การต่อลำโพงครับ~~ช่วยตอบด้วยครับอยากรู้มาก~~

[stupidman]

ปัญหาของผมมีอยู่ว่า
1.  ผมมีลำโพงแซ๊ก 4 โอห์ม 3 คู่ ต่อร่วมกันแบบขนานแล้วมันมีเสียงซ่าเหมือนฝนตกเป็นเพราะอะไรครับ
2.  ถ้าเราต่อลำโพงเสียงกลาง 4 โอห์มเข้าด้วยกันแบบอนุกรมจะทำให้กำลังวัตต์เพิ่มขึ้นไหมครับและจะมีข้อดีข้อเสียอย่างไรครับ
3.  ความดังของลำโพงขึ้นอยู่กับวัตต์ของลำโพงใช่ไหมครับถ้ากำลังวัตต์สูงลำโพงก็จะดังได้แรงใช่ไหมครับ
                                ขอบคุณคร้าบ

[ถาวร-LSVteam]

1  เป็นเป็นเสียงน้อยส์ที่ออกมาจากขยาย
 2 ได้โอมห์มากขึ้น เสียงจะเบาลง ไม่เพิ่มวัตต์
 3 ไม่ใช่ ลำโพงทำหน้าที่แค่เปลี่ยนความถี่ไฟฟ้าเป็นความถึ่เสียง กำลังวัตต์อยู่ที่ขยาย ลำโพงวัตต์สูงสามารถทนกำลังขับวัตต์สูงจากขยายครับ ถ้าลำโพงวัตต์ต่ำมาต่อกับขยายวัตต์สูง เปิดแรงมากลำโพงก็พัง ดังนั้นการเลือกลำโพงก็ให้เหมาะสมกับกำลังของเครื่องขยาย

[stupidman]

 ขอถามต่ออีกหน่อยนึงครับ
1.  แล้วไอ้เสียงน้อยส์ที่ว่านี้จะหายไปได้ยังไงครับ
2.  ถ้าเรามีขยายอยู่ที่ 800 วัตต์เราควรใช้ลำโพงถึง 800 วัตต์เลยไหมครับหรือว่าควรลดลงมาประมาณ700 วัตต์
3.  ถ้าเราเปลี่ยนลำโพงเสียงกลางที่ว่านี้ให้เป็น700หรือ800วัตต์เราควรเปลี่ยนซัฟให้พอดีกันด้วยหรือเปล่าครับ
4.  จะมีวิธีการไหนที่ทำให้เราสามารถต่อลำโพงให้ดังขึ้นแต่วัตต์เท่าเดิมบ้างไหมครับ
                     ช่วยชี้แจงด้วยครับผมไม่มีความรู้เรื่องนี้เลยแต่อยากได้เครื่องเสียงที่กระหึ่มมากๆเลยครับ
                                                                                               

[noi3535-LSV team♥]

        เราต้องหาก่อนครับ ว่า น้อยส์มันมาจากเครื่องเสียงตัวไหน ถึงเราจะแก้ได้   
    เรื่องวัตต์ของเครื่องขยายที่ว่า 800วัตต์ลองบอกมาซิว่าข้างในใช้อะไรบ้าง เช่นใช้ไฟเท่าไร ใช้เฟ็ทหรือทรานซีสเตอร์ข้างละกี่ตัว แล้วค่อยมาหาวิธีต่อลำโพง แล้วใช้ลำโพงเสียงกลาง-เสียงแหลมกี่นิ้ว  กี่ตัว เอาแบบที่มีอยู่ก่อน ลองบอกรายละเอียดให้มากๆครับ
      แอมป์มีกี่ตัว ใช้ตัวไหนขับอะไร

[stupidman]

                                 

ขยายของผมมันเป็นขยายรถยนต์ครับ
ใช้ขยายตัวเดียวขับทั้งเสียงกลาง และ ซัพ ซัพของผมมี 500 วัตต์ 10นิ้ว  เสียงกลาง 200 วัตต์6.5นิ้วส่วนขยายนั้นขยายได้ 800 วัตต์ครับ แต่ว่าขยายใช้ทรานซิสเตอร์ข้างละกี่ตัวนั้นผมไม่อาจทราบได้เพราะผมไม่เคยแกะดูผมไม่กล้าแกะออกกลัวพังครับ
                             

