ลมสุริยะและวัฏจักรแห่งดวงอาทิตย์
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
เมษายน 26, 2024, 10:32:51 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ลมสุริยะและวัฏจักรแห่งดวงอาทิตย์  (อ่าน 3091 ครั้ง)
BenQ
member
*

คะแนน214
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4790


อีเมล์
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2007, 10:27:04 AM »

หลายท่านอาจจะเคยได้ยินคำว่า ลมสุริยะ กันมาบ้าง บางท่านก็รู้จักสิ่งนี้ บางท่านก็ยังไม่เข้าใจนัก และเชื่อว่า ในช่วงที่ผ่านมาไม่นานมานี้ หลายคนคงได้ยินข่าวการเกิดลมสุริยะรุนแรงถึงขั้นเป็นพายุสุริยะ แรงที่สุดซึ่งจะเกิดขึ้นในปี 2000 พอดี

ปรากฏการณ์ลมสุริยะ แท้จริงเป็นพฤติกรรมทั่วไปของดวงอาทิตย์ และมีผลต่อโลกอยู่บ้าง เช่น ทำให้เกิดปรากฏการณ์แสงเหนือแสงใต้ที่ขั้วโลก หรือรบกวนการทำงานของดาวเทียม ถึงแม้จะดูเป็นเรื่องอัศจรรย์ที่การเกิดลมสุริยะรุนแรงครั้งต่อไปมาตกในช่วงเปลี่ยนสหัสวรรษพอดี แต่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับการล่มสลายของอารยธรรม การล่มสลายของโลกแต่อย่างใด แท้ที่จริงกลับเป็นสิ่งที่เราคาดการณ์ได้ และเหตุการณ์นี้ก็จะวนกลับมาเกิดอีกในทุก ๆ ประมาณ 11 ปี

เรื่องราวต่อไปนี้จึงเป็นเรื่องราวของเหตุการณ์ดังกล่าว เราจะพาคุณไปรู้จักกับ ลมสุริยะ หรือ solar wind ในขณะเดียวกันก็จะเผยให้ทราบว่า รอบการเกิดลมสุริยะทุก ๆ 11 ปีนั้นคืออะไร

ความเป็นมาของลมสุริยะ

ความคิดที่ว่า ดวงอาทิตย์น่าจะปลดปล่อยบางอย่างซึ่งเรียกชื่อกันก่อนว่า "ลม" นั้นมีมานาน ทั้งนี้โดยการสังเกตพฤติกรรมของดาวหาง นั่นคือ เราพบว่า หางของดาวหางจะชี้ออกจากดวงอาทิตย์เสมอ ไม่ว่าดาวหางจะเคลื่อนที่เข้าหาดวงอาทิตย์ หรือเคลื่อนที่ออกไปจากดวงอาทิตย์ก็ตาม ในตอนต้นทศวรรษที่ 1600 เคปเลอร์ได้คาดเดาว่า น่าจะมีความกดดันบางอย่างอยู่ในแสงจากดวงอาทิตย์ ทำให้ผลักหางของดาวหางหันออกไปเสมอ ขอสังเกตนี้เป็นจริงกับหางฝุ่นของดาวหางทุกดวง

ดาวหางเวสต์ จะเห็นหางฝุ่นสีขาว หางก๊าซสีฟ้า ทิศทางหางต่างกันเล็กน้อย

แต่หางของดาวหางยังมีอีกประเภทหนึ่ง เราเรียกว่า หางก๊าซ ซึ่งก็คือประจุไฟฟ้าที่พุ่งออกมาจากตัวดาวหางเอง โดยหางก๊าซนี้จะมีทิศทางต่างจากหางฝุ่นเล็กน้อย บางทีก็งอโค้ง และมักจะมีสีสัน โดยทั่วไปจะเป็นสีฟ้า และแรงดันจากแสงดวงอาทิตย์ไม่สามารถอธิบายปรากฏการณ์นี้ของหางก๊าซจากดาวหางได้ จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1943 (พ.ศ. 2486) คูโน ฮอฟไมส์เตอร์ จากเยอรมนี และ ลุดวิก เบียร์มันน์ ได้เสนอว่า นอกจากแรงดันในแสงอาทิตย์แล้ว ดวงอาทิตย์น่าจะปลดปล่อยกระแสอนุภาคบางอย่างออกมาด้วย ลำกระแสอนุภาคนี้เองที่คอยผลักหางก๊าซของดาวหาง โดยที่ลำอนุภาคนี้มีการผันแปรความเร็วอยู่เสมอ โดยมีความเร็วไม่มากไปกว่าความเร็วของตัวดาวหาง ทำให้หางก๊าซของดาวหางเฉไปในทิศทางที่ต่างจากหางฝุ่น รวมทั้งมีการแปรเปลี่ยนอยู่เสมอ

ไม่มีใครรู้ว่า กระแสอนุภาคนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ต่อมาในปี ค.ศ. 1958 (พ.ศ. 2501) ยูจีน พาร์กเกอร์ จากมหาวิทยาลัยชิคาโก ได้สร้างโครงสร้างภาวะสมดุลของบรรยากาศชั้นโคโรนาของดวงอาทิตย์ และเขาพบว่า การนำความร้อนในชั้นบรรยากาศได้ส่งผลให้ผิวนอกของบรรยากาศชั้นโคโรนานี้ ไหลออกไปในอวกาศด้วยความเร็วเทียบเท่ากับ ความเร็วของลำกระแสอนุภาคนั้น การไหลนี้ต่อมามีชื่อเรียกเป็นทางการว่า "solar wind" หรือที่เราเรียกกันในภาษาไทยว่า "ลมสุริยะ" นั่นเอง

ในปีถัดมา อุปกรณ์ดักจับอิออนบนยานอวกาศโซเวียตลูนิก 2 และ 3 ซึ่งจะคอยวัดประจุไฟฟ้าจากอิออนที่พุ่งเข้ามา ข้อมูลที่ได้พบว่า ปริมาณที่ตรวจวัดจะแกว่งไปตามการหมุนของยานอวกาศ และจะมีมากเมื่ออุปกรณ์นี้หันเข้าหาดวงอาทิตย์ นี่เป็นการค้นพบครั้งแรกที่ยืนยันทฤษฎีของพาร์กเกอร์ และในเวลาต่อมาก็มีการยืนยันอีกหลายครั้งโดยอาศัยอุปกรณ์จากยานอวกาศ โดยเฉพาะข้อมูลจากยานมาริเนอร์สอง ที่พบว่า ลมสุริยะมีทั้งความเร็วสูงและต่ำซ้ำกันเป็นช่วงประมาณ 27 วัน หมายความว่า แหล่งกำเนิดลมสุริยะนี้หมุนไปพร้อม ๆ กับการหมุนรอบตัวเองของดวงอาทิตย์นั่นเอง

http://members.tripod.com/~inScience/solar1.htm


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!