อยากทราบวิธีถนอมการใช้งาน Battery notebook ให้ใช้งานได้นานๆครับ
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
เมษายน 30, 2024, 06:20:29 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อยากทราบวิธีถนอมการใช้งาน Battery notebook ให้ใช้งานได้นานๆครับ  (อ่าน 11265 ครั้ง)
suphaclo
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11


อีเมล์
« เมื่อ: มกราคม 17, 2008, 04:15:23 PM »

ผมใช้ notebook รุ่น Presario C700  ไม่ทราบว่าใช้อย่างไร บางคนบอกว่า ใช้ใกล้หมดแล้วค่อย Chage พอเต็มก็ถอดออก
ใช้งานต่อไป  บางคนก็บอกว่า Chage ไป ใช้ไป  ผมก็เลยเกิดความสับสนว่าควรใช้งานอย่างไรกันแน่
และไม่รู้ว่าเวลาที่เรา เสียบ Adapter นั้นมันได้ตัดวงจร การใช้Battery ออกรึไม่อย่างไรครับ
 Cheesy


บันทึกการเข้า

sss
member
*

คะแนน23
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 258



อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 18, 2008, 12:05:56 PM »

ลองดูบทความนี้
http://www.thaicyberpoint.com/ford/blog/id/175/

http://faq.torrentlive.net/index.php?action=artikel&cat=8&id=37&artlang=th
วิธีถนอมแบตเตอรี่ Notebook แบตเตอรี่ (Battery)โน้ตบุ๊ก มีกี่ประเภทนะ ??
สำหรับ Nirvana-IT-Training ฉบับนี้ ขอเสนอวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยถนอมพลังงานแบตเตอรี่ของโน้ตบุ๊คที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP ให้สามารถใช้งานได้นานขึ้น ไม่หมดเร็วเกินไป...
ถ้าพบว่า โน้ตบุ๊คที่รัน Windows XP ของคุณมีปัญหาใช้พลังงานแบตเตอรี่หมดค่อนข้างเร็ว (กรณีนี้แบตฯ ต้องไม่เก่า หรือเสื่อมสภาพแล้วนะครับ) ทำให้ต้องคอยรีชาร์จอยู่บ่อย เทคนิค 7 ข้อต่อไปนี้น่าจะช่วยคุณได้ ลองนำไปปฏิบัติดูนะครับ


1. ตรวจสอบแบตเตอรี่ที่ใช้ว่ายังคงสามารถชาร์จพลังงานได้เต็ม หรือไม่? ซึ่งขั้นตอนของการทดสอบโดยทั่วไปให้ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อน (ดูจาก Power Meter ใน Power Options) จากนั้นปิดโน้ตบุ๊ก ถอดแบตเตอรี่ออก เพื่อทดสอบว่า มันยังสามารถชาร์จประจุได้เต็ม หรือไม่? โดยมองหาปุ่มที่ใช้ทดสอบที่อยู่บนแบตเตอรี่ ซึ่งบางรุ่นก็จะมีส่วนแสดงผลเล็กๆ ให้สังเกตุได้ง่าย ทั้งนี้จะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแบตเตอรี่ของผู้ผลิตแต่ละเจ้า

2. ถ้าไม่จำเป็นต้องออนไลน์กับเครือข่ายใดๆ แนะนำให้ออฟไลน์จะดีกว่า (ยกเลิก (disable) การเชื่อมต่อกับเครือข่าย) การเชื่อมต่อเครือข่ายตลอดเวลาจะทำให้โน้ตบุ๊กต้องใช้พลังงานมากกว่าปกติ

3. ถอดอุปกรณ์ USB ออกจากพอร์ต เมื่อไม่ได้ใช้งาน

4. ยกเลิกโพรเซสแบคกราวด์ที่ไม่จำเป็นออกให้หมด อย่างเช่น Rnaap ซึ่งถูกโหลดตอนไดอัลอัพ และค้างอยู่ในหน่วยความจำ หรือ Msmsgs.exe กรณีที่คุณไม่ได้ใช้ Microsoft Messenger เป็นต้น แต่ห้ามยกเลิกโพรเซสของซอฟต์แวร์ไฟร์วอล หรือแอนตี้ไวรัส เพราะมันจะทำให้ระบบของคุณตกอยู่ในความเสี่ยง นอกจากนี้ยังห้ามลบโพรเซสที่สำคัญของ Windows XP ซึ่งได้แก่ Explorer.exe, LSASS.EXE, services.exe, System และ WINLOGON.EXE ส่วนวิธีกำจัดโพรเซสที่ไม่จำเป็นให้เรียกโปรแกรม Task Manager (กดปุ่ม Ctrl-Alt-Del) แล้วคลิกแท็บ Processes เลือกโพรเซสที่ต้องการลบออกจากหน่วยความจำ คลิกปุ่ม End Process

5. เปลี่ยน Screensaver เป็น “Blank Screen” เพราะมันไม่จำเป็นเลยที่คุณต้องเสียพลังงาน เพื่อแสดงภาพดอกไม้ไฟ, ตู้ปลา หรือข้อความเลื่อนลอย

6. ถึงคุณจะไม่สามารถยกเลิกโพรเซสการทำงานของซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส แต่ก็ไม่ควรกำหนดให้ซอฟต์แวร์สแกนระบบโดยสมบูรณ์ขณะที่ไม่ได้เสียบปลั๊ก เพราะมันจะทำให้พลังงานของแบตฯ หมดเร็วจนน่าใจหายเลยล่ะ (กรณีของการสแกนหาสปายแวร์ด้วย)


7. สำคัญที่สุดคือ เมื่อเวลาที่โน้ตบุ๊กไม่อยู่ในระหว่างการใช้งาน แนะนำให้ชัตดาวน์ระบบ หรืออาจจะเข้าโหมดแสตนด์บาย (standby) หรือไฮเบอร์เนต (hibernate) จะดีกว่าการเปิดเครื่องทิ้งไว้เฉยๆ

 

เชื่อว่า หากปฏิบัติตามเทคนิคง่ายๆ ทั้ง 7 ข้อนี้แล้ว คุณจะสามารถใช้พลังงานจากแบตเตอรี่บนโน้ตบุ๊กได้นานขึ้น ไม่ต้องชาร์จบ่อยเหมือนแต่ก่อน ลองไปทำดูนะครับ สำหรับวิธียืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ แนะนำให้ใช้พลังงานจากแบตเตอรีให้หมดทุกครั้ง แล้วจึงชาร์จใหม่จนเต็ม และเมื่อเต็มแล้วก็ควรใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แทนการเสียบปลั๊กต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ เพราะแบตฯจะเสื่อมเร็วครับ

แบตเตอรี่ (Battery)โน้ตบุ๊ก มีกี่ประเภทนะ ??

ข้อมูลจาก : www.atec.co.th



สำหรับโน้ตบุ๊กแล้วแบตเตอรี่คือหัวใจสำคัญ เพราะเป็น แหล่งจ่ายพลังงานเมื่อต้องพกพาโน้ตบุ๊กไปใช้งานในสถานที่ต่างๆ การเลือกซื้อโน้ตบุ๊กจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการพิจารณาในส่วน ของแบตเตอรี่อย่างรอบคอบ การเลือกซื้อนอกจากจะดูที่ชนิด ของแบตเตอรี่แล้ว แบตเตอรี่ของโน้ตบุ๊กต้องรองรับมาตรฐาน Smart Battery สำหรับโน้ตบุ๊กด้วย
นอกจากนี้การใช้งานแบตเตอรี่ของโน้ตบุ๊กให้มีอายุ การใช้งานที่ยาวนานก็มีส่วนสำคัญ เพราะผู้ใช้หลายๆ คนที่มี ปัญหาในส่วนนี้ บางครั้งซื้อโน้ตบุ๊กมาได้ประมาณ 6 เดือน แบตเตอรี่ก็มีปัญหาเสียแล้ว ที่เป็นเช่นนี้ปัญหาน่าจะมาจาก พฤติกรรมการใช้งานโน้ตบุ๊กของผู้ใช้ การใช้งานแบตเตอรี่ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานนั้น ในทุกๆ วันที่ใช้งานโน้ตบุ๊กควร ที่จะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ให้หมดไปก่อนอย่างน้อย 50% แล้วเสียบปลั๊กเพื่อชาร์ตไฟ เท่านี้ก็สามารถที่จะยืดอายุการใช้งาน ของแบตเตอรี่โน้ตบุ๊กให้ยาวนานขึ้น

