mooele
member
คะแนน 6
ออฟไลน์
กระทู้: 258
การลงมือทำคือสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการ
|
|
« เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2007, 09:22:37 pm » |
|
การการ Set เสียงกลองของ D4 โดยการใช้โปรแกรมที่เรียกว่า D4 man ที่จริงแล้วการใช้โปรแกรม D4 man เป็นการ Set D4 ได้ง่ายมาก เพียงแต่อาจจะได้ โทนเสียงและชิ้นดนตรีที่ได้อาจจะต่างจากมาตรฐานใกล้เคียงของเสียงจริง เพราะไม่ได้บอกว่าจะเอาอะไรมาเทียบเรื่องเสียงเพื่อให้ได้เสียงค่อนข้างมาตรฐาน…เสียงมาตรฐานคือเสียงที่ได้จากเพลงทุกเพลงที่แต่งแล้วนำมาเปิดในCakewalk แล้วท่านอาจต่อผ่าน Sound Canvas แล้วเปิด ที่ Part 10 ให้เครื่องเล่นเฉพาะ Drum อย่างเดียว แล้วอาจจะเคาะชิ้นดนตรีใน Cakewalk ผ่าน D4 แต่ละชิ้นดูว่าเสียงที่ได้ใน Sound Canvas ที่ออกมาว่าเสียงดนตรีที่ได้มีโทนเสียงใกล้เคียงกับเสียงของ D4 ที่เราแต่งหรือเปล่า แล้วโทนเสียงใน D4 มีโทนเสียงที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าใน Sound Canvas หรือเปล่า อย่างนี้เป็นต้น นี่คือตัวอย่างที่เป็นเสียงมาตรฐานที่จะนำไปเปรียบเทียบกับเสียง D4
…..การอ้างอิงเรื่องของเสียงมาตรฐานนั้นในเพลงทุกเพลงที่แต่งขึ้นมาผู้แต่งพยายามแต่งเพลงและใส่ชิ้นดนตรีและโทนเสียงสูงต่ำของชิ้นดนตรีนั้นๆให้ใกล้เคียงหรือให้เหมือนกับเพลงจริงๆมากที่สุดอย่างแน่นอนเพียงแต่เสียงที่ได้จะอยู่ในรูปแบบของดนตรีอีเลกทรอนิคเท่านั้นเอง( MIDI File)
….ในการยิงโปรแกรมนั้นข้อดีคือง่ายและเป็นพื้นฐานที่ดีและรวดเร็วและได้ชิ้นดนตรีตรงตามมาตรฐานของ GM แต่ท่านอย่าลืมว่าแต่ละท่านๆใช้เครื่องดนตรีที่ไม่เหมือนกันเกือบร้อยเปอเซนต์ วงดนตรีร้อยวงใช้ใช้เครื่องเสียงที่ไม่เหมือนกันฉะนั้นเสียงตนตรีที่เปล่งออกมาจากลำโพงย่อมแตกต่างกันอย่างแน่นอน บางวงท่านฟังเสียงดนตรีท่านชอบมากขอโปรแกรมเพื่อมาลงในเครื่องของเราบ้างแต่พอมาลงเสียงที่ได้กลับไม่ดีเหมือนที่ได้ยินหรืออาจจะดีกว่าก็ได้ก็แล้วแต่นะครับ
….ในการเขียนเรื่องนี้ผมเองมีความตั้งใจที่จะให้เพื่อนๆสามารถตั้งเสียงกลองของ D4 ได้เองไม่ว่าท่านจะยิงโปรแกรมมาก่อนหรือไม่ก็ตาม เพื่อตกแต่งเสียงของชิ้นดนตรีแต่ละชิ้นให้เป็นมาตรฐานของเสียงไม่ว่าโทนเสียงจะสูงหรือต่ำและเสียงที่ออกมาจากลำโพงของวงดนตรีของท่านให้ถูกใจผู้ฟังอย่างน้อยก็ถูกใจท่านเองนั่นล่ะคนอื่นที่ฟังช่างมัน… (ฮา..)
