ภาษาพูดของคนอีสานในแต่ละท้องถิ่นนั้นจะมีสำเนียงที่แตกต่างกันออกไป ตามสภาพทางภูมิศาสตร์ที่มีอาณาเขตติดต่อกับถิ่นใดรวมทั้งบรรพบุรุษของท้องถิ่นนั้นๆด้วย เช่น แถบจังหวัดศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ มีชายแดนติด กับเขมร สำเนียงและรากเหง้าของภาษาก็จะมีคำของภาษาเขมรปะปนอยู่ด้วย ทางด้านจังหวัด สกลนคร นครพนม มุกดาหาร หนองคาย เลย ที่ติดกับประเทศลาวและมีชาวเวียดนามเข้ามาอาศัยอยู่ค่อนข้างมากก็จะมีอีกสำเนียงหนึ่ง ชนเผ่าดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นๆ ก็จะมีสำเนียงที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองและยังคงรักษาเอกลักษณ์นั้นไว้ ตราบจนปัจจุบัน เช่น ชาวภูไท ในจังหวัดมุกดาหารและนครพนม
ถึงแม้ชาวอีสานจะมีภาษาพูดที่มีความแตกต่างกันในแต่ละท้องถิ่น แต่ในภาษาอีสานก็มีสิ่งหนึ่งที่ยังคงมีความคล้ายกันก็คือ ลักษณะของคำและความหมายต่างๆ ที่ยัง คงสื่อความถึงกันได้ทั่วทั้งภาค ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชาวอีสานต่างท้องถิ่นกันสามารถสื่อสารกันได้เป็นอย่างดี
ถ้าจะถามว่าภาษาถิ่นแท้จริงของชาวอีสานใช้กันอยู่ที่ใดคงจะตอบไม่ได้ เพราะภาษาที่คนในท้องถิ่นต่างๆใช้กันก็ล้วนเป็นภาษาอีสานทั้งนั้น ถึงแม้จะเป็นภาษาที่มีความแตกต่างกัน แต่ก็มีรากศัพท์ในการสื่อความหมายที่คล้ายคลึงกัน
ในปัจจุบันชาวอีสานตามเมืองใหญ่ โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่นได้หันมาใช้ภาษาไทยกลางกันมากขึ้น เพราะวัยรุ่นเหล่านี้ส่วนใหญ่ได้รับการศึกษาที่ดีเทียบเท่ากับคนในภาคกลางหรือกรุงเทพมหานคร ทำให้ภาษาอีสานเริ่มลดความสำคัญลง เช่นเดียวกันกับภาษาพื้นเมืองของภาคอื่นๆ แต่ผู้คนตามชนบทและคนเฒ่าคนแก่ยังใช้ภาษาอีสานกันเป็นภาษาหลักอยู่ ทั้งนี้คนอีสานส่วนใหญ่จะสามารถสื่อสารได้ทั้งภาษาอีสานของท้องถิ่นตนเองและภาษาไทยกลาง หากท่านเดินทางไปในชนบทของอีสานจะพบการใช้ภาษาถิ่นที่แตกต่างกันไปดังที่กล่าวมาแล้ว แต่คนอีสานเหล่านี้โดยเฉพาะวัยรุ่นหนุ่มสาวก็จะสามารถสื่อสารกับท่านเป็นภาษาไทยกลางได้อีกด้วย ทั้งนี้เพราะวัยรุ่นชาวอีสานใหญ่จะเข้ามาหางานทำในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมื่อก่อนจะไปหางานทำเฉพาะหลังฤดูทำนา แต่ในปัจจุบันวัยรุ่นส่วนใหญ่จะเข้ากรุงเทพฯและทำงานที่นั่นตลอดทั้งปี ชาวอีสานที่ไปต่างถิ่นนอกจากจะหางานทำแล้ว ก็ยังมีการเผยแพร่วัฒนธรรมรวมทั้งภาษาของตนเองไปในตัว จะเห็นได้จากในปัจจุบันชาวไทยจำนวนมากเริ่มเข้าใจภาษาอีสาน ทั้งจากเพลงลูกทุ่งภาษาอีสานที่ได้รับความนิยมกันทั่วประเทศและจากคนรอบตัวที่เป็นคนอีสาน ทำให้ภาษาอีสานยังคงสามารถสืบสานต่อไปได้อยู่ถึงแม้จะมีคนอีสานบางกลุ่มเลิกใช้
ภาษาถิ่นอีสาน แปลเป็นภาษากลาง ภาษาถิ่นอีสาน แปลเป็นภาษากลาง
ก. - - -
กะซาง ช่างเถอะ กะด้อ กะเดี้ย อะไรกันนักหนา
กินเข่าสวย รับประทานอาหารกลางวัน เกิบ รองเท้าแตะ
กินดอง เลี้ยงฉลองสมรส กะเลิงเบิ๊บ ยายเฉิ่ม,คนสติไม่ดี
กะจังว่า ก็นั่นน่ะสิ กองอ้วกย้วก ลักษณะคนล้มทรุดตัวลงกองกับพื้น
