ถึงคิวช่างซ่อมรถยนต์ ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
เมษายน 28, 2024, 09:30:51 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ถึงคิวช่างซ่อมรถยนต์ ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต  (อ่าน 4665 ครั้ง)
P-LSV team
Senior Member
member
*

คะแนน104
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 36


« เมื่อ: ธันวาคม 29, 2007, 12:15:04 PM »


 โดย นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ 28 ธันวาคม 2550 .
 
 
        ในขณะที่ภาคส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์ด้านบนของระบบ อันประกอบไปด้วยหน่วยงานเอกชนและองค์กรภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและการจำหน่าย กำลังพูดถึงจุดหมายปลายทางที่ต้องการก้าวไปไกลถึงการเป็นศูนย์กลางผู้ผลิตรถยนต์แห่งภูมิภาค จนมีการกำหนดนามเรียกขานกันมานานหลายปีแล้วว่า "ดีทรอยท์แห่งเอเซีย"
       
        มีการกำหนดเป้าหมายเป็นยุทธศาสตร์ของประเทศ ด้านการผลิตรถยนต์เอาไว้ที่หนึ่งในสิบผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกเมื่อวัดกันด้วยปริมาณการผลิต แผนการทางด้านการส่งเสริมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ได้รับการกำหนดให้เป็นแนวทางปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง จนดูราวกับว่าสิ่งที่กำลังกระทำกันอยู่นี้ จะบรรลุถึงเป้าหมายได้ภายในเวลาที่กำหนดเอาไว้ และจะเป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศไทยได้เชิดหน้าชูตา เท่าเทียมนานาอารยะประเทศที่เจริญเยี่ยงญี่ปุ่น และ เยอรมัน
       
        การวางตำแหน่งของเป้าหมายดังกล่าว ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับประเทศที่มีอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลัก แต่แผนการดำเนินการทั้งหมดต้องรอบคอบจะละเลยส่วนหนึ่งส่วนใดของสังคมของประเทศไม่ได้ มิฉะนั้นช่องว่างระหว่างคนได้รับประโยชน์ กับคนที่เสียโอกาสแห่งประโยชน์ก็จะถ่างออกห่างจากกันมากขึ้น
       
        คำกล่าวที่ว่า "บทเรียนแห่งความผิดพลาด สามารถหาได้จากการกระทำที่ผ่านมา" น่าจะเป็นคำกล่าวที่ทันสมัยไม่มีวันเชยตลอดเวลา ดังนั้นบทเรียนของการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ต้องหันมาทบทวนกันก็คือ ภาคส่วนของประชาชนที่เป็นผู้บริโภคและผู้ประกอบการรายย่อยที่เป็นผู้ให้บริการด้านการซ่อมบำรุงทั้งหลาย ภาครัฐต้องวางแผนให้คนเหล่านี้ได้รับข้อมูลและเรียนรู้ เพื่อที่จะอยู่ได้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของภาคธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์
       
        ในอดีตเราเรียกร้องกันที่จะให้คนไทยได้ใช้รถยนต์ที่ทันสมัยเท่าเทียมกับผู้คนในประเทศผู้ผลิตอย่างเยอรมันและอเมริกา เราจึงต้องเร่งออกกฎหมายควบคุมมลพิษจากไอเสียของรถยนต์ให้ทัดเทียมประเทศเหล่านั้น ทำให้รถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศไทยได้รับการพัฒนาทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว สินค้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเช่นน้ำมันเชื้อเพลิง ก็ถูกพัฒนาตามขึ้นมาเพื่อรองรับค่ามาตรฐานที่กำหนดเอาไว้เหล่านั้นด้วย
       
        แต่การพัฒนาในครั้งนั้นเป็นบทเรียนที่เจ็บปวดมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะผู้บริโภคไม่ได้รับรู้ด้วยว่าเมื่อสินค้าคือรถยนต์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องพัฒนาขึ้นมาแล้ว ผู้บริโภคก็ต้องพัฒนาเรียนรู้วิธีการใช้งานที่ถูกต้อง ต้องเรียนรู้วิธีการใช้งานที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากอุปกรณ์ใหม่ๆ และต้องเรียนรู้ที่จะใช้รถยนต์ในยุคใหม่ให้ประหยัดในภาพรวม มิใช่ประหยัดเพียงแค่เชื้อเพลิงเท่านั้น
       
        บรรดาช่างซ่อมบำรุงตามอู่ต่างๆมิได้รับการบอกกล่าวให้เตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้อู่เล็กอู่น้อยที่มีอยู่ทั่วทุกหัวระแหง ซึ่งเคยยังชีพอยู่ได้ด้วยการรับซ่อมบำรุงรถยนต์ทั่วไป ไม่สามารถทำการซ่อมบำรุงรถยนต์ยุคใหม่ ที่มีอุปกรณ์ทันสมัยมากขึ้นได้ หลายอู่ต้องหันไปซ่อมเครื่องจักรกลทางการเกษตรที่นับวันก็จะมีอนาคตที่ตีบตันมากขึ้น
       
        ในขณะเดียวกันระบบการศึกษาของประเทศก็ไม่ได้รับการให้ข้อมูลความรู้ทางด้านเทคนิค ที่สามารถผลิตบุคลากรขึ้นมารองรับการพัฒนาของเทคโนโลยีรถยนต์ได้ ตามสถานศึกษาระดับอาชีวะศึกษา เรายังคงใช้บทเรียนด้านเครื่องยนต์กลๆไกแบบเดียว หรือฉบับเดียวกันกับที่เคยใช้เมื่อสามสิบปีที่ผ่านมา เด็กที่เรียนจบออกมาจึงต้องมาศึกษาปรับปรุงความรู้ด้วยตนเองอีกมาก กว่าที่จะสามารถทำการอย่างหนึ่งอย่างใดกับเครื่องยนต์รุ่นใหม่ได้
       
        ผู้บริโภคไม่ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องว่า ในรถยนต์ยุคใหม่ถูกผู้ผลิตกำหนดอายุการใช้งานของอุปกรณ์และชิ้นส่วนแต่ละชิ้นเอาไว้ตามระยะ เมื่อถึงกำหนดส่วนใหญ่ต้องทำการเปลี่ยนอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนนั้นๆ ไม่สามารถทำการปรับปรุงพอกแต่งหรือต่อเติมได้เหมือนกับชิ้นส่วนกลไกในเครื่องยนต์ระบบดั้งเดิมอีกต่อไป
       
        และการผลิตอุปกรณ์ชิ้นส่วนมาเพื่อสนับสนุนการซ่อมบำรุงหลังการขายของรถยนต์ในปัจจุบัน ก็มีกำหนดตัวเลขที่ชัดเจนตามสัดส่วนของรถยนต์ที่ถูกผลิตขึ้นมา ไม่มีการผลิตออกมาจนไม่มีกำหนดหมดอายุเหมือนกับอะหลั่ยรถยนต์ในอดีตอีกแล้ว
       
       ดังนั้นเมื่อใช้รถยนต์ไปถึงระยะทางที่กำหนด การเปลี่ยนอุปกรณ์และชิ้นส่วนมีมากขึ้น จนเหลือชิ้นส่วนและอุปกรณ์น้อยลงในท้องตลาด ราคาค่าซ่อมบำรุงก็จะต้องแพงมากขึ้น สวนทางกันกับวิธีการใช้รถยนต์ในยุคเดิม ซึ่งเป็นเครื่องมือบังคับทางอ้อม ให้ผู้บริโภคคิดถึงความคุ้มค่าระหว่างการซ่อมกับการเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่
       
       ทั้งหมดนี้คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ภาครัฐในฐานะผู้กำกับดูแลให้ทุกภาคส่วนในสังคมประเทศไทย ต้องก้าวไปพร้อมกันอย่างมีช่องว่างของความได้เปรียบเสียเปรียบน้อยที่สุด ต้องเร่งลงมือกระทำในทุกๆด้าน มิใช่เอาแต่พร่ำบ่นท่องมนต์ "ดีทรอยท์ ออฟ เอเชีย" อยู่เพียงบทเดียวเท่านั้น เพราะขืนทำอย่างนั้นผู้บริโภคและผู้ประกอบการรายเล็กก็มีแต่ตายหรือไม่ก็เลี้ยงไม่โต ซึ่งหมายถึงประเทศไทยโดยรวมก็ตายหรือไม่โตไปด้วยแน่นอนครับ
 
