สาเหตุของโรคพืชหรือสาเหตุที่ทำให้ต้นพืชมีความผิดปกติ
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
มีนาคม 19, 2024, 09:03:05 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สาเหตุของโรคพืชหรือสาเหตุที่ทำให้ต้นพืชมีความผิดปกติ  (อ่าน 13373 ครั้ง)
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18600


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« เมื่อ: ตุลาคม 09, 2009, 12:48:51 PM »

สาเหตุของโรคพืชหรือสาเหตุที่ทำให้ต้นพืชมีความผิดปกติ

    1. เกิดจากสิ่งไม่มีชีวิต ได้แก่ การดูแลที่ไม่ถูกต้อง หรือสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช จึงทำให้ต้นพืชมีอาการผิดปกติไป เช่น

         ●อุณหภูมิสูงเกินไปหรือถูกแดดเผา เกิดอาการไหม้ลวกบริเวณด้านที่ถูกแสงแดดจัดเกินไป อาจเกิดบนใบหรือผลก็ได้ อุณหภูมิผิวดินที่สูงเกินไป อาจทำลายต้นกล้าอ่อน หรือเกิดอาการแผลแห้งตกสะเก็ดบริเวณโคนต้นแก่ได้

         ●แสงแดดไม่เพียงพอ ต้นพืชมักมีใบสีเขียวซีด ลำต้นยืดยาวผิดปกติ พืชไม่แข็งแรง ไม่ออกดอกผลตามปกติ

         ●ความชื้นในดินสูงเกินไป พืชไม่แข็งแรง ใบล่าง ๆ มักแสดงอาการเหลือง โดยเริ่มจากเส้นกลางใบก่อนรากเน่าตาย และในที่สุดพืชอาจแสดงอาการเหี่ยวและตายในที่สุด

         ●ความชื้นในอากาศต่ำ ปลายใบหรือทั้งใบไหม้ใบบิดเบี้ยว ช่อดอกแห้งร่วง ผลเหี่ยว ต้นพืชเหี่ยวแบบชั่วคราว หรือเหี่ยวแบบถาวรและตายในที่สุด

         ●ปริมาณออกซิเจนต่ำ รากไม่เจริญและเซลล์รากตาย ต้นพืชแคระแกร็น

         ●อากาศเป็นพิษ (มลภาวะ) เช่น มีหมอกควันฝุ่นละอองจากถนนปกคลุมใบ ทำให้การสังเคราะห์แสงลดลง ใบเป็นจุดสีขาวซีด หรือใบเปลี่ยนสีอาจเกิดอาการใบไหม้ การเจริญและผลผลิตลดลง เช่น การเป็นพิษเนื่องจากโอโซน เป็นต้น

         ●การขาดธาตุอาหาร อาการเกิดขึ้นบนส่วนหนึ่งส่วนใดของพืชก็ได้ ขึ้นอยู่กับชนิดของธาตุอาหารที่พืชขาด เช่น

            - ขาดไนโตรเจน ใบพืชมีสีเขียวอ่อน ใบล่างเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หรือน้ำตาลอ่อน ต้นผอม และเตี้ยแคระ การเจริญเติบโตของพืชลดลง

            - ขาดฟอสฟอรัส ใบพืชมีสีเขียวเข้ม ขอบใบสีม่วง ใบล่างเป็นสีบรอนซ์ มีจุดสีม่วงหรือน้ำตาล ยอดสั้น

            - ขาดโพแทสเซียม ส่วนยอดผอม หรือเกิดอาการตายจากปลายใบแก่มีสีซีด และไหม้ที่ปลายใบ

            - ขาดธาตุอาหารรองและอาหารเสริมอื่น ๆ เช่น ขาดธาตุเหล็ก สังกะสี และโบรอน อาจทำให้ต้นพืชมีอาการใบเหลืองซีด ต้นแคระแกร็น เป็นต้น

         ●แร่ธาตุในดินมากเกินไป ทำให้พืชเจริญผิดปกติไป เช่น ได้รับไนโตรเจนมากเกินไป จะทำให้ต้นอวบ เฝือใบ ไม่ออกดอก ไม่ติดผล หรือติดผลน้อย

