มะพร้าวกับคุณค่าทางโภชนาการ
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
เมษายน 18, 2024, 05:06:25 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มะพร้าวกับคุณค่าทางโภชนาการ  (อ่าน 711 ครั้ง)
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออนไลน์ ออนไลน์

กระทู้: 18646


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« เมื่อ: ตุลาคม 30, 2022, 11:06:56 AM »

https://www.pohchae.com/2022/10/30/coconuts-very-nutritious/

มะพร้าวกับคุณค่าทางโภชนาการ
#มะพร้าว  #คุณค่าทางโภชนาการ   #coconut
--------------


ข้อมูลจากกรมอนามัย ระบุว่า เนื้อมะพร้าวอ่อน 1 ลูก มีน้ำหนักส่วนที่กินได้ 123 กรัม มีคุณค่าทางโภชนาการอาหาร ดังนี้..

          – พลังงาน 51 กิโลแคลอรี

          – น้ำ 90 กรัม

          – น้ำตาล 3 กรัม

          – โปรตีน 1.4 กรัม

          – ไขมัน 3.0 กรัม

          – คาร์โบไฮเดรต 4.6 กรัม

          – ใยอาหาร 1.6 กรัม

          – เถ้า 0.9 กรัม

          – วิตามินซี 5 มิลลิกรัม

          – โซเดียม 13 มิลลิกรัม

          – โพแทสเซียม 381 มิลลิกรัม

          – แมกนีเซียม 40 มิลลิกรัม

          – แคลเซียม 6 มิลลิกรัม

          – ฟอสฟอรัส 48 มิลลิกรัม

          – เหล็ก 0.55 มิลลิกรัม

          – สังกะสี 0.25 มิลลิกรัม

          – ไอโอดีน 2.6 ไมโครกรัม




ส่วนน้ำมะพร้าวอ่อน 1 ลูก มีน้ำหนักส่วนที่กินได้ 259 กรัม มีคุณค่าทางโภชนาการอาหาร ดังนี้..

– พลังงาน 23 กิโลแคลอรี

          – น้ำ 94 กรัม

          – น้ำตาล 7 กรัม

          – ไขมัน 0.1 กรัม

          – คาร์โบไฮเดรต 5.5 กรัม

          – เถ้า 0.4 กรัม

          – วิตามินซี 1 มิลลิกรัม

          – โซเดียม 11 มิลลิกรัม

          – โพแทสเซียม 330 มิลลิกรัม

          – แมกนีเซียม 7 มิลลิกรัม

          – แคลเซียม 11 มิลลิกรัม

          – เหล็ก 0.32 มิลลิกรัม

          – ไอโอดีน 1.9 ไมโครกรัม

มะพร้าวอ่อน ประโยชน์ที่ไม่ธรรมดา

1. ดับกระหาย คลายร้อน

2. เป็นเกลือแร่จากธรรมชาติ
รู้ไหมว่าเราสามารถดื่มน้ำมะพร้าวแทนเครื่องดื่มเกลือแร่หลังจากออกกำลังกายหรือท้องเสียได้ด้วย เพราะในน้ำมะพร้าวมีโพแทสเซียม โซเดียม แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามิน ซึ่งเป็นสารอาหารชนิดเดียวกับในเครื่องดื่มเกลือแร่ แต่เด็ดกว่าตรงที่เป็นเกลือแร่ที่มาจากธรรมชาติ จึงช่วยบรรเทาอาการเหนื่อยล้าอ่อนเพลีย และลดอาการขาดน้ำได้ดีทีเดียว

3. เพิ่มน้ำในคนที่มีภาวะขาดน้ำ
ในมะพร้าวอ่อนมีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่สูงมาก ซึ่งทุกคนก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้ว ว่าน้ำเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิตของเราแค่ไหน ฉะนั้นหากรู้สึกขาดน้ำ เราขอแนะนำมะพร้าวอ่อนทั้งน้ำและเนื้อ ให้เป็นอีกทางเลือกช่วยเพิ่มน้ำแก่ร่างกาย

