ความจริงวันนี้กับระบบการศึกษา...ไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มสุดท้าย อันดับที่ 8
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
เมษายน 30, 2024, 03:05:26 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความจริงวันนี้กับระบบการศึกษา...ไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มสุดท้าย อันดับที่ 8  (อ่าน 5583 ครั้ง)
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1883
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13257


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« เมื่อ: กันยายน 07, 2013, 06:50:07 AM »

ผลการสำรวจคุณภาพระดับการศึกษา ในกลุ่มประเทศอาเซียน
เราจะเห็นป้ายใหญ่ยักษ์มาก อะไรก็เออีซี
โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการที่ผ่านมา ปรากฏว่า ข้อมูลจาก
ศ.พิเศษ ดร.ภาวิช ทองโรจน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการบอกว่า
จากการประชุม World Economic Forum ที่พูดกันถึงเรื่องการศึกษา
ได้พูดถึงเรื่อง การจัดคุณภาพการศึกษาในกลุ่มประเทศอาเซียน
ซึ่งประเทศไทยถูกจัดอยู่ในอันดับกลุ่มสุดท้าย อันดับที่ 8
ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีคะแนนต่ำที่สุด
รองจากประเทศเวียดนามซึ่งได้อันดับ 7
และประเทศกัมพูชา ซึ่งได้อันดับ 6
ผลการจัดอันดับสรุปได้ว่า
เงินทุนไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่สุดของการมีระดับการศึกษาที่ดี
การที่ครูอาจารย์มีเงินเดือนสูงก็ไม่ได้หมายความว่า
จะทำให้ความสามารถทางการสอนสูงตามไปด้วย
สำหรับประเทศไทยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
มีการผลักดันเรื่องเงินเดือนครู ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี
แต่เราต้องเร่งรัดครูให้มีประสิทธิภาพในการสอนควบคู่กันไปด้วย
................... ................... ................... ................... ................
จดหมายเปิดผนึกจากคุณครูท่านหนึ่ง....แสดงออกมาได้น่าคิดมาก

 ดิฉันเป็นครู ลาออกตั้งแต่ 30 กันยายน 2555 อายุ 58 ปี
เป็นครูตั้งแต่อายุ 18 เป็นด้วยความรัก ศรัทธาในอาชีพครู
ประสบการณ์อาชีพในอาชีพ 40 ปี ไม่เคยตั้งใจจะลาออก
คิดจะอยู่ในอาชีพจนถึงเกษียณ แต่ต้องลาออก
ณ วันที่ตัดสินใจลาออก ทนไม่ไหวแล้ว

ทำไมเด็กไทยจึงไม่เก่ง ทำไมการศึกษาของไทยจึงตกต่ำ

เพราะเด็กไม่ได้อะไรจากครู
ใน 1 ปี มี 365 วัน
เด็กได้เรียนหนังสือกี่วัน

ปัญหาข้อที่ 1
ปิดเทอมภาคฤดูร้อน 16 มีนาฯ ถึง 15 พฤษภาฯ
ปิด 2 เดือน 60 วัน
ปิดวันเสาร์-อาทิตย์ เดือนละเฉลี่ย 8 วัน 10 เดือน 80 วัน
ปิดวันสำคัญของชาติ ศาสนา ประมาณ 15 วัน
ปิดภาคกลาง ตุลาคม 11-31 ตุลาคม 20 วัน
ปิดเนื่องจากมีกิจกรรมวิชาการ กีฬาสี กีฬา อบต.ประมาณ 15 วัน

รวมแล้วปิด 190 วัน 365 วัน ลบ 190 วัน
เด็กได้เรียนปีละ 175 วัน

ใน 175 วัน ไม่มีครูสอนเด็กต่อเนื่อง
ครูต้องไปประชุมสัมมนา อบรม ดูงาน ประมาณปีละ 30 วัน
เหลือวันได้เรียน 145 วัน

แล้วครูยังลากิจ ครูป่วย ครูมีธุระส่วนตัว ครูทำผลงานให้ตัวเอง
เด็กไทยจะได้เรียนหนังสือสักกี่วัน

    ปัญหาข้อที่ 2 ผู้ปกครองตามใจครู แตะไม่ได้ ดุ ตี ไม่ได้ เอาใจเด็ก
โดยฝึกให้ใช้จ่าย ไม่สนใจเด็ก ให้เด็กรู้จักใช้เวลาว่าง ให้มีนิสัยรักการอ่าน
การเรียน การทำงาน ให้เด็กเล่นเกม
เพราะคิดว่าเล่นเกมอยู่ในบ้านดีกว่าออกไปเล่นเกมนอกบ้าน
       