แบตเตอรี่สำหรับโน้ตบุ๊กจะมีอยู่ 4 ประเภท คือ

1. Ni-Cad (Nickel Cadmium) เป็นแบตเตอรี่ที่มีราคาถูก ที่สุด แต่มีข้อเสียหลายอย่าง และเป็นเทคโนโลยีที่ใช้มานาน หลายปีแล้ว มีปัญหาในเรื่องของ Memory Effect ซึ่งก็คือ การลดลงของแรงดันไฟฟ้าแบตเตอรี่ชนิดนี้มักจะเกิดปัญหานี้ถ้า ไม่ได้ทำการคายประจุแบตเตอรี่ให้หมดก่อนการชาร์ตใหม่ (Charge) ในแต่ละครั้ง นอกจากนี้สารเคมีที่บรรจุไว้ในแบตเตอรี่ Ni-Cad ยังมีอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ยากแก่การกำจัดสาร Cadmium ที่เป็นของเสีย ในปัจจุบันนี้แบตเตอรี่ชนิดนี้ไม่มี การนำมาใช้กับโน้ตบุ๊กแล้ว
2. NiMH (Nickel Metal Hydride) เป็นแบตเตอรี่ที่เข้ามา แก้ปัญหาในแบตเตอรี่ชนิด Ni-Cad ไม่ว่า จะเป็นปัญหาใน เรื่องของ Memory Effect ซึ่งแบตเตอรี่ NiMH จะมีความไวต่อ Memory Effect น้อยมาก แต่ก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้อง ทำการคายประจุของแบตเตอรี่ให้หมดก่อนการชาร์ตบ้าง (อย่างน้อย 2 สัปดาห์ต่อครั้ง) นอกจากนี้สารเคมีที่บรรจุใน แบตเตอรี่ชนิดนี้ยังไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ง่ายต่อการ กำจัด แบตเตอรี่ชนิดนี้ยังมีให้พบเห็นในโน้ตบุ๊กรุ่นเก่าๆ ที่มีวางขายเป็นของมือสองในตลาด
3. Li-Ion (Litium Ion) เป็นแบตเตอรี่ที่มีความสามารถ ในการจุพลังงานได้อย่างดีเยี่ยม ในขนาดที่เล็ก และน้ำหนักเบา และยังไม่มีปัญหาใดๆ เหมือนแบตเตอรี่ชนิดที่ผ่านมา สามารถแก้ปัญหา Memory Effect ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ทำลาย สิ่งแวดล้อม โน้ตบุ๊กในตลาดปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่จะใช้แบตเตอรี่ ชนิดนี
4. Li-Po (Litium Polymer) แบตเตอรี่ชนิดนี้จะมีความ คล้ายกับ Li-Ion มาก แต่มีราคาแพงอยู่ จึงมีโน้ตบุ๊กจำนวนน้อย ที่ใช้แบตเตอรี่ชนิดนี้


บันทึกการเข้า
suphaclo
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 18, 2008, 03:31:14 PM »

ขอบคุณ มากครับท่าน SSS ที่ให้ความรู้
   แต่อยาดจะถามอีก สักคำถามครับ เพราะยังไม่เครียร์ เท่าไรนัก    หากเราใช้งาน แล้ว เสียบ Adapter ไปด้วย ไม่ทราบว่า
จะมีการตัดส่วนของการใช้ Battery ออก แล้วใช้ไฟจาก Adapter แทน รึเปล่าครับ
ถ้าหากเป็นเช่นนี้  เราก็เสียบ Adapter ไว้ตลอดเมื่อเราใช้งาน จะได้ไม่ต้องไปใช้ไฟจาก Battery
ทำให้ไม่ต้องไป Chage บ่อยๆ   
ไม่รู้ว่าเข้าใจถูกต้องรึเปล่านะครับ  สมาชิกผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยครับ
บันทึกการเข้า
harley
member
*