…..ในการแต่งเสียงกลองให้ได้สมจริงใกล้เคียงมากที่สุดเพื่อการ Set ที่สมบูรณ์ท่านควรต่อเข้ากับเครื่องเสียงชุดใหญ่ของท่านเองหรือชุดที่ท่านออกงานประจำยิ่งดีใหญ่ การปรับแต่งก็จะได้คุณภาพเสียงที่สมบูรณ์เหมือนออกงานจริงๆ
….ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ D4 กันสักนิดหนึ่งก่อนครับ สัญญลักษ์ต่างๆ ตัวย่อของชิ้นดนตรีดังนี้ครับ
…………Kik [Kick] หมายถึง กระเดื่องต่างๆที่มีอยู่คุณสามารถเลือกได้ 99 ใบ……….
…………Snr [Snare] หมายถึง สแนร์เบอร์ต่างๆคุณสามารถเลือกได้ 99ใบ…………..
…………Cym[Cymbals and Hihats] หมายถึง ฉาบ, แฉ Hihats ต่างๆมีให้เลือก 55 ชิ้น
…………Tom[Tom Toms] หมายถึง กลองชุดเรียงกันอยู่4-5ใบด้านหน้ามีให้เลือก 92 ใบ
…………Prc [Percussion] หมายถึง พวกเครื่องเคาะตัวเขย่าต่างๆ มีให้เลือก 76 ชิ้น……
…………Efx [Effect] หมายถึงเสียงแปลกๆต่างๆหลากหลายมีเสียงให้เลือก 80 เสียง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกๆท่านคือครูเรา
|
|
|
mooele
member
คะแนน 6
ออฟไลน์
กระทู้: 258
การลงมือทำคือสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการ
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2007, 09:32:37 pm » |
|
……เป็นไงครับมากมายสำหรับเจ้า D4 การที่ตัวมันเองมีความสามารถมีเสียงมากมายเหล่านี้แต่ที่แน่ๆมันคือกลองไฟฟ้าที่มีเสียงสมจริงที่สุดตั้งแต่เล่นกลองไฟฟ้ามาแต่เหนือฟ้ายังมีฟ้าครับ ใช่ว่า D4 จะเก่งเสียทุกอย่าง ถ้าผมวิจารร์เรื่องกระเดื่องและทอมบางตัวแน่นอน D4นั้นกินรวบแต่เรื่องสแนร์นี่บางคนก็ว่า D4 แต่บางคนบอกสู้ DM5 ไม่ได้เอาน่าเอาเป็นว่ามันดีกันคนละอย่างละกัน…แต่ถ้าจะพูดถึงความสดใสของ Percussion พวกเครื่องเคาะต่างๆ (ตัวผมเองนะครับ) ผมว่าสู้ ตระกูล Roland ไม่ได้ เช่น R5, R8, R8Mk2 ไม่ได้ ความสดใสสู้ไม่ได้แน่นอน แต่ทอมบางตัวระหว่าง D4 กับ RY ตระกูลของ YAMAHA เทียบแล้วน้องๆ D4 แต่ใกล้เคียงกับ Roland แต่ถ้างบน้อยใช้ SR-16 กับ R-5 ใช้สองตัวคู่กันผมว่า D4 คงต้องสูสี เพราะสองตัวนี้ถ้าแต่งเก่งๆคุณจะได้ครบสูตร(SR-16 มันเป็นน้องๆ D4 )
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกๆท่านคือครูเรา
|
|
|
mooele
member
คะแนน 6
ออฟไลน์
กระทู้: 258
การลงมือทำคือสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการ
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2007, 09:38:46 pm » |
|
โอกาศหน้าเดียวจะเอาวิธีการปรับแต่งเสียงกลอง D4 ให้เป็นด้วยตนเองมาฝากครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกๆท่านคือครูเรา
|
|
|
Nimit( Un )
member
คะแนน 442
ออฟไลน์
กระทู้: 3479
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2007, 06:45:41 am » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mooele
member
คะแนน 6
ออฟไลน์
กระทู้: 258
การลงมือทำคือสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการ
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2007, 04:31:29 pm » |
|
..ในตระกูลของ YAMAHA ถ้าพูดถึงการแต่งเสียงหรือมิกส์เสียงหรือตัวช่วยต่างๆของ YAMAHA ในแต่ละชิ้นดนตรีมีตัวแต่งเสียงมากมายถือว่าให้มามากกว่าใครก็แล้วกัน
ส่วนของ Roland มาเป็นลอง แต่ตระกูล Alesis แทบไม่มีอะไรเลย (ของเขาแน่เขาว่าอย่างนั้น
.ว่าเสียงเหมือนจริงไม่ต้องใส่ชูรส) ลืมบอกไปว่าพวกซาวด์ในตระกูลของ YAMAHA ที่ทาง TOKAI เขาเอามาน่ะรุ่นใหม่น่ะในบางทีลูกเล่นต่างๆที่ YAMAHA เขาใส่มาน่ะบางที 88Pro ยังทำไม่ได้เลย
ขอบอก
ลองเล่นแล้วจะรู้ดีไม่ดีคุณอาจลืม 88Pro ไปเลยก็ได้
[เครื่องสายดีดเป่ายกให้ YAMAHA แต่กลองบางตัว(บางตัวเท่านั้น)ยกให้ Roland,Alesis]
.. ว่ากันซะยาวว่าจะไม่พูดมากแล้วนามันอดที่จะบอกให้ฟังกันไม่ได้ มาพูดถึงเรื่องของ D4 กันต่อดีกว่า
ในขั้นตอนแรกอย่างที่บอกผมอยากให้คุณต่อเครื่องเสียงที่ให้เสียงสมจริงหน่อยไม่ใช่ออกที่ลำโพงคอมข้างเครื่องไม่เอานะเราจะฟังเสียงกระเดื่องกันไม่ใช่ฟังเสียงเตะปีบนะครับ
ผมจะไม่อธิบายถึงการต่อที่คุณใช้งานนะครับก็ให้ต่อตามแบบฉบับของคุณอะไรอยู่ก่อนอยู่หลังไม่สำคัญต่อออกมาดังทั้งซาวด์ทั้งกลองใช้ได้หมดหลังจากนั้นให้คุณเปิด Cakewalk ขึ้นมาแล้วเลือกเพลงที่มีชิ้นดนตรีมากๆหน่อยเพลงอะไรก็ได้ครับอย่างผมชอบเอาเพลง เสือ น่าจะเป็นเพลงที่ 3036 ลองดูครับ ส่วนเพลงที่จะให้เสียงทอมมากหน่อยก็จะเป็น นกเขาใจง่าย ของ ทอม ดันดี เพราะจะตีทอมตลอดและไล่จากทางซ้ายมาทางขวาได้เลยหรือเพลงฮิตตลอดกาล 3673 หลวงพ่อคูณ ลองเลือกดูครับ
.เมื่อเปิดเพลงขึ้นมาแล้วก็ทำการ SOLO ที่ Part ของกลองใน Cakewalkไว้ Trackอะไรก็แล้วแต่นะครับเพราะบางเพลงลง Trackไม่เหมือนกันแต่ยังคงเป็น Part 10 เช่นเดิม
ส่วนที่ Sound
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกๆท่านคือครูเรา
|
|
|
mooele
member
คะแนน 6
ออฟไลน์
กระทู้: 258
การลงมือทำคือสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการ
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2007, 04:41:08 pm » |
|
...ข้อดีของ D4 ที่มีความเด่นเหนือใครอีกเรื่องหนึ่งก็คือ เมื่อท่านชี้แล้วเคาะที่ตัวโน๊ตใดๆที่ Cakewalk ที่หน้าปัดของ D4 จะแสดงให้ท่านเห็นเลยว่าท่านได้ตั้งตำแหน่งประจำตัวโน๊ตได้ถูกต้องหรือเปล่าส่วนเรื่องเสียงจะสูงจะต่ำจะเบาหรือแรงอย่างไรเดี๋ยวเราจะเจาะรายระเอียดกันอีกทีครับว่าการปรับแต่ง D4 เขาทำกันอย่างไร
จากรูปคุณจะเห็นว่าผมตั้งตัวโน๊ตที่ตัวแรกคือ 035 B0 เป็นกระเดื่อง ใช้กลองเบอร์ 85 ชื่อ tronic และที่ Cakewalk จะชี้ที่ Acoustic Bass Drum แล้วคลิกที่เม้าท์ท่านก็จะได้หน้าจอของ D4 ดั่งที่แสดงครับ เมื่อท่านเปลี่ยนไปชี้ที่ตัวอื่นๆของตัวโน๊ตบน Cakewalk หน้าจอของ D4 ก็จะเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน
ลองทำดูนะครับ
.รายละเอียดที่ตำแหน่งของตัวโน๊ตที่เขียนว่า Kik/85: นั่นหมายความว่า ในตำแหน่งของ Kik อย่างที่บอกตั้งแต่ต้น จะมีเบอร์กลองให้เราทั้งหมด 99 ลูกเพื่อให้เราได้เลือกใส่ลงไปว่าคุณจะเอาเบอร์ไหนกลองลูกไหนมาลงตำแหน่งของโน้ตตัวนี้ คุณก็เลือกให้เหมาะสมกับเพลงนั้นๆ ซึ่ง D4 สามารถที่จะเก็บกลองได้ถึง 21 ชุดตั้งแต่ 00-20 ส่วนด้านล่างตัวเลข 85 ที่มีขีดอยู่เราเรียกว่า Cursor ตัวเคอเซอร์ตัวนี้สามารถเลื่อนไปมาระหว่างตัวโน๊ตกับเบอร์กลองได้โดยการกดปุ่มหัวศรที่มีตัวหนังสือกำหนดไว้ลองกดดู ส่วนการเปลี่ยนเบอร์กลองในหมวดนี้คุณก็จะใช้ลูกบิด Dial หมุนเพื่อเปลี่ยนข้อมูลครับ
.
