อยากดัง อยากรวย ต้องเลียนแบบลายเซ็นคนดัง มาดูตัวอย่างกัน
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
มีนาคม 28, 2024, 04:43:03 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อยากดัง อยากรวย ต้องเลียนแบบลายเซ็นคนดัง มาดูตัวอย่างกัน  (อ่าน 3928 ครั้ง)
CIVIC"
ชุมชนคนรักอาชีพช่าง
member
*

คะแนน30
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 562


« เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2014, 07:51:16 AM »







วอลท์ ดิสนีย์

leksound.net/ คัดจาก pNTIP.COM & วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


วอลเตอร์ อีเลียส ดิสนีย์ (Walter Elias Disney) (5 ธันวาคม 2444 - 15 ธันวาคม 2509, ค.ศ. 1901-1966) เป็นผู้สร้างผลงานการ์ตูนที่แพร่หลาย และประสบความสำเร็จมากที่สุดของโลกคนหนึ่ง

เป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทวอลท์ ดิสนีย์ และสร้างภาพยนตร์การ์ตูนสีเป็นคนแรก

เริ่มทำการ์ตูน มิกกี้เม้าส์ (Mickey Mouse) โดนัลด์ดั๊ก (Donald Duck) และภาพยนตร์เรื่องยาว เช่น สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด (Snow White and the Seven Dwarfs), แฟนตาเซีย (Fantasia), พินอคคิโอ (Pinocchio) และ แบมบี้ (Bambi)

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หนังการ์ตูนต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการสร้างจำนวนมาก ดิสนีย์จึงเริ่มทำภาพยนตร์เกี่ยวกับการผจญภัยที่เป็นจริง เช่น เดอะ ลิวิง เดสเสิร์ท (The Living Desert)

นอกจากนี้ยังได้สร้างสวนสนุกสองแห่ง และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 59 รางวัล โดยได้รับรางวัลออสการ์ถึง 26 รางวัล นับเป็นบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงและได้รับรางวัลออสการ์มากที่สุดในโลก[1]


บันทึกการเข้า

CIVIC"
ชุมชนคนรักอาชีพช่าง
member
*

คะแนน30
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 562


« ตอบ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2014, 08:08:37 AM »







เมล กิบสัน
leksound.net/ คัดจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เมล กิบสัน
Mel Gibson 1990.jpg
เมล กิบสัน ปี 1990
ชื่อเกิด   Mel Colm-Cille Gerard Gibson
เกิด   3 มกราคม ค.ศ. 1956
คู่สมรส   Robyn Moore (1980-2011)
อาชีพ   นักแสดง ผู้กำกับ ผู้สร้าง
รางวัลออสการ์
Best Director
1995 Braveheart
Best Picture
1995 Braveheart
รางวัลลูกโลกทองคำ
Best Director - Motion Picture
1996 Braveheart
เมล คอล์ม-ซิลลี่ เจอร์ราด กิบสัน (อังกฤษ: Mel Colm-Cille Gibson) เกิดเมื่อวันที่ 3 มกราคม ค.ศ. 1956 เป็นนักแสดง ผู้กำกับ และโปรดิวเซอร์ ที่เกิดในอเมริกาแต่โตในออสเตรเลีย เขาประสบความสำเร็จกับภาพยนตร์เรื่อง Mad Max และ Lethal Weapon ต่อมาประสบความสำเร็จกับการกำกับภาพยนตร์เรื่อง Braveheart ที่ได้รับรางวัลออสการ์

ประวัติ
เมลเกิดมีพี่น้องสิบเอ็ดคน เขาเป็นลูกคนที่หก เกิดที่นิวยอร์กและเมื่อเขาอายุ 12 ปี ได้ย้ายตามครอบครัวของเขาไปอยู่ที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย เขาได้เรียนที่สถาบัน National Institute of Dramatic Arts (NIDA) ที่มหาวิทยาลัย ของ นิวเซาท์เวลส์ เป็นที่ที่เขาได้รับบทหลากหลายรวมทั้งบท Biff ของ อาเธอร์ มิลเลอร์ เรื่อง Death of a Salesman

เขาได้เลือกให้กิบสันรับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง Mad Max (ปี 1979) และในปีเดียวกันนั้นเองเขาก็ได้รับบทบาทเป็นสุภาพบุรุษที่มีปัญหาทางสมองชื่อทิม และได้รับรางวัลจาก Australian Film Institute ในฐานะนักแสดงยอดเยี่ยม เขายังได้เริ่มฉายแววดาราดังจากภาพยนตร์ของ ปีเตอร์ เวียร์ เรื่อง Gallipoli (ปี 1981) ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลเป็นครั้งที่สองในฐานะนักแสดงนำยอดเยี่ยมของออสเตรเลีย จากภาพยนตร์ของมิลเลอร์เรื่อง Mad Max 2: The Road Warrior (ปี 1981) ซึ่งฉายในสหรัฐอเมริกาโดยวอร์เนอร์ บราเดอร์ส

เขาได้เริ่มเข้าทีมกับ เวียร์อีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง The Year of Living Dangerously (ปี 1983) ซึ่งเขาได้รับการเสนอให้เป็น “ดาราแสดงนำที่ดีที่สุด” จาก Australian Film Institute เขาได้เริ่มงานฮอลลีวูดโดยแสดงคู่กับ ซิสซี่ สปาเซคในภาพยนตร์เรื่อง The River (ปี 1984) และภาพยนตร์ที่แสดงให้เห็นลักษณะของคนในบท เฟรทเชอร์ คริสตียน ซึ่งเป็นภาพยนตร์ของ โรเจอร์ โดนัลสัน เรื่อง The Bounty (ปี 1984) และบทนักโทษหนุ่มที่มีความสามารถพิเศษในภาพยนตร์ของ กิลเลี่ยน อาร์มสตรอง เรื่อง Mrs. Soffel (ปี 1984)

และได้แสดงภาคต่อของ Mad Max เรื่อง Mad Max Beyond Thunderdome (ปี 1985) และต่อมากับภาพยนตร์แนวบู๊ผจญภัย เรื่อง Lethal Weapon (ปี 1987) หลังจากได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง Tequila Sunrise (ปี 1988) และเรื่อง Lethal Weapon 2 (1989) เรื่อง Air America (ปี 1990) และเรื่อง Bird on a Wire (ปี1990) กิบสันได้ตั้งบริษัท ไอคอน โปรดักชั่นโดยเข้าหุ้นกับ บรู๊ซ เดวีย์ ในการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Hamlet (ปี 1990) ซึ่งกำกับโดย ฟรานโก้ เซฟฟิเรลลี่ บทบาทนี้ทำให้เขาได้รับรางวัล วิลเลี่ยม เชคสเปียส์ จาก ห้องสมุด โฟลเกอร์ในกรุงวอชิงตันดีซี

เขายังได้เล่นภาพยนตร์ให้กับบริษัท ไอคอน ต่อมาอีกหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่อง Forever Young (ปี 1992) เรื่อง Maverick (ปี 1994) เรื่อง Payback (ปี 1999) เรื่อง What Women Want (ปี 2000) เขายังคงร่วมงานกับทีมงานอื่นอย่างเช่นภาพยนตร์ของ รอน ฮาเวิร์ด เรื่อง Ransom (ปี 1996) ซึ่งได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำในฐานะ นักแสดงยอดเยี่ยม ในภาพยนตร์สาขาดราม่า และภาพยนตร์ของ ริชาร์ด โดเนอร์ เรื่อง Conspiracy Theory (ปี 1997) กิบสันยังได้เริ่มงานการกำกับการแสดงในปี 1993 กับบริษัท ไอคอน เรื่อง The Man Without a Face

ในปี 1995 กิบสันได้ร่วมอำนวยการสร้าง กำกับการแสดง และร่วมแสดงในภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จของบ็อกซ์ออฟฟิสเรื่อง Braveheart ซึ่งได้รับการเสนอชื่อให้รับรางวัลออสการ์ถึง 10 รางวัลและได้รับรางวัลถึง 5 รางวัล รวมทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยมอีกด้วย นอกจากนี้เขายังได้รับรางวัลลูกโลกทองคำในฐานะผู้กำกับการแสดง และรางวัล Special Achievement ในการทำภาพยนตร์จาก The National Board of Review และรางวัลจาก The National Association of Theatre Owners/ShoWest Award ในฐานะผู้กำกับยอดเยี่ยมแห่งปีและยังได้รับการบันทึกว่าเป็นผู้กำกับยอดเยี่ยมจาก The Broadcast Film Critic’s Association อีกด้วย เขายังได้รับการเสนอชื่อสำหรับ David Lean Award for Direction และสำหรับ Outstanding Directional Achievement in Motion Picture จาก The Directors Guild of America