[w_man]

ผมมีดอก 15 อยู่ 2 ดอก 300 วัตต์ ต่างยี่ห้อกัน มาขับเสียงเบส  แอมป์ NPE 650 ทำไมดอกหนึ่งไม่มีเสียงเลย มีแต่ลมออก พุต ๆ ๆ ๆ  สงสัยม๊าก มั๊ก

[w_man]

ไม่น่านะครับแต่ถ้าขับดอกเดี่ยวดังครับ

[ถาวร-LSVteam]

ต่อสายกลับเฟสครับ กลับสายเข้าดอกนี้ใหม่ก็หายแล้วครับ

[w_man]

กลับเฉพาะที่ดอกลำโพง หรือครับ
ลองเอาไปขับลำโพงของเพื่อนดูตอนสงกรานต์ ก็ออกนะครับแต่เสียงจะออกบวม ๆ ไม่แน่น
ตอนไปซื้อแอมป์ที่ร้านเขาลองให้ฟังแล้วเสียงก็ดีนะครับ
ต่อสายกลับเฟส ผมก็ไล่สายดูแล้วมันก็ตรงกันอยู่ (แดง - ดำ ก็ตรงกันนะครับ)
ผมสงสัยอยู่ว่าดอกลำโพงต่างยี่ห้อกัน จะดึงวัตต์กันหรือเปล่าครับ

[ถาวร-LSVteam]

บางตัว ที่มันเขียนไว้ว่าเป็น+ บางทีก็ไม่ได้เป็น+จริงต้องใช้มิเตอร์วัด ถ้าเอาสายสีดำจับขั้วนั้นแล้วมันดันออกมา ขั้วนั้นเป็น+

[w_man]

หรือครับ ถ้าไม่มีมิเตอร์ ผมกลับสายเลยได้เปล่า จะเกิดผลเสียกับลำโพงไหม

[Nimit( Un )]

ได้เลย  ไม่มีมิเตอร์ใช่ถ่าน 2 A 1.5 V  ซิ  แค่เขี่ยๆนะ

[w_man]

ขอบคุณทุกท่านครับ ผลเป็นประการใดจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่งครับ ด้วยความนับถือ

[fa_zone]

ขอตอบนะครับ
1.เกิดจากโหลดของลำโพงมันน้อยเกินไปครับ 4โอมห์2ตัว=2โอมห์ นี่ต่อเข้าไป3ตัวมันก็เหลือแค่ 1.33โอมห์นะครับ มันก็ทำให้ลำโพงพร่าได้ ดังนั้นเสียงที่ได้มันก็จะพร่านะครับ หรือบางทีอาจจะเกิดจากน๊อยส์ก็ได้นะครับลองเชคดู
2.ผลที่ได้คือวัตต์จะน้อยลงครับ
3.วัตต์ที่ลำโพงมากจะหมายถึงว่าลำโพงนั้นทนต่อแรงขับได้สูงครับ วัตต์สูงเราก็สามารถที่จะเปิดได้ดังมากขึ้นได้ครับ เพราะตัวมันสามารถทนได้สูงนี่นา

[Thawach]

2.ผลที่ได้คือวัตต์จะน้อยลงครับ


อ่านไม่รู้เรื่องช่วยอธิบายอีกที

[Thawach]

อยากรู้นะครับว่าทําไมวัตต์จึงน้อยลง  เมื่อ 4 โอมห์ 2 ตัวต่ออนุกรมกัน

[fa_zone]