         ●ดินเป็นกรดหรือด่างจัด ทำให้พืชไม่สามารถใช้ปุ๋ยได้ตามปกติ ดินกรดจะละลายเกลือแร่ออกมามาก จนเป็นพิษกับพืชโดยตรง หรือขัดขวางการดูดซึมแร่ธาตุชนิดอื่น ทำให้เกิดอาการขาดธาตุต่าง ๆ

         ●พิษจากสารเคมีกำจัดวัชพืช เกิดอาการต่าง ๆ ผันแปรไปตามชนิดของสารเคมี เช่น ทำให้ใบบิดเบี้ยว ใบด่าง ผิวใบย่น ใบเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หรือน้ำตาล และใบแห้งตาย

         ●พิษจากสารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรา หรือสารเคมีป้องกันกำจัดแมลง พืชอาจเกิดอาการใบไหม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้สารที่มีกำมะถันและทองแดงเป็นองค์ประกอบกับพืช ตระกูลแตง และพืชที่อวบน้ำในวันที่แดดจัด

         ●การปฏิบัติดูแลไม่ถูกต้อง เช่น การพรวนดิน การให้น้ำ ใส่ปุ๋ยไม่ถูกวิธี การปลูกพืชในที่ไม่เหมาะสม เช่น นำพืชที่ชอบน้ำไปปลูกในที่แห้งแล้ง นำพืชที่ชอบแล้งไปปลูกที่ชื้นแฉะ หรือนำต้นไม้ที่ชอบแสงแดดจัดปลูกในที่ร่ม ทำให้ไม่ออกดอก นำต้นไม้ใบที่ชอบอยู่ในที่ที่แสงแดดน้อยหรือร่มรำไรไปปลูกในที่แดดจัด

2. เกิดจากสิ่งมีชีวิต เช่น

         ●พืชชั้นสูง เช่น กาฝาก ที่ขึ้นบนกิ่งไม้จะแย่งดูดกินอาหารทำให้ไม่มีดอกผล และในที่สุดกิ่งแห้งตาย และฝอยทองที่ดูดกินอาหารจากพืช โดยเจริญขึ้นปกคลุมบนพืชที่เราปลูก ทำให้ต้นพืชแคระแกร็น

         ●สาหร่าย มักจะทำให้ใบพืชแสดงอาการเป็นแผลคล้ายโรคใบจุด มีลักษณะเป็นแผลสีเขียวถึงสีน้ำตาลฟูคล้ายกำมะหยี่ ถ้าเป็นมาก ๆ ทำให้ใบเหลืองร่วงหล่นก่อนกำหนด ส่วนมากพบบนต้นไม้ที่ปลูกในสภาพที่มีความชื้นสูง

         ●เชื้อรา เป็นพืชชั้นต่ำชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะเป็นเส้นใยสีขาวแตกกิ่งก้านอยู่เป็นกลุ่ม มีขนาดแตกต่างกันมาก สืบพันธุ์โดยการสร้างสปอร์ เมื่อเจริญบนต้นพืช สามารถดูดซึมอาหารจากเซลล์พืชมาเลี้ยงตัวเองได้ จัดเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคกับพืชได้มากที่สุด

         ●เชื้อแบคทีเรีย เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า แบคทีเรียสาเหตุโรคพืชมีรูปร่างเป็นท่อนสั้น ๆ สามารถทำให้พืชเป็นโรคใบจุด โรคใบไหม้ และโรคเหี่ยว

         ●ไวรัส เป็นอนุภาคขนาดเล็กมากที่ก่อให้เกิดโรคกับพืช ไม่สามารถมองเห็นด้วยกล้องจุลทรรศน์ธรรมดา เพิ่มจำนวนอนุภาคได้ภายในเซลล์ของพืชที่ยังคงมีชีวิตอยู่ ทำให้พืชมีการเจริญเติบโตผิดปกติหรือมีอาการใบด่าง

         ●ไวรอยด์ เป็นขนาดที่เล็กกว่าไวรัส และมีองค์ประกอบบางส่วนต่างจากไวรัส

         ●ไฟโตพลาสมา เป็นจุลินทรีย์ที่ไม่มีผนังเซลล์ ลักษณะรูปร่างต่าง ๆ กัน จากรูปร่างกลมจนถึงรูปร่างที่เป็นเส้นสาย มีขนาดอยู่ระหว่างเชื้อแบคทีเรียและไวรัส

