สิงห์บลูชวดขึ้นนำจ่าฝูง ตามตีเสมอผีแดงหืด1-1

[แวมไพร์-LSVteam♥]

ศึกพรีเมียร์ลีก นัดซันเดย์ ไนท์ ซูเปอร์บิ๊กแมตช์ ระหว่าง "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี จ่าฝูง เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของแชมป์เก่า "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเจ้าบ้านต้องรับข่าวร้ายก่อนเริ่มแค่ 15 นาที เมื่อ เดโก้ ซูซ่า เพลย์เมกเกอร์โปรตุกีส ได้รับบาดเจ็บกระทันหัน แต่ยังดีที่ มิชาเอล บัลลัค หายเจ็บกลับมาได้ทัน

ขณะที่แมนฯ ยูไนเต็ด ส่ง ดิมีทาร์ เบอร์บาตอฟ ลงสนามคู่กับ เวย์น รูนีย์ และส่ง โอเวน ฮาร์กรีฟ, พาร์ค ชี ซอง ลงสนาม ส่วนตำแหน่งของ เนมานยา วีดิช ที่ถูกโทษแบน เป็นหน้าที่ของ อีแวนส์ ดาวรุ่งสวมแทน

เริ่มเกมขึ้นมา แมนฯ ยูไนเต็ด บุกก่อนทันที และได้ยิงก่อนทันที จาก ดาร์เรน เฟลทเชอร์ แต่ยิงหลุดกรอบออกไป จังหวะถัดมา ปีเตอร์ เช็ก ออกมาสกัดบอลนอกกรอบ บอลมาเข้าทาง เบอร์บาตอฟ เตะโด่งกลับไป ก่อน รูนีย์ จะหวดต่ออีกทอด บอลลอยโด่งตกเฉียดประตูไปนิดเดียว

ทีมเยือนยังบุกได้น่ากลัว ริโอ เฟอร์ดินานด์ หลุดขึ้นไปยิงโล่งๆ แต่ ปีเตอร์ เช็ก ผู้รักษาประตูเชลซียังยอดเยี่ยม ใช้ขาเซฟไว้ได้หวุดหวิด จังหวะถัดมา เจ้าถิ่นได้ลุ้นบ้างจากจังหวะ โจ โคล หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดวลเดี่ยวกับผู้รักษาประตู แต่ยันยิงเข้าข้างตาข่าย เล่นเอาแฟนบอลเฮเก้อ

เชลซีต้องมาเจอข่าวร้ายอีกรอบ เมื่อ ริคาร์โด คาร์วัลโญ กองหลังตัวเก่งเกิดบาดเจ็บ ต้องเปลี่ยนตัวออกส่ง อเล็กซ์ ลงมาเล่นแทน และการสูญเสีย คาร์วัลโญ ยังกลายเป็นจุดที่ทำให้เชลซีต้องเสียประตู เมื่อแมนฯ ยูไนเต็ด ได้บุกขึ้นมา พาทริช เอฟรา หลุดขึ้นไปจ่ายให้รูนีย์ ได้ยิง ติดเซฟจังหวะแรก แต่บอลยังไปเข้าทาง พาร์ค ชี ซอง ได้แปโล่งๆ เข้าประตูไปในนาทีที่ 18 แมนฯ ยูไนเต็ด นำ 1-0

หลังเสียประตู เชลซี บุกมากขึ้น และ ฟลอรองต์ มาลูดา ปะทะกับ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์  ซาร์ นายทวารผีแดง จน ฟาน เดอร์ ซาร์ ได้รับบาดเจ็บ ต้องเปลี่ยนให้ โธมัส คุสแซ็ก ลงเล่นแทน ช่วงเวลาที่เหลือเจ้าถิ่นบุกแหลก แต่ก็ยิงงประตูทวงคืนไม่ได้ จบครึ่งแแรก ทีมเยือนนำอยู่ 1-0

ครึ่งหลัง เกมแทบจะตกเป็นของเจ้าถิ่นอย่างสิ้นเชิงขาดเพียงประตูเท่านั้น โดยที่แมนฯ ยูไนเต็ด มีจังหวะสวนกลับแทบนับครั้งได้ แม้จะเปลี่ยนเอา คริสเตียโน โรนัลโด ลงสนามมา แต่ก็เกือบจะได้ประตูเพิ่มในช่วง 15 นาทีสุดท้ายเหมือนกัน จากจังหวะที่ เวย์น รูนีย์ ได้ยิงโล่งๆ แต่ดันแปออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย

จังหวะถัดมา เชลซีได้สวนกลับ รูนีย์ ไปทำฟาวล์ระยะประมาณ 35 หลา จากลูกฟรีคิก โซโลมอง กาลู โถมขึ้นโหม่งคนเดียวโล่งๆ เข้าไปตุงตาข่ายเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 79

ช่วงเวลาที่เหลือ เจ้าถิ่นบุกแหลกหวังเอาชนะ แต่ทางทีมเยือนยังต้านทานเอาไว้ได้ ครบ 90 นาที เสมอกันไป 1-1 ในเกมที่ทีมเยือนถูกใบเหลืองฝั่งเดียวถึง 7 ใบ ประกอบด้วย พาร์ค ชี ซอง, พอล สโคลส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, แกรี เนวิลล์, ดิมีทาร์ เบอร์บาตอฟ, เวย์น รูนีย์, พาทริช เอฟรา และ คริสเตียโน โรนัลโด ขณะที่เจ้าถิ่นยังรักษาสถิติไม่พ่ายแพ้ใครในบ้านตัวเองต่อไปเป็นนัดที่ 85