4. ช่วยให้กระเพาะปัสสาวะทำงานดีขึ้น

การดื่มน้ำมะพร้าวจะช่วยกระตุ้นการขับถ่ายปัสสาวะให้เป็นไปอย่างปกติ ซึ่งก็จะช่วยให้กระเพาะปัสสาวะของเราได้ขับสารพิษและแบคทีเรียที่อาจตกค้างอยู่ออกมาอย่างเต็มที่ ส่งผลให้กระเพาะปัสสาวะทำงานได้ดีขึ้น และลดความเสี่ยงโรคต่าง ๆ ในระบบขับถ่ายปัสสาวะลงได้

5. บำรุงผิว ชะลอริ้วรอย

ช่วยให้ผิวพรรณของเราสดใส ไม่แห้งกร้าน ..น้ำมะพร้าวเป็นแหล่งของสารอาหารมากมาย ทั้งโพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม รวมทั้งวิตามินซี ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ช่วยสมานแผล และช่วยให้ผิวกระชับเต่งตึง

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยในห้องทดลองที่พบว่า น้ำมะพร้าวอ่อนมีกลุ่มฮอร์โมนพืช “ไคเนติน” (kinetin) และสารประกอบทรานส์ซีติน (trans-zeatin) ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยชะลอความแก่ในเซลล์ผิวหนังของคน ปัจจุบันจึงมีการนำไคเนตินมาเป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอาง เพื่อใช้ทาผิวหนังที่ถูกทำลายด้วยแสงแดด

6. บำรุงกระดูก

แม้ปริมาณแคลเซียมในมะพร้าวอ่อนจะไม่ได้สูงมาก แต่มะพร้าวอ่อนมีไขมันอิ่มตัวที่มีคุณสมบัติละลายน้ำดี (MCT) ซึ่งมีหน้าที่ช่วยดูดซึมแคลเซียมให้เข้าสู่กระดูกได้อย่างเต็มที่ ทำให้กระดูกของเราแข็งแรงขึ้นได้.. ขณะเดียวกันก็มีงานวิจัยทดลองให้หนูเพศผู้กินน้ำมะพร้าวอ่อน ก่อนที่จะพบว่าน้ำมะพร้าวอ่อนมีผลต่อการเพิ่มความหนาของกระดูกอ่อนและกระดูกฟองน้ำของขากรรไกรล่าง ดังนั้นจึงกำลังทำการศึกษาต่อไปว่าน้ำมะพร้าวอ่อนน่าจะมีประโยชน์ในการชะลอภาวะกระดูกพรุนในชายวัยหมดฮอร์โมน

7. ปรับฮอร์โมนในร่างกายของผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน

การกินมะพร้าวช่วยปรับฮอร์โมนของสตรีวัยหมดประจำเดือน และชายวัยทองให้ดีขึ้นได้ โดยมีงานวิจัยพบว่าฮอร์โมนพืชหลาย ๆ ตัวในมะพร้าวอ่อน มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน ทำให้ผิวพรรณสดใส ชะลอการเกิดริ้วรอย ลดความเสี่ยงอาการอัลไซเมอร์ และช่วยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น อีกทั้งยังป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ด้วย เนื่องจากน้ำมะพร้าวอ่อนมีฤทธิ์ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมของเซลล์ในระบบทางเดินอาหารนั่นเอง

8. เป็นไขมันอิ่มตัวที่ดีกว่าไขมันอิ่มตัวชนิดอื่น

แม้ว่าไขมันอิ่มตัวจะไม่ดีต่อร่างกายเรา เพราะจะไปเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีในร่างกาย แต่ถึงยังไงร่างกายเราก็ยังต้องการไขมันอิ่มตัวบ้างอยู่ดี..โดยกินให้สมดุลย์กับไขมันไม่อิ่มตัว โอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ด้วย เพื่อช่วยละลายวิตามินเอ ดี อี เค ที่จะละลายได้ในไขมันเท่านั้น

