วิจัยชี้ใบตองปิดแผลไหม้ช่วยหายเร็ว-เสี่ยงติดเชื้อ0%

ผู้ต้องหาสารภาพ รับคำสั่งจากพ่อค้าชาติเดียวกันลำเลียงส่งให้นายทุนขายภาคใต้ เผยคนในครอบครัว ทั้งพ่อ-น้องสาวและญาติถูกศาลสั่งจำคุดคดียานรก ขณะที่ตำรวจ-ทหารอรัญฯ รวบ 2 สมุน "ปุ้ยพระโขนง" ขณะไปรับยาไอซ์ในตลาดโรงเกลือมาขาย ส่วนลูกพี่หนีไปได้

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 28 พฤษภาคม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย และ ผอ.ศอ.ปส. พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผบช.ปส.และ พล.ต.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รอง ผบช.ปส.ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด ได้ของกลางเป็นเฮโรอีน 8,500 กรัม

พล.ต.ต.อดิเทพกล่าวว่า ตำรวจ บก.ปส.2 สามารถจับกุมเครือข่ายว้าแดง คือ นายจังเบ แซ่จัง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 4 ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ผู้ต้องหาคดียาเสพติดให้โทษประเภท 1 พร้อมด้วยของกลางเฮโรอีน หนักประมาณ 8,500 กรัม ได้ที่ลานจอดรถโรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง หมู่ 1 ต.แม่สลองใน เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 26 พฤษภาคม หลังจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่ากลุ่มผู้ค้ายาเสพติดที่เคยเป็นกองกำลังลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่แนวชายแดน ได้แยกตัวมาดำเนินการจัดหายาเสพติดเพื่อส่งขายให้นายทุนเอง

พล.ต.ต.อดิเทพกล่าวอีกว่า นายจังเบมีประวัติบุคคลในครอบครัวถูกจับกุมคดียาเสพติดมาแล้ว 3 คน คือ นายนาคูลี บิดา น.ส.อาหมี่มะ น้องสาว และนายอาเบ ญาติ ทั้งหมดถูกศาลตัดสินจำคุกอยู่ในเรือนจำทั้งในภาคเหนือและจังหวัดอื่น นายจังเบให้การรับสารภาพว่า มีนายฟู ซึ่งเป็นชาวพม่า อยู่ที่ประเทศพม่า คอยสั่งให้นำยาเสพติดไปให้นายทุนจากภาคใต้ที่สั่งซื้อ เพื่อนำไปจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และบางส่วนจะส่งไปยังประเทศที่สาม

พล.ต.ต.อดิเทพกล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกัน ตำรวจ บช.ปส.1 จับกุมนายมิเกล หรือมิกูเอล สัญชาติไนจีเรีย หรือนายคอนเด กาบา สัญชาติกินี อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) ไว้ในความครอบครองและเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาติ พร้อมด้วยของกลางโคเคน 2.5 กิโลกรัม โดยจับกุมได้ที่หน้าห้องพักเลขที่ 809 ในอพาร์ตเมนต์ไม่มีชื่อ เลขที่ 1/1 ตึก 2 ซอยรามคำแหง 32 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. หลังจากสืบทราบว่ามีกลุ่มชาวแอฟริกัน ผิวดำและเครือข่ายยาเสพติดชาวต่างประเทศ นำโคเคนเข้ามาทางสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินภูเก็ต และการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจากประเทศกัมพูชา

พล.ต.ต.อดิเทพกล่าวต่ออีกว่า จากการสืบสวนทราบว่านำเข้ามาจำหน่ายให้ชาวผิวดำใน กทม. ย่านประตูน้ำ สุขุมวิท รามคำแหง และบางส่วนส่งไปจำหน่ายตามเกาะท่องเที่ยวสำคัญทางภาคใต้ เช่น เกาะสมุย เกาะพงัน โดยนายมิเกลจะใช้ภรรยาที่เป็นคนไทยคอยติดต่อกับลูกค้า รวมทั้งหญิงสาวชาวฟิลิปินส์ด้วย โดยการซุกซ่อนยาจะกลืนยาเข้าไปในท้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจล่อซื้อยาโคเคนจากนายมิเกล 1 กิโลกรัม แต่นายมิเกลนำติดตัวมาจำนวน 2.5 กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม ระหว่างการสืบสวนติดตามสืบทราบว่านายมิเกลพยายามว่าจ้างหญิงชาวฟิลิปปินส์ผ่านนายหน้าชาวจีนจำนวน 3 ครั้ง และว่าจ้างหญิงไทยผ่านนายหน้าชาวไทย 1 ครั้ง ให้เดินทางนำโคเคนจากประเทศเปรูเข้ามาในไทย แต่ไม่สำเร็จ นายมิเกลก็มาถูกจับกุมเสียก่อน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังจับกุมผู้ต้องหาชาวไทยและชาวลาวได้จำนวน 6 คน ของกลางยาบ้าจำนวน 3.5 หมื่นเม็ด โดยลำเลียงยาบ้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาขายในประเทศไทยทางภาคเหนือ

ส่วนที่ จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 28 พฤษภาคม ที่ บก.ร้อย ทพ.ที่ 1201 ฉก.กรม.ทพ.ที่ 12 กกล.บูรพา (กองร้อยคลองลึก) บ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ พ.อ.กิตติธัช บุพศิริ รองเสนาธิการ กองกำลังบูรพา พ.อ.วสุ เจียมสุข ผบ.ฉก.กรม.ทพ.ที่ 12 กกล.บูรพา ว่าที่ ร.ต.ถาวร สฤทธิ์วานิชย์ นายอำเภออรัญประเทศ พ.ต.ท.สาคู จั่นจำรัส สวญ.สภ.คลองลึก ร.อ.ศลิษฏพงษ์ แก้วพิลา ผบ.ร้อย ทพ.ที่ 1201 พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามสรรพสามิตพื้นที่สระแก้ว เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศและเจ้าหน้าที่ด่าน ตม.อรัญประเทศ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายทรงพล โพธิ์ชัย อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 355/52 ซอยสุขุมวิท 42 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กทม.และ น.ส.อัจฉรา จันทร์สอางค์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105/15 หมู่12 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พร้อมของกลางยาไอซ์ หนัก 150.408 กรัม รถยนต์ 2 คัน และอื่นๆ รวม 25 รายการ

การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก พ.อ.วสุ สืบทราบว่าจะมีการลักลอบซื้อขายและส่งมอบยาไอซ์ กันบริเวณตลาดขายผลไม้ ในตลาดโรงเกลือ จึงสั่งการให้ ร.อ.ศลิษฏพงษ์ ร่วมกับ ร.ต.อ.วิชาญ จิตตยานันท์ รอง หน.ชุด ศตส. อ.อรัญประเทศ กระจายกำลังดักจับ กระทั่งเวลา 15.30 น. วันที่ 27 พฤษภาคม น.ส.อัจฉราขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ยาริส ทะเบียน ฌข 1470 กรุงเทพมหานคร ซึ่งตรงกับที่สายรายงาน เข้าไปจอดในตลาดผลไม้ โดยมีนายสมศักดิ์ จั่นเพ็ชร อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/37 ซอยวชิรธรรมสาธิต 8 เขตบางนา กทม. และนายทรงพล นั่งโดยสารมาด้วย จากนั้นนายทรงพลลงจากรถไปพูดคุยกับชายชาวเขมรและยื่นสิ่งของให้กัน จากนั้นชายชาวเขมรจึงรีบเดินหายไปกับฝูงชนในตลาดขายผลไม้ ขณะที่นายทรงพลกลับไปขึ้นรถ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อตรวจค้น แต่ น.ส.อัจฉรา เร่งเครื่องขับหนีออกจากตลาดขายผลไม้ ไปเจอกับเจ้าหน้าที่อีกชุดที่ดักรออยู่บริเวณทางออก น.ส.อัจฉราจึงเลี้ยวรถกลับด้วยความเร็ว ทำให้รถเสียหลักชนเสาไฟฟ้าแล้วถอยไปชนร้านขายของชำ จนรถไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ ทั้ง 3 คนจึงแยกย้ายกันวิ่งหนีกลับเข้าไปในตลาด โดยนายทรงพลโยนกระเป๋าคาดเอวทิ้งในถังขยะก่อนหลบหนีไป เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นพบยาไอซ์บรรจุในถุงพลาสติก 2 ถุง น้ำหนักรวม 150.408 กรัม

ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับนายทรงพลและ น.ส.อัจฉราได้ขณะขึ้นรถแท็กซี่หนีออกจากตลาดโรงเกลือ โดย น.ส.อัจฉราเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่ออำพราง ส่วนนายสมศักดิ์เช่ารถจักรยานยนต์ในตลาดโรงเกลือขี่หลบหนี แต่รถเกิดยางรั่ว แล้วนำรถไปปะยางที่ร้านสยามยางยนต์ ต่อมาได้ยืมรถจักรยานยนต์ ของร้านสยามยางยนต์ขี่หลบหนีไป

จากการสอบสวน น.ส.อัจฉราและนายทรงพล รับสารภาพว่า ขับรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน เซฟีโร่ ทะเบียน ภษ 654 กรุงเทพมหานคร มาจากกรุงเทพฯ แล้วมาจอดไว้ในโรงแรมนาวาพนม บ้านคลองลึก เพื่อพานายสมศักดิ์ซึ่งมีอาชีพขายหมูอยู่ที่ตลาดพระโขนง กทม.และเป็นพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ของพระโขนง มีฉายาว่า "ปุ้ยพระโขนง" มาซื้อยาไอซ์จากชาวเขมรกลับไปขาย และทำมา 20 ครั้งแล้ว

จากนั้นเจ้าหน้าที่นำกำลังไปตรวจค้นบ้านเลขที่ 40/37 ซอยวชิรธรรมสาธิต 8 แขวงบางนา เขตบางนา กทม.ของนายสมศักดิ์ แต่ไม่เจอ จึงตรวจยึดทรัพย์สินไว้รวม 25 รายการ พร้อมกับได้ขออนุมัติหมายจับนายสมศักดิ์ 2 ข้อหา ทั้งเรื่องยาเสพติดและโจรกรรมรถ และได้ประสานกับ สน.บางนาเพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมนายสมศักดิ์มาดำเนินคดี