ล้านครัวเรือน : คือจำนวนผู้ชมที่จ่ายเงินซื้อ เพย์-เพอร์-วิว ของคู่นี้เพื่อนอนดูการถ่ายทอดสดอยู่ที่บ้าน
       
       5.8 ล้านราย : คือยอดฟอลโลว์บนทวิตเตอร์ของ เมย์เวทเธอร์ ส่วน ปาเกียว มียอดฟอลโลว์อยู่ที่ 1.8 ล้านราย
       
       500 : คือจำนวนตั๋วที่ผู้จัดนำมาขายให้กับผู้ชมและแฟนมวยทั่วไปที่อยากดูสดๆข้างสนาม ถือว่าน้อยมากเพราะตั๋วจำนวนกว่า 16,800 ใบ ถูกจำกัดให้สปอนเซอร์และคนดังหมดแล้ว
       
       60 วินาที : คือเวลาที่ตั๋วเข้าชมการแข่งขันถูกจำหน่ายหมดลงภายในเวลารวดเร็วยิ่งกว่าต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรับประทาน
       
       5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 160 ล้านบาท) : คือจำนวนเงินต่อนาทีที่ เมย์เวทเธอร์ จะได้รับเมื่ออยู่บนเวทีไฟต์สำคัญนี้จนครบ 12 ยก
       


หัวข้อ: อีเบย์ขายบัตรศึกฟลอยด์ กับ ปาเกียวราคา 4 แสนบาทต่อที่นั่ง
เริ่มหัวข้อโดย: nongtop ที่ พฤษภาคม 03, 2015, 09:45:32 AM
(http://www.leksound.net/uppic2558/5-2558/boxing_leksound-net_21.jpg)

ความเคลื่อนไหวของศึกกำปั้นไฟต์หยุดโลก ระหว่าง ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ นักชกไร้พ่ายชาวอเมริกัน วัย 38 ปี กับ แมนนี่ ปาเกียว ยอดกำปั้นชาวฟิลิปปินส์ วัย 36 ที่สังเวียนเอ็มจีเอ็ม แกรนด์ ในลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เช้าวันที่ 3 พฤษภาคม (ตามเวลาในประเทศไทย)

ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 เมษายน เวลา 20.00 น. (ตามเวลาที่สหรัฐฯ) เว็บไซต์ ทิคเก็ตมาสเตอร์ เปิดขายบัตรคู่มวยแห่งศตวรรษ ราคาต่ำสุด 1,500 จนถึง 7,500 เหรียญสหรัฐฯ (48,000 - 240,000 บาท) จำนวน 500 - 1,000 ใบ ปรากฎว่า บัตรจำหน่ายหมดลงภายในแค่ 60 วินาทีเท่านั้น และมีการปิดขายในเวลา 20.01 น.

ส่วนบัตรที่นั่งริงไซด์ราคา 10,000 เหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 3.2 แสนบาท) ไม่ได้เปิดจำหน่ายให้กับแฟนมวยทั่วไป อย่างไรก็ดีตั๋วที่นั่งริงไซด์อาจมีขายในตลาดมืด ราคา 200,000 เหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 6.4 ล้านบาท)

ขณะเดียวกันหลังจากเปิดขายบัตรแล้วหมดลงชั่วพริบตา บรรดาพ่อค้าหัวใสนำบัตรไฟต์นี้มาขายผ่านทางเว็บไซต์ต่างๆ ปรากฎว่า ราคาพุ่งสูงไปถึง 70,790 เหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 2.2 ล้านบาท)

ด้าน เว็บไซต์ สตาร์ฮับ เปิดขายราคา 128,705 เหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 4.1 ล้านบาท) และราคาอาจแพงหูฉี่ถึง 141,575 เหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 4.5 ล้านบาท) ส่วนอีเบย์เปิดขายบัตรไฟต์นี้ราคา 12,600 เหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 4 แสนบาท) ต่อที่นั่ง

จาก http://www.1009seo.com/