มึนหัว เลย ลายตาไปหมด ไม่มี ช่องไฟ เลย
เอาใหม่ ครับ
...................
...................
...................
.
วันที่ 12 ตุลาคม 2015 เพจแฉ..ความลับ โดยเสธน้ำเงิน
ได้วิเคราะห์ สถานการณ์สงครามโลกครั้งที่ 3 เอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ
โดยมีรายละเอียดดังนี้ ...
การที่เราจะรู้อนาคตได้ เราต้องศึกษาประวัติศาสตร์
คนไม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์ คือ คนที่ตาบอด
และจะไม่มีวันปรับตัวรองรับกับอนาคตได้
การจะรู้ว่าสงครามโลกครั้งที่ 3 จะเกิดเมื่อไร
และประเทศไทย คนไทยจะต้องปรับตัว เตรียมพร้อมอะไรบ้าง
จึงต้องเรียนรู้ว่าจุดเริ่มสงครามโลกนั้น มันมีสัญญาณบอกอย่างไร
จุดกำเนิดสงครามโลก 2 ครั้งที่ผ่านมา ก็ไม่พ้นสาเหตุเดิมๆ คือ
การขยายอิทธิพลทางทหาร การแข่งขันด้านอาวุธ
การรุกรานแย่งชิงดินแดนของนักล่าอาณานิคมชาวตะวันตก
เพราะเกิดความโลภอยากได้
และเพื่อแย่งชิงทรัพยากรจากชนชาติอื่นๆ ที่เขามีอยู่อุดมสมบูรณ์
และความไม่สมดุลของขั้วอำนาจโลก
การรบกันช่วงแรกๆ ของสงครามโลกที่ผ่านมา
จะเริ่มจากจุดเล็กๆ พื้นที่ประเทศเดียวก่อน
เป็นสงครามตัวแทนแล้วขยายความขัดแย้งลุกลามไปเรื่อยๆ
สงครามโลกครั้งที่ 1 หรือ "มหาสงคราม
เป็นสงครามใหญ่ที่มีศูนย์กลางอยู่ใน ยุโรป เกิดขึ้นเมื่อ 101 ปีมาแล้ว
ทุกประเทศมหาอำนาจของโลก ร่วมในสงคราม
สาเหตุมาจากการสร้างกองทัพกันขนานใหญ่เพื่อแข่งขันกันขยายอำนาจ
แข่งขันผลิตเรือรบขนาดใหญ่ และแข่งขันผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์
ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายด้านการทหารของประเทศในยุโรปเพิ่มขึ้น 50 %
การปะทะกันครั้งแรก ๆ ของสงครามโลกครั้งที่ 1
เกิดขึ้นเมื่อข้อตกลงระหว่างประเทศล้มเหลว ไม่เคารพกติกาของโลก
ในครั้งนั้นเริ่มการรบในอาณานิคมอังกฤษ ฝรั่งเศส และ เยอรมนี ในแอฟริกา
มีการต่อสู้ประปรายและป่าเถื่อน
ต่อมาขยายเข้าไปในจักรวรรดิออตโตมัน ที่มีอาณาเขตที่ครอบคลุมถึง 3 ทวีป
ได้แก่ เอเชีย แอฟริกา และยุโรป ซึ่งขยายไปไกลสุดถึงช่องแคบยิบรอลตาร์ทางตะวันตก
นครเวียนนาทางทิศเหนือ ทะเลดำทางทิศตะวันออก และอียิปต์ทางทิศใต้
มีศูนย์กลางอยู่ที่ตุรกีในปัจุบัน มหาอำนาจทั้งสองฝ่ายรบกันยาวนาน 4 ปี 3 เดือน
ท้ายสุดมีทหารกว่า 70 ล้านนาย
ซึ่งเป็นทหารยุโรปราว 60 ล้านนาย
ถูกระดมเข้าสู่สงครามใหญ่
ทหารและประชาชนในสมรภูมิสงครามตายกันมากมายหลายล้านคน
พอมาถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่
ขยายเป็นความขัดแย้งทางทหารเมื่อ 70 ปีที่แล้ว
เกี่ยวข้องกับประเทศมหาอำนาจทั้งหมด
รวมตัวกันเป็นคู่สงคราม 2 ฝ่าย ระหว่างสงครามมีการระดมทหารกว่า 100 ล้านนาย
ในลักษณะของ "สงครามเบ็ดเสร็จ"
มีคนตายมากกว่า 60 ล้านคน ประกอบไปด้วยทหารกว่า 22 ล้านคน และพลเรือนกว่า 40 ล้านคน
สาเหตุเสียชีวิตของพลเรือนส่วนใหญ่ มาจากโรคระบาด
การอดอาหาร การฆ่าฟัน และการทำลายพืชพันธุ์อาหาร
ถือการความตายครึ่งมหึมาของมวลมนุษยชาติ
และอเมริกาขนระเบิดนิวเคลียร์มาทิ้งใส่พลเรือนญี่ปุ่นที่ไม่เกี่ยวใดๆ
กับการทหารทั้งสิ้นตายไปกว่า 2 แสนคน บาดเจ็บอีกนับไม่ถ้วน
ดังนั้นนาทีนี้ถ้าไม่เรียกสมรภูมิตะวันออกกลางว่า
สงครามโลกครั้งที่ 3 รูปแบบใหม่ ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรได้ เพราะประเทศที่ประกาศตัวเข้าร่วมสงครามครั้งนี้
อย่างเป็นทางการก็ 34 ประเทศเข้าไปแล้ว
แยกเป็นฝ่ายเทพระบอบอนุรักษ์นิยมจำนวน 6 ประเทศ คือ
รัสเซีย จีน อิหร่าน ซีเรีย อิรัก เยเมน
และฝ่ายมารลัทธิประชาธิปไตย 28 ประเทศ คือ
อเมริกา และนาโต้ ที่บงการครอบอีกชั้นหนึ่งด้วยกลุ่มทุนอิลลูมินาติที่มีอำนาจเหนือรัฐบาล
ความคล้ายของจุดกำเนิดสงครามโลกครั้งที่ 1 กับสงครามโลกครั้งที่ 3 นี้
มีปัจจัยใกล้เคียงกัน คือ เศรษฐกิจในชาติตะวันตกตกต่ำติดเหว
การแข่งขันการผลิตอาวุธจนล้นตลาด
การสร้างกองทัพกันขนานใหญ่เพื่อแข่งขันกันขยายอำนาจ
แข่งขันผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์
การไม่เคารพกติกาโลกของชาติมหาอำนาจ
ค่าใช้จ่ายด้านการทหารของประเทศในยุโรปเพิ่มขึ้น 50 %
การรุกรานแย่งชิงดินแดนของนักล่าอาณานิคมชาวตะวันตก
การแย่งชิงทรัพยากรจากชนชาติ และความไม่สมดุลของขั้วอำนาจโลก
การเริ่มพื้นที่สงครามจากอดีตอาณาจักรอ็อตโตมัน
มีคนอาหรับตายจากการเข่นฆ่าของอเมริกาและนาโต้ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 250,000 คน
แล้วส่อเค้าขยายลุกลามเข้าไปในตุรกี และยุโรป
ในรูปแบบการอพยพผู้คนลี้ภัยสงครามไม่ต่ำกว่า 4 ล้านคนเข้าไปยุโรป
เรียกได้ว่าสงครามในซีเรีย และอิรักคราวนี้
ปัจจัยเหมือนสงครามโลกครั้งที่ 1 ไม่มีผิดเพี้ยน
ล่าสุดประเทศอิหร่าน
ได้ประกาศว่าได้ทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปประสบผลสำเร็จแล้ว
และสามารถยิงได้ถึงอังกฤษและอเมริกาได้อย่างสบายๆ
ส่วนทหารซีเรียได้รายงานว่าตรวจพบเครื่องบินรบ F16 จำนวน 2 ลำ
ติดป้ายอเมริกา บินฝ่าเข้าไปในน่านฟ้าซีเรีย
เขตที่รัสเซียประกาศ ห้ามประชาธิปไตยบิน
จากนั้นมุ่งเข้าทำลายเป้าหมายพลเรือน
โดยจู่โจมทำลายอาคารและแหล่งพลังงานของเมือง อัลรุดวานิยา
ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของเมืองอเลปโป ทำให้เกิดไฟฟ้าดับ
เพราะอเมริกาต้องการลองของรัสเซียและ
ยั่วให้โกรธเพื่อยิงเครื่องบินของอเมริกาก่อน
จะได้เป็นข้ออ้างในการประกาศสงครามได้อย่างเต็มรูปแบบ
ส่วนอังกฤษก็ไม่เบา แถลงข่าวต่อสื่อยิวไซออนิสต์ว่า
อังกฤษเป็นตัวแทนนาโต้ 28 ชาติ และจะยิงเครื่องบินรบของรัสเซีย
ในเขตน่านฟ้าของอิรัก
โดยอังกฤษจะใช้ฝูงบินรบ Tornado "Royal Air Force" Fighter
ซึ่งติดตั้งขีปนาวุธแบบ Air to Air เข้าต่อสู้กับรัสเซียแบบตาต่อตาฟันต่อฟันทันที..
เออ..รัสเซียเขาถล่มกลุ่มก่อการร้ายไม่ใช่รึ
แล้วอังกฤษเป็นเดือดเป็นแค้นแทนใคร ?
ส่วนอเมริกาเตรียมแหย่จีนโดยส่งเรือรบเข้าไปในเขต 12 ไมล์ทะเล
ในหมู่เกาะสแปรตลี ทะเลจีนจีนที่จีนสร้างประภาคาร
สิ่งปลูกสร้างบนเกาะกลางทะเล และมีเรือรบพร้อมเรือดำนำ
และเครื่องบินรบของจีนหนาแน่นที่สุดในโลก
โดยอเมริกาหวังให้จีนระดมยิงใส่ตนก่อน
จากนั้นจะระดมทหารญี่ปุ่นที่แก้กฎหมายเข้าสู่สงครามแล้วมาต่อสู้กับจีน
หวังปั้นสมรภูมิพื้นที่สงครามเอเซียให้คล้ายสงครามโลกครั้งที่ 2
เพราะแม้สงครามจะเกิดอย่างหนักหน่วงเพียงใดที่ตะวันออกกลาง และยุโรป
แต่จุดชี้ขาดชัยชนะจะไม่ใช่ที่ยุโรปเหมือนสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2
แต่หากมหาอำนาจชาติใดยึดทะเลจีนใต้ และช่องแคบมะลากาได้
ก็จะเป็นฝ่ายกำชัยในการสู้รบสงครามโลกรอบใหม่นี้
ส่วนการสู้รบในสงครามสมรภูมิซีเรียตอนนี้นั้น
รัสเซียได้ส่งเครื่องบินรบของกองทัพอากาศทิ้งระเบิดและ
ขีปนาวุธโจมตีทำลายกองบัญชาการต่างๆ
ของกองกำลัง IS CIA ฝ่ายประชาธิปไตยมากถึง 60 จุด ในช่วงแค่วันเดียว
พื้นที่จังหวัดรักกาของซีเรีย และจุดนี้สามารถทำให้กองกำลัง IS CIA อเมริกา
แปลสภาพเป็นปุ๋ยรากมะม่วงราวