พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ ลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์แล้ว
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
พฤษภาคม 01, 2024, 02:16:43 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ ลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์แล้ว  (อ่าน 4404 ครั้ง)
หลอดไฟ
วีไอพี
member
***

คะแนน246
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1550


อีเมล์
« เมื่อ: ธันวาคม 13, 2014, 12:19:00 PM »



พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร กราบบังคมทูลลาออกจากฐานันดรศักดิ์แล้ว

          วันที่ 12 ธันวาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศราชกิจจานุเบกษา ฉบับทะเบียนฐานันดรฯ ประเภท ข ตอนที่ 29 ข (12 ธันวาคม 2557) เรื่องพระบรมราชโองการประกาศเรื่องลาออกจากฐานันดรศักดิ์ ระบุว่า

          พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร

          มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ได้นำความขึ้นกราบบังคมทูล สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นลายลักษณ์อักษรว่า ขอพระราชทานกราบบังคมทูลลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ ความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว พระราชทานพระบรมราชานุญาต

          ประกาศ ณ วันที่ 11 ธันวาคม พุทธศักราช 2557 เป็นปีที่ 69 ในรัชกาลปัจจุบัน


          ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
          พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
          นายกรัฐมนตรี

___________________ ___________________ ___________________ _

ประวัติ

ชีวิตตอนต้น
ท่านผู้หญิง ศรีรัศมิ์ สุวะดี มีชื่อเล่นว่า อี๊ด เกิดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2514 เป็นธิดาคนที่สามของอภิรุจ และวันทนีย์ สุวะดี พื้นเพเดิมเป็นชาวจังหวัดสมุทรสงคราม มีพี่น้อง 5 คนโดยศรีรัศมิ์เป็นบุตรคนที่สาม มีพี่สาวและพี่ชายคือ สุดาทิพย์ ม่วงนวล, ณรงค์ สุวะดี และน้องชายคือณัฐพล สุวะดี อดีตราชองครักษ์เวร ส่วนพลตำรวจโท พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ เป็นน้าของเธอ

  ..ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์เข้ารับการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนเทศบาลบ้านมหาชัย (อนุกูลราษฎร์) จังหวัดสมุทรสาคร สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพจากโรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย ก่อนจะเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรีที่ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช คณะวิทยาการจัดการ สาขาวิชาการจัดการทั่วไป (หลักสูตร 4 ปี) เมื่อปี พ.ศ. 2540 และได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2545 และสำเร็จการศึกษาปริญญาโท หลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (คหกรรมศาสตร์) ภาคพิเศษ สาขาวิชาการพัฒนาการครอบครัวและเด็ก คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้วยคะแนนเฉลี่ย 3.94

เข้าสู่พระราชวงศ์

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ และศรีรัศมิ์ ในปี พ.ศ. 2550 เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็นพระวรชายา
ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ เริ่มเข้าถวายการรับใช้ในพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 โดยรับผิดชอบหน้าที่การงานในฐานะข้าราชการพลเรือนในพระองค์ นอกจากนี้ ยังได้ถวายงานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในด้านศิลปาชีพ และได้ทรงจดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย ต่อมาเข้ารับพระราชทานน้ำพระมหาสังข์จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็น "หม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา" เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544  โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงกล่าวว่า

   
เราอยากจะสร้างครอบครัวขึ้นมาให้ดี หม่อมมีหน้าที่ดูแลเรื่องต่าง ๆ ภายในบ้าน ดูแลข้าราชบริพาร รวมทั้งถวายงานสมเด็จฯ (สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ) เราใช้ชีวิตกันแบบสบาย ๆ ไม่มีอะไร...เราอายุ 50 ปีแล้ว ไม่อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ อยากได้ครอบครัวที่ดี ที่คนพอใจเป็นประโยชน์ คบได้ ไม่ใช่เป็นการเอาอะไรมาใส่ประชาชน แต่ขอให้ประชาชนยอมรับว่าคนนี้ใช้ได้ ถ้าเป็นหม่อมในพระบรมฯ ทุกคนก็ต้องกราบไหว้ มันก็พัง


— สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร, 23 มกราคม 2545

 ..บิดาและมารดาของเธอรวมทั้งสมาชิกในครอบครัวได้รับพระราชทานนามสกุลจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมารว่า "อัครพงศ์ปรีชา" เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 หม่อมศรีรัศมิ์ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ปฐมจุลจอมเกล้าฝ่ายใน เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 และได้ประสูติกาลพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ พระราชโอรส เมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2548 การนี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนา หม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา ขึ้นดำรงพระอิสริยยศเป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร

ลาออกจากฐานันดรศักดิ์
วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงขอให้รัฐบาลริบนามสกุลพระราชทานของพระวรชายา ก่อนหน้านั้น มีการกวาดล้างญาติใกล้ชิดของพระองค์ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการฉ้อราษฎร์บังหลวง โดยทั้งหมดกลับไปใช้สกุลเดิมก่อนพระราชทานคือ "เกิดอำแพง" ต่อมาข้อมูลนามสกุลนั้นผิด เมื่อตรวจสอบแล้วจึงเปลี่ยนให้ใช้ชื่อสกุลว่า "สุวะดี" อันเป็นชื่อสกุลเดิมทีแท้จริง ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ซึ่งสำนักข่าวบีบีซีมองว่า นี่อาจเป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่การหย่าร้างของทั้งสองพระองค์

วันที่ 12 ธันวาคมปีเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นลายลักษณ์อักษรว่าขอพระราชทานกราบบังคมทูลลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ มีผลตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2557

กรณียกิจ

 ..กรณียกิจส่วนใหญ่ของท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ เมื่อครั้งดำรงอิสริยยศเป็น พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมารนั้น จะเน้นในด้านครอบครัวและเด็กเป็นหลัก โดยโครงการแรกของคือ โครงการสายใยรักจากแม่สู่ลูก ที่รณรงค์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
  ต่อมาได้มีดำริจัดตั้ง โครงการศูนย์สามวัยสานสายใยรักแห่งครอบครัว จัดตั้งขึ้นจากแนวคิดที่ว่า "ควรมีศูนย์กลางในการพัฒนาคุณภาพชีวิต เน้นความต่อเนื่องเชื่อมโยง เป็นวงจรทุกช่วงวัย ภายใต้การดำเนินของหลักเหตุผล ตั้งแต่การสร้างความคิดรอบยอด (Concept) การกำหนดคำจำกัดความที่ชัดเจน (Definition) และการถ่ายทอดลงสู่ระดับต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม (Implementation) โดยคำนึงถึงปัจจัยที่นำไปสู่ความสำเร็จ ตลอดจนข้อดี ข้อเสียต่างๆ มาดำเนินการในการให้บริการแก่ประชาชน” ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ ประกอบกรณียกิจครั้งสุดท้ายในพิธีเปิดมหกรรม 9 ปี สายใยรักแห่งครอบครัว เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2557

นอกจากนี้ยังมีดำริในการสร้าง "ศุโขโยคะ" ซึ่งเป็นโครงการเสริมสร้างสุขภาพ ณ พื้นที่ควบคุมในพระองค์ 904 ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อปี พ.ศ. 2554 เพื่อให้ข้าราชบริพารและประชาชนทั่วไปได้เข้ามาใช้ประโยชน์ มีระบบการออกกำลังกายแบบ "ไจโรทานิก" (Gyrotonic) โดยกล่าวไว้ว่า "ไปเล่นที่เมืองนอกมา เห็นว่าอะไรดีก็นำเข้ามาให้ประชาชนได้เล่นกัน" ที่สุดศุโขโยคะ ได้ปิดตัวลงในวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ด้านการต่างประเทศ
วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2554 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ (พระยศในขณะนั้น) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ พลอากาศโท ภักดี แสง-ชูโต นำผ้าห่มกันหนาว 20,000 ผืน ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮะกุ พ.ศ. 2554 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมีกษิต ภิรมย์ เป็นผู้รับมอบ

มูลนิธิ/องค์กรในอุปถัมภ์
ศูนย์ ๓ วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัว
มูลนิธิส่งเสริมการพัฒนาบุคคล
กองทุนทีปังกรนภัทรบุตร


ht tp://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%A8%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%8C_%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A7%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B5
h ttp://hilight.kapook.com/view/112735


บันทึกการเข้า

ทำวันนี้ให้ดีที่สุด

หลอดไฟ
วีไอพี
member
***

คะแนน246
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1550


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 15, 2014, 05:02:00 PM »



ชีวประวัติ ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี อดีตพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ หลังขอพระราชทานกราบบังคมทูลลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์

            เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2557 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศราชกิจจานุเบกษา ฉบับทะเบียนฐานันดรฯ ประเภท ข ตอนที่ 29 ข (12 ธันวาคม 2557) เรื่องพระบรมราชโองการประกาศเรื่องลาออกจากฐานันดรศักดิ์ ระบุว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ได้นำความขึ้นกราบบังคมทูล สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นลายลักษณ์อักษรว่า ขอพระราชทานกราบบังคมทูลลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ ความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว พระราชทานพระบรมราชานุญาต

            โดยมีรายงานจาก เว็บไซต์เดลินิวส์ออนไลน์ ว่า ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี จะกลับไปใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ณ บ้านเกิดที่จังหวัดสมุทรสงคราม โดยจะมุ่งศึกษาธรรมะและปฏิบัติธรรม

            ส่วนพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงตามเสด็จฯ สมเด็จพระบรมฯ ไปศึกษาต่อยังประเทศเยอรมนีแล้ว สำหรับการนำเสนอข่าวพระราชสำนักนั้น จะงดขึ้นภาพของหม่อม เพราะถือว่าได้สละความเป็นพระราชวงศ์เป็นการเรียบร้อยแล้ว

            ขณะที่เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ ได้เดินทางไปทำบัตรประชาชน โดยเลือกใช้คำนำหน้านามว่า น.ส.ศรีรัศมิ์ สุววะดี จากเดิมที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า ได้รับการแต่งตั้งให้ใช้ชื่อ "ท่านผู้หญิงบุษบา สุวะดี" ซึ่งเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น


ประวัติ ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี อดีตพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์

            ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี เกิดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2514 ที่จังหวัดสมุทรสงคราม มีชื่อเล่นว่า อี๊ด เป็นธิดาของนายอภิรุจ สุวะดี และนางวันทนีย์ สุวะดี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด 5 คน

            เข้ารับการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนเทศบาลบ้านมหาชัย (อนุกูลราษฎร์) จังหวัดสมุทรสาคร ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพจากโรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย ระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช คณะวิทยาการจัดการ สาขาวิชาการจัดการทั่วไป ได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2545 และสำเร็จการศึกษาปริญญาโท หลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (คหกรรมศาสตร์) ภาคพิเศษ สาขาวิชาการพัฒนาการครอบครัวและเด็ก คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

เข้าสู่พระราชวงศ์

            ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี เริ่มเข้าถวายการรับใช้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อปี 2536 โดยรับผิดชอบหน้าที่การงานในฐานะข้าราชการพลเรือนในพระองค์ นอกจากนี้ยังได้ถวายงานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในด้านศิลปาชีพและได้ทรงจดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย ต่อมาเข้ารับพระราชทานน้ำพระมหาสังข์จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็น หม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2544 ภายหลังการสถาปนา ครอบครัวของ ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี ได้รับพระราชทานนามสกุลจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ว่า อัครพงศ์ปรีชา เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2545 ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ปฐมจุลจอมเกล้าฝ่ายใน เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2547

            ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี ได้ประสูติกาลพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ พระราชโอรส เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2548 และได้รับการสถาปนาขึ้นดำรงพระอิสริยยศเป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร

            ภายหลังได้ขอพระราชทานกราบบังคมทูลลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ โดยมีประกาศราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2557

            ทั้งนี้ เนื่องจากพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ เคยได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าฝ่ายใน ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.) จึงได้คำหน้านามว่า "ท่านผู้หญิง" โดยอัตโนมัติ แม้โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์แล้ว เว้นเสียแต่มีพระบรมราชโองการเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาเสียก่อน

            ส่วนการใช้คำนำหน้าในบัตรประชาชนนั้น สุดแท้แต่สตรีผู้นั้นจะแจ้งต่อนายทะเบียน โดยสามารถใช้คำนำหน้าว่า "นาง" หรือ "นางสาว" ย่อมได้


กรณียกิจที่ผ่านมา

            โครงการแรกของ ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี ในขณะที่ยังดำรงอิสริยยศเป็น พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร คือ โครงการสายใยรักจากแม่สู่ลูก ที่รณรงค์เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ต่อมามีการจัดตั้งโครงการศูนย์สามวัยสานสายใยรักแห่งครอบครัว โดยประกอบกรณียกิจครั้งสุดท้ายในพิธีเปิดมหกรรม 9 ปี สายใยรักแห่งครอบครัว เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2557

            นอกจากนี้ยังมีดำริในการสร้าง ศุโขโยคะ ซึ่งเป็นโครงการเสริมสร้างสุขภาพ เมื่อปี 2554 เพื่อให้ข้าราชบริพารและประชาชนทั่วไปได้เข้ามาใช้ประโยชน์ มีระบบการออกกำลังกายแบบ ไจโรทานิก (Gyrotonic) โดย น.ส. ศรีรัศมิ์ สุวะดี ได้กล่าวไว้ว่า "ไปเล่นที่เมืองนอกมา เห็นว่าอะไรดีก็นำเข้ามาให้ประชาชนได้เล่นกัน" ทั้งนี้ ศุโขโยคะ ได้ปิดตัวลงเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2557

            ด้านต่างประเทศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ (พระยศในขณะนั้น) ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำผ้าห่มกันหนาวจำนวน 20,000 ผืน ส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิ ที่เมืองโทโฮะกุ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2554

เกียรติยศ

พระอิสริยยศ
             นางสาวศรีรัศมิ์ สุวะดี (9 ธันวาคม 2514-10 กุมภาพันธ์ 2544)
             หม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา (10 กุมภาพันธ์ 2544-15 มิถุนายน 2548)
             พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ (15 มิถุนายน 2548-11 ธันวาคม 2557)
             ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี (11 ธันวาคม 2557- ปัจจุบัน)
           

ยศทางทหาร
             ว่าที่ร้อยตรีหญิง
             ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นราชองครักษ์พิเศษ (5 เมษายน 2555)
             ร้อยตรีหญิง และได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายทหารพิเศษประจำกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (12 เมษายน 2555)
             พันเอกหญิง (4 พฤษภาคม 2555)
             ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการสำนักเวชศาสตร์กองทัพบก กรมแพทย์ทหารบก (1 พฤศจิกายน 2556)
             พลตรีหญิง (1 พฤศจิกายน 2556)

 
 ***หมายเหตุ : อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 13.43 น. วันที่ 14 ธันวาคม 2557

http://www.1009seo.com/
บันทึกการเข้า

ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!