 ลำโพง 1 ตัวมีความต้านทานที่ 4 โอมห์(ตามกระทู้) ถ้าต่อแบบอนุกรมหรือแบบขนานจะเป็นอย่างไรเดี๋ยวผมจะลองอธิบายให้ครับผม
   การต่อแบบอนุกรม
 - ถ้าเมื่อเรานำลำโพง 2 ตัวที่มีความต้านทานที่ 4 โอมห์ 2 ตัวมาต่อกันแบบอนุกรมนะครับ ความต้านทานที่ได้มันจะเป็น 8 โอมห์ การต่ออนุกรมให้นำความต้านทานของลำโพงแต่ละตัวมาบวกกันจะได้เป็นความต้านทานรวมของการต่อลำโพงชุดนั้น
   การต่อแบบขนาน
 - แต่ถ้าเราเปลี่ยนมาต่อแบบขนานนะครับ เหมือนเดิมคือมีลำโพง 2 ตัวมีความต้านทานตัวละ 4 โอมห์นะครับ การต่อแบบขนานจะทำให้ความต้านทานรวมของลำโพงชุดนั้นลดลง เหลือแค่ 2 โอมห์ การต่อแบบขนานให้นำความต้านทานของลำโพงแต่ละตัวมาหารด้วยจำนวนของดอกลำโพงก็จะได้ความต้านทานรวมของลำโพงชุดนั้น

ส่วนที่ว่าการต่อแบบอนุกรมทำไมเสียงจึงเบาลง มันเหมือนกับว่าเราขับรถน่ะครับ รถคันเดียวกันแต่วิ่งในถนนต่างกัน การต่ออนุกรมก็เหมือนกับการขับรถในโคลนน่ะครับ เราเร่งเครื่องให้แรงแต่ก็วิ่งไม่ออกเพราะว่าพื้นมันเป็นโคลน วิ่งลำบากดีไม่ดีติดหล่มตกหลุมกันอีก ส่วนการต่อแบบขนานก็เหมือนกับการขับรถลงเนินน่ะครับ เหยียบนิดเดียวรถก็วิ่งฉิวแล้ว
แถมให้อีกนิดครับ การต่อแบบดอกต่อดอก ก็เหมือนการขับรถบนถนนธรรมดาแหละครับ เหยียบเท่าไรก็วิ่งได้เท่านั้น
ถ้าเปรียบเทียบกับรถและถนนนะครับ รถก็คือเพาเวอร์แอมป์น่ะครับส่วนสภาพของถนนก็คือความต้านทางรวมของลำโพง เมื่อความต้านทานที่มากขึ้นก็ต้องใช้แอมป์ที่วัตต์สูงขึ้น(พลังงานที่มากขึ้น)ในการขับดอกลำโพง แต่ถ้าแอมป์วัตต์น้อยแล้วเอาไปขับมันก็จะพร่านะครับ

หวังว่าคงพอเข้าใจนะครับ ผมก็ไม่ได้เก่งมากนะครับ แค่เพียงว่าอาศัยจากประสบการณ์ที่ผ่านมาน่ะครับผม ถูกผิดยังไงก็ขออภัยไว้ด้วยนะครับผม

หากบางท่านยังมีข้อสงสัยลองหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเวปนี้ครับ [b]www.soundkrub.com[/b]

[Thawach]

ปัญหาของผมมีอยู่ว่า
1.  ผมมีลำโพงแซ๊ก 4 โอห์ม 3 คู่ ต่อร่วมกันแบบขนานแล้วมันมีเสียงซ่าเหมือนฝนตกเป็นเพราะอะไรครับ
2.  ถ้าเราต่อลำโพงเสียงกลาง 4 โอห์มเข้าด้วยกันแบบอนุกรมจะทำให้กำลังวัตต์เพิ่มขึ้นไหมครับและจะมีข้อดีข้อเสียอย่างไรครับ
3.  ความดังของลำโพงขึ้นอยู่กับวัตต์ของลำโพงใช่ไหมครับถ้ากำลังวัตต์สูงลำโพงก็จะดังได้แรงใช่ไหมครับ
                                ขอบคุณคร้าบ

ขอบคุณนะครับที่อุตส่าห์ตอบมา   เห็นตอบข้อ 2 น้อยไปหน่อยจะทําให้คนอ่านไม่รู้เรื่อง   
ลองมาตูคําตอบพี่บ้างนะครับ:

