สีดวงจิตของพระโพธิสัตว์
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สีดวงจิตของพระโพธิสัตว์  (อ่าน 2422 ครั้ง)
kittanan_2589
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน630
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2363


NightBaron


เว็บไซต์
« เมื่อ: มกราคม 10, 2011, 07:20:16 am »

จากหนังสือ ธรรมะผ่าโลก

สีฟ้า นับเป็นสีพิเศษที่มีการเกิด-ดับอยู่ตลอดเวลาเปรียบเสมือนญาณบารมีของพระโพธิสัตว์
มหาโพธิสัตวืที่มีเมตตาบารมีอย่างสูงสุด ชอบช่วยเหลือเกื้อกูลต่อเพื่อนมนุษย์ สัตว์ เป็นผู้ที่มี
ความเสมอภาคเปี่ยมไปด้วยรักเมตตา ไม่ค่อยจะได้พบเห็นบ่อยนัก เพราะชอบหลบหลีกเร้นอยู่
ในที่ที่มีความสงบ มีความเบื่อหน่ายต่อสภาวะของกิเลศตัณหาและความทะเยอทะยานทั้งหลาย
แต่ยังมีความเมตตาช่วยเหลือเก้อกูลผู้ที่กำลังเข้าสู่การปฏิบัติ และชอบที่จะเข้าไปช่วยเหลือมวล
มนุษย์ชาติที่ตั้งมั่นอยู่ในบุญกุศล เป็นผู้ที่สำรวมระวังกาย วาจายิ่งๆ เป็นผู้ที่ถือสัจธรรมตามแบบ
อย่างองค์สมเด็จพระชินสีห์มี ศีล ทาน บารมีครบองค์ประกอบของสัจธรรมที่เขาเรียกกันว่าบารมี
30 ทัศ เป็นผู้ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนคอยดูแลสุขทุกข์ของผู้อื่น ไม่ใส่ใจในทุกข์สุขของตนเอง
เปรียบเสมือนคนที่มีสมองเฉื่อยชา ไม่รู้ร้อน ไม่รู้หนาว แต่มีอำนาจ

ที่กล่าวว่าเป็นสีพิเศษนั่นก็ เพราะว่า นักปฏิบัติโดยทั่วไปเมื่อเริ่มฝึกฝนปฏิบัติต่อจิตไปชั่วระยะเวลาหนึ่งแล้วก็ต้องมาเจอเข้า
กับสีฟ้านี่คือสีแห่งสัจธรรมทั่งปวงที่มีอยู่ในห้วงของจักรวาล เพราะนี่คือสีของพระอุปันนาระวิถี
พระอุปจารวิถีหรือช่องว่างของผู้ปฏิบัติที่กำลังจะก้าวข้ามจากโลกีย์ไปสู่สภาวะของโลกุตตระ

สีฟ้าจึงเป็นแต่เพียงสีสำหรับผู้ที่มุ่งหวัง ซึ่งมีความตั้งใจที่จะฝึกฝนปฏิบัติต่อจิตกันจริงๆ
เท่านั้นจึงจะเจอ เพราะเป็นสีที่อยู่กึ่งกลางระหว่างทางโลกกับทางธรรมที่นักปฏิบัตทุกๆ คนต้อง
การจะไปให้ถึงกระแสนี้ให้จงได้ จึงนับได้ว่าสีฟ้าเป็นสีที่มีความสดใสงดงามมากที่สุด ถ้าเปรียบ
เทียบไปแล้วเท่ากับว่าเป็นญาณบารมีที่จิตอยู่ในขั้นมหาเทพ มหาพรหม อริยเทพ อริยพรหม
ที่กำลังปฏิบัติยิ่งๆ ในขั้นของพระอินทร์ พระพรหม พระยม พระกาฬ พระนารายณ์ ซึ่งเรา
เรียกกันว่า 5 มหาราช ที่ทำหน้าที่ในการช่วยเหลือมนุษย์ สัตว์ ให้พ้นไปจากกองทุกข์
สามารถที่จะเข้าสู่ห้องอุททกาปิติเจ้า โอกันติกาปิติเจ้า อุเพงคาปิติเจ้า พรรณาปิติเจ้า ถ้าพูด
ในลักษณะตามหลักของการปฏิบัติเราเรียกจุดนี้ว่า ญาณทัศนะ 16 ที่ใครจะขึ้นหรือลงก็ขึ้นอยู่
ณ จุดนี้เอง เสมือนกับเป็นจุดทดสอบหรือเป็นจุดสุดท้ายในการฝึกฝนปฏิบัติต่อจิต ซึ่งเป็นบุญ
บารมีในขั้นสุดท้ายของนักปฏิบัติทั้งมวลก่อนที่จะเข้าสู่โลกุตรธาตุ ในกระแสแห่งพระนิพพานได้
ก็ต้องผ่านจุดนี้ไปก่อน ซึ่งในขั้นของมหาโพธิสัตว์สามารถที่จะรู้ทางเข้าสู่กระแสของพระนิพพาน
ได้เป็นอย่างดีแต่ไม่มีสิทธิ์เข้าเพราะพระอินทร์ พระพรหม พระยม พระกาฬ พระนารายณ์

โพธิสัตว์และมหาโพธิสัตว์ได้รับโองการกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้ว่า จะคอยช่วย
เหลือดูแลพระพุทธศาสนาให้เป็นไปตามพุทธทำนาย จึงไม่มีสิทธิที่จะเข้าสู่กระแสนิพพาน
เพราะมีความปรารถนาในพุทธภูมิเหมือนกัน จึงต้องทำหน้าที่ในการสั่งสมบุญบารมีให้เพิ่มมากยิ่ง
ขึ้น เพื่อที่จะนำบุญบารมีเหล่านั้นมาช่วยเหลือเกื้อกูลต่อมวลมนุษย์สัตว์ผู้ยากไร้ให้รู้แนวทางของ
ความพ้นทุกข์ผู้ที่กำลังปฏิบัติซึ่งกำลังตกอยู่ในสีนี้เปรียบเสมือนพระโพธิสัตว์และมหาโพธิสัตว์
เป็นสีที่เป็นอมตะมีความสดชื่น เยือกเย็น นิ่ง ลุ่มลึกยากที่จะหาสิ่งใดเปรียบได้
มีความปรารถนาให้ถึงซึ่งความเป็นพุทธะให้จงได้

http://board.palungjit.com/f13/%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C-274977.html


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: