Barack Obama ประธานาธิบดีคนใหม่
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
พฤษภาคม 29, 2024, 01:42:50 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: Barack Obama ประธานาธิบดีคนใหม่  (อ่าน 4237 ครั้ง)
b.chaiyasith
แก้ปัญหาไม่ตกคุยกันเวลางานline:chiabmillion
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน650
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3004


ไม้ดีไม่ลอยน้ำมาไกล


อีเมล์
« เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2008, 03:13:19 PM »





Barack Obama was raised by a single mother and his grandparents. They didn't have much money, but they taught him values from the Kansas heartland where they grew up. He took out loans to put himself through school. After college, he worked for Christian churches in Chicago, helping communities devastated when steel plants closed.   Obama turned down lucrative job offers after law school to return to Chicago, leading a successful voter registration drive. He joined a small law firm, taught constitutional law and, guided by his Christian faith, stayed active in his community. Obama and his wife Michelle are proud parents of two daughters, Sasha and Malia.


EARLY YEARS
Barack Obama was born in Hawaii on August 4th, 1961. His father, Barack Obama Sr., was born and raised in a small village in Kenya, where he grew up herding goats with his own father, who was a domestic servant to the British.

Barack's mother, Ann Dunham, grew up in small-town Kansas. Her father worked on oil rigs during the Depression, and then signed up for World War II after Pearl Harbor, where he marched across Europe in Patton's army. Her mother went to work on a bomber assembly line, and after the war, they studied on the G.I. Bill, bought a house through the Federal Housing Program, and moved west to Hawaii.

It was there, at the University of Hawaii, where Barack's parents met. His mother was a student there, and his father had won a scholarship that allowed him to leave Kenya and pursue his dreams in America.

Barack's father eventually returned to Kenya, and Barack grew up with his mother in Hawaii, and for a few years in Indonesia. Later, he moved to New York, where he graduated from Columbia University in 1983.



THE COLLEGE YEARS
Remembering the values of empathy and service that his mother taught him, Barack put law school and corporate life on hold after college and moved to Chicago in 1985, where he became a community organizer with a church-based group seeking to improve living conditions in poor neighborhoods plagued with crime and high unemployment.

The group had some success, but Barack had come to realize that in order to truly improve the lives of people in that community and other communities, it would take not just a change at the local level, but a change in our laws and in our politics.

He went on to earn his law degree from Harvard in 1991, where he became the first African-American president of the Harvard Law Review. Soon after, he returned to Chicago to practice as a civil rights lawyer and teach constitutional law. Finally, his advocacy work led him to run for the Illinois State Senate, where he served for eight years. In 2004, he became the third African American since Reconstruction to be elected to the U.S. Senate.



POLITICAL CAREER
It has been the rich and varied experiences of Barack Obama's life - growing up in different places with people who had differing ideas - that have animated his political journey. Amid the partisanship and bickering of today's public debate, he still believes in the ability to unite people around a politics of purpose - a politics that puts solving the challenges of everyday Americans ahead of partisan calculation and political gain.

In the Illinois State Senate, this meant working with both Democrats and Republicans to help working families get ahead by creating programs like the state Earned Income Tax Credit, which in three years provided over $100 million in tax cuts to families across the state. He also pushed through an expansion of early childhood education, and after a number of inmates on death row were found innocent, Senator Obama worked with law enforcement officials to require the videotaping of interrogations and confessions in all capital cases.

In the U.S. Senate, he has focused on tackling the challenges of a globalized, 21st century world with fresh thinking and a politics that no longer settles for the lowest common denominator. His first law was passed with Republican Tom Coburn, a measure to rebuild trust in government by allowing every American to go online and see how and where every dime of their tax dollars is spent. He has also been the lead voice in championing ethics reform that would root out Jack Abramoff-style corruption in Congress.

