ทีวีที่แจก มารับแล้ว2ท่าน ท่านที่2คุณสมชายอยู่หลังตลาดธานินทร์แต่เอาไปไม่เยอะเพียง5เครื่องเพราะไม่มีรถคันใหญ่... ที่เหลือคงเป็นปีหน้าจะแจกให้หมด เตรียมตัวไว้ช่วงสงกรานต์นะครับ ...ผมพยายามทดแทนพระคุณของนศ.ทุกท่านที่ช่วยกันสนุนleksound.netให้อยู่กันนานๆ ครับ

ระยะนี้พอมีเวลาพักเหนื่อยนิดหน่อย ขอตอบปัญหาที่มีนศ.หลายๆท่านเคยPMถามผมว่าควรคิดเงินลูกค้ายังไงดีกับงานซ่อม ขอตอบรวมในกระทู้นี้ก็แล้วกัน ... การคิดราคาแต่ละร้านคงไม่เหมือนกัน
(การคิดค่าซ่อมที่ผมลงบทความไว้นี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ แต่ทำแล้วดีครับ)...
... เล่าให้ฟังนิดนึง ช่วงนี้เมื่อแจ้งลูกค้าว่าจะย้ายร้าน แทบทุกคนที่มาซ่อมมักเป็นขาประจำจะบ่นว่าไม่น่าย้ายเลย ย้ายไปทำไม คราวนี้เครื่องเสียจะให้ใครซ่อมล่ะ..(แถวแม่โจ้ มีร้านซ่อมนับสิบร้าน) ... นั่นคือความความอบอุ่นใจ,ภูมิใจอย่างหนึ่งในงานซ่อมครับ เพราะร้านผมเปิดมา30กว่าปีส่วนมาก99%จะเป็นลูกค้าที่ดี น่ารักมาก มีส่วนน้อยเหมือนกันที่คุยกันไม่รู้เรื่อง ลูกค้าประเภทนั้นหลีกได้ก็พยายามหลีกจะสบายใจกว่าเพราะการคบคนพาลมักเป็นภัยต่อตัวเราเอง และเป็นการสร้างมลภาวะทางจิตให้ขุ่นข้องไปด้วย ไม่เป็นการดีเลยสำหรับการดำรงชีวิตในแต่ละวัน(การเปิดร้านซ่อมนี่ไม่ยากแต่จะเปิดให้อยู่นานๆนี่ยากพอควรครับ)... ไม่ควรหลอกลูกค้าเรื่องอาการเสียและจุดเสีย หรืออะไหล่ครับ บอกค่าแรงไปตรงๆค่าอะไหล่ก็บอกตรงๆแต่จะต้องบวกค่าอะไหล่เสี่ยงด้วย ราคาอยู่ที่เรากำหนด เครื่องไหนยากก็แพงนิด เครื่องไหนง่ายก็ถูกหน่อย..ทั้งนี้และทั้งนั้นต้องดูองค์ประกอบอื่นๆด้วย เช่นทีวีเก่าหรือใหม่ ลูกค้าเป็นเช่นไร มีผลต่อการคิดราคาด้วยเช่นกัน เพราะร้านเราไม่ใช่บริษัท... ไม่ซ่อมก็ประกอบเครื่องกลับ ..ก็แค่นั้น

ไหนๆก็คุยกันเรื่องนี้แล้ว อยากยกตัวอย่างให้นิดนึงเช่น ทีวี25"จอแบนยี่ห้อหนึ่งมาซ่อม
...กรณีที่ic vert output เสีย จะกำหนดราคาอย่างไร
●ประการแรกให้คิดค่าอะไหล่ก่อนเช่นic vert output 40 บาท ค่าแรงซ่อม+ค่าลองเครื่อง400บาท รวมค่าซ่อม 440บาท. หากว่าเสียที่จุดอื่นอีกให้คิดเพิ่มด้วยเช่นชั่วโมงละ50บาทเป็นต้น. พร้อมรับประกันค่าแรง 3 เดือน(การรับประกันค่าแรงทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นร้านเรามากขึ้น และดึงลูกค้าให้เกาะติดกับร้านเราตลอด ไม่ไปร้านอื่นโดยไม่จำเป็นครับ)
●กรณีที่ไอซีแพงๆเสีย เช่นวันชิปบางเบอร์ที่หายาก ราคาสูง เสีย มีทางออก2ทาง
