จ.สุราษฎร์ฯแจ้งเตือนปชช.พื้นที่เสี่ยง ระวังอุทกภัยฯ-คลื่นลมแรง
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
มีนาคม 28, 2024, 07:06:36 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: จ.สุราษฎร์ฯแจ้งเตือนปชช.พื้นที่เสี่ยง ระวังอุทกภัยฯ-คลื่นลมแรง  (อ่าน 2907 ครั้ง)
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18612


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« เมื่อ: เมษายน 11, 2013, 07:11:41 PM »

นายวงศศิริ พรหมชนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศแจ้งเตือนเรื่องกระแสลมตะวันออกจากทะเลจีนใต้คลื่นเข้ามาปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ในช่วงวันที่ 10-16 เมษายน นี้ ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นจะสูงมากกว่า 2 เมตร
จังหวัดสุราษฎร์ธานีจึงได้ให้อำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ราบลุ่ม ที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ให้ระมัดระวังอุทกภัย วาตภัย ลมกระโชกแรงและคลื่นลมแรง ในระหว่างวันที่ 11-16 เมษายน นี้
สำหรับเรือประมง เรือโดยสารและเรือเฟอร์รี่ ให้พิจารณาเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ ขณะเดียวกันได้ขอให้พื้นที่จัดเจ้าหน้าที่ "มิสเตอร์เตือนภัย" เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อเตรียมการรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น

---------------------------
breakingnews.nation channel.com/


บันทึกการเข้า

ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18612


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 12, 2013, 07:18:10 AM »

เตือนฉ.1ภาคใต้ฝนหนาแน่น-คลื่นสูงกว่า2เมตร


กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเรื่อง"หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง" ฉบับที่ 1 วันที่ 12 เมษายน 2556 เวลา 05.00 น.

สำหรับคลื่นกระแสลมตะวันออกที่เคลื่อนผ่านทะเลจีนใต้ตอนล่างได้พัฒนาเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว ซึ่งหย่อมความกดอากาศต่ำนี้จะเคลื่อนผ่านอ่าวไทยและภาคใต้ในช่วงวันที่ 12-14 เมษายน 2556

ทำให้ภาคใต้มีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับอ่าวไทยบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง จะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และชาวเรือระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงในช่วงวันที่ 12-16 เมษายน 2556 ไว้ด้วย

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก

มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเกิดขึ้น ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากสภาวะอากาศดังกล่าวในช่วงวันที่ 12-14 เมษายน 2556 นี้

อนึ่ง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ (12-16 เมษายน 2556) บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนตก ในระยะแรก(12-14 เม.ย. 56) ทำให้อากาศคลายความร้อนอบอ้าวลง คาดว่าจะมีอุณหภูมิในช่วงบ่าย ประมาณ 33-37 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 12-15 เมษายน 2556
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18612


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 13, 2013, 03:17:45 PM »

เตือนใต้ตอนล่างฝนหนัก น้ำป่าหลาก พื้นที่เสี่ยงนคร-พัทลุง


นายเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผอ.สำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมและธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างได้ เคลื่อนเข้าสู่ช่องแคบมะละกา ระหว่างวันที่ 13-16 เม.ย.นี้ ซึ่งส่งผลทำให้ภาคใต้ตอนล่างของไทยมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยตั้งแต่ที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่าในจังหวัดพัทลุง และนครศรีธรรมราช เริ่มมีฝนตกหนักและมีปริมาณน้ำฝนเกิน 100-150 มิลลิเมตร (มม.) และขณะนี้ยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ทางกรมทรัพยากรธรณี จึงประกาศเฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากระหว่างวันที่13-15เม.ย.นี้ ในเขตพื้นที่ 9 จังหวัดภาคใต้ครอบคลุม จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา กระบี่ ตรัง สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

นายเลิศสิน กล่าวว่า จากการประสานทางเครือข่ายเฝ้าระวังธรณีพิบัติภัยในจังหวัดต่างๆพบว่าในพื้นที่ยังคงมีเมฆฝนเยอะมาก และปริมาณฝนตกเพียงแค่วันเดียวบางจังหวัดสูงถึง 110- 150 มิลลิเมตร และยังตกต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำในลำคลองเริ่มเพิ่มขึ้นและมีการเปลียนสีแดงขุ่นบ้างเล็กน้อย ทำให้ต้องเตรียมเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในระยะนี้ โดยเฉพาะจุดเสี่ยงในเขตพื้นที่อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช และรอบพื้นที่รอบเขตเทือกเขาหลวง ที่เคยประสบเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากดินถล่มในเดือนเม.ย.2554 จนสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างรุนแรง เนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่องแบบเดียวกับปีนี้ เพียงแค่6 วันมีปริมาณฝนถึง1,400 มิลลิเมตร ขณะที่ปีนี้พบฝนตกหนักเฉลี่ยวันละ 100 กว่าแต่ถ้าตกติดต่อกัน 3 วันติดๆโอกาสที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลากมีสูงมาก

"ขณะนี้กรมทรัพยากรธรณี ได้ประสานประสานเครือข่ายในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช และพัทลุง ให้เตรียมเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะชุมชนที่อยู่ใกล้กับเทือกเขาหลวง ให้เฝ้าระวังจุดเสี่ยงบอกเหตุระดับน้ำในลำคลอง เพื่อให้ประกาศเตือนชาวบ้านถึงจุดอันตรายที่เขาต้องอพยพไปยังจุดปลอดภัย หากเกิดน้ำป่าไหลหลากในช่วงสงกรานต์นี้" นายเลิศสิน ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศพบหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศมาเลเซีย ได้เคลื่อนเข้าสู่ช่องแคบมะละกาแล้ว โดยจะทำให้ภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จ.นครศรีธรรมราชลงไปจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 13-15 เม.ย.นี้ ขณะที่ยังพบบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่ง จะแผ่เสริมลงมาปกคลุม ประเทศไทยตอนบน ทาให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนโดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้น และอุณหภูมิจะ ลดลง 4-6 องศาเซลเซียส ส่งผลให้อากาศคลายความร้อนลงส่วนในช่วงวันที่ 12-17 เม.ย. คลื่นกระแสลมตะวันออกจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทาให้ บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยสูงประมาณ 2 เมตร ส่วน บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18612


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: เมษายน 13, 2013, 03:34:02 PM »

พายุถล่มเรือประมงประจวบล่ม 40 ลำ บ้านเรือนเสียหาย


ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายมนัส ปานน้อย ประธานประมงเรือเล็กพื้นบ้าน 3อ่าว ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่อ่าวน้อย อ่าวตาม่องล่าย อ่าวคั่นกระได ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม เรือประมงพื้นบ้านที่จอดชายฝั่งได้รับความเสียหาย 40กว่าลำ ชาวประมงช่วยกันกู้เรือที่ถูกพายุพัดอับปางขึ้นมา โดยที่มีเครื่องมือทำการประมงเสียหายส่วนใหญ่ อาทิ เรือแตก เครื่องยนต์ เครื่องปั่นไฟ หลอดไฟ เสียหายจมน้ำทั้งหมด

จากสอบถามนายมนัส ปานน้อย เล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณ ตี3 เกิดมีพายุลมแรงพัดเข้ามาในหมู่บ้านพัดบ้านสั่นไปทั้งหลัง หลังคาบ้านถูกลมพัดปลิวว่อน เมื่อพายุลมสงบลงออกไปตรวจสอบเรือที่จอดชายทะเลพบว่ามีเรือล่มจมน้ำทะเลเป็นจำนวนมาก โดยเรือของตนถูกพัดเข้าฝังกระแทกโขดหินจนเรือแตกได้รับความเสียหาย ประมาณมูลค่าหลายหมื่นบาท อปกรณ์ทำการประมงจมน้ำเสียหาย

ด้านนายสุเทพ รื่นถวิล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ออกสำรวจตามจุดต่างๆพบว่ามีเรือประมงพื้นบ้านถูกพายุพัดจนอับปางเป็นจำนวนมาก จึงได้รายงานให้นายวีระ ศรีวัฒนตรกูลผู้ว่าราชการทราบพร้อมให้สำรวจความเสียหายทั้งหมด