เกี้ยงตั๊บ หมดเกลี้ยง กินข่าวสวย รับประทานอาหารกลางวัน
ข. - - -
ขี้ตั๋ว โกหก,พูดไม่จริง ขี้ตะแร้ รักแร้
ขี้หินแฮ หินลูกรัง ข่อยกับเจ้า ฉันกับเธอ
ขี้โก๊ะ จิ้งเหลน, จิ๊กโก๋ ขี้เกี้ยม จิ้งจก
ขนคิงลุก ขนลุก ข่อยกั๊บเจ้า ฉันกับเธอ
ขะหยอน มิน่าล่ะ ขี้เมี่ยง สนิม
ค. - -
เคียด โกรธ,งอน คนมะลำมะลอย คนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ
คักอีหลี สะใจจริงๆ คนบ่เคียม คนซุ่มซ่าม
คอง(ภาษาอีสานตอนบน ) รอคอย เคียม สุภาพเรียบร้อย
เคียด โกรธ คึดฮอด คิดถึง
เคิกกัน คลาดกัน (อีสานตอนบน) คำคิง สัมผัส,แตะตามเนื้อดูว่าตัวร้อนหรือไม่
คนมะลำมะลอย คนไม่น่าเชื่อถือ เอาแน่อะไรไม่ได้ คือเก่า เหมือนเดิม
คะมะ หยุดชะงักด้วยเหตุบังเอิญ
ง. - - -
งานดอง งานแต่งงาน งานเฮือนดี งานศพ
ไงกุ้ม ฝุ่นตลบ งอนตอ ท้ายทอย (อีสานบน)
งามโพดงามเหลือ งามแท้งามว่า สวยจริงสวยจัง สุดจะพรรณา ง้วกเบิ่ง เหลียวมอง
จ. - - -
เจ้า, ข่อย คุณ, ฉัน จี่ ปิ้ง,ย่าง
จักแหล่ว ไม่รู้สิ จอบเบิ่ง แอบดู
จอก แก้ว จั๊กกะเดียม จั๊กกะจี้
จาฮีต เป็นคำยืนยันถึงความจริง,แน่นอน ใจฮ้าย โกรธ,โมโห
จังได๋ แบบไหน,ยังไง จาวขาย ประกาศขาย
แจบใจ มั่นใจ,สนิทใจ ใจออก ถอดใจ,ท้อถอย
จือ จำ,เข็ด โจงโปง โล่ง,ว่างเปล่า
จาวขาย ประกาศขาย จอกน้ำ แก้วน้ำ
ซ. - -
ซอกหา ค้นหา,ตามหา โซนแซว เอะอะ,เสียงดัง
ซ่า ช้า ซั่นแหล่ว ก็ว่างั้นแหล่ะ
ซะซาย กระจัดกระจาย ซุมเข่าแลง สังค์สรรค์มื้อเย็น
ซัง เกลียด ซุ ก้นทะลุ
เซือ เชื่อ
ซอมใจ ตรอมใจ เซาจุ๊ดปุ๊ด หยุดทันที,หายทันควัน
ซอยแน ช่วยด้วย แซวซะ เสียงดัง,อึกกะทึก คึกโครม
ซุมแซว รื่นเริง,สังสรรค์ . .
ด. - - -
ดังไฟ ก่อไฟ โดน นาน
ต. - - -
ตะพึดตะพือ ไม่บันยะบันยัง ตั้มอิด แรกเริ่ม.เริ่มต้น,ครั้งแรก,ทีแรก
ตาฮัก ตาแพง น่ารัก น่าเอ็นดู แตกวึ่นๆ แตกตื่น
ตังนัง เก้าอี้,ม้านั่ง ตะเว็น ดวงอาทิตย์
ตื่น ตกใจ! ต้อดเข่ามา ขยับ,กระแซะๆๆๆ เข้ามาซิ
ตำหูก ทอผ้า ติงคิง ขยับ, แตะต้องเนื้อตัว
เต้า ประชุม (อีสานตอนบน) ตุ้มไว้ รวบรวม
ว. . . .
เหว้าพื้น กล่าวถึง,พูดถึง
(เป็นการกล่าวนำของชาวอีสานตอนล่าง) เหว้าดุ พูดมาก
เว้ามวนซวนหัว พูดตลกขบขันน่าหัวเราะ . .
ส. - -
สะหวอย อ่อนเพลีย, หมดแรง สะออน ปลื้ม, น่าชมเชย
สะเดิด สะดุ้ง เสี่ยว เพื่อน, มิตร
สีแหล่ สีน้ำเงินอมม่วง สีบัว สีชมภู (ภาษาอีสานตอนบน)
โสเหล่ วิพากษ์ วิจารณ์ ส่ง กางเกง
ส่วง สีข้าง สำมะปิ จิปาถะ
ส้นน่อง ส้นเท้า สาด เสื่อ
โสเหล่ วิพาก วิจารณ์ ส่ง กางเกง
เสื่อหมากกะแล่ง เสื้อคอกระเช้า เส้า หยุด, เลิก, ระงับ
สำมะปิ จิปาถะ สุกยู้ ผลักดัน
สำมะแจะ สาระแน . .
ห. - - -
หนหวย หงุดหงิด,รำคาญ หุ่ง สว่าง
ห่อย ห้อย,แขวน ห่าว อาการสดชื่น,ตื่นตัว
หมากอึ ฟักทอง . .
ห้าง พัง,หย่าร้าง หน่าลา อาการเสียหน้า
ห้อน ร้อน . .
อ. - - -
อีหล่า คำเรียกเด็กผู้หญิง ออนซอน น่าเอ็นดู
อีเกิ้ง ดวงจันทร์ อัง คับแคบ
ฮ. - -
โฮมตุ้ม ชุมนุม,รวมตัว ฮู้เมือ รู้สึกตัว
ฮัก รัก เฮา เรา
ฮำฮอน อาลัยอาวรณ์ ฮ้าย ดุ, ดุดัน, ต่อว่า ต่อขาน
อยากหัว น่าขัน น่าหัวเราะ เฮ็ดงาน ทำงาน
แฮง แรง แฮกหมาน ประเดิม