1. ให้ลูกค้าไปซื้ออะไหล่มาเอง พยายามแนะนำให้ลูกค้าไปซื้อที่บริษัท เพราะจะได้อะไหล่แท้ลงเฟิร์มแวร์มาแล้ว ปัญหาน้อย แต่จะแพงกว่าท้องตลาดซักหน่อย ข้อดีคือเมื่อลูกค้านั้นๆทราบราคาอะไหล่แล้ว ในคราวต่อไปมักไม่กล้าไปซื้อเอง และจะวางใจในร้านซ่อมนั้นๆอีกด้วยครับ กรณีนี้เราจะไม่เหนื่อยและไม่ขาดทุนไม่เสี่ยงต่ออะไหล่ เพราะหากลูกค้าหาอะไหล่ไม่ได้ เราสามารถคิดค่าเป่าฝุ่นหรือถอดไอซี50-100บาทก็ไม่ผิดกติกา ลูกค้ายินดีจ่ายค่าเหนื่อยให้แน่นอนครับ.
2. ซื้ออะไหล่ให้ลูกค้า แต่จะรวมค่าเสี่ยงด้วย เช่นไอซีตัวละ 450 ให้คิดราคาอะไหล่เป็น900 บาทไปเลย(เพราะคงไม่มีที่ไหนให้คืนไอซีที่บัดกรีแล้ว) เมื่อรวมค่าแรงอีก400แล้ว ค่าซ่อมจะอยู่ประมาณ 1,300 บาท พร้อมรับประกันค่าแรง 3 เดือน .. เท่านั้นท่านก็มีลูกค้าประจำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแล้วครับ
●กรณีที่ฟิวส์ขาด
เพียงต่อฟิวส์ก็เสร็จแล้ว อย่าไปคิดลูกค้าแพงนะครับ บางครั้งนศ.ไปคิดราคาแบบบริษัท ที่กำหนดไว้เลยว่าเปิดเครื่องนี้ราคานี้ เปิดเครื่องนั้นราคานั้น (อย่าไปว่าบริษัทเขาเลยนะครับเพราะรายจ่ายเขาคงเยอะกว่าร้านธรรมดา เราต้องเห็นใจกัน) ...เราเปิดร้านธรรมดาอย่าไปคิดอย่างนั้นครับ ให้มองอนาคตงานซ่อมเครื่องต่อไปด้วย ควรคิดเล็กๆน้อยๆเช่น 100 เดียวก็พอ อาจบอกลูกค้าว่าฟิวส์ขาดเพราะไฟเกิน หรือกระแสไฟกระชากเป็นต้น วันหน้าพยายามดึงปลั๊กทีวีออกหลังจากเลิกดูทีวีด้วยนะ...
ลูกค้าจะพอใจในความซื่อสัตย์ของท่าน ปากต่อปากถึงร้านท่าน และจะอุดหนุนท่านไปตลอดครับ.●อย่าตัดราคาค่าซ่อมกันเอง(ร้านที่เปิดอย่างถูกลักษณะ เปิดเป็นทางการ) เพราะหากแทบทุกร้านตัดราคาค่าซ่อมกันเอง วงการซ่อมจะอยู่อย่างลำบาก ลูกค้าจะไขว้เขวต่อราคาซ่อม เผลอๆร้านที่ซ่อมดีมีฝีมืออาจโดนลูกค้าต่อว่าเพราะไปคิดค่าซ่อมแพงกว่าบางร้านที่เปิดอย่างฉาบฉวย การคิดเงินค่าซ่อมต้องคำนึงไว้เสมอว่า อาชีพช่างซ่อมทีวีนั้น หากทำจริงจัง ขยัน และมีฝีมือ จะมีโอกาสก้าวหน้าได้ทุกร้าน จงคิดค่าซ่อมอย่างมั่นใจ อยู่บนมาตรฐานเดียวกัน
อย่าดูถูกอาชีพของเราเอง เพราะผู้ที่ดูถูกศักดิ์ศรีในอาชีพของตนเองแล้วย่อมไม่ประสพผลสำเร็จในอาชีพนั้นๆ ●ร้านซ่อมควรสะอาด บรรยากาศน่าเข้า น่าเชื่อถือ ..การทำความสะอาดทีวีที่นำมาซ่อมจะมองข้ามไม่ได้ อ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับ
http://www.ubmthai.com/leksoundsmf3/index.php?topic=63802.0●งานซ่อมไม่ควรค้างคานานเกินควร เครื่องไหนไม่มีอะไหล่หรือซ่อมยากเกินควร ให้ส่งคืนลูกค้าดีกว่าเก็บกองไว้ให้รกร้านครับ ..
เพราะเราไม่ใช่เทวดาที่จะซ่อมได้ทั้งหมด100%(แต่พยายามซ่อมหรือดึงลูกค้าให้ซ่อมได้อย่างน้อย90%ก็เอาตัวรอดได้แล้วครับ ..แต่ไม่ใช่เอาแต่ซ่อมอาการเสียง่ายๆแค่บัดกรีปริ้นท์ เปลี่ยนTR HOR OUTPUT หรือเปลี่ยนIC VERT...แต่พอเจออาการยากๆกลับคืนเครื่องลูกค้า อย่างนั้นก็ไม่ไหวเหมือนกัน..จะเปิดร้านได้ไม่ยืนยาว) และเมื่อส่งคืนเครื่องให้ประกอบกลับทุกชิ้นส่วนอยู่ในสภาพเดิมด้วยทุกครั้ง เพื่อป้องกันปัญหาอื่นๆจะตามมาในภายหลัง
สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่ง
ไม่ควรโยนความผิดหรือต่อว่าร้านซ่อมเพื่อนร่วมอาชีพด้วยกัน เช่นลูกค้านำทีวีมาซ่อมแล้วบอกท่านว่าไปซ่อมที่ร้านใกล้ๆท่านมาแล้วไม่ทนเลย เสียบ่อย ... ท่านไม่ควรทับถมร้านนั้น อาจไม่พูดถึงเลยก็ได้ แต่ทางที่ดีควรสร้างมิตรภาพทางอ้อม เช่นอาจบอกลูกค้าว่า ร้านโน้นก็เปลี่ยนอะไหล่อย่างดีให้แล้ว ไม่น่าเสียอีก ขอเวลาผมวิเคราะห์ให้นะว่าเกิดจากอะไร ... หรือมีงานซ่อมทำไม่ทัน หากลูกค้าเร่งเยอะก็แนะนำลูกค้าด้วยความมีน้ำใจให้ไปซ่อมร้านข้างๆท่านเพราะอยู่ใกล้กัน ท่านจะได้เพื่อนร้านซ่อมเป็นมิตรพึ่งพาอาศัยกันได้ เชื่อเถอะลูกค้ามีเยอะแยะ ขอให้ท่านมีจริยะธรรมและคุณธรรม แล้วท่านจะหากินอยู่ในวงการนี้ได้นานเท่านาน ...เงินกินกันหมด แต่น้ำใจและมิตรภาพกินกันไม่หมดครับ

..เปิดร้านพยายามทำด้วยความสบายใจนะครับ อย่าให้งานมาบังคับเวลาเรา และหากเราเปิดร้านแล้วต้องทำให้ดีที่สุดด้วยครับ แล้วร้านจะอยู่รอดสบายๆ ... รายจ่ายส่วนตัวและครอบครัวผมประมาณเดือนละ3หมื่น งานซ่อมนำมาเลี้ยงได้ชีพสบายๆ30กว่าปีแล้วครับ ... ต้องกราบขอบพระคุณลูกค้าที่มีอุปการะคุณทุกท่าน...

ขอให้นศ.ทุกท่านที่จะเปิดร้าน หรือกำลังเปิดร้าน ทำงานซ่อมด้วยความสบายใจ มีความสุขในงานซ่อม ร่ำรวยยิ่งๆขึ้นไปทุกท่านนะครับ