อย่างที่บอกตั้งแต่แรกความเข้าใจของแต่ละท่านอาจจะเข้าใจยากบางท่านก็เข้าใจง่ายค่อยทำกันนะครับ
คุณลองกลับไปดูตัวโน๊ตที่หน้าของ Cakewalk ก่อนนะครับว่าในตำแหน่งของตัวโน๊ตต่างๆจะกำหนดชื่อของชิ้นดนตรีเอาไว้เป็นมาตรฐาน (ถ้าท่านอ่านเรื่องCakewalk มาก่อนเรื่องนี้เรื่องหมูๆครับ) ว่าโน้ตตัวนี้จะใช้ดนตรีชิ้นอะไรอย่างเช่น โน้ตเบอร์ 056 มาตรฐาน GM กำหนดให้เป็น Cowbell เมื่อคุณเลือกชิ้นดนตรีมาใส่คุณก็ต้องเลือก Cowbell มาใส่แต่ไม่ใช่เอาเสียงดนตรีชิ้นอื่นมาใสเมื่อเพลงเล่นเมื่อถึงตอนที่ตัวโน๊ต Cowbell ต้องตี คุณไปเอาเสียง Tom มาใส่ถึงตรงนี้มันก็จะตีมั่วไปหมด
ฉะนั้นอย่างที่ผมบอกการแต่งเสียงกลองให้ได้มาตรฐานไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปถ้าคุณเข้าใจและมีพื้นฐานของตัวโน๊ตได้ดี
D4 ในใจผมๆคิดว่ามันเป็นกลองไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบมากๆทั้งเรื่องการ Set ค่าต่างๆ การเลือกตัวโน๊ต การตั้งเสียงให้ตึงหย่อน [TUNE] การกำหนดความดังของเสียง [MIX] การกำหนดขาออกแต่ละช่อง [OUTPUT] ต่างๆเหล่านี้ซึ่ง D4 เองได้ออกแบบมาทำให้ปรับแต่งได้ง่ายรวมถึงการเก็บข้อมูลแต่ละMemory ได้สะดวกและเรียกมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว
.
..หน้าที่ของปุ่มต่างๆบนหน้าปัดของ D4
.
..ที่หน้าตาของ D4 จะมีปุ่มไว้น้อยมากและไม่ซับซ้อนอะไรเลย
.มีการแยกหมวดหมู่เอาไว้ในแต่ปุ่มแต่ละตำแหน่งชัดเจน คือกดปุ่มไหนปุ่มนั้นก็จะทำหน้าที่ของมันตรงๆซึ่งง่ายต่อการเข้าใจครับลองมาดูครับว่าแต่ละปุ่มมีหน้าที่อะไรกันบ้าง
.ผมอาจจะไม่กล่าวถึงพวกปุ่ม Power, Switch ON/OFF มันเป็น Basic นะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกๆท่านคือครูเรา
|
|
|
mooele
member
คะแนน 6
ออฟไลน์
กระทู้: 258
การลงมือทำคือสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการ
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2007, 04:48:16 pm » |
|
คราวนี้คุณลองให้เสียงออกที่ D4 อย่างเดียวดูบ้าง สังเกตเรื่องเสียงที่ออกด้วยนะครับว่าเสียงสแนร์ที่ออกจาก SOUND กับที่ออกจาก D4 มีความแตกต่างมากน้อยเพียงใด
.
..สรุป
การใช้ปุ่มนี้ โน้ตตัวบรรทัดบนต้องเป็นตัวโน๊ตที่มาตรฐานเสมอ ค่าเริ่มต้นควรที่จะเป็น 035 B0 เสมอและชิ้นดนตรีชิ้นแรกควรเป็นกระเดื่องนะครับ ส่วนบรรทัดล่างท่านเลือกเบอร์ของกลองตามชอบใจครับ
หลังจากนั้นก็ไล่ขึ้นมาตั้งแต่ 036, 037, 038 ไปเรื่อยๆให้เป็นไปตามมาตรฐาน GM ครับ
..เมื่อได้ตัวโน๊ตกลองและเบอร์ที่ต้องการแล้วต่อไปเราจะปรับเสียงสูงต่ำหรือที่เราเรียกกันว่าขึงหนังกลองให้ตึงครับโดยการกดปุ่ม TUNE คุณก็จะได้รูปตามนี้ครับ
.
..จากรูปคุณจะเห็นว่า บรรทัดบน ยังคงเป็นตัวโน๊ตตัวเดิมแต่บรรทัดล่างจะเปลี่ยนไปเป็นค่า PITCH หรือการตั้งเสียงให้สูงขึ้นหรือต่ำลง ที่ใต้เลข +2 จะมีขีดของ cursor อยู่ ถ้าคุณหมุน DIAL ตัวเลข +2 จะเปลี่ยนเป็น +3, +4 เสียงที่ได้อาจจะไม่ละเอียดพอคุณอาจใช้ปุ่ม CURSOR เลื่อนขีดมาทางขวาให้อยู่ที่ใต้เลข 50 เมื่อคุณหมุน DIAL ค่าตัวเลขที่ได้จะละเอียดขึ้นและสามารถได้เสียงตามที่เราต้องการได้เร็วขึ้น...หลักการก็มีเหมือนเดิมนะครับคุณต้องเคาะให้ผ่าน SOUND ก่อนหลายๆลูก แล้วลดโวลลุ่มที่ SOUND ลงแล้วเร่งโวลลุ่มที่ D4 ดู ลองทำสลับไปมาแบบนี้นะครับลองฟังเสียงที่ได้ยินว่ามีโทนเสียงที่ D4 สูงหรือต่ำกว่าที่ SOUND อย่างน้อยเราก็ต้องอาศัยเสียงที่ออกจาก SOUND เป็นตัวเปรียบเทียบที่ค่อนข้างจะมาตรฐานได้นะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกๆท่านคือครูเรา
|
|
|
kongmee
member
คะแนน 3
ออฟไลน์
กระทู้: 236
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2007, 04:54:20 pm » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mooele
member
คะแนน 6
ออฟไลน์
กระทู้: 258
การลงมือทำคือสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการ
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2007, 05:07:59 pm » |
|
ปุ่ม MIX
.ปุ่มนี้จะมีหน้าที่เพิ่มและลดความดังเสียงของดนตรีชิ้นนี้ครับว่าจะให้มีสัญญานที่กลมกลืนกับเสียงอื่นๆที่ผสมและออกไปขยายไม่ให้เด่นจนเกินไปหรือเบาจนเกินไปครับ ตามรูป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกๆท่านคือครูเรา
|
|
|
mhootone
member
คะแนน 20
ออฟไลน์
กระทู้: 165
www.mtsat.tk
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2007, 12:54:14 am » |
|
ส่วนข้อเสียของ d4 คือ 1 เมื่อไฟเกิน มันจะมีเสียงรบกวนน่ารำคาญมาก 2 เมื่อไฟตก (ไปเล่นงานที่หมู่บ้านต้าง ต่าง เวลากลางคืนมักจะเจอปัญหานี้)เช่น มีเสียงกระเดื่อง แล้วไฟทั้งระบบตกวูบ เจ้า d4 ตัวดีมันจะ RE BOOT ตัวมัน ทำให้เสียงขาดหายเสียอารมณ์มากครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
042-871327
|
|
|
mooele
member
คะแนน 6
ออฟไลน์
กระทู้: 258
การลงมือทำคือสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการ
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2007, 07:07:22 am » |
|
เดียวบอกวิธีแก้ไขครับพี่หมูต้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกๆท่านคือครูเรา
|
|
|
mooele
member
คะแนน 6
ออฟไลน์
กระทู้: 258
การลงมือทำคือสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการ
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2007, 07:21:02 am » |
|
..จากรูปจะเห็นว่า บรรทัดบนก็ยังคงเดิมแต่บรรทัดล่างเปลี่ยนแปลงไปเป็น VOL:90 ตรงนี้ลองหมุน DIAL ดู ตัวเลขจะเปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่ 00-99 เลือกความดังตามต้องการครับ อีกตัวหนึ่งก็คือ PAN แพนตัวนี้ก็เหมือนกับที่เราปรับ PAN ที่ Mixer นั่นละครับคือแพนตัวเดียวกันท่านก็เลือกเอาว่าจะให้เสียงออกที่ข้างไหนสามารถปรับได้ 7 ช่วง ออกซ้ายไปเลยหรือตรงกลางหรือขวากึ่งกลางหนักทางซ้ายหน่อยหรือทางขวาหน่อยลองเลือกดูครับ
ที่จริงเทคนิคการปรับ PAN ตัวนี้ อย่างกับสแนร์หรือกระเดื่อง เราอาจจะปรับไว้ที่ข้างใดข้างหนึ่งก็ได้ไม่จำเป็นต้องปรับตรงกลางหรอกครับด้วยเหตุผลที่ว่า ทางด้าน input ของ mixer มันก็มีตัว pan อยู่แล้วอย่างเช่นการกำหนดให้สแนร์ออกที่ช่องใดช่องหนึ่งตอนที่คุณลดหรือเร่งเสียงคุณก็สามารถที่จะควบคุมเสียงที่ออกได้เพียงช่องเดียวไม่เช่นนั้นตอนคุณลดเสียงที่ mixer คุณอาจจะต้องลดตัวโวลลุ่มสองตัวพร้อมกันทั้งๆที่เป็นเสียงดนตรีเพียงชิ้นเดียว อาจจะพาลให้ดนตรีชิ้นอื่นเสียงอาจจะเบาตามไป
.. หลังจากที่คุณตั้งกลองได้ตามที่ใจคุณต้องการแล้วที่เหลือคือการบันทึกลงในช่องความจำครับ D4 ออกแบบมาให้มีความจำเพื่อตั้งชุดกลองได้ 21 ช่อง ตั้งแต่ 00-20 มากมายตัวผมเองบอกตามตรงไม่เคยได้ใช้เกิน 2 ช่อง (00-01) เท่นนั้นขี้เกรียจตั้งใช้ทดลองเล่นในบ้านเท่านั้นพอไม่เคยออกงานซักที
สมมุติว่าคุณตั้งทุกอย่างเรียบร้อยพร้อมที่จะเก็บข้อมูล คุณก็กดปุ่ม STORE หน้าจอจะเป็นไปตามรูปครับ
.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกๆท่านคือครูเรา
|
|
|
mooele
member
คะแนน 6
ออฟไลน์
กระทู้: 258
การลงมือทำคือสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการ
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2007, 07:32:08 am » |
|
..เมื่อหน้าจอขึ้นมาตามรูป เครื่องจะถามเราว่า ตอนนี้อยู่ใน Memory ที่ 00 ถ้าคุณคิดว่าคุณจะเก็บไว้ที่ช่องนี้ คุณก็กด STORE ซ้ำลงไป ถ้าจะเก็บเอาไว้ที่ช่องอื่นคุณก็หมุน DIAL เพื่อเลือกช่องที่เหลือ เมื่อได้ช่องที่ต้องการแล้วก็กดปุ่ม STORE อีกครั้งเครื่องก็บันทึกข้อมูลไว้ที่ช่องที่ท่านต้อ งการไว้เรียบร้อย
.
..การเรียกหน่วยความจำที่เราได้บันทึกไว้ในหน่วยความจำคุณสามารถเรียกมาใช้งานได้โดยกดปุ่ม DRUM SET ต่อจากนั้นคุณก็หมุนปุ่ม DIAL เพื่อเลือกแต่ละช่องออกมาใช้งานครับ
.