       ปัญหาข้อที่ 3 ตัวเด็ก ขาดความรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อการเรียน ไม่อยากไปโรงเรียน
ติดเพื่อน ตามแบบอย่างเพื่อน ได้สติปัญญามาจากพันธุกรรม อาหาร และสิ่งแวดล้อม
ไม่ตั้งใจเรียน ขาดความกระตือรือร้น ไม่ใฝ่รู้ใฝ่เรียน
ถ้าเด็กต้องการเรียนกับครูตู้ รับสัญญาณจากโรงเรียนวังไกลกังวล
ไม่มีครูควบคุมแนะนำ ดูแล นักเรียนจะไม่ตั้งใจเรียนและไม่ทำงาน
เด็กจะนั่งเล่นหมดเวลาไปวันๆ แล้วเด็กไทยจะเก่ง ดี มีความสุขได้อย่างไร
       
       ปัญหาข้อที่ 4 ตัวครู อันนี้น่าสนใจมาก ครูต้องไปอบรม เด็กถูกละทิ้ง
ครูให้เด็กเรียนกับครูตู้ ไม่กำกับดูแล นั่งคุยกัน (ประชุมกันในโรงเรียน)
ครูจะไปธุระส่วนตัวบ่อย ครูลากิจ ครูลาป่วย ครูมีปัญหาส่วนตัว
เช่น ปัญหาครอบครัว ปัญหาหนี้สิน ไม่มีสมาธิที่จะเตรียมการสอนเพื่อเด็ก
ครูตั้งหน้าตั้งตาทำแต่วิทยฐานะเพื่อเลื่อนตำแหน่ง
เพื่อให้ได้เงินเดือนสูงๆ มีเงินประจำตำแหน่งคนละหลายๆ หมื่น
ได้เงินแล้วทำอะไร เด็กไทยเรียนเก่งขึ้นไหม
เด็กไทยเป็นเด็กดี มีคุณธรรมขึ้นไหม
ครูที่ได้ตำแหน่งแล้วก็สอนเหมือนเดิม
ตำแหน่งที่ครูอยากได้ คศ.3 คศ.4 เช่นครู คศ.3 บางคน ได้มาไม่รู้ตัว ได้มาอย่างไร
จ้างเขาทำ ลอกเลียนแบบ ในสมัยที่ นช.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีใหม่ๆ
ได้ไปสาธิตการสอนที่โรงเรียนอะไรจำไม่ได้ วันนั้น นช.ทักษิณ พูดว่า
ถ้าครูสอนแล้วมีวิจัยการสอน จะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นครู คศ.3 และ คศ.4 มีเงินประจำตำแหน่งให้
ตั้งแต่นั้นมา ระบบการเรียนของนักเรียนแย่ลง
ผลการเรียนของนักเรียนตกต่ำมาเรื่อย
ครูบางสอนได้สอนแก้ปัญหาโดยการทำวิจัยจริง
ครูบางคนฉวยโอกาสจ้างทำผลงาน
ครูบางคนรับจ้างทำผลงานคัดลอกผลงาน ดัดแปลง คละปนกันไปทั่วประเทศ
       
       ปัญหาข้อที่ 5 ครูไม่พอเพียง แล้วจะสอนให้เด็กพอเพียงได้อย่างไร
ครูนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้หลอกๆ เขียนแผนการสอนเพื่อส่งทำผลงาน
แต่ความจริงเป็นผู้บริหารก็สอนตามหนังสือที่บริษัททำขาย
ตามที่นักวิชาการหลากหลายเขียนขึ้นมา ซึ่งจริงๆ แล้วบางหลักสูตรไม่ได้เหมาะสมกับวัยผู้เรียน
ไม่ได้เหมาะสมกับวุฒิภาวะ ความต้องการเรียนรู้ของผู้เรียน
ทำให้เด็กไทยอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา
สะสมความไม่รู้ไปจนถึงระดับมัธยม ครูไม่พอเพียง
ปัจจุบันเงินเดือนครูสูงมาก ครูที่อายุ 40 ปีขึ้นไป เงินเดือนจะสูง
ครูส่วนมากร่ำรวย มีที่อยู่อาศัย 1 หลังไม่พอ ต้องมี 2 หลัง 3 หลัง
เบิกเงินค่าเช่าบ้า เช่าซื้อ ตลอดอายุราชการ ไม่รู้จักผ่อนหมด
เพื่อให้ผู้อื่นเช่าอยู่ ครูกู้เงินไปทำห้องเช่า กู้เงินไปซื้อที่ดินจำนวนมากๆ
ครูขับรถราคาหลักล้าน
ครูเข้าโรงเรียนสาย กลับก่อน ครูมีธุระมาก ไปส่งภรรยาไปธุระ พาลูกไปเรียน ไปสอน ไปหาหมอ
ครูไม่ลงทุน นำเงินงบประมาณของเด็กมาใช้เพื่อตนเอง เช่น ปากกา สมุด กระดาษ
ครูเบิกใช้เพื่อทำผลงาน ครูแบบนี้มีอยู่ในประเทศไทยมาก
       