สำหรับน้ำมะพร้าวอ่อนเป็นเครื่องดื่มที่มีไขมันน้อยมาก ทว่าในเนื้อมะพร้าวอ่อนจะมีไขมันค่อนข้างสูง และส่วนใหญ่เป็นไขมันอิ่มตัวด้วย อย่างไรก็ตาม ไขมันอิ่มตัวในเนื้อมะพร้าวจัดเป็นไขมันอิ่มตัวที่ดีกว่าไขมันอิ่มตัวชนิดอื่น เพราะสามารถขับออกได้บ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะกินมะพร้าวอ่อนได้มาก ๆ ตามใจปาก เพราะเพื่อสุขภาพที่ดี เราไม่ควรกินไขมันอิ่มตัวเกินกว่า 7% ของแคลอรีที่ได้รับต่อวัน

   ดังนั้นแล้ว หากชอบกินเนื้อมะพร้าวก็กินได้ในปริมาณที่ไม่มากเกินไป เลือกชิ้นอ่อน ๆ ที่เป็นเจล ๆ ไขมันจะต่ำกว่า เพราะยิ่งเนื้อหนามากไขมันก็ยิ่งเยอะ แต่หากใครมีปัญหาไขมันในเลือดสูง เลี่ยงการกินเนื้อมะพร้าวทั้งอ่อนและแก่จะดีกว่า


9. รักษาอาการอัลไซเมอร์

มีงานวิจัยจาก ดร.นิซาอูดะห์ ระเด่นอาหมัด อาจารย์ประจำภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พบว่า น้ำมะพร้าวอ่อนมีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง จึงช่วยชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ขณะเดียวกันก็มีการศึกษาอีกฉบับ พบว่าในมะพร้าวอ่อนมีสารประกอบทรานส์ซีติน ซึ่งมีคุณสมบัติยับยั้งเอนไซม์เกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์ จึงช่วยรักษาอาการอัลไซเมอร์ และความผิดปกติเกี่ยวกับระบบประสาทได้

และไม่ใช่แค่นั้น เพราะการศึกษาจากแหล่งอื่นยังพบว่าสารประกอบทรานส์ซีตินสามารถป้องกันไม่ให้โปรตีนอะไมลอยด์เบต้า ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดการลุกลามของโรคอัลไซเมอร์ก่อตัวขึ้น ..

10. ช่วยลดความดันโลหิต

เนื่องจากมะพร้าวอ่อนมีโพแทสเซียมสูงมาก คือ ในปริมาณน้ำมะพร้าว 100 มิลลิลิตร มีโพแทสเซียมถึง 200 มิลลิกรัม ซึ่งข้อดีของโพแทสเซียมนอกจากจะทำให้รู้สึกสดชื่นแล้ว ยังช่วยลดระดับความดันในร่างกายได้อีกด้วย ดังนั้น ถ้าวันไหนกินโซเดียมเยอะเกินไป ควรดื่มน้ำมะพร้าวสักหน่อย เพื่อให้โพแทสเซียมเข้าไปลดปริมาณโซเดียม และทำให้ระดับความดันโลหิตลดลง

 

11. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าอาหารที่มีดัชนีไกลซีมิกสูงจะมีคาร์โบไฮเดรตสูง ส่งผลให้น้ำตาลกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว และเมื่อน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น อินซูลินก็จะสูงขึ้นตาม แถมอินซูลินที่สูงนี้สามารถเปลี่ยนน้ำตาลส่วนเกินให้กลายเป็นไขมัน ซึ่งไขมันเหล่านี้จะไปสะสมอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และอาจเสี่ยงต่อไขมันอุดตันเส้นเลือดได้ ..