ในปี 2000 กิบสันกลายเป็นดาราคนแรกที่แสดงหนังถึงสามเรื่องในปีเดียว ที่ทำให้เขามีรายได้ถึง 100 ล้านเหรียญ ในภาพยนตร์ของ โรแลนด์ เอมเมอร์ริช เรื่อง The Patriot นั้น กิบสันแสดงเป็นเบนจามิน มาร์ติน เขายังก้าวต่อไปเมื่อกิบสันให้เสียงพากษ์เป็นไก่อเมริกันชื่อ ร๊อคกี้ในภาพยนตร์การ์ตูนแนวผจญภัยของบริษัท ดรีมเวริค์และเอสเคจี เรื่อง Chicken Run

และในปลายปีนั้นเขาก็รับบทเป็นนิค มาร์เชล ผู้บริหารนักโฆษณาชาตินิยม ในภาพยนตร์เรื่อง What Women Want ภาพยนตร์ของ พาราเม้าท์ พิคเจอร์สและไอคอน โปรดักชั่น (ปี 2000) แสดงร่วมกับ เฮเลน ฮันท์ เป็นภาพยนตร์ซึ่งกำกับโดยแนนซี่ เมเยอร์ส โดยในช่วงเวลานั้นได้การยอมรับว่าทำรายได้ในการฉาย 3 วันแรกดีที่สุดเท่าที่เคยผ่านมา (33.6 ล้านเหรียญ) และมีรายได้รวมสูงสุดในบรรดาหนังรักโรแมนติคคอมเมดี้ เขายังได้รับการเสนอชื่อให้รับรางวัลลูกโลกทองคำในการแสดงของเขาในฐานะ ผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยมอีกด้วย

ในปี 2002 กิบสันรับบทเป็นวีรบุรุษสงครามเวียดนามชื่อ นายพล แฮโรลด์ มัวร์ ในภาพยนตร์ของแรนดัล วอลเรซ เรื่อง We Were Soldiers และรับบทเป็น บาทหลวง เกรแฮม เฮส ที่ต้องเผชิญหน้ากับการคุกคามของพวกสัตว์ประหลาดจากนอกโลก (และการสั่นคลอนในความศรัทธา) ในภาพยนตร์ของ เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน เรื่อง Signs

จนกระทั่งในปี 2004 ได้กำกับภาพยนตร์ศาสนาเรื่อง The Passion of the Christ
บันทึกการเข้า
CIVIC"
ชุมชนคนรักอาชีพช่าง
member
*

คะแนน30
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 562


« ตอบ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2014, 08:16:42 AM »






เดียโก มาราโดนา
http://www.leksound.net/ คัดจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม   เดียโก อาร์มันโด มาราโดนา
วันเกิด   30 ตุลาคม ค.ศ. 1960 (53 ปี)
สถานที่เกิด   ลานุส ประเทศอาร์เจนตินา
ส่วนสูง   1.65 ม. (5 ฟุต 5 นิ้ว)
ตำแหน่ง   กองกลางตัวรุก / กองหน้าตัวต่ำ
เดียโก อาร์มันโด มาราโดนา (สเปน: Diego Armando Maradona; ออกเสียง [ˈdjeɣo maɾaˈðona]) เกิดเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ. 1960 ในเมืองลานุส ชานกรุงบัวโนสไอเรส เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวอาร์เจนตินา และปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมชาติอาร์เจนตินา เขาถือเป็น 1 ในนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง เขาได้รับการลงคะแนนทางอินเทอร์เน็ตครั้งแรก กับรางวัลผู้เล่นฟีฟ่าแห่งศตวรรษ โดยได้รับร่วมกับเปเล

