แม่น้ำลำคลอง - ถนนในวันวาน
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
เมษายน 25, 2024, 10:44:23 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แม่น้ำลำคลอง - ถนนในวันวาน  (อ่าน 3713 ครั้ง)
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1883
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13243


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« เมื่อ: เมษายน 01, 2011, 07:43:03 AM »

http://www.baanpud.net/swfupload/upload/uploads/hifias215s.swf


คลองแสนแสบ....ยุคขวัญ-เรียม
อกพี่กลัดหนอง พี่หมองดั่งคลองแสนแสบ
เจ็บจำดั่งหนามยอกแปลบๆ แสบแสนจะทน
โอ้ว่ากังหัน ทุกวันมันพัดสะบัดวน
อยากจะรู้จิตคน จะหมุนกี่หนต่อวัน



คลองบางยี่ขัน....ตามรอยสุนทรภู่
ถึงโรงเหล้า เตากลั่น ควันโขมง
มีคันโยง ผูกสาย ไว้ปลายเสา
โอ้บาปกรรม น้ำนรก เจียวอกเรา
ให้มัวเมา เหมือนหนึ่งบ้า เป็นน่าอาย
ไม่เมาเหล้า แล้วเรา ยังเมารัก
สุดจะหัก ห้ามจิต คิดไฉน
ถึงเมาเหล้า เช้าสาย ก็หายไป
แต่เมาใจ นี้ประจำ ทุกค่ำคืน



คลองบางกอกน้อย....พายเรือตามหาบัวลอย
"โถเจ้าว่ายน้ำไม่เป็น
ยังลงว่ายเล่น เพียงเห็นชื่นเย็นนิดหน่อย
น้ำเชี่ยวยิ่งเหลือ เจ้าจึงเป็นเหยื่อคลองบางกอกน้อย
จิตใจพี่ให้เศร้าสร้อย ถึงบัวลอยแม่จอมขวัญ"
เพลงนี้เคยดังในอดีต.....
น่าสงสารบัวลอย....จมน้ำแล้วยังมีคนสมน้ำหน้าอีก
ว่ายน้ำไม่เป็น.....แล้วลงไปเล่นน้ำทำไม




คลองมหานาค


ถนนนครไชยศรี เขตดุสิต ถ่ายเมื่อเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 1952


เยาวราช


สะพานหัน



เรือนแพในสยามประเทศ มีมาตั้งแต่ในช่วงรัชกาลที่ ๑ มาแล้ว
มักนิยมสร้างบ้านอยู่บนแพใช้ทั้งพักอาศัยและค้าขาย
ในอดีตแม่น้ำถือเป็นเส้นทางคมนาคมหลัก
ทำให้สายน้ำคือชีวิตของคนไทยในสมัยก่อน เกิดและอาศัยอยู่ในเรือ
ซึ่งสัญจรขนส่งสินค้า ล่องไปตามหัวเมืองใหญ่ต่างๆ แม้คนที่มาจากต่างเมือง
แล้วเข้ามาค้าขายในเมืองบางกอก ก็นิยมสร้างเรือนแพเพราะไม่ต้องมีที่ดินเป็นของตนเอง
การล่องเรือนำสินค้าไปขายยังต่างเมืองก็สะดวกมากนั่นเอง
จนมักเรียกชาวสยามในอดีตว่าเป็นชาวน้ำ
เพราะความผูกพันของคนไทยกับสายน้ำนั้นแนบแน่นจนแยกกันไม่ขาด

เรือนแพหมายถึงเรือนที่สร้างอยู่ในน้ำ อยู่บนแพทั้งหลัง
โดยมีลักษณะและส่วนประกอบโดยทั่วไปเหมือนกับเรือนไทยเดิม
เพียงแต่การลอยอยู่ในน้ำอาศัยแพ ที่เป็นทุ่นลอยน้ำ เรือนแพจึงแยกได้เป็นสองส่วน
คือส่วนตัวเรือน และส่วนแพที่เป็นทุ่นลอยน้ำ แพเป็นส่วนสำคัญที่รับน้ำหนักของเรือน
ส่วน ใหญ่จะใช้แพไม้ไผ่ ต่อมาใช้ถังน้ำมัน และวิวัฒนาการเป็นเรือเหล็กหนุน ซึ่งจะคงทนและรับน้ำหนักได้มากกว่า แพไม้ไผ่แบบเดิม ซึ่งเป็นไม้ไผ่ที่มัดรวมกันเป็นฟ่อนๆ ถ้าเป็นลูกบวบขนาดเล็ก ฟ่อนหนึ่งจะมี 40-50 ลำ หากเป็นลูกบวบขนาดใหญ่ จะมีประมาณ 60-100 ลำ ลูกบวบทำหน้าที่เป็นทุ่นให้แพ ลอยได้เหมือนเรือโป๊ะแต่ราคาถูกกว่ามากในขณะเดียวกันก็มีอายุการใช้งานไม่ ยาวนัก

ส่วนลักษณะและโครงสร้างของเรือนแพคล้ายกับเรือนไทย ฝามีหลายแบบ เป็นฝากระแชงอ่อน หรือฝาขัดแตะ ซึ่งมีน้ำหนักเบาสามารถเปิดบานกระทุ้งได้ ส่วนด้านสกัดของเรือนเรียกฝาถัง ใช้ไม้กระดานเป็นแผ่นหน้ากว้างตั้งขึ้นเป็นฝา แต่ทำเป็นลิ้นเข้าไม้สนิทเสมือนเป็นแผ่นเดียวกันแบบจีน พบได้ในเรือนแพส่วนใหญ่ เพื่อป้องกันไม่ให้ขโมยที่อาจพายเรือเข้ามาเทียบแพงัดฝาได้ง่าย หลังคาจะมุงจาก เนื่องจากน้ำหนักเบา ทนต่อการสั่นไหวจากคลื่น ถ้าใช้กระเบื้องคงจะหนักและร่วงหล่นได้ง่าย


เพลงเรือนแพ....เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องเรือนแพ
ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๔
คำร้อง : ชาลี อินทรวิจิตร
ทำนอง : สง่า อารัมภีร
ขับร้อง : ชรินทร์ นันทนาคร

เรือนแพ...
สุขจริงอิงกระแสธารา
หริ่งระงมลมพลิ้วมา
กล่อมพฤกษาดังว่าดนตรี

   หลับอยู่ในความรัก
   รับความชื่นชั่ววันและคืนเช่นนี้
   กลิ่นดอกไม้รัญจวน
   ยังอบอวนยวนยี
   สุดที่จะพรรณนา

เรือนแพ...
ล่องลอยคอยความรักนานมา
คอยน้ำค้างกรุณา
หยาดมาจากดาราแหล่งสวรรค์

   วิมานน้อยลอยริมฝั่ง
   ถึงอ้างว้างเหลือใจรำพัน
   หิวหรืออิ่มก็ยิ้มพอกัน
   ชีวิตกลางน้ำสุขสันต์
   โอ้สวรรค์ในเรือนแพ








Credit :   http://www.baanpud.net/forum/viewtopic.php?f=28&t=709


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!