         ●ไส้เดือนฝอย เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ลำตัวไม่เป็นข้อหรือปล้อง ขนาดเล็กมา ยาว 0.3-0.4 มิลลิเมตร รูปร่างผอมยาวหรือโป่งพองจนถึงกลม โดยทั่วไปไส้เดือนฝอยศัตรูพืชมีขนาดเล็ก เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าได้ ต้องมองใต้กล้องสเตอริโอ หรือกล้องจุลทรรศน์ โดยทั่วไปมักทำให้เกิดโรคกับระบบรากของต้นพืช

ลักษณะของอาการผิดปกติหรืออาการของโรคที่เกิดกับพืช

         ●พืชปกติ คือ พืชที่มีการเจริญเติบโตและมีการทำงานของระบบต่าง ๆ ของกระบวนการด้านสรีรวิทยาของต้นพืชได้อย่างปกติ ตามหน้าที่ที่ควรจะเกิดและตามลักษณะทางพันธุกรรมของพืชชนิดนั้น ๆ

         ●พืชเป็นโรค คือ พืชที่มีการเจริญเติบโตและมีการทำงานของระบบต่าง ๆ ที่ผิดปกติไปจากหน้าที่เดิม หรือความสามารถเดิมตามลักษณะพันธุกรรม เนื่องจากกระบวนการทางด้านสรีรวิทยาของต้นพืชถูกรบกวนด้วย

สาเหตุของโรค

        เมื่อ ต้นพืชถูกรบกวนด้วยสาเหตุของโรคพืช ต้นพืชจะแสดงลักษณะอาการผิดปกติไปจากเดิม อาการอาจเกิดได้แบบเดียวหรือหลายแบบในเวลาเดียวกันบนพืชต้นเดียวกันได้ ทุกส่วนของต้นพืชตั้งแต่ราก ลำต้น กิ่งก้าน ใบ ดอก ผล เมล็ด หรือทั้งต้น อาจแสดงอาการผิดปกติได้ โดยพอจะแยกอาการผิดปกติ หรืออาการของโรคที่เกิดกับส่วนต่าง ๆ ของต้นพืช ดังนี้

         ●โรครากเน่า รากของต้นพืชเกิดอาการเน่าสีดำ หรือสีน้ำตาล เปลือกหลุดล่อน เกิดได้จากการทำลายของเชื้อรา และน้ำท่วมขัง

         ●โรครากปม รากต้นพืชมีอาการบวมพองออก ลักษณะเป็นปุ่มปม อาการพองหรือปมจะเกิดจากภายในรากออกมา มักเกิดจากการทำลายของไส้เดือนฝอย

         ●โรคเน่าคอดิน หรือโรคต้นกล้าเน่า บริเวณโคนต้นพืช เกิดแผลเน่าและมีการลุกลามขยาย โดยมักทำให้เปลือกต้นเน่าเป็นสีน้ำตาลหรือสีดำ หากถากเปลือกออก ส่วนเนื้อลำต้นมักมีอาการของแผลเน่าสีน้ำตาล หรือสีน้ำตาลแดง ส่วนมากเกิดจากการทำลายของเชื้อรา

         ●โรคยางไหล จะมีอาการยางไหลออกมาจากลำต้น โดยบริเวณดังกล่าวจะมีรอยแผลช้ำ มียางไหลออกมาตามรอยแผลนั้น เช่น โรคยางไหลของส้ม ซึ่งเกิดจากเชื้อรา และโรคยางไหลของพืชบางชนิดที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอน เช่น อาการยางไหลของมะม่วง

         ●โรคยอดแห้งตาย อาการแห้งตาย จะพบที่ยอดก่อน ต่อมาจะลุกลามมาตามกิ่งก้าน จนในที่สุดอาจตายทั้งกิ่งหรือทั้งต้นได้ โรคนี้ส่วนมากเกิดจากเชื้อรา เช่น โรคยอดแห้งของส้มและมนาว เป็นต้น ต้นพืชหลายชนิดที่ปลูกในบ้านอาจเกิดอาการยอดแห้งตาย เนื่องจากถูกแสงแดดจัดเผา หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ได้หลายสาเหตุ