As a member of the Veterans' Affairs Committee, Senator Obama has fought to help Illinois veterans get the disability pay they were promised, while working to prepare the VA for the return of the thousands of veterans who will need care after Iraq and Afghanistan. Recognizing the terrorist threat posed by weapons of mass destruction, he traveled to Russia with Republican Dick Lugar to begin a new generation of non-proliferation efforts designed to find and secure deadly weapons around the world. And knowing the threat we face to our economy and our security from America's addiction to oil, he's working to bring auto companies, unions, farmers, businesses and politicians of both parties together to promote the greater use of alternative fuels and higher fuel standards in our cars.

Whether it's the poverty exposed by Katrina, the genocide in Darfur, or the role of faith in our politics, Barack Obama continues to speak out on the issues that will define America in the 21st century. But above all his accomplishments and experiences, he is most proud and grateful for his family. His wife, Michelle, and his two daughters, Malia, 10, and Sasha, 7, live on Chicago's South Side.
http://www.barackobama.com/index.php



บันทึกการเข้า

"CHIAB"
มนุษย์เราแต่ละคน  ต่างไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไม่มีใครรู้จักกันมาก่อนเลย  แล้ววันหนึ่งก็มาพบหน้ากัน  สมมุติเป็นพ่อ  เป็นแม่  เป็นเมีย  เป็นสามี  เป็นลูก  อยู่ร่วมกัน  ใช้ชีวิตร่วมกัน และแล้ววันหนึ่ง  ก็แยกย้ายด้วยการ  "ตายจาก"  กันไปสู่  ณ  ที่ซึ่งไม่มีใครได้ตามพบ  คืนสู่ความเป็นผู้ไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไปไหน  และคืนสู่ความเป็น  "คนแปลกหน้า"  ซึ่งกันและกันอนันกาลอีกครั้งหนึ่ง...และอีกครั้งหนึ่ง!?
ขอขอบคุณ คุณเปลว สีเงิน ที่ให้ข้อคิดดีๆ

b.chaiyasith
แก้ปัญหาไม่ตกคุยกันเวลางานline:chiabmillion
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน650
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3004


ไม้ดีไม่ลอยน้ำมาไกล


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2008, 06:30:07 PM »

สร้างประวัติศาสตร์เป็นที่เรียบร้อยสำหรับบารัก โอบามา นักการเมืองผิวสีผู้จรัสแสงของสหรัฐ หลังจากชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี เหนือ"สิงห์เฒ่า"จอห์น แม็คเคน คู่แข่งแห่งพรรครีพับลิกัน ผงาดเป็นผู้นำทำเนียบขาว ด้วยฉันทามติจากคะแนนเลือกตั้งท่วมท้นของชาวอเมริกัน ที่แห่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางกระแสจับตาว่า ที่สุดแล้ว บารัก โอบาม่า จะทำสิ่งที่หลายคนทั่วโลกลุ้นเอาใจช่วยได้สำเร็จหรือไม่ ในการคว้าชัยเป็นประธานาธิบดี"ผิวดำ"คนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองของสหรัฐ
 
ประวัติของนายบารัก โอบาม่า นั้น เกิดวันที่ 4 ส.ค.ปี 1961 ถือเป็นวุฒิสมาชิกหนุ่มไฟแรงแห่งสภาคองเกรส จากรัฐอิลลินอยส์ เขาเป็นชาวอเมริกัน-แอฟริกา คนแรก ที่ได้ถูกเสนอชื่อจากพรรคการเมืองใหญ่ของสหรัญ(เดโมแครต)เสนอชื่อแข่งขันศึกประธานาธิบดีสหรัฐ โดยสามารถสร้างปรากฎการณ์เหลือเชื่อ พลิกชนะนางฮิลลารี คลินตัน วุฒิสมาชิกรัฐนิวยอร์ก ซึ่งถูกมองว่ามีดีกรีการเมืองเหนือชั้นกว่า ก่อนผงาดกลายเป็นนักการเมืองผิวสีที่ได้เข้าสู่เส้นทางชิงชัยศึกผู้นำทำเนียบขาวเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์สหรัฐ ทำให้อเมริกาทั่วประเทศและทั่วโลกจับตามองเขาอย่างไม่วางสายตานับตั้งแต่นั้น
 
"โอบามา" จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และโรงเรียนกฎหมายฮาร์วาร์ด  เริ่มแรกเขาทำงานเป็นผู้จัดงานชุมชนและประกอบอาชีพเป็นทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ก่อนดำรงตำแหน่งเป็นวุฒิสมาชิกรัฐอิลลินอยส์ 3 สมัย ตั้งแต่ปี 1997-2004 โดยเขาสอนกฎหมายด้านรัฐธรรมนูญที่มหาวิทยาลัยโรงเรียนกฎหมายชิคาโก ตั้งแต่ปี 1992-2004 ในฐานะเป็นสมาชิกสภาคองเกรส โอบามามีโอกาสได้ร่วมร่างกฎหมายควบคุมอาวุธขีปนาวุธ และสนับสนุนความสามารถในการตรวจสอบของสาธารณชนต่อการใช้งบประมาณรัฐบาลกลาง และครั้งหนึ่งเคยช่วยร่างกฎหมายเกี่ยวกับการต่อต้านการโกงการเลือกตั้งและการล็อบบี้,กม.ด้านอุณหภูมิโลกเปลี่ยนแปลง,ลัทธิก่อการร้ายใช้อาวุธนิวเคลียร์ และกม.ดูแลทหารอเมริกันที่กลับจากสมรภูมิรบ
 
ขณะเดียวกัน ก็เคยมีประสบการณ์เดินทางเยือนต่างประเทศหลายประเทศ เช่น ภูมิภาคยุโรปตะวันออก,ตะวันออกกลาง และแอฟริกา
 
ในปี 2003 โอบามาา ได้กลายเป็นประธานคณะกรรมาธิการด้านสุขภาพและบริการสาธารณชนของสภาสูงประจำรัฐอิลลินอยส์ ในยุคที่พรรคเดโมแครตสามารถผงาดขึ้นมาเป็นพรรคเสียงส่วนใหญ่ของคองเกรส เขาได้สนับสนุนและนำการผ่านกฎหมายตรวจสอบการจัดทำข้อมูลด้านเชื้อผิว ซึ่งทำให้ตำร้องต้องบันทึกเชื้อผิวของผู้ขับขี่ที่ถูกควบคุม และออกกฎหมายที่ทำให้รัฐอิลลินอยส์กลายเป็นรัฐแรกที่ให้ฉันทานุมัติต่อการบันทึกเทปเกี่ยวกับการตรวจสอบคดีฆาตกรรม
ในปี 2004 โอบาม่าได้เขียนและขึ้นแถลงปราศรัยต่อที่ประชุมแห่งชาติพรรคเดโมแครตเป็นครั้งแรก โดยโอบาม่าซึ่งได้บรรยายว่าปู่ของเขาเป็นอดีตทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่สอง เขาได้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงความสำคัญต่าง ๆ ด้านสังคมและเศรษฐกิจ พร้อมทั้งตั้งคำถามต่อรัฐบาลประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เกี่ยวกับสงครามอิรัก และและมุ่งเน้นเกี่ยวกับพันธะผูกพันต่อทหารอเมริกันที่ออกไปรบนอกประเทศ
 
นอกจากนี้ เขายังได้วิจารณ์แง่มุมเกี่ยวกับคณะกรรมการเลือกตั้งที่ไม่เป็นกลาง และตั้งคำถามต่อชาวอเมริกันให้ลองค้นหาความสมัครสมานสามัคคีในความแตกต่างของสังคมอเมริกัน โดยระบุว่า"ที่นี่ไม่มีอเมริกาสายกลาง และอเมริกาสายอนุรักษ์ มีแต่เพียงอเมริกาที่เป็นสหพันธรัฐของทุกคน
 
ประโยคดังกล่าวกลายเป็นวรรคทองของเขา ส่งผลให้สื่อมวลชนจับตานักการเมืองหนุ่มไฟแรงผู้นี้ขึ้นมาโดยทันที โดยสื่อมวลชนตีข่าวถ้อยแถลงเผ็ดร้อนตรงไปตรงมาดังกล่าว และส่งผลให้เขากลายเป็นบุคคลสำคัญทางการเมืองของสหรัฐเพียงชั่วพริบตา และยังเพิ่มภาษีในการต่ออายุเป็นวุฒิสมาชิกประจำสภาคองเกรสสมัยถัดมาด้วย
เมื่อวันที่ 10 ก.พ.2007 เป็นวันที่วุฒิสมาชิกผิวสีผู้นี้ ได้ประกาศเป็นผู้สมัครตัวแทนพรรคเดโมแครต ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่รัฐอิลลินอยส์บ้านเกิดของเขา โดยเขาเลือกสถานที่ประกาศตัวคืออาคารสภาเก่าในเมืองสปริงฟิลด์ของรัฐอิลลินอยส์ ที่มีความหมายเชิงสัญญลักษณ์ของการเป็นนักการเมืองผิวสีที่หาญกล้าประกาศตัวเป็นตัวแทนพรรคชิงตำแหน่งผู้นำทำเนียบขาว

เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวเคยถูกอดีตประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอร์น ประกาศแถลงสุนทรพจน์อมตะ"บ้านที่แตกแยก"มาแล้วเมื่อปี 1858 โดยตลอดการหาเสียง เขาได้เน้นประเด็นหาเสียงเรื่องการเร่งถอนทหารสหรัฐออกจากอิรัก การเพิ่มการพึ่งพาตนเองด้านพลังงาน การกระจายระบบสาธารณสุข ซึ่งถือเป็นนโยบายหาเสียงหลักของเขา
ในการรณรงค์หาเสียงนั้น ปรากฎว่า โอบามา สามารถระดมทุนได้เงินถึง 58 ล้านดอลลาร์ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2007 จากเงินบริจาคจำนวนเล็ก ๆ น้อย ๆ"จากหลายฝ่าย สร้างถสิติระดมทุนได้มากเป็นประวัติการรณ์ในช่วง 6 เดือนแรกก่อนการเลือกตั้ง โดยในเดือนม.ค.ปี 2008 เขายังสามารถระดมทุนได้มากเป็นประวัติการณ์เพียงช่วงเดือนเดียวของพรรคเดโมแครต คือ เป็นจำนวน 36.8 ล้านดอลลาร์
 
ในการแข่งขันกับฮิลลารี ปรากฎว่านายโอบามาได้สร้างปรากฎการณ์"ล้มยักษ์"ขึ้นมาอย่างไม่คาดฝัน โดยเขาสามารถหาเสียงชนะนางฮิลลารีในรัฐต่างๆ  โดยเฉพาะศึกซูเปอร์ทิวส์เดย์ ซึ่งเขามีคะแนนคณะกรรมการเลือกตั้งมากกว่านางฮิลลารี 20 เสียง พร้อมกับยังคงเดินหน้าทำสถิติระดมทุนได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ และชัยชนะอย่างเป็นทางการเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.โดยเขาได้ประกาศแถลงชัยชนะที่เมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมินเนโซต้า กลายเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ชิงศึกผู้นำทำเนียบขาว กับนายจอห์น แม็คเคน วุฒิสมาชิกรัฐอริโซน่า ที่เป็นผู้ชนะขาดลอยของพรรครีพับลิกัน และได้เลือกนายโจเซฟ ไบเด็น วุฒิสมาชิกรัฐเดลาแวร์ ซึ่งมีประสบการณ์โชกโชนด้านต่างประเทศ มาเสริมความแข็งแกร่งให้แก่เขา
 
ทั้งนี้ นายโอบามายังมีงานเขียนเป็นจำนวน 8 ชิ้น รวมทั้งหนังสือล่าสุดเรื่อง"Change We Can Believe In: Barack Obama′s Plan to Renew America′s Promise ด้วย
 
ด้านประวัติชีวิตส่วนตัวนั้น โอบามา ถือกำเนิดที่เมืองฮอนโนลูลู รัฐฮาวาย เป็นบุตรของนายบารัก ฮุสเซน โอบามา ชาวเคนยา และนางแอนดันแฮม ชาวอเมริกันผิวขาว จากรัฐแคนซัส ก่อนที่เขาจะเผชิญชีวิตครอบครัวหย่าร้างเมื่ออายุเพียง 2 ปี โดยพ่อของเขากลับไปยังเคนยา ก่อนจะเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อปี 1982  เขาได้รับการเลี้ยงดูในรัฐฮาวาย ก่อนถูกย้ายไปอยู่ในอินโดนีเซีย เมื่ออายุ 6 ปี เมื่อมารดาของเขาแต่งงานใหม่กับชาวอินโดนีเซีย
ก่อนที่ภายหลังเขาจะต้องสูญเสียบิดาจากอุบัติเหตุรถยนต์ และสูญเสียมารดาจากโรคมะเร็ง
 
ในวัยรุ่นช่วงศึกษาในร.ร.ไฮสคูล โอบามา ยอมรับว่า เขาเคยผ่านประสบการณ์การใช้กัญชา,โคเคน และดื่มมากแล้ว ซึ่งเขาได้กล่าวในการประชุมหัวข้อด้านประธานาธิบดีเมื่อปี 2008 ว่า นั่นเป็นความผิดพลาดทางจริยธรรมครั้งใหญ่ของเขา
นายโอบามาสมรสกับนางมิเชล โอบามา หรือมิเชล โรบินสันเมื่อเดือนมิ.ย.ปี 1989 ในขณะที่เขาทำงานเป็นที่ปรึกษาของกิจการกฎหมายเมืองชิคาโก้ โดยโอบามาและมิเชล ได้ทำงานร่วมกันในฐานะคณะทำงานเดียวกัน ก่อนที่ทั้งคู่จะหมั้นเมื่อปี 1991 และแต่งงานเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ปี 1992 และมีทายาทร่วมกัน 2 คน คือ มาเรีย แอน เกิดเมื่อปี 1998 และนาตาชา เมื่อปี 2001
 
สำหรับทรัพย์สินนั้น นิตยสาร"Money"ระบุเมื่อเดือนธ.ค.ปี 2007 ว่า โอบามา มีทรัพย์สินเฉลี่ย 1.3 ล้านดอลลาร์ โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายหนังสือของเขา ขณะที่รายได้ครอบครัวมีจำนวน 4.2 ล้านดอลลาร์

บันทึกการเข้า

"CHIAB"
มนุษย์เราแต่ละคน  ต่างไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไม่มีใครรู้จักกันมาก่อนเลย  แล้ววันหนึ่งก็มาพบหน้ากัน  สมมุติเป็นพ่อ  เป็นแม่  เป็นเมีย  เป็นสามี  เป็นลูก  อยู่ร่วมกัน  ใช้ชีวิตร่วมกัน และแล้ววันหนึ่ง  ก็แยกย้ายด้วยการ  "ตายจาก"  กันไปสู่  ณ  ที่ซึ่งไม่มีใครได้ตามพบ  คืนสู่ความเป็นผู้ไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไปไหน  และคืนสู่ความเป็น  "คนแปลกหน้า"  ซึ่งกันและกันอนันกาลอีกครั้งหนึ่ง...และอีกครั้งหนึ่ง!?
ขอขอบคุณ คุณเปลว สีเงิน ที่ให้ข้อคิดดีๆ
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!