เล่นรถมอเตอร์ไซค์ “วิบาก” เริ่มไงดี?
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
เมษายน 19, 2024, 03:24:36 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เล่นรถมอเตอร์ไซค์ “วิบาก” เริ่มไงดี?  (อ่าน 621 ครั้ง)
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออนไลน์ ออนไลน์

กระทู้: 18648


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« เมื่อ: มกราคม 23, 2023, 11:51:42 AM »

https://www.pohchae.com/2023/01/23/start-motocross-bike
เล่นรถมอเตอร์ไซค์ “วิบาก” เริ่มไงดี?
#เล่นรถมอเตอร์ไซค์  #วิบาก  #เริ่มไงดี
---------------

วิบาก… ในที่นี้ผมขอหมายถึง Enduro ที่ออกไปขี่ท่องเที่ยงตามสถานที่จริง ตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นทางยาก ยากมาก หรือ โค ตะ ระ ยากกกกกกก
กระทู้นี้เหมาะสำหรับ นักขี่สายสมัครเล่น ที่อยากเปลี่ยนแนวจากทางเรียบมาลองวิบาก เล่าจากประสบการณ์ของผมเองครับ ผิดถูกก็เขียนมาจากมือใหม่ที่ประสบการณ์ไม่เยอะเท่าไหร่ครับ..

..เริ่มแรกเลย คือ เพื่อน ๆ ต้องมีความเสี้ยน อยากขี่ อยากลอง ทางวิบากก่อน คิดว่าเพื่อน ๆ คงมีข้อนี้แล้วถึงเข้ามาอ่านกระทู้นี้ แต่ถ้ายังไม่อยาก ลองอ่านกระทู้นี้เผื่อจะทำให้เพื่อนๆอยากได้ https://www.pantip.com/topic/35550135 ฮ่า ฮ่า..

เมื่อเรามีความอยากแล้วเราก็ต้องสนองโดยการ หาซื้อรถกันก่อนเลย สำหรับท่านที่ไม่ได้มีความรู้ชำนาญเรื่องรถมากนัก ผมแนะนำ KLX หรือ CRF 2ตัวนี้จบ ๆ ครับ เพราะเรียกว่ารถมาสภาพพร้อม “วิบาก” ไปประมาณ 70-80% เรียกว่าเข็นจากศูนย์ก็พร้อมเข้าป่า..

– แต่แนะนำว่าซื้อมือสองนะ เดี๋ยวบอกตอนท้ายครับว่าเพราะอะไร??
ส่วนบางท่านที่เห็นว่า Naked, Touring, Dual-propose,wave, Mio ,Fino  ที่ท่านมีอยู่แล้วก็น่าจะไปได้ อันนี้ผมบอกเลยว่า “แล้วแต่…” สนุกใครสนุกมันครับ แต่ส่วนตัวผมขอรถตรงรุ่นก่อนละกันนะครับ ผมยังไม่เทพพอสำหรับการใช้รถข้ามประเภท

….อันดับต่อมา ขอพูดเรื่องการเตรียมความพร้อมหลังจากได้รถมาแล้วววววว

ทางวิบากสำคัญที่หนึ่งเลย คือ ขี่เข้าไปแล้วต้องขี่ออกมาได้ เพราะทางวิบาก รถลาก,รถสไลด์ หรือ รถหวอ เข้าไปถึงไม่ได้สะดวก ฉะนั่นพึ่งจำไว้ว่าจะทำอะไรก็ให้คิดเสมอว่า ขี่เข้าไปแล้วต้องขี่ออกมาได้
แล้วทำไมจะขี่ออกมาไม่ได้หละ?? ส่วนใหญ่ก็เป็น 2 เรื่อง
1.เสียที่รถ อันนี้ยังดี เพราะหาอะไหล่ไปเปลี่ยนแล้วเราขี่ต่อได้
2.เสียที่คน อันนี้ปัญหาเยอะมากกก เพราะ ใครจะขี่รถเราออกมา เพราะต่างคนก็ต่างมีรถเข้าไปคนละคัน แล้วตัวคนอะจะเอาออกมายังไง ซ้อนมาก็ไม่ได้ รถพยาบาลเข้าถึงแค่ปากทาง รถ 4wd คงอีก 1-2 ชั่วโมงมาถึง