ดังนั้น เราควรกินอาหารที่ดัชนีไกลซีมิกต่ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง อย่างมะพร้าวอ่อนก็เป็นอาหารชนิดหนึ่งที่มีน้ำตาลสูงก็จริง แต่ดัชนีไกลซีมิกต่ำและมีไฟเบอร์ที่ละลายในน้ำได้ จึงช่วยลดการเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาล ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูงเกินไปนั่นเองค่ะ อย่างไรก็ตาม ก็ควรกินในปริมาณที่เหมาะสมเช่นกัน กินมากไปก็ไม่ดี

12. อาจลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

คนที่ชอบกินมะพร้าวอ่อนต้องถูกใจแน่ ๆ เพราะอย่างที่เรากล่าวไปแล้วว่าไขมันในมะพร้าวอ่อนช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี และลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ซึ่งคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ ดังนั้นจึงลดความเสี่ยงโรคหัวใจลงไปได้ แต่ไม่เพียงเท่านั้น เพราะในมะพร้าวอ่อนมีโฟเลตประกอบอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งการที่ร่างกายได้รับโฟเลตในปริมาณที่เพียงพอ ก็จะลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดต่าง ๆ ทำให้ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีการทดลองในหนูพบว่า น้ำมะพร้าวอ่อนมีเกลือแร่ โดยเฉพาะโพแทสเซียมในปริมาณสูง ซึ่งมีผลป้องกันโรคหัวใจในหนูได้ ..
ข้อควรระวังในการดื่มน้ำมะพร้าว

สำหรับใครที่เป็นโรคไต และโรคเบาหวาน อาจต้องปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนดื่มน้ำมะพร้าว เพื่อหาปริมาณที่พอเหมาะกับร่างกาย เพราะอย่างไรแล้ว น้ำมะพร้าวก็เป็นน้ำผลไม้ที่มีน้ำตาล และโพแทสเซียม..

แพทย์หญิงธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล หรือ หมอผิง ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและเวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ระบุว่า “น้ำมะพร้าวมีประโยชน์ เป็นเครื่องดื่มเกลือแร่ให้พลังงานตามธรรมชาติ แต่จัดว่าน้ำตาลสูง แม้จะเป็นน้ำตาลธรรมชาติ แต่ดื่มมากไปก็อ้วนได้เช่นกัน” โดยน้ำมะพร้าว 1 ลูก ปริมาณ 282 กรัม มีปริมาณน้ำ 94 กรัม น้ำตาลฟรุกโตส 8.1 กรัม น้ำตาลกลูโคส 8.5 กรัม น้ำตาลซูโครส 4.0 กรัม รวมเท่ากับน้ำตาลถึง 5.1 ช้อนชาเลยทีเดียว..

นอกจากนี้ นายแพทย์ กัมปนาท พรยศไกร ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ แอดมินแฟนเพจเฟซบุ๊ก Sarikahappymen และข้อมูลจากโรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ระบุตรงกันว่า การดื่มน้ำมะพร้าวที่ทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มมากขึ้น อาจไปเพิ่มการบีบตัวของมดลูกเวลามีประจำเดือน ทำให้ผู้ใหญ่หลายๆ คนมักบอกให้หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำมะพร้าวในช่วงนั้นของเดือน แต่อย่างไรก็ตามต้องเป็นการดื่มในปริมาณมากๆ จริงๆ ถ้าดื่มเพียงแก้วสองแก้ว ไม่ส่งผลต่อการปวดท้องประจำเดือนแน่นอน (ทั้งนี้ปริมาณที่เหมาะสมของแต่ละคนอาจไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน) นอกจากนี้ น้ำมะพร้าวยังไม่มีผลทำให้ประจำเดือนหยุด หรือกะปริบกะปรอย และทำให้มีประจำเดือนมาไม่ปกติ แต่ไฟโตเอสโตรเจนในน้ำมะพร้าวจะช่วยควบคุมรอบประจำเดือนให้มาตามปกติมากกว่า.


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!