         ●โรคใบจุด เกิดเป็นแผลที่ใบ มีรูปร่างแตกต่างกันแล้วแต่สาเหตุที่เข้าทำลาย ขนาดของแผลอาจเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ บนใบ อาจเกิดกระจายกันทั่วทั้งใบ ถ้าเกิดจุดแผลมาก ๆ อาจจะทำให้ใบแห้งได้ โรคใบจุดของพืชส่วนมากเกิดจากเชื้อราและแบคทีเรีย เช่น โรคใบจุดของถั่วเขียว โรคใบจุดของคื่นฉ่าย โรคใบจุดของถั่วฝักยาว เป็นต้น

         ●โรคใบไหม้ เกิดแผลแห้งตาย ขนาดของแผลใหญ่กว่าอาการใบจุด ขอบเขตของแผลจะลุกลามขยายได้กว้างขวางกว่า การไหม้อาจเกิดที่กลางใบ ปลายใบ หรือขอบใบก็ได้ ส่วนมากเกิดจากเชื้อราและแบคทีเรีย เช่น โรคใบไหม้ของทานตะวัน โรคใบไหม้ของเบญจมาศ เป็นต้น

         ●โรคแอนแทรคโนส ใบพืชที่เกิดโรคนี้ จะเป็นแผลแห้งสีน้ำตาล ส่วนมากจะเห็นเชื้อรามีลักษณะเรียงเป็นวงซ้อน ๆ กันค่อนข้างชัดเจนในบางพืช โรคนี้เกิดได้ทั้งบนใบ กิ่ง และผล สาเหตุเกิดจากเชื้อรา เช่น โรคแอนแทรคโนสของมะละกอ มะม่วง กล้วยไม้ และไม้ใบประดับหลายชนิด

         ●โรคราน้ำค้าง อาการโรคราน้ำค้างพบมากในพืชใบเลี้ยงเดี่ยว เช่น ข้าวโพด มักพบอาการใบลายเป็นแถบสีเหลืองเขียวสลับกันตามความยาวของใบ ถ้าอากาศชื้น ๆ อุณหภูมิพอเหมาะ จะพบผลสปอร์ของเชื้อสีขาว ๆ เกาะติดที่ใบ ในพืชใบเลี้ยงคู่ เช่น พืชตระกูชแตง จะเห็นใบมีอาการเป็นแผลจุดเหลี่ยมสีน้ำตาล ส่วนในพืชผัก เช่น ผักคะน้า จะเห็นเป็นจุดแผลสีเหลืองด้านบนใบ แต่ใต้ใบจะพบขุยสปอร์สีขาว ๆ ติดอยู่ โรคนี้เกิดจากการทำลายของเชื้อรา

         ●โรคราแป้งขาว โรคนี้เกิดจากเชื้อรา โดยจะพบผงแป้งสีขาว ๆ เกาะติดที่ใบ คล้าย ๆ กับเอาแป้งไปโรยคลุมกระจายตามส่วนต่าง ๆ ของใบ หรือทั่วทั้งใบ ต่อมาใบจะเหลืองและแห้งตาย เช่น โรคราแป้งขาวของบานชื่น และโรคราแป้งขาวของกุหลาบ เป็นต้น

         ●โรคราสนิมเหล็ก เป็น จุดแผลขนาดเล็ก สีสนิมบนใบพืช ลักษณะคล้าย ๆ กับสีสนิมเหล็ก เมื่อเอามือลูบดูจะมีสปอร์ของเชื้อราติดมือเป็นสีสนิมได้ชัดเจน โรคนี้เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราสนิมของถั่วฝักยาว โรคราสนิมของขาไก่ดำ เป็นต้น

         ●โรคราดำ โรคนี้จะมีอาการเป็นผงคล้ายเขม่าดำคลุมผิวใบ หรือส่วนอื่น ๆ ของพืช เมื่อใช้มือลูบผงสีดำ ซึ่งเป็นส่วนของเส้นใยและสปอร์ของเชื้อราจะหลุดออก เชื้อราชนิดนี้ จะไม่แทงเข้าไปในใบพืช เพียงแต่ขึ้นเจริญปกคลุมผิวใบ ส่วนมากพบภายหลังการทำลายของเพลี้ยจั๊กจั่น เพลี้ยแป้ง หรือแมลงหวี่ขาว เนื่องจากราชนิดนี้จะขึ้นเจริญบนน้ำหวานที่แมลงเหล่านั้นขับถ่ายออกมา โรคนี้ที่พบมาก เช่น โรคราดำของมะม่วง โรคราดำของมะยม