คะแนน19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 141

สังคมที่ดีเริ่มจากการให้


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 20, 2008, 08:28:44 AM »

เสียบตลอดได้ครับแต่ว่าต้องถอดแบตเตอรี่ออกครับ เพราะไม่งั้นแบตเตอรี่จะเสื่อมไว เพราะมีซอร์ฟแวร์คุมในการชารต์ไว้หนะครับในแบตเตอรี่ทุกรุ่นหนะคัรบ
บันทึกการเข้า
suphaclo
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11


อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 20, 2008, 12:03:58 PM »

ขอบคุณครับท่าน Harley ที่ให้คำแนะนำ

ถามอีกนิดครับว่า ระหว่างเสียบไว้ตลอด กับ Chage เต็มแล้วถอดออก  ใช้งานใกล้หมด แล้วchage ใหม่
คือผมเข้าใจว่า Battery มันจะมี Cycle time ของมันอยู่ครับ หากใช้งานหนักๆ แบตหมดบ่อยๆ แล้ว Chage บ่อยๆ  จะทำให้อายุการใช้งาน
สั้นลงอย่างรวดเร็ว  ใช่รึเปล่าครับ  ผมก็เลยตัดสินใจไม่ถูกว่า ควร เสียบ Adapter ไว้ตลอดการใช้งาน  รึว่า ควร Chage เต็มแล้ว ถอดออกใช้งาน  หมดแล้วค่อย
chage ใหม่ดีครับ 
คือแบบว่าได้ข้อมูลมาจากหลายแหล่งมากเลยสับสนไม่รู้ว่าจะทำแบบไหนดีครับ  ขอสมาชิกชี้แนะด้วยครับ
 Cheesy
บันทึกการเข้า
harley
member
*

คะแนน19
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 141

สังคมที่ดีเริ่มจากการให้


อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 20, 2008, 10:01:39 PM »

คือเรื่องแบตนี่นะครับ คือถ้าที่ที่มีที่ปลั๊กไฟก็ถอดแบตออกครับแล้วเสียบผ่านโดยตรงเลยครับ ที่บอกก็คือว่าถ้าเวลาไปข้างนอกที่ไม่มีปลั๊กไฟหรือแหล่งจ่ายไฟก็ให้ชาร์ตให้เต็ม ทางทีดีปิดเครื่องชาร์ตแบตหนะครับแล้วก็ไปคลายประจุครับให้หมดเลยแต่อย่าหมดเลยทีเดียวครับให้แค่แจ้งเตือนก็พอครับอย่าปล่อยให้หมดเลยนะครับแล้วชาร์ตใหม่จะเป็นการรักษาแบตเตอรี่ให้มีอายุยืนยาว สำหรับผู้ที่แบตเสื่อมแล้วลองวิธีนี้ดูครับปรกติอายุการใช้งานของแบตมือถือจะประมาณ 1 ปี นะครับ จากนั้น แบตก็จะค่อยๆ ลดประสิทธิภาพลงเรื่อยๆเพราะฉะนั้นใครที่เจอปัญหาแบบนี้ ผมจะบอกเคล็ดให้ครับ
วิธีการทำแบตเก่า ให้ใหม่ ขึ้น 80%
1. ให้นำแบตนั้น ห่อหนังสือพิมพ์ให้มิดชิดแล้วนำไปใส่ถุงพลาสติกอีกครั้งเพื่อกันความชื้น เข้าแบตฯ
2. จากนั้นนำไปแช่ในช่องแช่แข็งของตู้เย็น 3 วัน เต็ม จากนั้นเอาออกมาไว้ที่
 อุณหภูมิห้อง อีก 2 วันพอครบแล้วให้นำไปชาร์ตแบตจนเต็มอีกครั้ง  แบตของคุณก็จะมีสภาพใช้ได้ดีขึ้น ถึง 80% เลยทีเดียว
ขอโทษนะครับที่ต้องตอบสองกระทู้เหมือนกันเลยคัรบ อิอิ ก็ถามเหมือนกันคัรบ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!