ผีแดงหืดจับเฉือนฮัลล์4-3 เชลซี5-0,ปืนพลิกล็อกแพ้
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
เมษายน 29, 2024, 03:07:56 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ผีแดงหืดจับเฉือนฮัลล์4-3 เชลซี5-0,ปืนพลิกล็อกแพ้  (อ่าน 1725 ครั้ง)
แวมไพร์-LSVteam♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน912
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3712


..เรียนให้รู้เป็นครูเขา.Learning by doing


« เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2008, 04:55:45 AM »





ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันที่ 1 พ.ย. ที่สนามโอลด์ แทรฟเฟิร์ด "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "เสือใหญ่" ฮัลล์ ซิตี้ ทีมจอมเซอร์ไพรซ์

เริ่มเกมได้แค่ 3 นาที ดิมิทรา เบอร์บาตอฟ ก็จ่ายให้ คริสเตียโน โรนัลโด ยิงด้วยขวาเบียดเสาแรก เข้าประตู ให้เจ้าถิ่นนำก่อนอย่างรวดเร็ว 1-0 พอโดนก่อนทำให้ฮัลล์เปิดฉากลุยแหลก ก่อนจะมาตีเสมอได้สำเร็จ จากจังหวะฟรีคิก คูซิน โหม่งเช็ดเปลี่ยนทางเข้าประตูในนาทีที่ 23 ตีเสมอเป็น 1-1

เจ้าถิ่นไม่เสียศูนย์ จังหวะบุกสวนกลับขึ้นมา เบอร์บาตอฟ จ่ายให้ ไมเคิล คาร์ริก ยิงลอดขาแนวรับทีมเยือนพุ่งชนเสาไกลกระเด้งเข้าประตูให้แมนฯ ยูไนเต็ด ออกนำอีกครั้ง 2-1 ในนาทีที่ 29

จากนั้นเกมตกเป็นของเจ้าถิ่นครองบอลได้มากกว่า แต่ทีมเยือนสวมหัวใจเสือ สู้ไม่ถอย มีโอกาสทดสอบความเหนียวหนึบของ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นายทวารผีแดง หลายครั้งเหมือนกัน ทว่าก่อนหมดครึ่งแรกนาทีเดียว แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลูกเตะมุม โรนัลโด ขึ้นโหม่งตุงตาข่ายให้เจ้าถิ่นนำห่าง 3-1

กลับลงมาเล่นครึ่งหลัง เจ้าถิ่นก็ยังคงเหนือกว่า ขณะที่ทีมเยือนไม่มีอะไรจะเสียลุยแหลก แต่ก็มาโดนเจาะประตูที่ 4 ในนาทีที่ 57 จากลูกเตะมุมเช่นเดิม แต่คราวนี้เป็น เนมานยา วีดิช พุ่งโหม่งตุงตาข่าย 4-1

อย่างไรก็ตาม หลังนำห่าง เจ้าถิ่นมีโอกาสปิดเกมยิงประตูเพิ่มอีกหลายครั้ง แต่ทำไม่สำเร็จ เปิดโอกาสให้ฮัลล์ ได้ประตูไล่มาเป็น 2-4 จาก เมนดี้ ตัวสำรอง กระดกบอลข้ามศีรษะ ฟาน เดอร์ ซาร์ เข้าประตูไปในนาทีที่ 69 ก่อนที่ เมนดี้ คนเดิมจะกระชากบอลเข้าเขตโทษแล้วโดน ริโอ เฟอร์ดินานด์ ทำฟาวล์ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษ และเป็น จีโอวานนี รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ฮัลล์ไล่มาเป็น 3-4

ช่วงเวลาที่เหลือ กลายเป็นฝั่งทีมเยือนได้ใจลุยหนักกว่าเดิม นักเตะผีแดงต้องงัดลูกหนักมาสู้ทำให้โดนใบเหลืองไป คือ เวย์น รูนีย์ และ คาร์ลอส เตเบซ แต่จนแล้วจนรอด ฮัลล์ก็ไม่อาจยิงประตูตีเสมอได้ จบเกมจึงแพ้ไปแบบได้ใจแฟนบอล 3-4 พ่ายแพ้เป็นนัดที่ 2 ติดกัน

ส่วนที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เปปิดบ้านรับการมาเยือนของ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ เจ้าถิ่นเพิ่งโชว์ฟอร์มถล่ม ฮัลล์ ซิตี้ มาอย่างไม่ยากเย็น 3-0 แและนัดนี้ก็ยังฟอร์มแรงไม่หยุด ไล่ถล่มซันเดอร์แลนด์ข้างเดียว พ่ายไปเละเทะ 5-0 โดยได้ประตูจาก อเล็กซ์ นาทีที่ 27 และ นิโกลาส์ อเนลกา แฮตทริก นาทีที่ 30, 45 และ 53 และ แฟรงก์ แลมพาร์ด นาทีที่ 51

"ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ พลิกล็อก เอาชนะ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล 2-1 โดย ลูกทุ่มไกลของ รอลี ดีแล็ป กลายเป็นอาวุธเด็ดที่ทำให้ทีมชนะ แถม โรบิน ฟาน เพอร์ซี นักเตะปืนใหญ่ยังถูกใบแดงไล่ออกจากสนามด้วย

ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่นมีดังนี้

เอฟเวอร์ตัน ชนะ ฟูแลม 1-0, มิดเดิลสโบรช์ เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1, พอร์ทสมัธ แพ้ วีแกน แอธเลติก 1-2 และ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน เสมอ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 2-2


บันทึกการเข้า

แวมไพร์-LSVteam♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน912
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3712


..เรียนให้รู้เป็นครูเขา.Learning by doing


« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2008, 04:57:53 AM »





ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่สุดท้ายของคืนวันเสาร์ที่ 1 พ.ย. "ไก่เดือยทอง" ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส เปิดรังไวท์ฮาร์ท เลน รับการมาเยือนของจ่าฝูง "หงสแดง" ลิเวอร์พูล โดยเจ้าถิ่นกำลังใจดีเยี่ยมหลังจากนัดที่แล้วโชว์ฟอร์มไล่ตามตีเสมออาร์เซนอล 4-4 จากที่ถูกนำ 4-2 ฉลองผู้จัดการทีมคนใหม่ แฮร์รี เรดแนปป์ ขณะที่ทีมเยือนใช้ผู้เล่นชุดใหญ่ขาดเพียง เฟร์นานโด ตอร์เรส หัวหอกที่บาดเจ็บ

เเริ่มเกมเพียงแค่ 2 นาที ลิเวอร์พูลก็ออกนำไปก่อนอย่างรวดเร็วจากการบุกครั้งแรก ร็อบบี คีน ซึ่งกลับมาเยือนถิ่นเก่า พลิกบอลในเขตโทษ บอลไหลไปเข้าทาง เดิร์ก เคาท์ แตะหนึ่งจังหวะก่อนยิงด้วยขวาเต็มแรง บอลพุ่งแสกหน้า เอวเรโญ โกเมส นายทวารสเปอร์ส เข้าไปตุตาข่ายอย่างสวยงาม  ลิเวอร์พูลนำ 1-0

หลังจากขึ้นนำ ทีมเยือนยังบุกต่อเนื่องและเกือบจะได้ประตูที่ 2 ในอีกไม่กี่นาทีถัดมา จากลูกเตะมุม ดาร์เรน เบนท์ เตะสกัดผิดเหลี่ยมบอลเกือบเข้าประตูตัวเอง โชคดีที่กระเด้งไปชนเสาออกหลังไป

เจ้าถิ่นพยายามต่อบอลทำเกมรุกสู้ แต่จังหวะยังขาดๆ เกินๆ และมาตายในจังหวะสุดท้ายหน้าปากประตู ขณะที่ทีมเยือนเน้นการครองบอล ต่อบอลที่แน่นอนกว่า คุมจังหวะเกมไว้ได้ แต่ไม่เน้นบุกยิงประตูที่ 2 เพิ่ม ในช่วงท้ายครึ่งแรก สเปอร์สมีโอกาสลุ้นประตูครั้งแรก จากลูกยิงนอกกรอบของ ลูการ์ โมดริช บอลพุ่งเกือบเข้าประตู แต่ โฆเซ เรน่า ยังไวพุ่งปัดไว้ได้หวุดหวิด จบครึ่งแรกลิเวอร์พูลนำอยู่ 1-0

ครึ่งหลัง เกมลิเวอร์พูลยังดีกว่าและมีโอกาสลุ้นประตูที่ 2 เพิ่มอีกจากจังหวะ เคาท์ได้ยิงไปติดกองหลังกระเด้งมาเข้าทาง สตีเวน เจอร์ราร์ด ยิงสวนไป โกเมส พุ่งปัดได้ปลายมือนิดเดียว บอลที่กำลังจะเข้าประตู เลยไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

หงส์แดงยังบุกต่อเนื่องจากจังหวะฟรีคิก ดาเนียล แอ็กเกอร์ ขึ้นโหม่งหลุดกรอบไปนิดเดียว และจังหวะถัดมา โกเมส เตะลูกส่งคืนหลังสั้น ถูก ร็อบบี คีน ฉกไปจ่ายให้ เจอร์ราร์ด บรรจงหยอดไปที่ประตูโล่งๆ แต่บอลดันไปตกใส่คานอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้ชวดประตูขึ้นนำไปอีกครั้ง

นาทีถัดมา เดิร์ก เคาท์ พุ่งชาร์จลูกเปิดเข้ากลางเฉี่ยวเสาไปอีกครั้ง จากนั้น เจอร์ราร์ด เปิดลูกฟรีคิกไปให้ ชาบี อลองโซ พุ่งโหม่งก็ยังไม่ตรงกรอบ และจังหวะยิงของ เจอร์ราร์ด อีกครั้ง ก็ดันไปติดพวกเดียวกันเอง เด้งออกหลังไป

สเปอร์ส เจียนอยู่เจียนไป ที่แล้วนาทีที่ 68 จากลูกเตะมุม เล็ดลีย์ คิง ขึ้นโหม่งเบียดกับ เจมี คาร์ราเกอร์ แแล้วบอลมาตกใส่หัว คาร์ราเกอร์ เด้งเข้าประตูตัวเอง ให้เจ้าถิ่นตีเสมอ 1-1 ได้อย่างเหลือเชื่อในนาทีที่ 68

เกมกลับมาเข้าทางเจ้าถิ่นฮึกเหิมบุกเข้าใส่ลิเวอร์พูลคืนบ้าง ขณะที่ทีมเยือนเองก็บุกสวนไปเป็นระยะๆ แต่ก็ยังยิงประตูไม่ได้ เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาเหมือนเดิม จนกระทั่งนาทีสุดท้าย แฟนบอลเจ้าถิ่นทั่วสนามก็ได้เฮสุดเสียง เมื่อ เดวิด เบนท์ลีย์ ยิงไปให้ เรน่า ปัดได้ในจังหวะแรก แต่ ดาร์เรน เบนท์ ยังตามไปเก็บมาได้ จ่ายเข้ากลางให้ โรมัน พาฟลูเชนโก แปเข้าไป กลายเป็นประตูชัยให้ สเปอร์ส พลิกกลับมาชนะลิเวอร์พูล 2-1 และทีมเยือนแพ้เป็นนัดแรก ถูกเชลซี ที่เอาชนะซันเดอร์แลนด์แซงกลับมาเป็นจ่าฝูงด้วยจำนวนประตูได้เสียดีกว่า
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!