ฉะนั่นดีที่สุด คือท่องไว้ว่า “ขี่เข้าไปได้ต้องขี่ออกมาได้”

*******************************************

ขอเริ่มด้วยหัวข้อที่สอง คือ แต่งคน จริงๆ แต่งคน มันควรจะได้มาพร้อมรถ – อุปกรณ์ป้องกันตัว สำคัญมากกกกกก มีคนรู้จักหลายคนออกทริปแรกด้วยความไม่พร้อมทางเครื่องป้องกัน ทริปแรกทริปเดียวเจ็บไปปีครึ่ง ถ้าคุณเคยขี่ทางเรียบคุณอาจจะไม่เคยล้มเลยได้

แต่วิบากยังไงไม่ช้าก็เร็วก็ต้องล้ม ย้ำยังไงก็ต้องล้ม ย้ำอีกทีว่ายังไงก็ต้องล้ม

อาจจะแจ็กพ็อตทริปแรกเลยก็เป็นได้  แต่ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ถ้าเครื่องป้องกันครบๆ วิบากล้มยังไงก็ไม่ถีงตาย ส่วนใหญ่ เขียวๆ ช่ำ ๆ แค่นั่น ย้ำอีกทีว่าถ้าเครื่องป้องกันครบล้มบ่อยแค่ไหนส่วนใหญ่แค่เขียวช้ำ

อย่าลืมว่าคนเราไม่ไช่ Ironman แค่เล่นบาสโดดลงผิดท่า,วิ่งแล้วลื่น เข่ายังเอ็นฉีก,ข้อเท้ายังแพลงได้ นับภาษาอะไรกับล้มแล้วโดนแรง..cc กระชากไปข้างหน้าหละ เวลาเขียนกระทู้แนวนี้ มักมีคนบอกว่า ผมใส่ผ้าใบขี่ ชาวบ้านใช้รองเท้าแตะมาเป็น 10 ปี ไม่เห็นเป็นไร อันนี้บอกเลยว่า “แล้วแต่..” ผมเล่าจากประสบการณ์ที่เจอ ถ้าคุณยังไม่เจอก็ไม่เป็นไรครับ

ต้องมีอะไรบ้าง ต่างจากทางเรียบยังไง และ ราคาเท่าไหร่
ข้อคิดเล็กน้อย วิบากขี่แล้วเหนื่อยมาก+ร้อนมาก และเปื้อนฝุ่นตลอด ของที่เน้นความสวยงามอย่าพึ่งไปลงทุนเยอะ เช่น พวกเสื้อกางเกงสีเจ็บ ๆ ยี่ห้อดังๆ ที่ตัวหลายพันบาท ควรซื้อหลัง ๆ หลังจากเงินเหลือจากของตาม list ข้างล่างครับ ผมเริ่มขี่วิบาก เอาเงินไปเสื้อกางเกงก่อน เน้นสีเจ็บ ๆ สวย ๆ แต่ดันไม่รู้ว่าเสื้อผ้าพวกนี้มันไม่ได้มีการ์ดอะไรป้องกันเราได้เลย ปัจจุบันไอ้เสื้อผ้าหลายพันบาทนั่นผมไม่เคยได้ใช้เลย..

1.การ์ดเข่า (อย่าคิดใช้กางเกงการ์ดของทางเรียบ ออกแบบมาต่างกัน) สำหรับผมผมว่าสำคัญสุด..

เพราะทุกครั้งที่ผมล้มทางวิบาก เข้าเข่าตลอด ..

ถึงจะล้มเบาๆๆๆแต่ถ้าหินกระแทกลูกสะบ่าหัวเข่านั่นเป็นอะไรที่เจ็บมากกกก ราคาของจีนก็ 1000 บาทใช้งานได้แต่ไม่ทน ของมียี่ห้อ 3000 บาท (leatt, Thor) มีแบบ ไฮโซ กว่านี้แต่ไม่ขอพูดถึง

2.รองเท้า (ผ้าใบ, บู๊ตทางเรียบ,รองเท้า Combat ใช้พวกนี้คุณอาจได้ไม่คุ้มเสีย) ตู่แรกผมซื้อ Forma 5000 บาท แต่ผมได้กำไรจากมันไปประมาณ 30000 บาท เพราะ มันช่วยข้อเท้าเกิน 10 ครั้ง และ 3ใน10 ครั้งนั่นมั่นใจว่าถ้าไม่มีรองเท้าข้อเท้าหัก,เอ็นข้อฉีกแน่นอน ของแพงก็ 20000บาท ป้องกันได้ไม่ต่างกัน แต่ที่ต่างกันมากคือความใส่สบายครับ

3.ถุงมือ ใส่อะไรก็ได้ ขอให้ใส่ เพราะ จะได้ไม่โดนหินตำมือเวลาล้มแปะ ควรเลือกเป็นผ้าๆ อย่าเอาหนังนะ วิบากมันร้อนมากๆ และเปียกฝนบ่อย

4.การ์ดศอก ปกติผมล้มศอกผมไม่ค่อยลง แต่เนื่องจากมันเป็นของราคาไม่แพง ของระดับดีๆพวก FOX ยังแค่ 800-1000 บาท ผมว่าซื้อมาใส่ ๆ ไปเถอะครับคุ้ม

 5.เกราะอก ส่วนใหญ่วิบากล้มมักจะเอาด้านหน้าลง พวกเสื้อ Jacket ทางเรียบปกติไม่ค่อยมีกันที่หน้าอก (ถึงมีก็เล็กกระจิด) ผมแนะนำเป็นเกราะแบบสวมทับ เพราะขี่วิบากมันร้อนและเหนื่อยมากก สวมทับเวลาพักถอดออกง่าย ราคายี่ห้อดี ๆ เลยก็ 3000 บาท (FOX, leatt )

     6.หมวก ใช้หมวกเต็มใบแบบสายทางเรียบก็ได้ หรือ จะหมวกวิบาก+แว่นgoggle ก็ได้ แค่ควรเป็นหมวกรุ่นปิดคาง *ย้ำอีกครั้งว่าควรเป็นรุ่นปิดคาง เพราะ วิบากล้มมักจะล้มหน้าทิ่ม ต่างจากทางเรียบที่ล้มมักจะเป็นซี่ข้างกับหลังลง ..

หมวกวิบากนอกจากหน้ายาวทำให้หายใจสะดวกขึ้นแล้วข้อดี คือ เบาแล้วไม่ร้อน ลองยกหมวกวิบากรุ่นไหนก็ได้ตัวถูกๆก็ได้ จะรู้สึกเลยว่ามันเบากว่าหมวกเต็มใบแบบอื่น ต่อให้หมวกเต็มใบตัวท็อป ๆ หมวกวิบากตัวถูกก็ยังเบากว่า และข้อดีอีกอย่างคือ ตอนขี่ก้มหน้าแล้วปีกหมวกช่วยกันกิ่งไม้ กันแดดได้ด้วย

ไม่ต้องเลือกของแพงมาก เพราะปกติวิบากล้มไม่เร็วเหมือนทางเรียบ ราคาประมาณ 4000 ก็เอาอยู่ ถ้ากะซื้อของแพงเพราะลายสวย ถ้าทำใจได้ว่ามันจะเป็นรอยตั้งแต่ในทริปแรก ไม่ว่าจะมาจากกิ่งไผ่ขูด เหนื่อยจนตอนถอดแทบจะโยนลงพื้น หรือฝุ่นที่เข้าไปอัดแน่นเต็มฟองน้ำแก้ม ถ้าทำใจได้ก็จัดไปครับ

โดยส่วนตัวผมว่า item 1-3 สำคัญสุด และคนเริ่มขี่มักจะมองข้ามมากทีสุด (จริงหมวกสำคัญสุดแต่ที่ผมให้เป็นข้อ 6 เพราะผมหมายถึงหมวกทรงวิบาก คืออะไรก็ได้ขอให้ใส่ ถ้าได้หมวกวิบากด้วยก็ใส่สบายขึ้นประมาณนั่นครับ)

หลัก ๆ แต่งคน ก็แค่นี้หละครับ หลายท่านอาจเถียงว่า ชาวบ้านขี่เวฟไม่เห็นต้องใส่ ก็อย่างที่บอกนะครับอันนี้ก็ “แล้วแต่..”