         ●โรคใบด่าง มีหลายลักษณะ แล้วแต่สาเหตุที่ทำให้เกิดโรค อาจเกิดจากเชื้อไวรัส เกิดจากการขาดธาตุอาหาร หรือลักษณะกลายพันธุ์ของพืช สำหรับอาการใบด่างที่เกิดจากไวรัส ส่วนมากมีสีเหลืองสลับเขียว เนื้อใบไม่เรียบเป็นคลื่น และใบมีรูปร่างผิดปกติ เช่น โรคใบด่างของกล้วยไม้ โรคใบด่างของยาสูบ และโรคใบด่างของผักต่าง ๆ บางครั้งอาจจะพบอาการด่างเป็นวงแหวน เช่น โรคใบด่างวงแหวนของมะละกอ หรือโรคใบด่างวงแหวนของกุหลาบ

         ●โรคใบหงิก ใบจะหงิกม้วนงอเป็นคลื่น หรือมีอาการยอดหงิก ต้นพืชจะแคระแกร็น มีการเจริญเติบโตช้า และพืชทั้งต้นจะมีขนาดเล็กลง เมื่อเปรียบเทียบกับต้นปกติ โรคนี้เกิดจากไวรัส เช่น โรคใบหงิกของมะเขือเทศ โรคใบหงิกของยาสูบ เป็นต้น

         ●โรคใบขาว ใบ จะมีสีขาวซีด และต้นแคระแกร็น เนื่องจากพืชไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้ตามปกติ เช่น โรคใบขาวของอ้อย เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไฟโคพลาสมา ทำให้อ้อยมีการแตกลำน้อย และน้ำหนักของลำอ้อยลดลงมาก หรือโรคใบขาวของหญ้าแพรก โรคใบขาวของหญ้านวลน้อย หรือโรคใบขาวของหญ้ามาเลเซีย เป็นต้น พืชหลายชนิดที่ปลูกในกระถางเป็นเวลานาน ๆ และไม่มีการเปลี่ยนดิน หรือเครื่องปลูก มักทำให้ดินแน่นและต้นพืชเกิดการขาดอาหาร ต้นพืชอาจแสดงอาการซีดเหลืองได้เช่นกัน

         ●อาการผิดปกติที่ดอก พบอาการคล้าย ๆ กับที่เกิดบนใบ เช่น โรคดอกจุด ดอกไหม้ ดอกด่าง ดอกบิดเบี้ยวเสียรูปทรง ดอกเน่า และโรคแอนแทรคโนส เป็นต้น โรคพวกนี้ส่วนมากเกิดจากเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัส เช่น โรคดอกสนิมของกล้วยไม้ โรคดอกด่างของแคทลียา โรคดอกเน่าของหน้าวัว เป็นต้น

         ●โรคเมล็ดเน่า-เมล็ดด่าง เมล็ดจะเน่าและไม่สามารถงอกเป็นต้นใหม่ได้ เพราะมีเชื้อโรคหลายชนิดเข้าทำลาย เช่น เชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรีย เป็นต้น มักเกิดขึ้นในกรณีที่เก็บรักษาเมล็ดไม่ดี เช่น เมล็ดที่มีความชื้นสูง หรือเปียกน้ำ หรืออาจมีเชื้อโรคติดปนเปื้อนอยู่กับเมล็ด

         ●โรคผลจุด ลักษณะของแผลแตกต่างกัน บางครั้งจะพบเชื้อราตรงบริเวณแผลชัดเจน แผลอาจเกิดกระจายกันทั่วผล หรืออาจขยายใหญ่รวมกัน ทำให้ผลเน่าก็ได้ โรคนี้ส่วนมากเกิดจากเชื้อรา เช่น โรคผลจุดของฝรั่ง เป็นต้น

         ●โรคผลเน่า เกิดแผลสีน้ำตาลจนถึงสีน้ำตาลดำบนผล ต่อมาแผลจะขยายลุกลามต่อไป ถ้าสภาพแวดล้อมเหมาะสม อาการนี้จะพบตั้งแต่ผลอยู่บนต้น จนถึงหลังการเก็บเกี่ยว ส่วนมากเกิดจากเชื้อราและแบคทีเรีย เช่น โรคผลอ่อนของขนุนเน่า โรคผลเน่าของกล้วย และโรคผลเน่าของมะละกอ โรคผลเน่าของมะม่วง โรคผลเน่าของชมพู่ เป็นต้น