1.ข้อนี้ไม่ขอตอบ   คนถามรู้สึกจะต่อค่อนข้างจะมั่ว
2.4+4=8 โอมห์   คําตอบก็คือ วัตต์ของดอกลําโพงเท่าเดิม   เเต่ความต้านทานเพิ่มขึ้น  กําลังของเเอมป์ตกลงมาประมาณครึ่งหนึ่ง
ของกําลังทั้งหมด     มาดูค่าSPL บ้างกันการต่อเเบบนี้    ปกติการต่อแบบขนานSPLจะเพิ่ม +6db  ในกรณีต่อเเบบขนาน
เเต่ในตัวอย่างนี้เป็นการต่อแบบอนุกรม  จะต้องลบออก 3db  ซึ่งหมายถึง   ความดังเท่าเดิ่มเหมือนต่อลําโพงตัวเดียว 8 โอมห์
(ที่พีเถียงกับฝรั่งในหัวข้อIsobaric ก้มีเรื่องนี้อยู่ด้วย)  เเละเเถมอีกนิด(สํานวนของน้อง) การต่อแบบนี้ทําให้รับวัตต์เพิ่มขึ้น
ซึ่งเข้าลักษณะdivide ของตัวต้านทาน
3.ค่าSPL ที่สูงขึ้นนั้นเกิดจากการป้อนกําลังขับเพิ่มขึ้น   ดังนั้นลําโพงวัตต์สูงจึงได้ค่าSPLที่สูงกว่า
   แต่เราจะเทียบเเบบนี้กับดอกที่ต่างความไวไม่ได้     บางตัวความไวสูงวัตต์ไม่ค่อยสูง  เเต่อาจให้ค่าSPL แบบเหลือเชื่อ
   ลองดูลําโพงHornซิ

[Thawach]

พี่ตอบไว้เมี่อวานนี้   กระทู้นี้ isobaric จริงๆ  ซึ่งเกี่ยวกับค่าSPL 

[Thawach]

3 ไม่ใช่ ลำโพงทำหน้าที่แค่เปลี่ยนความถี่ไฟฟ้าเป็นความถึ่เสียง กำลังวัตต์อยู่ที่ขยาย ลำโพงวัตต์สูงสามารถทนกำลังขับวัตต์สูงจากขยายครับ ถ้าลำโพงวัตต์ต่ำมาต่อกับขยายวัตต์สูง เปิดแรงมากลำโพงก็พัง ดังนั้นการเลือกลำโพงก็ให้เหมาะสมกับกำลังของเครื่องขยาย

ข้อนี้ตอบไม่ถูกนะครับ   ที่บอกเพราะกลัวสมาชิกคนอื่นจะไข้วเขว   ถ้าลําโพงความไวเท่ากัน ตัวที่วัตต์สูงรับพลังงานได้มากกว่า
ค่า SPL จะสูงกว่า     ส่วนของน้อง fa_zone  ใช้คําศัพพ์ไม่ถูกต้อง จะพากันไม่รู้เรื่องนะครับ   ถ้ามีเวลามากกว่านี้จะมาอธิบาย
ให้ฟังนะครับ

[ถาวร-LSVteam]

ไม่รู้ว่างงตรงไหนนะครับ แรงดันโว้ลท์พีคทูพีคเท่าเดิม แต่โอมห์สูงขึ้นวัตต์ที่ออกมาจะเป็นยังไง ไม่ได้พูดถึงความไวนะครับ
  อีกข้อกำลังวัตต์เท่าเดิมก็คือจ่ายโว้ลท์กับกระแสได้เท่าเดิม แต่เอาโหลดที่ทนกระแสได้สูงกว่าแต่โอมห์เท่าเดิม มันจะให้กำลัง(วัตต์)มากกว่าเดิมได้ด้วยหรือไม่ได้พูดถึงคุณถาพหรือความไวของลำโพง ผมไม่เก่งเรื่องเครื่องเสียงแต่หลักการนี้มันก็ไม่น่าผิดนะหรือว่ามันผิดไปจากนี้บอกหน่อยจะได้รู้เอาไว้

[Thawach]

