“การฟังธรรม”ของมนุษย์และสิ่งที่มองไม่เห็น(หลวงปู่เณรคำ)
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: “การฟังธรรม”ของมนุษย์และสิ่งที่มองไม่เห็น(หลวงปู่เณรคำ)  (อ่าน 5726 ครั้ง)
kittanan_2589
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน630
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2363


NightBaron


เว็บไซต์
« เมื่อ: ตุลาคม 31, 2009, 08:36:05 AM »

                                         ข้อแตกต่างระหว่างการฟังธรรมของมนุษย์และสิ่งที่มองไม่เห็น


                         

ไม่ว่าพระเดชพระคุณท่าน หลวงปู่เณรคำ จะไปแสดงพระธรรมเทศนาที่ไหน
ขณะที่ท่านแสดงธรรม เรา อย่า เข้าใจว่า มีแต่มนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาเท่านั้นที่นั่งฟัง

ความจริงแล้วไม่ใช่เลย..
สิ่งที่เราท่านทั้งหลายมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น
ก็มาร่วมรับฟังธรรมะเช่นเดียวกันกับเรา
เพียงแต่การฟัง การรับรู้ธรรมะ แตกต่างกันเท่านั้นเอง

พระเดชพระคุณท่าน หลวงปู่เณรคำ
ได้กล่าวถึงลักษณะของการฟังธรรมของมนุษย์และสิ่งที่มองไม่เห็น เอาไว้ว่า



                                           


บันทึกการเข้า

kittanan_2589
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน630
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2363


NightBaron


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2009, 08:37:12 AM »

ขณะที่หลวงปู่ให้ธรรมะ คนฟังก็มี ผีฟังก็มี ผีฟังธรรมะละเอียดกว่าคนอีก
ผีนั่งฟังตาไม่กระพริบเลย ลอยอยู่ในอากาศ ลอยไปลอยมา
วนเวียนๆ วนเวียนไปวนเวียนมาอยู่นี่แหละ
บางดวงก็นิ่งอยู่เฉยๆ บางดวงก็วิ่งไปวิ่งมา แต่เขาสงบนะ
เป็นจิตวิญญาณที่สงบ ไม่เหมือนคน
คนนั่งฟังนี่จิตวิญญาณไม่สงบ มีแต่เรื่องปรุงแต่ง

ฟังธรรมะไปก็คิดเรื่อยเปื่อยไปเรื่องอื่นก็มี แต่ผีนี่เรื่องเดียว
พูดธรรมะก็คือธรรมะล้วนๆ เต็มจิตเต็มใจเขาหมดเลย
แต่มนุษย์ไม่เต็มจิตเต็มใจ ยังงงงวยสงสัยอยู่นั่น มันไม่เข้าใจ ผีเข้าถึงกว่า

คำว่า ผี นี่เป็น ผีชั้นสูง นะ
ศีลบริสุทธ์นะพวกนี้นี่ ก่อนตายนี่รักษาศีลดีมาก เข้าวัดเข้าวา
ได้ยินเสียงธรรมก้องออกไปนี่ ล่องลอยมาหมดเลยนะ
พวกนี้เป็นพวกผีขาว ผีกุศลผลบุญ ผีบารมี ผีบุญพวกนี้
นับตั้งแต่รุกขเทวดา ภุมมเทวดา ต่างก็หลั่งไหลกันมาหมดนั่นแหละ

เทศน์สอนคนนี่ยากกว่าเทศน์สอนผี คนมันเข้าใจยาก
สมองมันมีระบบประสาทสัมผัสอะไรหลายอย่าง ซับซ้อนกว่าผี
คนขี้สงสัย ขี้งง เลยสอนยาก กว่าจะเข้าใจ
เอ๊ะ!!.. อะไรอยู่นั่นแหล่ะ
มันก็ค้างคาอยู่ในจิตนั่นแหละ มันถึงไม่บรรลุกันซะที




                                         
บันทึกการเข้า
kittanan_2589
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน630
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2363


NightBaron


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2009, 08:38:25 AM »

มีจิตวิญญาณรู้อย่างเดียวนะ พูดอะไรรู้หมด เข้าถึงใจหมด
เขาไม่ได้งุ่มง่ามนะพวกวิญญาณนี่ เขาฟังแล้ว เขาเข้าใจง่ายมากๆ

เทวดาที่มาฟังธรรม พวกนี้นี่ก็จะทำให้ได้อยู่ข้างบนนานขึ้นไปอีก
หนึ่งภพ สองภพ สามภพ
เพื่อเลื่อนฐานะทางการเสวยทิพยสมบัติขึ้นไปอีกอย่างนั้น
แต่ว่ามนุษย์เรามันเลื่อนฐานะได้ทางจิตนะ

เทวดาเขามาฟังธรรมนี่ น้อยมากนะที่อยากหลุดพ้น
เขามาฟังธรรมเพื่อให้เขาได้อยู่สวรรค์ได้นานๆ
เขาเบื่อมาก เขาเกิดมาแล้วเขาเบื่อ
แต่ว่าเขามีความสุขมาก แต่มีความโทมนัสตรงที่ว่า


“บัดใดหนอ เราถึงจะลงไปเกิดเป็นมนุษย์อีก”

เขากลัวการเป็นมนุษย์ บางชั้นนะ บางชั้นอยากมาเกิดเป็นมนุษย์ แต่ไม่ได้มา

เทวดามาฟังธรรมเพื่อต่ออายุของเขา
ถ้าดวงธรรมผุดขึ้นในใจของเขา ปุ๊บ!! นี่ฉัพพรรณรังสีเปล่งปลั่ง
ทิพยสมบัติพุ่งกระฉูดขึ้นเลย สว่างไสวขึ้น พวกทิพย์วิมานต่างๆก็อยู่ได้นาน



บันทึกการเข้า
kittanan_2589
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน630
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2363


NightBaron


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2009, 08:40:11 AM »

เมื่อหมดวาระต้องลงมา แต่ก็ขอให้อยู่ได้นาน
เหมือนคนนี่แหละ ป่วยหนักๆอยู่
ก็ขอให้อยู่ได้นานๆยังดีกว่าตายในวันนี้
เทวดาก็เหมือนกับกำลังป่วยใจ
กลัวการเกิด มันหลงในความสุขที่ปรากฏเกิดขึ้น

แม้เทวดาหรือว่าเทพเทวาต่างๆก็ยังบอกว่าอย่าประมาท
ให้สร้างบุญบารมี สภาพจิตให้มีธรรมะพระพุทธเจ้า
ฟอกหมุนอยู่ในจิตใจอยู่ตลอดเวลา
แม้ว่าตนจะเสวยทิพยสมบัติมากมายก่ายกองแคไหน

อย่าทิ้งกุศลธรรม กุศลจิต ที่พระพุทธเจ้าสอนเอาไว้
เทวดาที่ได้มาฟังธรรม ก็จะเสวยสุคติภูมิได้นานกว่าเทวดาตนอื่น

นั่น!! เป็นอย่างนั้น
-------------
พิมพ์คัดลอกมาจากหนังสือ“เพชรน้ำหนึ่ง”
ของหลวงปู่เณรคำ หน้า ๒๖๕ - ๒๖๗
ภาพประกอบกระทู้ จากหนังสือ“เพชรน้ำหนึ่ง”


ที่มา http://www.palungjit.com/
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: