องคุลิมาล
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
เมษายน 27, 2024, 01:53:10 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: องคุลิมาล  (อ่าน 8767 ครั้ง)
แวมไพร์-LSVteam♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน912
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3712


..เรียนให้รู้เป็นครูเขา.Learning by doing


« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2008, 11:17:56 AM »

องคุลิมาล





พระองคุลิมาล ได้ถือปฏิสนธิในครรภ์แห่งนางพราหมณ์ชื่อ มันตานี ภรรยาของ คัคคพราหมณ์ (ภัคควพราหมณ์) ซึ่งเป็นปุโรหิตแห่งเมืองสาวัตถีของพระเจ้าปเสนทิโกศล  ขณะที่องคุลิมาลคลอดออกจากครรภ์ บรรดาอาวุธทั้งหลายในนครก็ส่องแสงเรืองขึ้น พราหมณ์ปุโรหิตลุกออกมาแหงนดูดาวนักษัตร ก็รู้ว่าบุตรเกิดโดยฤกษ์ดาวโจร ลูกของตนที่จะเกิดจะเป็นโจรผู้ร้ายกาจเที่ยวเข่นฆ่ามนุษย์มากมาย

วันรุ่งขึ้นปุโรหิตจึง เข้าเฝ้าพระเจ้าปเสนทิโกศล ทูลถวายรายงานถึงเหตุอาเพศ ว่าเป็นเพราะลูกของตน พระราชาสอบถามว่าอาเพศดังกล่าวจักเกิดเหตุอะไร ปุโรหิตกราบทูลว่า เขาจักเป็นมหาโจร แต่จะไม่มีภัยต่อราชสมบัติ จะเป็นโจรคนเดียว พระราชาตรัสว่า เป็นโจรคนเดียวจะทำอะไรได้ ถ้าเขาทำเหตุอันใดขึ้นในอนาคต เราก็จักจัดการเขาเสียด้วยกองทหารของเรา จงเลี้ยงเขาไว้เถิด  ปุโรหิตตั้งชื่อเด็กคนนี้เป็นการแก้เคล็ดว่า “อหิงสกกุมาร” แปลว่า เด็กผู้ไม่เบียดเบียนใคร

เมื่อมีอายุพอจะศึกษา อหิงสกกุมารไปเรียนกับอาจารย์ทิศาปาโมกข์ที่เมืองตักกศิลา ด้วยความที่เป็นผู้มีปัญญา ขยัน ตั้งใจ ประพฤติเรียบร้อย คอยรับใช้อาจารย์ด้วยความเคารพ พูดจาไพเราะ จนศิษย์คนอื่นๆ ริษยา พากันออกอุบายเพื่อกำจัด โดยแบ่งคนออกเป็นสามพวก พวกแรกก็เข้าไปบอกอาจารย์ว่า ได้ยินมาว่าอหิงสกกุมารจะประทุษร้ายท่านอาจารย์ ทีแรกอาจารย์ไม่เชื่อ แต่เมื่อพวกที่สอง และพวกที่สามเข้าเช่นเดียวกัน ก็กลับใจเชื่อ แล้วอาจารย์จึงหาอุบายฆ่า โดยให้อหิงสกกุมารนั้นฆ่าคนพันคน เมื่ออหิงสกกุมารปฏิบัติตามคำสั่ง ก็จะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งต่อสู้ และฆ่าเขาจนได้ แล้วอาจารย์จึงยังย้ำว่า นี่คือศิลปะวิชาขั้นสุดท้าย เจ้าจะต้องฆ่าคนให้ได้พันคน เพื่อประกอบพิธีบูชาครูมิฉะนั้นวิชานั้นก็จะไม่มีผล

ทีแรกอหิงสกกุมารปฏิเสธ อ้างว่าเกิดในตระกูลที่ไม่เบียดเบียนใคร แต่อาจารย์บอกว่าศิลปศาสตร์ที่เรียนไปแล้วถ้ามิได้บูชาครูก็จะไม่อำนวยผลที่ต้องการ ด้วยนิสัยรักวิชา อหิงสกกุมารจึงยอมปฏิบัติตาม โดยอาศัยอยู่ที่หุบเขาแห่งหนึ่งคอยดักฆ่าคน เที่ยวปล้นหมู่บ้านและตำบลต่างๆ ฆ่าคนล้มตายเป็นจำนวนมาก




แรกๆ ก็ไม่ได้ตัดนิ้วคนที่ตนฆ่าเก็บเอาไว้ แต่เมื่อฆ่าคนมากก็จำไม่ได้ว่าฆ่าไปแล้วกี่คน เพื่อเป็นเครื่องนับจำนวนคนที่ตนฆ่า จึงตัดเอานิ้วมือคนที่ตายคนละหนึ่งนิ้ว มาเก็บไว้ แต่เก็บไปก็มีนิ้วที่เสียหายไปบ้างไม่ครบจำนวน จึงเปลี่ยนมาทำเป็นพวงมาลัยคล้องคอไว้ ฉะนั้นคนจึงเรียกชื่อท่านว่า องคุลิมาล

พราหมณ์ปุโรหิตและนางพราหมณีทราบเรื่อง คิดว่าโจรนั้นต้องเป็นอหิงสกกุมาร ลูกของเรา นางพราหมณีจึงออกเดินทางเพื่อไปบอกลูกบุตรชายให้หนีไปเสีย เวลานั้นองคุลิมาลได้นิ้วมือมาเพียง ๙๙๙ นิ้ว ยังขาดอยู่นิ้วเดียว จึงกระหายเป็นกำลัง ตั้งใจว่าถ้าพบใครก่อนก็จะฆ่าทันที จะได้ตัดผมโกนหนวดอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปเยี่ยมบิดามารดา

เมื่อพระพุทธเจ้าทรงตรวจดูสัตว์โลก เห็นว่าองคุลิมาลเป็นผู้มีอุปนิสัยพอที่จะโปรดให้บรรลุมรรคผลได้ และทรงพระดำริเห็นว่า ถ้าพระองค์มิได้เสด็จไปโปรด องคุลิมาลก็จะกระทำมาตุฆาต ฆ่ามารดาของตนเสีย จะเป็นผู้กระทำอนันตริยกรรม ไม่สามารถบรรลุธรรมใดๆ ได้ในชาตินี้ พระองค์จึงเสด็จมุ่งตรงไปยังป่าชาลิวันเป็นระยะทาง ๓๐ โยชน์ เพื่อสกัดองคุลิมาลไว้มิให้ทันได้ฆ่ามารดา

ครั้งนั้น พระพุทธเจ้าทรงบันดาลอิทธิฤทธิ์ ในลักษณะที่องคุลิมาลจะวิ่งจนสุดกำลัง ก็ไม่อาจตามทัน เมื่อเป็นเช่นนั้น องคุลิมาลคิดว่าน่าอัศจรรย์จริง เมื่อก่อนแม้ช้าง ม้ากำลังวิ่ง รถกำลังแล่น เราก็ยังวิ่งตามจับได้ คิดดังนี้แล้ว จึงหยุดยืนกล่าวว่า จงหยุดก่อนสมณะ พระพุทธเจ้าตรัสว่า เราหยุดแล้ว องคุลิมาล ท่านเล่าจงหยุดเถิด

องคุลิมาล คิดว่า สมณะรูปนี้ กำลังเดินอยู่แท้ ๆ กลับพูดว่า เราหยุดแล้ว คงจะต้องมีนัยอะไรสักอย่าง จึงถามต่อว่า... สมณะ ท่านกำลังเดินไป ยังกล่าวว่า เราหยุดแล้ว และยังกล่าวกับข้าพเจ้าผู้หยุดแล้ว ว่าไม่หยุด สมณะ ข้าพเจ้าขอถามท่านว่า ท่านหยุดแล้วเป็นอย่างไร ข้าพเจ้ายังไม่หยุด เป็นอย่างไร?

พระพุทธองค์ตอบว่า “องคุลิมาลเราได้หยุดคือเลิกฆ่าสัตว์ตัดชีวิตแล้ว ส่วนตัวเธอยังไม่หยุด คือยังฆ่าสัตว์ตัดชีวิตอยู่ เราจึงพูดเช่นนั้น” องคุลิมาลได้ฟังคำตอบ เกิดใจอ่อนทิ้งอาวุธ ทูลขอบวชในพระพุทธศาสนา พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้บวชเป็นภิกษุด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทา

การบวชเป็นภิกษุขององคุลิมาล ยังไม่มีผู้ใดทราบ หมู่มหาชนร้องทุกข์กับพระเจ้าปเสนทิโกศล ให้ยกกองทัพไปฆ่าองคุลิมาล ก่อนยกทัพไป พระเจ้าปเสนทิโกศลแวะเฝ้าพระพุทธเจ้า เพราะในใจมีความกลัวองคุลิมาล

ครั้งนี้ พระเจ้าปเสนทิโกศลจึงได้ทราบว่าองคุลิมาลได้บวชแล้ว และทรงสรรเสริญพระพุทธคุณที่ทรงสามารถปราบโจรร้ายได้โดยไม่ต้องใช้อาญาและศัสตราอาวุธใดๆ

หลังจากที่ท่านพระองคุลิมาลได้บวช ก็ได้รับความลำบากในเรื่องการบิณฑบาต แรกๆ ชาวบ้านเห็นท่านก็กลัว หนีเข้าป่า ปิดประตู กระทั่งวันหนึ่งมีหญิงคลอดลูกไม่ออก  พระพุทธเจ้าจึงให้พระองคุลิมาลเดินทางไปกระทำสัจจกิริยาให้หญิงนั้นคลอดโดยง่าย ว่า ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน ขอความสวัสดีจงมีแก่ครรภ์ของท่านเถิด ครั้นสิ้นคำสัจจกิริยานั้นทารกก็ออกจากครรภ์มาดาอย่างง่ายดาย ปลอดภัย ชาวบ้านจึงพากันเลื่อมใสในพระองคุลิมา ตั้งแต่นั่นมาปัญหาเรื่องภิกษาหารของพระเถระก็หมดไป

ต่อมาภิกษุองคุลิมาลก็หลีกออกจากคณะไปบำเพ็ญสมณธรรมอยู่ผู้เดียวไม่นานเท่าไรนักก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์




บันทึกการเข้า

supoj007
member
*

คะแนน286
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1555



อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2008, 12:33:31 PM »

ข้อคิดจากเรื่อง องคุลีมาล
1 คนหลงผิดที่เป็น มิจฉาทิฐิ โดยได้รับการ ยุยงจากอะไรก็แล้วแต่  ยังกลับมา เห็นถูก สัมมาทิฐิได้ และสามารถเป็นพระอรหันต์ได้ 
เรียกว่า มืดมาสว่างไป
2 คนหลายคนที่กำเนิดมาในสิ่งดีๆ ตระกูลดีๆ และมีอะไรดีๆมากกว่าใครๆ  แต่กลับหลงผิด เสพติดยา มั่วหลงอบายมุข เขาเรียกว่า สว่างมาแล้วมืดไป
 Cheesy Cheesy Cheesy
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!