นักฟุตบอลอาชีพ
ในบทบาทนักฟุตบอลอาชีพ มาราโดนาเล่นให้กับสโมสรอาร์เคนตีโนสจูเนียส์, โบกาจูเนียส์, บาร์เซโลนา, นิวเอลล์โอลด์บอยส์ และนาโปลี ยังสร้างสถิติในเรื่องค่าสัญญาในระดับนานาชาติ เขาเล่นให้กับทีมอาร์เจนตินา 91 นัด ทำประตู 34 ประตู เขาเล่นในฟุตบอลโลก 4 ครั้ง โดยในการแข่งขันฟุตบอลโลก 1986 เขานำทีมอาร์เจนตินาชนะทีมเยอรมันตะวันตกในรอบสุดท้าย และยังได้รับรางวัลลูกบอลทองคำในฐานะผู้เล่นยอดเยี่ยม ในการแข่งครั้งนี้ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เขาทำคะแนน 2 ประตู จากผล 2-1 เหนือทีมอังกฤษ โดยในประตูแรกเป็นที่รู้จักในชื่อ "ประตูหัตถ์พระเจ้า" ในขณะที่ประตูที่ 2 เป็นการครองลูกระยะ 60 เมตร เลี้ยงหลบผู้เล่นอังกฤษ 6 คน จนได้รับขนานนามว่า "ประตูแห่งศตวรรษ"

จากหลายเหตุผล ทำให้มาราโดนาเป็น 1 ในนักกีฬาที่มีข้อขัดแย้งและเป็นที่ต้องการของนักข่าวมากที่สุดคนหนึ่ง เขาถูกพักการเล่นฟุตบอลเป็นเวลา 15 เดือนในปี ค.ศ. 1991 หลังจากตรวจพบว่าเขาเสพโคเคนในประเทศอิตาลี และถูกส่งกลับบ้านในฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐอเมริกาหลังจากตรวจพบใช้สารอีเฟดรีน

หลังจากที่เขาเกษียณจากการเป็นนักเตะฟุตบอลในวันครบรอบอายุ 37 ปี ในปี ค.ศ. 1997[4] เขาทนทุกข์อาการป่วยมากขึ้นและน้ำหนักเพิ่ม และยังติดโคเคนอย่างต่อเนื่อง ในปี ค.ศ. 2005 หลังจากผ่าตัดท้องช่วยทำให้เขาควบคุมเรื่องน้ำหนักได้ หลังจากชนะจากการติดโคเคนได้เขาเป็นพิธีกรรายการชื่อดังในอาร์เจนตินา

ผู้จัดการทีมฟุตบอลอาชีพ
มาราโดนาเคยรับงานคุมทีมอูร์รากัน (Hurracan) ในดิวิชัน 1 อาร์เจนตินา แต่ทำทีมจนตกชั้นตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่ทำงาน เมื่อปี ค.ศ. 2009 มาราโดนาเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอาร์เจนตินา แต่กลับทำทีมหมิ่นเหม่ต่อการตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2010 เคราะห์ยังดีที่อาร์เจนตินาเอาชนะอุรุกวัยไปได้ 1-0 ในนัดสุดท้ายของรอบคัดเลือก จึงผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2010 ได้สำเร็จ เป็นเหตุให้มาราโดนาต่อว่านักข่าวที่เคยวิพากษ์วิจารณ์เขามาตลอด ทำให้สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ลงโทษแบนเขาสองเดือนด้วยกัน[6] เดือนมิถุนายน 2010 มาราโดนานำทีมชาติอาร์เจนตินาสู้ศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ เข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนจะแพ้ให้กับทีมชาติเยอรมนี 0-4
บันทึกการเข้า
CIVIC"
ชุมชนคนรักอาชีพช่าง
member
*

คะแนน30
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 562


« ตอบ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2014, 08:14:57 AM »







ดูเรอร์(Albrecht Durer) 
http://www.leksound.net/ คัดจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

                      อาลเบรท ดูเรอร์ เกิดในนูเรมเบิร์ก ปี ค.ศ 1471 เป็นหนึ่งในบรรดาศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของเยอรมนี หลังจากศึกษา อาชีพเกี่ยวกัยการเขียนภาพประกอบหนังสือแล้ว เขาได้เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วยุโรป และได้ไปเยือนเวนิสที่ซึ่งเขาได้พบกับเบลลินี นับตั้งแต่ปี ค.ศ.1512 จักรพรรดิโรมันสองพระองค์คือ แมกมิเลียนที่1 และชาร์ลส์ที่5 ก็ได้ทรงจ้างดูเรอร์ไว้ในเยอรมัน ค.ศ.1520 เขาได้ไปเยือน ฟลานเดอร์ส ปัจจุบันคือเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์ แล้วกลับไปอยู่เยอรมันจนถึงแก่กรรม 