หาเพื่อนจากไหน??
1.ตาม FB เลยครับ มีกลุ่มขี่วิบากเยอะแยะครับ ทักเข้าไป ขอไปขี่ด้วยสักทริป คราวนี้ท่านอาจมีทริปวิบากให้ขี่ทุกอาทิตย์ครับ
2.ไปเข้ากิจกรรม เช่น Kawasaki นี่มีจัดขี่วิบากเรื่อยๆ Honda ก็มี Dirtcamp ลองไปสักครั้ง เดี่ยวก็เจอเพื่อนๆในนั่นไปขี่ด้วยกัน
3.หรือไม่ก็ชวนเพื่อนแก๊งทีขี่ทางเรียบด้วยกันนี่แหละครับ
เพื่อนๆในกลุ่มวิบากที่ผมพบเจอนิสัยน่ารักทุกคนครับ พอเราได้รู้จัก 1 คน วิถีทางวิบากก็จะนำไปให้เรารู้จักอีกคน และไปรู้จักอีกคน ค่อนข้างต่างกับทางเรียบเพราะแนวนั่นขี่ใครขี่มัน อันนี้มันต้องมีช่วยเหลือกันระหว่างทาง ดูแลกันระหว่างทาง

สถานที่…
วิบาก Enduro มีหลายระดับความยากง่าย ผมขอตั้ง LV ตามตัวผมเองนะ อย่าเอาไปเป็นบรรทัดฐานอะไรที่ไหนนะครับ
LV1: ทางชาวบ้านสัญจรทั่วไป ทางเข้าอุทยาน  ทางประเภทนี้ก็ประมาณ ทางกรวดอัด ลูกรัง ที่รถกะบะทั่วไปยังพอเข้าไปได้ อันนี้ผมขอไม่พูดถึงนะครับ

LV2: เอาเป็นประมาณทางที่ต้องใช้ 4WD เข้าไป ถ้าใครใช้รถวิบากตรงสาย เริ่มต้นด้วยทาง LV นี้ถึอว่าเป็นทางขี่สนุก ได้ใช้ทักษะ ขี่ไม่เครียดไม่เหนื่อยมาก ทริปแรกก็สามารถเคลียร์ stage ได้แบบใส ๆ คือ ถึงยอด ถึงที่หมายสบายจุย เช่น
-เขากระโจม ราชบุรี
-เขาปลาน้อย กาญจนบุรี
-เหมืองสมศักดิ์ กาญจนบุรี
-ผาตัด เพชรบูรณ์
-สอยมาลัย ตาก
และอื่น ๆ อีกมากมาย
ปล*หน้าฝนอาจมีการเปลี่ยน LV ได้โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า อิ อิ*

LV3 : จัดว่า 4WD ยังคิดหนักถ้าจะเข้าไป ดีๆไม่ดีอาจเข้าไม่ได้ ส่วนใหญ่เส้นทาง LV3 นี่จะเป็นเส้นทางที่คนเลิกใช้สัญจรแล้ว คือ เรียกว่าไม่มีใครผ่าน ไม่ผ่านบ้านชาวบ้านเลย ฉะนั่นไปขี่ต้องเตรียมตัวให้ดึ ๆ
-หุบพริก ราชบุรี
-บ่อหวี ราชบุรี
-หนองหญ้าปล้อง เพชรบุรี
-นาอีเปย ตาก
และอื่น ๆ อีกมากมายยย

ส่วนตัวแนะนำว่า สำหรับคนที่ลงทุนซื้อรถวิบาก พวก KLX CRF มาโดยการนี้ แนะนำว่าทริปแรกให้ไป LV2 ครับ กำลังสนุก เคลียร์ stage ได้แน่นอน ขี่จบมีรอยยิ้มกลับบ้าน รถเดิมๆ สภาพเดิมๆ ออกศูนย์มาขี่จบทริป LV2 ได้โดยไม่ต้องแต่งไม่โมดิฟายอะไรครับ