       สหกรณ์ออมทรัพย์ของครู มีครูอยู่ 3 ประเภท

ประเภทที่ 1 เงินเดือนฝากหมด ใช้เฉพาะเงินประจำตำแหน่ง
เดี๋ยวนี้ครูจะฝากเงินสหกรณ์ ครูคนหนึ่งจะฝากโดยเฉลี่ย 3-6 ล้านบาท
เพราะสหกรณ์ครูให้ดอกเบี้ยมากกว่าธนาคาร

ประเภทที่ 2.พวกชอบกู้ แต่กู้ไปสร้างหลักทรัพย์ ซื้อบ้านคนละ 1 หลัง 2 หลัง 3 หลัง
ซื้อที่ดินซื้อรถหรูๆ เวลาไปประชุมใช้อวดกัน

ประเภทที่ 3 ครูบรรจุใหม่เงินเดือน 10,000-15,000 จะถูกครูรุ่นพี่เอาเปรียบ
เพราะงานมากกว่าครูประเภทที่ 3 กู้เงินสหกรณ์ได้น้อย เงินเดือนน้อยไม่พอต่อค่าครองชีพ
ถ้ารักจะเรียนต่อต้องประหยัดอดมื้อกินมื้อ ค่าครองชีพ น้ำมัน อาหารขึ้น
ครูประเภท 3 เดือนร้อนมาก
ครูประเภท 1 จะแต่งตัวสวยยิ่งกว่าคุณหญิงคุณนาย ใช้ของราคาแพง
จะเที่ยวต่างประเทศทุกปีๆ ในช่วงปิดเทอมเดือนเมษายน
ทำไมถึงไม่จัดอบรมช่วงปิดเทอม จัดกิจกรรมนักเรียนช่วงปิดเทอม
เดี๋ยวนี้กิจกรรมวันเด็ก วันสำคัญทางศาสนา ถ้าตรงเสาร์-อาทิตย์จะจัดวันธรรมดาหมด
เดี๋ยวนี้ไม่มีครูที่ไหนอุทิศเวลาให้ทางราชการหรอก
มีแต่จะหาโอกาสจัดกิจกรรมในวันธรรมดา หมดเวลารับเงินเดือนรับทุกวัน
แต่เวลาทำงานจ้องหาแต่วันหยุด การศึกษาไทยถึงตกต่ำที่สุด
       
         ปัญหาข้อที่ 6. งบประมาณผู้บริหารครู ผู้บริหารและครูรู้กัน
หรือผู้บริหารต้องการเงินรายหัวเด็ก เด็กได้ไม่ครบ แต่จะโยกย้ายซิกแซกงาน
 อาคาร สถานที่จะไม่ถึงเด็ก ผู้บริหารโยกย้ายซิกแซกได้
งานบริหารทั่วไปจะไม่ถึงครู เด็กครูใช้งานบุคลากรจะไม่ถึง เด็ก
ครูใช้ผู้บริหารใช้เที่ยวต่างประเทศ เงินอาหารกลางวัน เช่น
โรงเรียนมีนักเรียน 100 คน คนละ 15 บาท ทางโรงเรียนบริหารจริงๆ
เด็กได้รับประทานครบอาหารดี แต่มีบางโรงเรียนบริหารแบบครูกินกับเด็ก
เงิน 1,500 บาท เด็กได้กิน 1,000 บาท ครูได้กิน 500 บาทต่อวัน
ครูกินอะไรก็กินอาหารกลางวัน โดยใช้เงินของเด็ก หรือ 500 บาทนี้
ไปจ้างแม่ครัวมาทำงานแทนครู บางโรงเรียนไปขอใบเสร็จมาจากร้าน
ร้านขอร้อยละ 10-20 โรงเรียนก็ยอม โรงเรียนทำใบส่งขอใบเสร็จไปทำเรื่องมาเบิกเงินใช้ทั่วไป
ถ้าใช้สอยในโรงเรียนถึงเด็กบ้างก็ยังดี แต่บางโรงเรียนผู้บริหารเอาเข้ากระเป๋าไปใช้อะไรไม่รู้
ที่ไหนก็มีทุจริต โกง ครูไม่มีคุณธรรม แล้วสอนให้เด็กมีคุณธรรม ไม่รู้จักอายเด็ก ผีสางบ้างหรือ
การศึกษาต้องลงทุน แต่ผลขาดทุนเพราะทุจริต

