รู้จักกับ5 โรคฮิต ที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ..
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
เมษายน 20, 2024, 08:19:27 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รู้จักกับ5 โรคฮิต ที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ..  (อ่าน 1164 ครั้ง)
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« เมื่อ: มิถุนายน 27, 2017, 08:42:20 AM »

หากอ่านบทความไม่พอดีกับจอมือถือ คลิ๊ก!!ดูเนื้อหาเกี่ยวข้อง>www.ubmthai.com เวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน >> https://www.pohchae.com     


    โรคผู้สูงอายุจริง ๆ แล้วมีหลายโรค แต่ที่พบบ่อยก็คือ 5 โรคนี้ ซึ่งครอบครัวและคนใกล้ตัวควรรู้ไว้ดูแลผู้สูงวัยในบ้าน
โรคผู้สูงอายุ
1. เวียนศีรษะ เป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ โดยมากอาการมักเป็น ๆ หาย ๆ บางครั้งอาจจะมีอาการบ้านหมุน คลื่นไส้อาเจียน ซึ่งสาเหตุของอาการเวียนศีรษะนั้นเกิดจากปัจจัยที่เกี่ยวกับการควบคุมการทรงตัวของร่างกาย ประกอบไปด้วยอวัยวะทรงตัวในหูชั้นใน การมองเห็น ระบบประสาท ตลอดจนสมองน้อยที่ควบคุมการทรงตัว ระบบกล้ามเนื้อ และข้อต่อ สิ่งกระตุ้นอื่น ๆ ที่ทำให้สูญเสียการทรงตัวเร็วขึ้น - โรคที่มีผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันสูง หรือโรคหัวใจ ที่ทำให้เกิดการตีบของหลอดเลือด เลือดจึงไหลไปเลี้ยงอวัยวะทรงตัวหูชั้นในได้ไม่ดี หรือไปเลี้ยงสมองที่ทำหน้าที่ควบคุมการทรงตัวได้ไม่เพียงพอ - โรคที่มีผลต่อการทำงานของระบบประสาทรับความรู้สึก เช่น โรคเบาหวาน โรคไตวาย ฯลฯ - โรคที่มีผลต่อกล้ามเนื้อและกระดูก เช่น ข้อเสื่อม หรือเคยมีกระดูกหักมาก่อน ฯลฯ - โรคของหูต่าง ๆ อาจทำให้ทำงานแย่ลง เช่น โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน - โรคอื่น ๆ เช่น โรคต่อมไทรอยด์ ทำอย่างไรเมื่อรู้สึกเวียนศีรษะไม่หาย - อันดับแรกต้องหาสาเหตุให้พบก่อนว่าเกิดจากอะไร โดยการไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา - สำหรับผู้ที่มีอาการเดินเซ เวียนศีรษะ ไม่ควรให้นั่งหรือนอนอยู่เพียงอย่างเดียว แต่ควรจะต้องเดินไปทำกิจวัตรประจำวันด้วย และต้องมีคนคอยดูแลอย่างใกล้ชิด โดยไม่ควรพยุงเดินตลอดเวลา เพราะจะทำให้ผู้สูงอายุไม่สามารถเดินเองได้ต่อไป
โรคผู้สูงอายุ
2. โรคกระดูกพรุน เป็นโรคที่พบในผู้สูงอายุทุกคน อันมีสาเหตุสำคัญจากการทำงานของฮอร์โมนที่ลดลง สิ่งกระตุ้นที่ทำให้เป็นโรคกระดูกพรุน - ไม่ได้รับแคลเซียมเพียงพอ - กรรมพันธุ์ - การใช้ยาสำหรับโรคบางอย่างทำให้เกิดการลดความหนาแน่นของกระดูก เช่น ยาคอร์ติโซน สำหรับโรคไขข้ออักเสบ ยาเฮปาริน สำหรับโรคหัวใจและความดันโลหิต - การสูบบุหรี่หรือดื่มสุราเป็นประจำ - ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ดื่มชา หรือกาแฟ ซึ่งมีผลทำให้กระดูกเสื่อมง่าย - ฮอร์โมนลดลง