แต่ถ้าจะไป LV3 รถเดิมๆอาจไม่พอมือ ทักษะต้องมีระดับนึง ร่างกายต้องพร้อมมาก นอนให้พอ หมั่นออกกำลังกาย และควรไปกับคนที่มีประสบการณ์ครับ เพราะทางพวกนี้มันเหนื่อยมาก ทุกคนพร้อมช่วยเราแต่ทุกคนก็เหนื่อยเหมือนกัน ฉะนั่นต้องทำตัวเองและรถให้อยู่ในสภาพพร้อมที่สุด จะได้ลดการเป็นภาระของกันและกัน ในกลุ่มครับ
.
.
.
***ฝากไว้นิดจากพี่ๆผู้ใหญ่รุ่นเก๋าๆในวงการ “เวลาพวกเราไปขี่ LV3 กันส่วนใหญ่จะเป็นป่าจริงจังไม่ได้ผ่านบ้านชาวบ้าน แต่ระหว่างทางเข้ากับทางออก ถ้าเราผ่านบ้านชาวบ้าน ขอให้ขี่กันเบาๆ เคารพเจ้าของสถานที่ด้วย”***

พอแต่งคนพร้อม มีเพื่อนแล้ว เลือกสถานที่ได้แล้ว คราวนี้มาถึงแต่งรถ กันบ้าง

อย่างที่ผมบอกว่า “ขี่เข้าไปได้แล้วต้องขี่ออกมาได้” ฉะนั่นการแต่งรถที่สำคัญ คือ แต่งเพื่อให้”ขี่เข้าไปได้”และ “ต้องขี่ออกมาได้” เรื่องความสวยงาม ผมเอาไว้หลัง ๆ ๆ หลังจากที่เงินเหลือแล้ว ฉะนั่น ไอ้พวกน็อตสี ลายสติกเกอร์ ไฟเลี้ยว กระจกแต่ง ไฟท้าย บลา ๆ ขอให้จัดหลัง ๆ ครับ ถ้าเงินเหลือค่อยวนมาครับ

(อันนี้เรียงตามรู้สึกส่วนตัว) ถ้าทริปแรกท่านเริ่มจาก LV2 เรื่องความแรงรถยังไม่ค่อยจำเป็นครับเพราะรถเดิม ๆ ไปได้ไม่ยากนัก ฉะนั่นพวก สเตอร์ ท่อ ยาง อัพลูกอัพCC สปริงคลัช เปลี่ยนกล่อง อะไรพวกนี้ยังไม่ต้องลงทุน เก็บเงินไว้ทำทีหลังครับ
V
V
V

ของแต่งกลุ่มแรกที่ควรลงทุน อย่าเน้นสวยเน้นฟังชั่นครับ ของแต่งกลุ่มแรกที่แนะนำทั้งหมดเน้นภายใต้ concept ที่ว่า “ต้องขี่ออกมาได้”

1.คันเกียร์ คันเบรคเท้า แบบพับได้ ถ้า KLX รู้สึกของติดรถพับได้ ของCRFแนะนำให้ซื้อของKLXมาเปลี่ยนแทนครับใส่กันได้ ล้มปุ๊บงอปั๊บ คำว่างอนี้คือม้วนเป็นเลข ๑ ไทยเลยครับ เปลี่ยนเกียร์ไม่ได้ก็ไปต่อไม่ได้นะครับ ราคาเบิกศูนย์ Kawa ประมาณ 350 บาท ส่วนคันเบรคประมาณ 800 บาท เอาเป็นงานเหล็กทื้อๆนี่แหละครับ อย่าไปเอาพวกอลูมิเนียมสวย ๆ ล้มครั้งเดียวสีถลอกเบี้ยวก็ไม่สวยแล้วหละครับ
2.การ์ดแฮนด์ครับ เช่น ของ zeta แท้ประมาณ 2000 บาท จริง ๆ หลักๆของมันไม่ได้เอาไว้กันมือเราอย่างเดียวนะครับ แต่มันเอาไว้ป้องกันมือเบรคมือคลัชตอนล้มไม่ให้หักคาป่า บางคนอาจคิดว่ามือเบรคมือคลัชเบิกศูนย์ แค่ไม่กี่ร้อย ทำไมต้องลงทุน 2000  อย่างที่บอกครับ คือ เน้นขี่ออกมาได้ ณ เวลาที่คุณอยู่ในป่าคุณเบิกอะไหล่ศูนย์ไม่ได้นะครับ บอกเลยว่าไอ้ 2000 นี่คัมค่ามากกกก โคตรทนอันนี้อันเดียวใช้จนรถพัง ทนเชี่ย ๆ ครับ
3.ตะแกรงหลัง เอาไว้ผูกสัมภาระครับ ประมาณ 900-1000 บาท จะผูกกับเบาะก็ได้แต่อาจจะไม่สะดวกนัก itemนี่แล้วแต่ครับ ไม่มีก็ขี่ออกจากป่าได้ ฮ่า ฮ่า