       ปัญหาข้อที่ 7. ปัญหาจากเขตพื้นที่การศึกษา เศรษฐกิจ โครงการเพื่อขอจัดตั้งงบประมาณ
นำเงินมาใช้ในการบริหารบุคลากรเป็นส่วนมาก และจะจัดอบรมบ่อยมาก
ในวันธรรมดาเวลาราชการและเด็กจะได้ความรู้อะไรจากครู
ครูจะเข้าอบรมเพื่อต้องให้เกียรติบัตร เป็นผลงานไว้เลื่อนวิทยฐานะ
       
       ปัญหาข้อที่ 8 ปัญหาจากผู้บริหารระดับสูงกว่าเขตที่กำหนดนโยบายให้เขต โรงเรียน
ปฏิบัติเพ้อฝันมาก คาดหวังสูงจนเด็กไม่ได้อะไรจากครู
ครูก็โทษเด็ก ว่าดื้อไม่ตั้งใจเรียน ไม่ตั้งใจทำงาน ไม่รับผิดชอบ
ครูและผู้บริหารก็โทษผู้ปกครอง ไม่ดูแลเอาใจใส่เด็ก
สำนักงานเขตก็มองครูว่าสอนเด็กไม่ดี ต้องให้ครูไปอบรม
ครูเขตก็มองผู้ออกข้อสอบไม่ดี เพราะเด็กแต่ละท้องถิ่นแตกต่างกัน
ครูสอนบางคนตั้งใจสอนเตรียมการสอนดี สอนดี
ครูบางคนป่วยทั้งปี ป่วยแล้วไม่ได้ลงเบิกค่ารักษาพยาบาล ได้
แต่ไม่มีวันลา ครูบางคนนั่งสอนให้เด็กเรียนกับครูตู้
ครูนั่งคิดแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว ออกปล่อยเงินกู้ นั่งคิดแต่รายได้ ดอกเบี้ย
และธุรกิจอื่นๆอีกหลายอย่าง ผู้บริหารจะออกจากโรงเรียนไปประชุมทั้งปี
ไปราชการตลอด เข้าโรงเรียนสาย ออกก่อน โกหกหลอกครูน้อย
อีกประเภทออกไปเอาใจนาย ผอ.เขต บริการทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่ง
ขึ้นเงินเดือนอย่างออกนอกหน้า กฎ กติกา เกณฑ์เป็นอย่างไรไม่สำคัญเท่ากับ
ใครเป็นพวกใคร ใครทำงานให้ใคร ปฏิรูปอย่างไรการศึกษาก็ไม่ดีขึ้น
เพราะครูเหมือนนักการเมือง
ครูเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เยาวชนไทยเป็นคนที่ไม่ดี ไม่มีคุณธรรม
ครูเป็นส่วนหนึ่งที่เหมือนโจรปล้นชาติ ปล้นเงินภาษี
เอาเปรียบประชาชน ผู้ปกครองเด็ก

ยิ่งเทงบประมาณลงไปมากเท่าไหร่
ก็ทุจริตกันมากเท่านั้น

ขอโทษครูที่ดีก็มี ไม่ดีก็มี

ครูดีผู้บริหารดีจะไม่เจริญก้าวหน้า
ครู ผู้บริหารที่ดีก็จะลาออกเข้าโครงการเกษียณออกหมด


ท้ายด้วยนะ
กราบขอโทษครูที่ดีมีปัญญา ท่านไม่เดือดร้อน

ขอบูชาครูผู้มี..พระคุณ

Credit  :http://www.manager.co.th/


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!