นอกจากนั้นยังได้รับรายงานเพิ่มว่า พายุฤดูร้อนได้ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างโดย ที่อำเภอหัวหิน อ.สามร้อยยอด อ.เมืองประจวบฯ อ.บางสะพาน มีบ้านเรือนถูกพายุพัดหลังคาบ้านเสียหาย กว่า 150 หลังคาเรือน ขณะนี้กำลังเดินทางไปตรวจสอบและให้การช่วยเหลือต่อไป

-------------------------------------------

พายุฤดูร้อนถล่มประจวบฯ บ้านพังกว่า400หลัง เรือประมงกว่า 50 ลำ


ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุด 13 เมษายน 2556 เมื่อเวลา 16.30 น.นาย วีระ ศรีวัฒนตระกูล ผวจ.ประจวบฯ นางปรียา ศรีวัฒนตระกูล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯพร้อมด้วย ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ป้องกันจังหวัด ปลัดอำเภอเมือง นายก อบต.อ่าวน้อย พร้อมปลัดอบต.อ่าวน้อย ได้เดินทางไปยัง วัดอ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบฯ พร้อมพบกับชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุการณ์พายุฤดูร้อน ที่พัดถล่มเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนราษฏร และเรือประมงเบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินค่าความเสียหายได้
นายสุเทพ รื่นถวิล ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังวัดประจวบฯ กล่าวว่าควาขึ้นเสียหายที่เกิดในอำเภอเมืองประจวบฯ บ้านเรือนเสียหาย 132 ครัวเรือน ,อำเภอสามร้อยยอดบ้านเรือนเสียหาย 101 ครัวเรือน ,อำเภอทับสะแก บ้านเรือนเสียหาย 86 ครัวเรือน อำเภอบางสะพานน้อย บ้านเรือนเสียหาย 21 ครัวเรือน ,อำเภอบางสะพานบ้านเรือนเสียหาย 21 ครัวเรือน และที่อำเภอหัวหิน บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 2ครัวเรือน สำหรับเรือประมงในพื้นที่อำเภอเมืองเสียหายรวมทั้งสิ้น 53 ลำ
นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผวจ.ประจวบฯ กล่าวว่าการช่วยเหลือเบื้องต้นทาง อบต.อ่าวน้อย จะเป็นผู้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ทั้งเรื่องของบ้านที่เสียหาย และเรื่องของเรือประมง ซึ่งเรือประมงจะได้การช่วยเหลือลำละ 10,000 บาท ตามขั้นตอนของกฏหมาย สำรับเรือที่ไม่ได้ทำการประมง แต่ในส่วนที่ทำการประมงและเสียหายทั้งลำ ก็จะดำเนินการช่วยเหลือตามกฏระเบียบ พร้อมกันนั้นขอให้ผู้เสียหายมาลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานต่ไป พร้อมกันนั้นทางผู้ว่าราชการฯนายกเหล่ากาชาด นายกอบต.อ่าวน้อย ยังได้ร่วมกันมอบเครื่องอุปโภคบริโภค ผู้เดือดร้อนในครั้งนี้ อีกทั้งยังได้ลงไปตรวจสภาพความเสียหายของเรือประมงที่ชายหาดอ่าวน้อย
ด้านนายจิรายุ สะวัญชะนะ อายุ 47 ปี เขาเล่าด้วยว่าโชคดีที่เขากลับลูกชายวัย 19 ปีรอดชีวิตมาได้ ช่วงเย็นวานที่ผ่านมา(12 เม.ย.)เขาออกเรือไปไดหมึกตามปกติกับลูกชาย อยู่บริเวณหน้าทะเลอ่าวน้อย จนกระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. ณะที่กำลังทอดสมอทำการประมงอยู่นั้นก็เริ่มมีลมพายุและฝน จนกระทั่งคลื่นลมในทะเลเริ่มรุนแรงคลื่นเริ่มสูงขึ้นซัดกระหน่ำมาบนลำเรือ อย่างต่อเนื่องช่วงนั้นคลื่นสูงประมาณ 4-5 เมตร ตอนนั้นจึงตัดสินใจให้ลูกชายตัดสมอเรือทิ้ง เพื่อที่จะนำเรือกลับเข้าฝั่งนั้นคลื่นลมพายุเริ่มหนักขึ้นจึงให้ลูกชายคว้าแกลลอน และกระโดดลงน้ำทันทีต่อจากนั้นตนเองก็ตัดสินใจกระโดดลงทะล และประคองลูกชายว่ายเข้าฝั่งใช้เวลานานกว่า 1 ชม. จนขึ้นฝั่งมาได้และกลับเข้าบ้านพัก ช่วงนั้นคิดว่าเรือตนเองยังไม่เป็นอะไรเริ่มสว่างก็มองไม่เห็นเรือ จนกระทั่งคลื่นซัดเศษไม้ และป้ายชื่อเรือ โชดอลิยา มาบนชายหาดตนเองและครอบครัวถึงกับเข่าอ่อน เพราะเรือที่ใช้ทำมาหากินวันนี้ไม่เหลืออีกแล้ว วันนี้ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดี ตนเองบอกกับลูกชายเสมอว่าได้"โชคดีที่รอดชีวิตมาได้"
ลุงบุญมาก เสียงใหญ่ ชาวบ้านอ่าวน้อย เขาเชื่อว่า"นี่มันคืออุกาฟ้าเหลือง" ก็คือพายุ ซึ่งปกติจะเกิดในช่วงตอนเย็น แต่เดี๋ยวนี้กลับเกิดในช่วงกลางคืน นี่นับว่าโชคดีที่ไม่มีผู้ใดเสียชีวิต เพราะวันนี้เป็นวันสงกรานต์ ชาวประมงส่วนใหญ่จึงไม่ได้ไปออกเรือ หากไม่ใช่วันสงกรานต์คงต้องเกิดการสูญเสียอย่างแน่นอน ก็ได้แต่หวังว่าคืนนี้พายุลูกนี้คงจะไม่เกิดขึ้นอีก
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18612