 


บันทึกการเข้า

prom jantapho
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน413
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4845


ทำดีเท่าที่ทำได้


« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 08, 2008, 02:43:35 PM »

เป็นช่างซ่อมรถยนตร์หรือว่าอู่ซ่อมเครื่องยนตร์  ก็ต้องเพิ่มพูนความรู้กันบ้างซิครับไม่ใช่ว่ามุดแต่ใต้ท้องวรถอย่างเดียว
เพราะว่ารถในอนาคต  ผมคิดว่าน่าจะประกอบไปด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมายกว่าที่เป็นปัจจุบัน  ดังนั้นสมควรที่จะเติมเต็ม
และหาประสบการณ์ใหม่ๆใส่ใกบช่างซ่อมรถยนตร์  ไม่เช่นนั้นก็ตายอย่างที่ว่านั้นแหละครับ
บันทึกการเข้า

สามารถติดต่อได้ที่ 0841987970
mbsamart
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 08, 2008, 03:24:30 PM »

ที่นี่ประเทศไทย รถญี่ปุ่นทิ้งพี่ไทยยังเอามาใช้ได้อีกหลายสิบปี แถวบ้านผมรถสองแถวที่ผมนั่งไปตลาดกับย่าตอนเด็กๆ ยังวิ่งอยู่เลย จักรยานยนต์ญี่ปุ่นทำมา 2 ล้อบ้านเราต่อเป็น 3 ล้อพ่วงบรรทุกกระหน่ำจนรถยนต์อายก็มีเยอะ ผมนั่งคุยกับพรรคพวกอู่รถยนต์ต่างจังหวัดคงอีกหลายปีกว่าจะถึงยุคข่าวนี้
 Grin
บันทึกการเข้า
bombon
member
*

คะแนน16
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 187


« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 17, 2008, 08:03:58 PM »

ผมว่าเจ้าของรถครับอ่วมเหมือนกัน เพื่อนผมบอกว่าชิบไงก็เป็บชิบครับมีโอกาส
เจ๊งง่ายครับ เพื่อนเป็นคนเขียนโปรแกรมควบคุมชิบเคยพูดไว้ครับ
แต่เป็นชิบควบคุมอย่างอื่นนาครับผม
บันทึกการเข้า
tuu
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6



อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 30, 2008, 11:59:36 AM »

เศร้า
 Sad
บันทึกการเข้า
ถาวร-LSVteam
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน955
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7987



อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 30, 2008, 12:57:39 PM »

1  โปรแกรมในการตรวจเช็คเครื่องยนยต์รุ่นใหม่ หายากราคาสูง  (แถมภาษาอังกฤษ)
 2 ต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นในระดับที่ดี(ไม่ใช่งูๆปลาๆ
 3  การใช้งานโปรแกรม ต้องได้รับการอบรม (แต่ละบริษัทมันหวงข้อมูลจะตาย)
 ไม่ต่างจากช่างอิเล็กฯเราเท่าไรหรอกครับ ที่เป็นอุปศัค ผมถามหน่อยในเว็บนี้มีคนลงเฟิร์มแวร์ได้กี่คน และมีใครมั่งที่มีโปรแกรมลงเฟืร์มแวร์ของทีวี ทั้งที่เรื่องนี้รู้กันมาตั้งนานแล้ว ยังไม่พูดถึงซอฟแวร์ที่จะใช้ลงในแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่น  แค่เรื่องอีพรอมยังไม่ถึง50%เลยครับ
บันทึกการเข้า

ยังสร้างความฉิบหายให้ประเทศไทยไมพอกันอีกหรือ 
 ผู้ใดคิดร้ายให้ร้ายพระองค์ มันจงพินาจฉิบหายในเวลาอันใกล้
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!