                  งานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ของดูเรอร์ คือ ภาพไม้แกะ และภาพสลักทองแดง ภาพเหล่านี้มีจินตนาการและความหมาย เป็นสัญญาลักษณ์ทั้งยังมีความ แม่นยำและรายละเอียดต่างๆอย่างเยี่ยมยอด ส่วนใหญ่ภาพสลักเหล่านี้เผยให้เห็นโลกที่เต็ม ไปด้วยนักรบเหี้ยมหาญและอสุรกาย ต่างๆ ภาพวาดของเขาอย่างเช่น เจ้ากระต่ายป่า ก็มีรายละเอียดเช่นเดียวกัน.
บันทึกการเข้า
CIVIC"
ชุมชนคนรักอาชีพช่าง
member
*

คะแนน30
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 562


« ตอบ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2014, 08:46:17 AM »






บารัก ฮุสเซน โอบามา
http://www.leksound.net/ คัดจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

 (อังกฤษ: Barack Hussein Obama II, เกิด 4 สิงหาคม ค.ศ. 1961) เป็นประธานาธิบดีคนที่ 44 คนปัจจุบันของสหรัฐอเมริกา เป็นชาวแอฟริกันอเมริกันคนแรกที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง ก่อนหน้านี้โอบามาเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาจากรัฐอิลลินอยส์ ใน ค.ศ. 2005 จนถึงวันที่ 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008 กระทั่งลาออกจากตำแหน่งหลังได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ค.ศ. 2008

โอบามาเกิดในโฮโนลูลู รัฐฮาวาย สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียและโรงเรียนกฎหมายฮาร์วาร์ด ที่ซึ่งเขาได้เป็นประธานวารสาร Harvard Law Review เขาเคยเป็นผู้จัดการชุมชนในชิคาโกก่อนสำเร็จปริญญาด้านกฎหมาย เขาทำงานเป็นอัยการสิทธิมนุษยชนในชิคาโกและสอนกฎหมายรัฐธรรมนูญที่โรงเรียนกฎหมายของมหาวิทยาลัยชิคาโกตั้งแต่ ค.ศ. 1992 ถึง 2004 เป็นผู้แทนเขต 13 สามสมัยในรัฐสภาอิลลินอยส์ตั้งแต่ ค.ศ. 1997 ถึง 2004

หลังไม่ได้รับการเลือกตั้งเข้าไปในสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกาในนามของพรรคเดโมแครตใน ค.ศ. 2000 โอบามาได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐใน ค.ศ. 2004 หลายเหตุการณ์ได้นำเขาไปสู่ความสนใจในระดับชาติระหว่างการรณรงค์หาเสียง รวมทั้งชัยชนะของเขาในการคัดเลือกผู้แทนพรรคเดโมแครตในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2004 และคำปราศรัยสำคัญระหว่างการประชุมตัวแทนพรรคเดโมแครตในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2004 เขาชนะการเลือกตั้งเป็นวุฒิสมาชิกรัฐอิลลินอยส์ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2004 การรณรงค์เลือกตั้งประธานาธิบดีของเขาเริ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2007 และหลังการรณรงค์ระยะสั้น ๆ ในการคัดเลือกผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐพรรคเดโมแครต ค.ศ. 2008 แข่งกับฮิลลารี คลินตัน เขาได้รับการเสนอชื่อจากพรรค ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ค.ศ. 2008 เขาเอาชนะผู้สมัครจอห์น แมกเคน จากพรรครีพับลิกัน และเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 2009 หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำ ค.ศ. 2009

ในระหว่างการทำหน้าที่ในสภาคองเกรสที่ 109 นั้น โอบามาได้เรียกร้องให้มีการควบคุมการใช้อาวุธ และเรียกร้องให้มีการแถลงการณ์เรื่องการใช้จ่ายเงินของรัฐบาลให้สาธารณชนได้ทราบด้วย นอกจากนั้นในช่วงนี้ เขายังเคยไปเยือนยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง และแอฟริกาอย่างเป็นทางการด้วย ในสภาคองเกรสที่ 110 เขาก็ได้เรียกร้องให้มีการดูแลปัญหาอาชญากรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ สภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงหรือภาวะโลกร้อน การก่อการร้ายด้วยอาวุธนิวเคลียร์ และให้การดูแลทหารผ่านศึกสงครามอิรัก และสงครามอัฟกานิสถาน
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!