จริงเเล้วนัองfa_zone เขาตอบได้ถูกต้องแล้วทั้ง 2 ข้อ 
เเต่เรียกเขามาชี้เเจงรายละเอียดให้คนอื่นดู    ซึ่งเขาบอกว่าวัตต์ของเเอมป์ตกลง
เมื่อความต้านทานสูงขึ้น   ซึ่งผมก็ได้บอกไปเเล้วลดลงประมาณครึ่งหนึ่งซึ่งเวลา
ไปซื้อเเอมป์จะระบูที่ข้างหลังชัดเจน 4 โอมห์กี่วัตต์ 8 โอมห์กี่วัตต์   ส่วนคํา
ตอบข้อที่ 3 เขาถามค่าSPL ของลําโพงวัตต์สูงกับวัตต์ตํ่าอันไหนดังกว่ากัน
ซึ่งน้องfa_zone ก็ตอบได้ถูกต้อง  ซึ่งคําตอบนี้กับไปขัดกับของคุณที่คุณว่า
ไม่ใช่   ซึ่งเป็นสาเหตุที่น้องเค้าเอาคําถามนี้มาตอบอีกครั้ง    และผมจะอธิบาย
อีกครั้งนะครับ    การวัดค่า SPL สูงสุด โดยเข้าจะป้อนกําลังขับให้แก่ลําโพงอย่าง
เต็มที่เพื่อหาค่าSPL(peak)สูงสุด   ค่านี้เป็นค่าที่ในระบบHome THEATER เขาวัดกัน 
กําลังวัตต์ของดอกก็เหมือนกันเขาจะวัดที่กําลังสูงสุด   เท่าที่ดอกจะทนได้  ดังนั้นมาตรฐาน
การกําหนดค่าวัตต์ของสเปคดอก   เขาจะเขียนติดมากับเเคตตาล๊อคดอก
ว่า Pe กี่วัตต์   คําตอบของน้องfa_zone เขาจะมองที่SPLสูงสุดนะครับ   
เเละเจ้าของคําถามเขาก็ต้องการค่าSPLสูงสุดด้วย
จะเห็นว่าเขาพยายามเพิ่มดอกเข้าไปเพื่อให้ดังขึ้น  เพราะแอมป์เขากําลังสูง
ดังนั้นดอกที่ค่าทนกําลังวัตต์ได้สูง  จึงมีค่าSPLที่สูงกว่าดอกที่มีวัตต์ตํ่า  แถมให้
อีกนิดครับ  การเพิ่มของกําลังวัตต์อีกเท่าตัว  จะทําให้ค่าSPLเพิ่มขึ้น+3db
เเต่ลําโพงต้องวัตต์สุงมากนะครับ พอเข้าใจมั๊ยครับ
 

[ถาวร-LSVteam]

3.  ความดังของลำโพงขึ้นอยู่กับวัตต์ของลำโพงใช่ไหมครับถ้ากำลังวัตต์สูงลำโพงก็จะดังได้แรงใช่ไหมครับ
 อย่าคิดมากเขาถามแค่นี้เอง

[Thawach]

ใช่ครับกําลังวัตต์ของดอกถ้ามันสูง  เรามีโอกาสป้อนกําลังให้มันได้สูง   มันก็จะได้ค่าSPLสุงมาก
เเต่มันจะสูงมากมันก็จะกินกําลังขับเยอะมาก   เหมือนพี่(รูปตอนหนุ่ม)เคยอธิบายเรื่องDeep bass ไว้กินกําลัง
ขับมหาศาล   ติติงกันบ้างไม่ว่ากันนะครับ   ฝรั่งเขาก็ทําแบบนี้เกือบทั้งเวบ  ไม่ได้โกรธกันหรอก

[fa_zone]

ได้ความรู้เพิ่มอีกแล้ว ขอบคุณพี่Thawachมากครับผมที่ช่วยขยายความให้ คือจริงๆผมก็อยากจะอธิบายแบบละเอียดๆน่ะครับ แต่แบบว่าบางทีมันเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก ที่เขียนตอบลงไปอาจจะดูงงๆนิดนึง ส่วนเรื่องค่าSPLนั้นกำลังศึกษาอยู่ครับ ยังหานิยามที่ลงตัวไม่ได้เลยไม่กล้าอธิบายครับผม

[noi3535-LSV team♥]

        เจ้าของกระทู้ หายไปไหนครับ ไม่เข้ามาบอกว่าเข้าใจหรือป่าว 

[jong99999]