เช่น ในหญิงวัยหมดประจำเดือน - ขาดการออกกำลังกาย - ขาดวิตามินดี เพราะในวิตามินดี มีความจำเป็นในการดูดซึมแคลเซียมไปใช้ ทำอย่างไรให้ห่างไกลโรคกระดูกพรุน - ออกกำลังกายเป็นกิจวัตร - เมื่อมีความเจ็บปวดไม่ว่าสาเหตุใด ควรรีบทำกายภาพบำบัดหรือเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้เร็วที่สุดเท่าที่สภาพร่างกายจะเอื้ออำนวย - ควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น ปลากระป๋อง ปลาเล็กปลาน้อย หรือดื่มนมพร่องมันเนย ผักผลไม้ เป็นต้น - งดดื่มสุราและงดสูบบุหรี่ - หลีกเลี่ยงการซื้อยารับประทานเอง เช่น ยาลูกกลอน เพราะมันจะมีสารสเตียรอยด์สะสมอยู่จะทำให้กระดูกพรุนโดยไม่รู้ตัว
โรคผู้สูงอายุ
3. โรคข้อเสื่อม เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่กระดูกอ่อนผิวข้อเป็นหลัก โดยมากเป็นตำแหน่งข้อ คือ มีอาการปวดและมักเป็นหลังจากที่มีการใช้ข้อมากกว่าปกติ อาจมีอาการเจ็บด้านใดด้านหนึ่งของข้อได้ หรืออาจมีอาการบวมแดง แต่เมื่อได้พักอาการปวดก็จะลดลงหรือหายไป แต่อาการจะเป็น ๆ หาย ๆ ขึ้นอยู่กับการใช้งานข้อ นอกจากนี้ยังมีอาการข้อฝืดเกิดขึ้นจากการหยุดการเคลื่อนไหวข้อเป็นเวลานาน เช่น นั่งท่าเดียว นั่งสมาธิและนั่งพับเพียบฟังเทศน์ เป็นต้น สิ่งกระตุ้นที่ทำให้เป็นโรคข้อเสื่อม - อายุมากขึ้น - พันธุกรรมและโรคทางเมตาบอลิก เช่น โรคเกาต์ - เป็นโรคที่ทำให้เกิดข้ออักเสบ เช่น โรคข้อ รูมาตอยด์ หรือข้ออักเสบติดเชื้อ - การได้รับบาดเจ็บของข้อ อาจมีการเคลื่อนไหวข้อซ้ำ ๆ หรือมีน้ำหนักที่กดทับลงผิดข้อ ก็มีโอกาสเกิดข้อเสื่อมได้ - อาชีพการงานที่มีการใช้นิ้วมือมาก - ความอ้วน พบว่า คนอ้วนมีโอกาสเกิดโรคข้อเสื่อมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเพศหญิง ซึ่งมักเป็นที่ข้อรับน้ำหนัก เช่น ข้อเข่า เป็นต้น - กล้ามเนื้อต้นขาเหนือเข่าอ่อนแรงหรือลีบ จะมีโอกาสเกิดโรคข้อเข่าเสื่อมสูงขึ้น ทำอย่างไรให้ห่างไกลโรคข้อเสื่อม - หมั่นออกกำลังกาย บริหารกล้ามเนื้อให้แข็งแรง - การนั่งส้วมไม่ควรนั่งยอง ควรปรับเปลี่ยนเป็นชักโครก หรือหาม้าสามขา มาคร่อมบนส้วมซึม - ไม่ควรนั่งกับพื้น หรือทำกิจกรรมที่ต้องก้มเป็นเวลานาน - หลีกเลี่ยงการขึ้นบันไดหรือที่สูงชัน - หลีกเลี่ยงการยกของหนัก - หากมีน้ำหนักตัวมากหรืออ้วน ควรควบคุมอาหารและออกกำลังกายสม่ำเสมอ
โรคผู้สูงอายุ
4. โรคสมองเสื่อม เป็นโรคที่มักพบในผู้สูงอายุที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งแก้ไขได้ เช่น เกิดจากการขาดสารอาหารบางชนิด หรือแก้ไขไม่ได้ เช่น โรคอัลไซเมอร์ ผู้ที่อาจเป็นโรคสมองเสื่อมจะมีอาการ มักลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นใหม่ ๆ มาไม่นาน ขณะที่ความจำเรื่องเก่าในอดีตยังดีอยู่ ทำสิ่งที่เคยทำเป็นประจำไม่ได้ มักถามซ้ำ ๆ ในเรื่องที่เพิ่งบอกไป สับสนเรื่องวัน เวลา สถานที่ พฤติกรรม อารมณ์ และบุคลิกภาพเปลี่ยนแปลงจากเดิม จริงอยู่ที่ว่าอาการหลงลืมมากเป็นเรื่องปกติของผู้สูงอายุและอาจไม่ได้เป็นโรคสมองเสื่อม แต่หากรู้สึกว่ามีอาการที่น่าสงสัยเหล่านี้ก็ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีป้องกันและรักษาอย่างทันท่วงที ทำอย่างไรให้ห่างไกลโรคสมองเสื่อม - งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด - ระวังการใช้ยาเอง ควรให้แพทย์เป็นผู้สั่งยาทุกครั้ง และควรนำยาที่รับประทานเป็นประจำไปให้แพทย์ดูเพื่อกันการสั่งยาซ้ำซ้อน - หมั่นไปตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี และเจาะเลือดตรวจหาประวัติและไขมันในเลือดสูง - ออกกำลังกายเป็นประจำ - หากิจกรรมที่ทำให้ผ่อนคลายความตึงเครียดและชะลอภาวะสมองเสื่อม เช่น ดนตรีบำบัด เต้นรำ เล่นเกมฝึกสมอง กลิ่นบำบัด และการออกกำลังกายที่ฝึกความสัมพันธ์ของร่างกายและการสั่งงานของสมองซีกซ้ายและขวา ผู้ดูแลต้องมีความอดทนและมีความยืดหยุ่นกับการดูแลผู้ป่วยโรคนี้เป็นอย่างมาก เพราะผู้สูงอายุที่เป็นโรคนี้จะมีขีดจำกัดหลายด้าน เช่น หิวอาหารไม่เป็นเวลา เดินช้า พูดช้า ตัดสินใจช้าและต้องให้กำลังใจผู้สูงอายุ อย่าดุด่าว่ากล่าวให้ท่านเกิดความท้อแท้และหมดกำลังใจ เทคนิคพัฒนาความจำ - ตั้งสมาธิกับสิ่งที่ทำและพยายามนึกสร้างภาพในใจเมื่อต้องจดจำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง - เลือกจำเฉพาะข้อมูลที่สำคัญและที่จำเป็นเท่านั้น - พกสมุดบันทึกติดตัวตลอดเวลา
โรคผู้สูงอายุ
5. โรคซึมเศร้า เป็นอาการเจ็บป่วยทางจิตใจที่สำคัญซึ่งไม่อาจมองข้ามได้ เพราะโรคซึมเศร้าเป็นสาเหตุหนึ่งของการฆ่าตัวตาย สิ่งกระตุ้นที่ทำให้เป็นโรคซึมเศร้า - การเปลี่ยนแปลงของสารสื่อประสาทในสมอง - โรคทางกายบางอย่าง การได้รับยาหลายขนานที่ทำให้เกิดอาการเศร้า - การสูญเสียสิ่งที่มีค่าในชีวิต เช่น คู่ชีวิต หรือการงานโดยการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เช่น การเป็นหัวหน้าครอบครัว แต่ต้องมาเป็นผู้ตาม เป็นต้น ทำอย่างไรให้ห่างไกลโรคซึมเศร้า - หลีกเลี่ยงการอยู่คนเดียว - พยายามปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในวัยนี้ - ทำกิจกรรมหรืองานอดิเรก รวมทั้งทำกิจกรรมเข้าสังคมร่วมกับผู้อื่น - หากอาการไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ ถ้าหากท่านใดสนใจ อยากเข้าใจผู้สูงอายุมากขึ้น วันนี้ สสส. มีนิทรรศการ "ชราแลนด์ ดินแดนวันเดอร์เวิลด์" นิทรรศการที่จะชวนคุณมาทดสอบและทำความเข้าใจว่าผู้สูงอายุเป็นใคร ควรได้รับการดูแล รวมถึงการอยู่ร่วมกันในครอบครัวและสังคมกับพวกเขาอย่างไร นิทรรศการจะจัดแสดงตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 สิงหาคม 2560 ณ โซนนิทรรศการหมุนเวียน ชั้น 2 อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. ขอขอบคุณข้อมูลจาก ขอบคุณ https://health.kapook.com/view173679.html  


บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!