อ.วิวัฒน์ ศัลยกำธร
ถ้า พูดถึงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงแล้ว ไม่พูดถึง อาจารย์วิวัฒน์ ศัลยกำธร หรือที่ใครๆเรียกกันว่า อาจารย์ยักษ์ ก็เท่ากับว่ายังไม่รู้จักเศรษฐกิจพอเพียงดีพอ อาจารย์ยักษ์ รับราชการติดตามในหลวงอยู่ดีๆ ทำไมถึงลาออกมาเป็นชาวนา ติดตามได้จากคำพูดของอาจารย์ยักษ์
" ผมรับราชการเติบโตจนไปเป็นผู้อำนวยการกองประเมินผลและข้อมูล ในสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากประราชดำริ แรกๆก็ พระองค์ท่านก็ให้ทำหน้าที่จดบันทึกพระราชดำริแล้วก็เอาพระราชดำริที่บันทึก ไว้แล้วประมวลเป็นเล่ม ถวายพระองค์ท่านพอท่านตรวจสอบแล้วว่าใช่ เราก็เอาเรื่องนี้มาทำแผน มาเขียนแผนร่วมกับหน่วยงานที่ท่านรับสั่งด้วย
เอาไปบรรยายเอาหลักเศรษฐกิจของพระเจ้าอยู่หัวนี่แหละท่านเรียกว่า เศรษฐกิจพอเพียง เล่าให้เกษตรกรฟังว่า พระองค์ท่านคิดอย่างนี้ พระองค์ท่านทำให้ดูแล้วอย่างนี้ คนก็ไม่ทำตามกัน เป็นเพราะว่าวิธีคิดอย่างง่ายๆ พึ่งตนเองได้อย่างนี้มันไปยากคนเขาไม่ค่อยเชื่อกัน
คือผมเห็นพระองค์ท่านต้องลงไปเหน็ดเหนื่อยต้องลงไปทำด้วยพระองค์เอง ปลูกป่า ปลูกข้าว ไปเกี่ยวข้าว ด้วยตัวพระองค์ท่านเอง ผมก็เลยคิดว่าเอ๊ะ ถ้าเราเป็นเกษตรกรล่ะ พ่อแม่เราทำไร่ไถนา ถ้าเราเป็นเกษตรกรอย่างนี้ชาวบ้านจะเชื่อมากขึ้น ความรู้ที่พระองค์ท่านทำไว้ให้ดูมีพอแล้วขาดคนเอาจริงในสนาม ก็เลยต้องมาทำคิดว่าจะทำทุกอย่างที่ได้ฟัง ที่ได้บันทึกมา ค่อยๆทำทีละนิดๆ ไปเหมือนเต่านี่แหละครับแต่ไม่หยุด"
สมัยที่ อ.วิวัฒน์ เป็นผู้อำนวยการกองประเมินผลและข้อมูล ในสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากประราชดำริ เมื่ออาจารย์ยักษ์ไปสอนชาวบ้านเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง แล้วโดนชาวบ้านท้าอย่างไร ที่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้อาจารย์ยักษ์ลาออกจากราชการ เป็นคำพูดส่วนหนึ่งของอาจารย์ยักษ์ในรายการทีวี
"ที่เจ็บปวดอีกอันคือชาวบ้านท้า เอ้ย คุณเป็น ผอ. คุณพูดยังไงก็ได้ มีเงินเดือนกิน มีรถหลวง น้ำมันหลวง มีจิปาถะ แน่จริงออกมาซิ ออกมาทำอย่างนี้ซิ แล้วทำ ทำเกษตรธรรมชาติ อย่าใส่ปุ่ยอย่าฉีดยานะ แล้วมาปลูกป่าอะไร มาทำซิ ถ้าได้ผลแล้วค่อยมาคุยกันใหม่