ถามเรื่องโวลุ่มเครื่องเสียงครับ
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
เมษายน 28, 2024, 09:25:07 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ถามเรื่องโวลุ่มเครื่องเสียงครับ  (อ่าน 4407 ครั้ง)
anuning
ชุมชนคนรักอาชีพช่าง
member
*

คะแนน13
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 569


อีเมล์
« เมื่อ: กันยายน 30, 2009, 04:15:55 PM »

ทำไมโวลุ่มของเครื่องขยายเสียงหรือปรีแอมต่างๆ ถึง มี 6 ขาครับ  แล้วทำไม โวลุ่มที่ใช้กับบาลานซ์ จึงมีแค 3ขาครับ   แล้ทำไมส่วนใหญ่จึงเป็นแบบ B 100k ละครับ Sad


บันทึกการเข้า

hongnoi♥
ซุปเปอร์ วีไอพี
member
*

คะแนน405
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4729


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 30, 2009, 09:04:22 PM »

  ที่มันมี 6 ขา ก็เพราะมันเป็นแบบ 2 ชั้น คือมันมี 2 ตัวอยู่ในตัวเดียวกัน และจะใช้กับเครื่องเสียง
  ที่เป็นสเตอริโอ คือข้างละตัว และจะใช้กี่ K นั้นก็ขึ่นอยู่กับการออกแบบ ถ้าเราใช้ 100K เร่งนิด
  หน่อยมันก็จะดังแล้ว แต่ถ้าใช้ 50 K มันต้องเร่งเยอะ ๆ มันถึงจะสะใจ ส่วนที่ว่าทำไมถึงใช้แบบ
   B นั้น รู้สึกว่าแบบ B มันจะลิเนี่ยกว่าแบบ A หรือไงเนี่ย เดี๋ยวให้ผู้รู้หรืออธิบายเก่ง ๆ มาอธิบาย
  ให้ฟังดีกว่า ผมเองก็ถ่ายทอดไม่ค่อยเป็นเสียด้วย   ส่วนเจ้าตัวบาล้านทำไมมันถึงใช้ 3 ขา ก็ลอง
  หาวงจรเครื่องเสียงมาดูก็จะรู้เองครับ.
บันทึกการเข้า

สามารถ หงษ์น้อย  ร้าน หงษ์น้อย อิเล็คโทรนิค
 123 โชคชัย 4  ชอย 54  ลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพ 10230
  02-9311788  087-9076213
anuning
ชุมชนคนรักอาชีพช่าง
member
*

คะแนน13
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 569


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2009, 03:53:42 PM »

ขอบคุณมากครับ ผมคิดว่า บาลานซ์ ที่มันมี 3 ขาเพราะ ขาหนึ่งเป็นสัญญาณด้านซ้าย  อีกขาเป็นสัญญาณด้านขวา ส่วน อีกขาน่าจะเป็นกราวด์ ครับ  ถูกไหมครับพี่ๆๆ  Roll Eyes
บันทึกการเข้า
พรเทพ-LSV team♥
รับติดตั้งจานดาวเทียม ลาดพร้าว บางกะปิ
Senior Member
member
*

คะแนน1453
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 12091

091-091-9196 ID LINE : tv59


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2009, 04:20:13 PM »

อยากรู้ก็ต้องค้นหา
ต้องคิดด้วยเหตุและผล
ถ้าเอาแต่ถาม ก็ต้องถามตลอดไป

***สิ่งที่คุณถามมันมีคำตอบอยู่มากมาย เต็มไปหมด

แบบ A : คือแบบที่ค่าความต้านทานเปลี่ยนไปต่อการหมุนเป็นแบบ Logarithmic
           ใช้ในการปรับเสียงดัง ค่อย (Volume) จึงเรียกอีกอย่างว่า Audio Taper

แบบ B : คือแบบที่ค่าความต้านทานเปลี่ยนไปต่อการหมุนเป็นแบบ Linear
           ใช้ในการปรับ Bass หรือ Treble หรือใช้ปรับกระแสไฟ

แบบ C : คือแบบที่ค่าความต้านทานเปลี่ยนไปต่อการหมุนเป็นแบบ Anti - Logarithmic
           ใช้ในเครื่องมือหรืออุปกรณ์พิเศษ ไม่เกี่ยวกับเครื่องเสียง

แบบ MN : คือแบบที่ออกแบบมาสำหรับใช้ทำเป็น Balance คือปรับ ซ้าย ขวา
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!