หมายเหตุ
ในกรณีที่คุณมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลเรื่องเสียง ตัวโน๊ต หรืออะไรต่างๆในตัวของ D4 ข้อมูลที่คุณเปลี่ยนจะไม่มีการถูกเก็บไว้จนกว่าคุณจะกดปุ่ม STORE สองครั้งครับ คุณจึงไม่ต้องกลัวว่าเสียงที่คุณเปลี่ยนมันจะทำให้ชุดกลองคุณเสีย หากคุณหลงทาง ให้ปิดสวิทช์ใหม่แล้วเปิดอีกครั้งทุกอย่างก็จะกลับเป็นอย่างแล้วเริ่มต้นใหม่ครับ
..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกๆท่านคือครูเรา
|
|
|
mooele
member
คะแนน 6
ออฟไลน์
กระทู้: 258
การลงมือทำคือสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการ
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2007, 07:49:14 am » |
|
..ปุ่ม EXT TRIG
..ปุ่มนี้มีไว้เพื่อเข้าหมวดการ TRIG ภายนอกโดยการใช้เปียโซ ในการทริก ผมจะเขียนให้อ่านภายหลังครับ สำหรับปุ่มสุดท้ายคือ MIDI
.ปุ่มนี้ถามว่าต้องใช้กันบ่อยไหม ถ้าหากเรา SET ค่าหลักไว้แล้วปุ่มนี้แทบไม่ได้ใช้งานเลย เขาจึงออกแบบให้อยู่ท้ายสุด เราลองกดเข้าไปดูว่าจะมีอะไรที่ SET ได้บ้าง
นี่เป็นพื้นฐานอย่างดีครับในการเซ็ด d 4 หวังว่าคงเป็นความรู้แก่ท่านผู้อ่านนะครับ ขอขอบคุณ อ.วิริยะ ครับที่เอื้อเฟื้อขอ้มูลครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกๆท่านคือครูเรา
|
|
|
mooele
member
คะแนน 6
ออฟไลน์
กระทู้: 258
การลงมือทำคือสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการ
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2007, 07:58:10 am » |
|
..จากที่ผมได้ค้างคาเอาไว้อยู่หมวดหนึ่งก็คือเรื่องการใช้ปุ่ม EXT TRIG ในหมวดนี้ D4 ได้ออกแบบมาเพื่อที่จะให้ผู้ที่เล่นกลองสดไม่ว่าคุณจะใช้ยี่ห้ออะไร ถูกแพงขนาดไหนก็แล้วแต่ เมื่อ TRIG ผ่าน D4 แล้วคุณภาพของเสียงที่ออกมาจะมีคุณภาพของเสียงเท่าเทียมกับการเล่นเพลงในคาราโอเกะหรือใน MIDI File ใน Part 10 แต่การให้จังหวะหรือการเล่นก็อยู่ที่ฝีมือของแต่ละท่านเท่านั้นเอง
..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกๆท่านคือครูเรา
|
|
|
mooele
member
คะแนน 6
ออฟไลน์
กระทู้: 258
การลงมือทำคือสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการ
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2007, 08:12:11 am » |
|
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับอุปกรณ์บางตัวเมื่อแรงดันไฟฟ้าตก คือเครื่องหยุดทำงาน หรือทำงานผิดปกติ เช่นของยี่ห้อ Alesis บางรุ่นเช่น D4, DM5, MidiVerb 4, Compressor เป็นต้น เป็นปัญหามาจากหม้อแปลงที่ติดมากับเครื่อง ให้สังเกตุค่าแรงดันไฟที่ใช้กับอะแดปเตอร์ตัวนี้ ระบุที่ INPUT 240V ดังนั้นเมื่อนำอะแดปเตอร์ตัวนี้มาใช้กับไฟ 220V ในเมืองไทยจึงทำให้แรงดันไฟที่ไปเข้าหม้อแปลงถูกลดลงไป 20V เป็นผลทำให้ด้านไฟออกลดลงไปด้วย และเมื่อมาเจอกับสภาพแรงดันไฟตกในบางพื้นที่เมื่อไปออกงานที่ไฟตกต่ำกว่า 220V ก็ยิ่งทำให้แรงดันไฟด้านออกจากอะแดปเตอร์นี้ลดต่ำลงไปอีก จนเครื่องทำงานไม่ไหวจนหยุดทำงานไปในที่สุด