แต่เมื่อเราจะไปสู่ LV3 ของแค่ LV2 อาจไม่พอ คราวนี้ต้องเริ่มแต่งรถไม่ได้เล็งแค่ขี่ออกมาได้ แต่ต้องเพื่อให้ขี่เข้าไปถึงได้ด้วย มาต่อกันที่ข้อ4

4.สเตอร์ ครับ ควรเป็น 48 ฟัน++ ถ้าเข้า LV3 แล้วไม่เปลี่ยนเห็นผลเลยครับ เนินไม่ชันเท่าไหร่เพื่อนปีนได้เราปีนไม่ขึ้น สเตอร์เหล็กไม่กี่บาท ไม่ต้องเอาอลูมิเนียมก็ได้ครับแพงและหมดไว แต่เวลาเปลี่ยนมันต้องเปลี่ยนพร้อมโซ่ ตีว่า 3000 บาท (แพงที่โซ่)
5.ยาง ครับ ยางเดิมติดรถเป็นยางกึ่ง แนะนำว่ายางบังจะดีกว่า  IRC คู่นึง ประมาณ 3500
6.แฮนด์ดีแท้ ๆ สักอัน เมื่อทางเริ่มยาก เราเริ่มล้มบ่อย และล้มแรงขึ้น แฮนด์เดิมโดนที2ที เบี้ยวเลยครับ โดยเฉพาะCRFแฮนด์เดิมไม่ทนเลย จัดไป Renthal 2200 บาท อีก item ที่คุ้มค่าลงทุน ตีลังกายังไม่เบี้ยว
7.กันแคร้งด้านล่าง ลุย LV3 ลายหิน รับรองได้ใช้แน่นอน ของผมเปลี่ยนกันแคร้งอันใหม่ๆมาไปลุย หุบพริกรอบเดียว เบี้ยวยับ งอไปตามตัวรถเลย ถ้าไม่มีเฟรมแตก เครืองร้าวแน่นอน ได้กินข้าวกับลิงกางป่าแน่นอน งานไทยคุณภาพดี ๆ 1800-1900 บาท
8.ตัวล็อคยาง ปกติยางนอกกับล้อจับอยู่ด้วยกันเพราะแรงลมของยางในถ่างมันไว้ แต่เมื่อยางรั่วล้อกับยางนอกก็เรียกว่าแยกกันอยู่อิสระ ตัวล็อคยางใส่ไว้นะกะทะล้อ มันจะหนีบให้ยางนอกติดกับกะทะล้อไม่เคลื่อนไปไหน สำคัญมากเวลาเข้าป่าแล้วยางรั่ว ถ้าไม่มีไอ้ตัวนี้เวลาเราปั่นเนินในขณะยางรั่วตัวล้อกับตัวยางมันจะไม่ไปด้วยกัน คือ ล้อหมุนตามแรงเครื่องแต่ยางอยู่กับที่ ถ้าก้มดูล้อ KLX CRF เดิมๆเลย จะเห็นว่ามีรูอยู่อีกฝั่งตรงข้ามจุกลมยาง ไอ้รูนั่นหละครับที่เอาไว้ใส่ตัวล็อคยาง ตัวล็อคยางราคาล้อละประมาณ 500 บาท
.
.
เห็นมั้ยครับว่าผมไม่มี ท่อ,ไม่มีอัพ CC, ไม่มีเปลี่ยนโช้ค ใน list ด้านบนเลย ของที่ให้มาใน crf klx เดิมๆ ถือว่าพอใช้งาน รถผมแต่งตาม list 8 ข้อข้างบนแค่นั่นก็เคลียร์ LV3 ได้ ถึงจะกระดึบกระดึบไป  แต่ก็เคียร์ได้ ฉะนั่นถ้าคุณถ้าแต่งตาม 8 ข้อแล้วเคลียร์ LV3 ไม่ได้ ท่อกับ CC อาจไม่ใช่คำตอบครับ  แสดงว่าเป็นเพราะทักษะคุณไม่ดีพอครับ  เพราะ พวกท่อ อัพcc เปลี่ยนกล่อง อัพความแรงรถต่างๆ มันเหมาะกับคนมือตึงๆที่ เคลียร์ LV3 ได้แล้ว แต่อยากไปได้เร็วขึ้นกว่าเดิม

** แต่ผมไม่ได้ หมายความว่าห้ามเปลี่ยนท่อ ห้ามอัพcc นะ เงินใครไม่ใช่ปัญหาก็ทำเลยครับ แต่ผมอยากให้ทำ 8  ข้อนี่ก่อน เงินเหลือค่อยทำเรื่องความแรงครับ เพราะ 8 ข้อ นี้จำเป็นช่วยให้ clear stage ได้มากกว่าครับ

ที่ผมแนะนำให้ซื้อมือสอง ก็เพราะว่า จะเห็นว่า ใน list 8 อย่างที่เขียนไว้ มีหลายอย่างที่ต้องถอดของเก่าทิ้งแล้วเปลี่ยนอันใหม่แทน ถ้าจะซื้อมือหนึ่งมาเอี่ยมแล้วถอดเปลี่ยนก็เสียดาย สู้เราซื้อมือสอง(แถมมือสองบางคันใส่ของแต่ง1/8 อย่างนี้มาให้แล้วด้วย) แล้วเอาเงินส่วนต่างตรงนั่นมาแต่งให้พร้อมลุยดีกว่าครับ และอีกอย่างลุยทริปเดียวรถใหม่ ๆ ก็เละแล้ว เสียดายครับ


ฝากเพิ่มไว้อีกอย่างเกี่ยวกับของที่ควรพกติดตัวเวลาไปออกทริป โดยเฉพาะ LV3
–.น้ำและของกิน เพราะเราไม่รู้ว่าจะติดอยู่ข้างในนานแค่ไหนควรพกไว้ แถวนั่นไม่ 7-11 แน่แน่ น้ำในป่าเป็นของล้ำค่า ทุกคนควรพกพาเข้าไปครับ บางทีขอเพื่อนก็ต้องเกรงใจเขาด้วย เพราะ เขาก็พกมาแค่พอทาน
–.อุปกรณ์ซ่อมเล็กๆ น้อยๆ เช่น หกเหลี่ยน ปะแจเลื่อน เทปกาว เคเบิ้ลไท อันนี้แบ่ง ๆ กันพกก็ได้
–.ยางใน+สูบลมพกพาของจักรยาน+เหล็กงัดยาง อาจจะแบ่งกันพกหรือฝากไว้ที่ใครสักคนในกลุ่ม
–.ตัวต่อโซ่ เป็นอะไหล่ชิ้นเล็กเท่าข้อนิ้วชี้ แนะนำว่าโยนทิ้งไว้ในถุงเครื่องมือเลยครับ มีไว้ไม่ช้าก็เร็วได้ใช้แน่นอน ขี่ Enduro โอกาศโซ่ขาดมีแน่นอน ถึงจะไม่บ่อยแต่ถ้าขาดทีไปไหนไม่ได้เลย ยางรั่วยังพอบดไปได้ แต่โซ่ขาดนอนตายอย่างเดียว พกไว้ครับคุ้มค่าตัวไม่กี่ร้อยบาทเอง ปล.ซื้อให้ตรง size โซ่เรานะ ปกติก็ ไซล์520[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
–.มีดพับเล็กเอาไว้ตัดเฉือนนี่นู่น
–.เชือกยาวววว สัก 10-15 เมตร ทั้งกลุ่มพกสักเส้นก็พอ เอาไว้ลากรถเวลาติดเนิน ช่วยประหยัดแรงกว่าไปดึงจากตัวรถโดยตรงเยอะมากกกกก
–.ควรใช้พวกกระเป๋ากันน้ำ100% เพราะอาจมีฝนตกหรือต้องมีการลุยน้ำได้ตลอดเวลา อันนี้ควรมีติดตัว หรือพกถุงแกงกับยางรัดก็พอไหว
–.กล้อง Action เอาไว้ถ่ายเก็บความมันส์ของแต่ละทริป สำคัญนะ คริ คริ
.
.

จบหละครับ
*ขอขอบคุณรูป และไอเดียกระทู้ จาก Indy Cafe’ และ รูปของเพื่อนๆในกลุ่ม กูอินดี้ (ไม่เข้าใจกูหรอก) มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!