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: เมษายน 16, 2013, 06:26:27 PM »

พายุถล่มนครศรีฯ โรงงานเตาอิฐ-บ้านเรือนเสียหาย


เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 16 เม.ย.56 เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยหลายหน่วยงานได้เข้าตรวจสอบบริเวณหมู่ 10 ริมถนนสายนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากเกิดเหตุพายุฤดูร้อน พัดถล่มในพื้นที่จนมีสิ่งปลูกสร้างเสียหายเป็นวงกว้าง โดยจุดเกิดเหตุนั้นพบว่า "เตาอิฐเข็มแดง"ซึ่งโรงงานผลิตอิฐดินเผาขนาดใหญ่ของนางไกรวรา เข็มแดง กำนันตำบลปากพูน ได้รับความเสียหายสิ้นเชิง มูลค่ารวมหลายล้านบาท และพบว่าโรงงานอิฐที่อยู่ใกล้กันที่ได้รับความเสียหาย 3 โรง และบ้านเรือนในละแวกเดียวกันพังเสียหาย 7 หลัง

นางไกรวรา เข็มแดง กำนันตำบลปากพูน เจ้าของโรงงานอิฐเข็มแดง กล่าวว่า พายุเป็นพัดถล่มเพียง 3 นาที ก็สร้างความเสียหายทั้งหมด เช่นเดียวกันกับโรงงานที่อยู่ใกล้กันอีกรวม 3 โรง ก็อยู่ในสภาพเสียหาย ระหว่างเกิดเหตุอยู่ในช่วงวันหยุดคนงานผลิตอิฐไม่อยู่

นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ได้สั่งการให้นายเจษฎา วัฒนานุรักษ์ ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าตรวจสอบอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับความเสียหายให้รีบจัดการช่วยเหลือตามขั้นตอนของทางการ และสำรวจความเสียหายอย่างเป็นทางการเพิ่มเติม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!