ทางแก้คือใช้หม้อแปลงหรืออะแดปเตอร์ที่เหมาะสมกับแรงดันไฟของไทยคือ 220V เป็นวงจรภาคจ่ายไฟของ Alesis DM5 ครับ จะเห็นว่าวงจรใช้ไฟ +5V,-5V โดยนำแรงดันไฟเอซี 9V มาจากเอซีอะแดปเตอร์ แล้วมาแปลงภายในเครื่องตามที่เห็นอุปกรณ์ในรูปซึ่งมีการเผื่อค่าแรงดันไฟเข้า(9V)และไฟออก(5V)เอาไว้น้อยมาก จึงมักมีปัญหาต่อการทำงานของเครื่องเมื่อไฟตก(รวมทั้ง D4 ด้วย)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกๆท่านคือครูเรา
|
|
|
mooele
member
คะแนน 6
ออฟไลน์
กระทู้: 258
การลงมือทำคือสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการ
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2007, 08:19:31 am » |
|
รูปนี้เป็น Multi Effect ยี่ห้อ Alesis รุ่น MidiVerb 4 ผมได้จัดการเปลี่ยนหม้อแปลงใหม่เป็นของไทย ไฟเข้า 220V ไฟออก 9V แล้วจัดการใส่ไว้ในเครื่อง ใช้งานได้ดีไม่ปัญหาครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกๆท่านคือครูเรา
|
|
|
mooele
member
คะแนน 6
ออฟไลน์
กระทู้: 258
การลงมือทำคือสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการ
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2007, 08:31:47 am » |
|
Alesis รุ่น DM5 แผงวงจรเต็มพื้นที่ต้องให้หม้อ..แปลงอยู่ข้างนอก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกๆท่านคือครูเรา
|
|
|
mooele
member
คะแนน 6
ออฟไลน์
กระทู้: 258
การลงมือทำคือสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการ
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2007, 08:38:26 am » |
|
อุ่นใจอีกนิดครับใช้ UPS ขนาด 1000VA เครื่องนี้เครื่องเดียวเกินพอครับ ชุดอุปกรณ์คอนโซลในแร็คทั้งหมด(ยกเว้นเพาเวอร์แอมป์)+MIX Live 4 16Ch+SC-88Pro+R8mkII+XP10+Comp 2 ชุด+หลอดไฟ CF25W+จอมนิเตอร์+เครื่องรับไมค์ลอย+MD+EQ ชุดเสียงมอนิเตอร์+Controler BOSE 802 สำหรับระบบไฟเมนคงไม่ต้องพูดถึงครับรู้จักกันดีอยู่แล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกๆท่านคือครูเรา
|
|
|
WASPRO
member
คะแนน 0
ออฟไลน์
กระทู้: 5
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2008, 01:46:05 am » |
|
การต่อ ดี4 เขาต่อยังงัยกันครับเคยใช้แต่เล่นสดไม่เคยผ่านดี4 อยากลองใช้ดี 4 ดูนะครับแต่ไม่รู้จะต่อยังงัยครับตอนนี้หลายๆวงใช้กันเยอะมาก ใครรู้ช่วยบอกผมทีนะครับ อีเมลครับ soundsystemwas@hotmail.com
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
phittaya
member
คะแนน 1
ออฟไลน์
กระทู้: 22
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2008, 10:02:10 am » |
|
ผมเจอปัญหา D4 จี่ ที่ Main Out ส่วน Aux Out ไม่จี่ครับ จี่มากๆถ้าใช้ไฟปั่น ไฟบ้านจี่แต่น้อยมาก ใครมีวิธีแก้บ้างครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mooele
member
คะแนน 6
ออฟไลน์
กระทู้: 258
การลงมือทำคือสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการ
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2008, 02:25:33 pm » |
|
ใช่แล้วครับไฟปันมันไม่เรียบพอ(มักเจอปัญหาเรื่องนี้อยู่แล้ว) หา UPS สักเครื่องครับ แล้วก็เครื่องกรองสัญญาญไฟครับหายแน่นอน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทุกๆท่านคือครูเรา
|
|
|
|