         ●โรคผลแตก ผลจะมีอาการแตกแยกเป็นร่อง ซึ่งมักเกิดจากการได้รับน้ำไม่สม่ำเสมอ หากพืชขาดน้ำนาน ๆ แล้วต่อมาฝนตกหนักกะทันหัน ก็จะทำให้ผลแตกได้ เช่น อาการผลแตกของผลอ่อนของมะม่วง อาการผลแตกของส้มโชกุน

         ●โรคเน่าเละ อาการเน่าเละสีน้ำตาลอ่อน มีกลิ่นเหม็นรุนแรง เกิดได้ทั้งผล ราก หัว และใบของพืชผัก เมื่อเป็นโรคนี้ ผักจะเน่าเละทั้งต้น หรือทั้งหัว สาเหตุเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เช่น โรคเน่าเละของปทุมมาและกระเจียว โรคเน่าเละของชวนชม โป๊ยเซียน กระบองเพชร และกุหลาบหิน

         ●โรคเหี่ยว ต้นพืชอาจแสดงอาการเหี่ยวเฉาในลักษณะต่าง ๆ กัน เช่น การเหี่ยวเนื่องจากการขาดน้ำ เมื่อได้น้ำก็จะฟื้นปกติ อาการเหี่ยวใบเหลืองลู่ เนื่องจากเชื้อราไปทำลายท่อน้ำ และท่ออาหารของพืช สาเหตุโรคเหี่ยวเกิดจากการทำลายของเชื้อรา และเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด เช่น โรคเหี่ยวของมะเขือเทศ โรคเหี่ยวของพืชตระกูลแตง โรคเหี่ยวของกล้วย เป็นต้น

         ●ต้นพืชแคระแกร็น ต้นพืชอาจจะแสดงอาการแคระแกร็น เมื่อเปรียบเทียบกับต้นปกติ ทั้งนี้อาจเนื่องจากการปฏิบัติดูแลรักษาไม่ดีพอ อาจเกิดจากการขาดธาตุอาหาร หรือมีไส้เดือนฝอย หรือแมลงกัดทำลายราก หรือมีเชื้อโรคบางชนิด เช่น ไวรัสเข้าทำลาย ทำให้ต้นพืชไม่สามารถเจริญเติบโตตามปกติได้ มีดอกและผลน้อย

         ●ต้นพืชเติบโตผิดปกติ ต้นพืชอาจมีอาการผิดปกติ เช่น ต้นยืดสูงกว่าต้นปกติ สีเขียวอ่อนและไม่ออกดอกหรือติดเมล็ด พืชที่ได้รับปุ๋ยไนโตรเจนมากเกินไป อาจทำให้เฝือใบ ไม่ออกผล ไม้ดอกจะออกดอกน้อยลงหรือไม่ออกดอก เป็นต้น หรือหากต้นพืชได้รับแร่ธาตุอาหาร และน้ำไม่สมดุลย์ อาจมีเชื้อไวรัสหรือเชื้อไฟโตพลาสมาเข้าทำลายก็สามารถแสดงอาการเติบโตผิด ปกติได้

สำนักบริการคอมพิวเตอร์


บันทึกการเข้า

RPE
วีไอพี
member
***

คะแนน5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 70


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 13, 2009, 09:49:28 PM »

ไม่ทราบว่ามีวิธีป้องกันกำจัดด้วยหรือเปล่าครับ ถ้ามีช่วยแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
dokmadue ♥
งานระบบเสียงตามสาย-ไร้สาย
ซุปเปอร์ วีไอพี
member
*

คะแนน71
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 506

ใจเขามาใส่ใจเรา เรียนรู้ด้วยตัวเอง


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2009, 06:00:36 PM »

รับรู้ด้วยคนครับ Cheesy
บันทึกการเข้า

www.kwachapenchang. com    https://www.facebook.com/sathit.dokmadue 

นายสถิต  ดอกมะเดื่อ 164 ม.8 ถ.สินประดิษฐ์ ต.น้ำอ้อม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ 33110  บัญชี ร้านสถิตอิเล็กทรอนิกส์ 312-0-17184-0 ออมทรัพย์ กรุงไทย สาขากันทรลักษ์
0827548204 ดีแทค LINE 0827548204 สถิตอิเล็กทรอนิกส์
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!