ไม่รู้ว่าเข้าใจคำถามตรงกันหรือเปล่า..นะครับ
แต่ขอมีส่วนร่วมในข้อ 2 และ 3 หน่อย..เอาจากภาคปฏิบัติผสมทฤษฎีหน่อยนะครับ
หมายเหตุลำโพงที่ใช้กับเครื่องขยายตัวเดียวกันเร่ง VOLUME เท่ากันนะครับ(ลำโพง 1 ตัวที่ 4 โอห์ม)สมมติ แรงดันตกคร่อมลำโพง = 100Vp-p
1.ถ้าต่อแบบอนุกรมลำโพงความต้านทานเพิ่ม(4+4=8) เมื่อเร่งโวลลุ่มที่ตำแหน่งเดิมกำลังวัตต์ (E*E)/R=(100*100)/8=1250 W PMPO
2.ถ้าต่อแบบขนานลำโพงความต้านทานลดลงเหลือ 2 โอห์มกำลังวัตต์เท่ากับ(100*100)/2=5000 W PMPO
การเมื่อต่อแบบขนานดูเหมือนวัตต์เพิ่ม วัตต์เพิ่มกระแสกินเพิ่ม จากที่ 8 โอห์มกินกระแส 100/8=12.5 Ap-p ที่ 2 โอห์ม 100/2=50Ap-p ถ้าภาคจ่ายไฟจ่ายกระแสไม่ได้หรือไม่ถึง แทนที่จะดังเพิ่มอาจเสียงหาย..แหบ..หรือพัง..และถ้าเครื่องขยายมีภาคป้องกันกระแสเกินที่ภาคเอาต์พุตก็อาจไม่พังแต่เสียงเบาลงกว่าเดิมหรือหายไปเลย..55
ส่วนลำโพงวัตต์สูงก็ทนกำลังได้สูงใช้รับสัญญาณจากวัตต์สูงๆได้
แต่ความดังขึ้นกับปัจจัยหลายอย่างเช่นเครื่องขยายตัวเดียวกันสมมติ 50วัตต์ ปรับโวลลุ่มเท่ากันระหว่างต่อลำโพงฮอร์น 50 W กับลำโพงไดนามิก 200 W ลองดูอันไหนดังแรงหรือไกลกว่ากันถ้ามองเสียงรวมไม่ดูที่ทุ้มแหลม
แต่ที่จริงแล้วกำลังวัตต์ที่ว่ามา..มันบ่งถึงการสิ้นเปลืองพลังงาน เครื่องขยายวัตต์สูงย่อมกินกระแสมากกำลังไฟฟ้ามากจ่ายค่าไฟฟ้ามาก...เพียงแต่ถ้าใช้ลำโพงตัวเดียวกันเครื่องขยายวัตต์สูงน่าจะทำให้เกิดเสียงดังกว่า....ลำโพงวัตต์สูงก็รับสัญญาณแรงๆได้ดีกว่า...
ส่วนการต่อถูกเฟสหรือไม่ ไม่ได้หมายถึงการต่อ+เข้า+บางทีบางตัวอาจต้องต่อ-เข้า+ก็ได้เพราะเราฟังที่เฟสเสียงไม่ใช่ไฟฟ้าต้องลองฟังแล้วสลับขั้วเอายิ่งต่อลำโพงหลายตัวยิ่งต้องฟังและสลับขั้วไปมาถ้าต่อถูกเสียงเบสจะดังมากขึ้นถ้าเฟสเสียงหักล้างกันมันก็เบาลงต้องสลับสายลำโพงตัวที่ต่อหลังสุด...ครับท่าน
ส่วนข้อ1 ต้องลองฟังแล้วค่อยวิเคราะห์หาเหตุแห่งทุกข์ครับ
...

[Thawach]

สูตรคําณวนค่าวัตต์ถูกต้องเเล้วครับ   เเต่ถ้าละเอียดกว่านี้จะมีตัวแปรอื่นมาผสมด้วย  เช่นความต้านทานของแอมป์
ค่าความร้อน   ที่ว่าภาพเอาพุทต์เนื่องจากภาคจ่ายไฟไม่พอก็ถูกเเล้วครับ    เเต่ทะลึ่งมีเเอมป์บางต้วมันไม่พังก็มีเหมือน
กัน    สําหรับการวัดค่าSPLถ้าคําณวนเอง  จะยุ่งยากเพราะมีตัวเเปรหลายอย่างที่นํามาใช้คําณวน   ส่วนมากเขาจะ
ใช้เครื่องมือวัด  ถ้าเราจะเทียบค่าSPL ระหว่างวัตต์สูงกับตํ่า   จะต้องใช้ดอกความไวเท่ากันครับจะเห็นชัดเลย
ตัวที่รับวัตต์สูงจะให้ค่าSPLสูงกว่า    มาตรฐานการวัดจริงๆวัดที่ค่าสูงสุดเเละค่าเฉลี่ยครับ   ค่านี้วิศวะกรเขา
ใช้อ้างอิงครับ  ไม่ใช่ปรับวอลลุ่มครึ่งๆกลางๆเเบบของน้องใช้อ้างอิงไม่ได้นะครับ   ค่านี้โดยมากใช้กับงานPAครับ

[thorngbai]

ขอแจมๆด้วยคนครับ
         *** การต่อพ่วงลำโพง ไม่ว่าจะต่อแบบขนานหรืออนุกรม จะทำให้กำลังวัตต์เพิ่มขึ้นเสมอครับ (อย่าสับสนกับการต่อ แบตเตอรี่หรือตัวเก็บประจุ)  ส่วนค่าโอห์มจะเพื่มหรือลดขึ้นอยู่กับแบบการต่อ...ผมขออธิบายดังนี้ครับ.
         *** ค่าโอห์ม***
            - แบบฃนาน เมื่อนำลำโพงหลายตัวมาต่อขนานกัน จะทำให้ค่าโอห์มลดลงจนมีค่าเป็นลบ...เพื่มวัตต์
            - แบบอนุกรม เมื่อนำลำโพงหลายตัวมาต่ออนุกรมกัน จะทำให้ค่าโอห์มเพิ่มขึ้นตามค่าโอห์มแต่ละตัวรวมกัน...เพิ่มวัตต์
            - แบบผสม เราสามารถเลือกค่าโอห์มให้ได้ตามต้องการได้...เพิ่มวัตต์
         *** วิธีการต่อ ตามที่พี่นิมิตรเสนอไปแล้ว***
         *** ตัวอย่าง*** การต่อลำโพงภายในอาคาร...ลำโพงหลายสิบตัวที่ฝังอยู่ตามเพดานของอาคารนั้น ใช้เครื่องขยายเสียงตัวเดียวกันครับ และกำลังวัตต์ของลำโพงแต่ละตัวนั้นมีประมาณ 20 วัตต์ วิธีการต่อจึงต้องเลือกการต่อแบบผสม (ค่าโอห์มจะไม่เป็น อินฟินิตี้ ตามที่เคยอ่านเจออย่างแน่นอน)
         *** กำลังวัตต์*** เพิ่มแน่นอนครับ ลำโพง 20 วัตต์หลายสิบตัวต่อร่วมกันแต่กระจายอยู่ตามห้องต่างๆ ถ้าใช้เครื่องขยายเสียง 20 วัตต์มาขับเสียง...เสียงที่ออกมา..คงป็นเสียงกระซิบ..ดังนั้นจึงต้องเพิ่มกำลังของเครื่องขยายให้เพียงพอตามกำลังวัตต์ของลำโพงที่เพิ่มขึ้น เป็น 100 หรือ 200 วัตต์ ก็แล้วแต่.
         *** เพิ่มเติม***
         *** ความดัง*** ความดังของลำโพง อีกหนึ่งปัจจัยที่เห็นได้ชัดคือ หน้ากว้างของลำโพงเช่น 10" 12" 15" โดยลำโพงที่หน้ากว้างกว่าจะให้เสียงที่ดังกว่า ท่านลองทดสอบดูได้ครับ ลองใช้ลำโพง 10" กับ 15" กำลังวัตต์เท่ากัน เปิดเสียงจากเครื่องขยายตัวเดียวกัน ตัวหนึ่งต่อซ้าย อีกตัวหนึ่งต่อทางขวา เปรียบเทียบกันดูครับ
         ***ท่านใดมีความคิดเห็นขัดแย้งเชิญครับ***