เมตตา แก้ความโกรธพยาบาท
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เมตตา แก้ความโกรธพยาบาท  (อ่าน 1282 ครั้ง)
kittanan_2589
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน630
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2363


NightBaron


เว็บไซต์
« เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2010, 05:34:06 PM »



(สมเด็จพระญาณสังวรฯ)

เมตตา คือ ภาวะของจิตที่มีเยื่อใยไมตรีจิตมิตรใจคิดเกื้อกูลด้วยสุขประโยชน์ ปราศจากอาฆาตพยาบาทขึ้งเคียดโกรธแค้น แสดงออกทางสีหน้าและสายตาที่สงบแช่มชื่น มองดูด้วยสายตาอันแสดงถึงใจที่เอิบอาบด้วยความปราถนาดีให้มีความสุข ปราศจากความมุ่งร้ายที่เป็นภัยเวรทั้งปวง

เมตตานี้เป็นพรหมวิหารธรรมข้อหนึ่งที่พึงอบรมให้มีขึ้นในจิต วิธีอบรม คือระวังใจมิให้โกรธแค้นขัดเคืองอาฆาตพยาบาท เมื่อ ภาวะของจิตเช่นนั้นเกิดขึ้น ก็พยายามสงบระงับเสีย หักคิดว่าตนเองรักสุข ต้องการความสุขฉันใด คนอื่นสัตว์อื่นทั้งปวงก็ฉันนั้น และตนเองปราถนาสุขแก่คนซึ่งเป็นที่รักที่พอใจฉันใด ก็ควรปราถนาสุขแก่คนอื่นสัตว์อื่นฉันนั้น

เมื่อทำความสงบอาฆาตพยาบาทและทำไมตรีจิตมิตรใจให้เกิดขึ้นได้แล้ว ก็หัดแผ่จิตเช่นนี้ออกไปแก่คนอื่นสัตว์อื่นโดยเจาะจง หรือโดยไม่เจาะจงทั่วไป ด้วยใจที่คิดปราถนาสุขประโยชน์ ดังเช่นคิดว่า...

"จงอย่ามีเวร อย่าเบียดเบียน อย่ามีทุกข์ มีสุขรักษาตนให้สวัสดีเถิด"

อันที่จริงภาวะของจิตที่มีความรักใคร่ปราถนาให้เป็นสุข ย่อมมีอยู่ในตนและในคนที่เป็นที่รักอยู่เป็นปรกติ แต่ยังเจือด้วยราคะสิเนหาบ้าง เจือด้วยอาฆาตพยาบาทในผู้อื่นสัตว์อื่นบ้าง นี้จึงนับว่าเป็นภาวะของจิตที่เป็นสามัญธรรมดา

พระบรมศาสดาทรงสั่งสอนธรรม ก็คือทรงสั่งสอนให้ปรับปรุงสิ่งที่มีอยู่เป็นสามัญธรรมดานี้แหละ ให้ เป็นธรรม คือเป็นคุณเกื้อกูลขึ้นมา คือให้ปรับปรุงความรักใคร่ปราถนาสุขดังกล่าวให้เป็นคุณอันบริสุทธิ์ที่ เกื้อกูลกว้างขวางออกไป มิให้คับแคบเฉพาะตนและคนซึ่งเป็นที่รักในวงแคบของตน หรือจำเพาะพวกของตน แต่ให้แผ่กว้างออกไป

ตลอดจนถึงไม่มีจำกัดไม่มีประมาณ และให้ปราศจากอาฆาตพยายาบาท ทั้งให้บริสุทธิ์จากราคะสิเนหาด้วย เพราะว่าอาฆาตพยาบาทเป็นศัตรูที่ห่างของเมตตา ราคะสิเนหาเป็นศัตรูที่ใกล้ของเมตตา

ความรักใคร่ที่เป็นสามัญธรรมดาของโลกย่อมเจือด้วยสิ่งทั้งสองนี้ ส่วนที่เป็นเมตตาอันบริสุทธิ์ย่อมปราศจากสิ่งทั้งสองนั้น ทางปฏิบัติอบรมก็ต้องอบรมสิ่งที่มีอยู่เป็นธรรมดาโลกนี้แหละ ให้เป็นธรรมขึ้นมา และย่อมเป็นเครื่องคุ้มครองโลก

ดังภาษิตที่ว่า "โลโกปตฺถมฺภิกา เมตฺตา...เมตตาเป็นธรรมเครื่องคุ้มครองโลก" ดังนี้




ที่มา ศีลและพรหมวิหาร ๔ : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก


บันทึกการเข้า

mr.ton003
Full Member
member
**

คะแนน28
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 220


ทำสิ่งใดอย่างหวังผลตอบแทน


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2010, 05:43:10 PM »

เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก

ขอขอบพระคุณ และ อนุโมทนา สาธุ...กับ พระธรรมคำสอน อันมีค่ายิ่ง นี้ครับ
 wav!! ดีใจจัง  Cheesy
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: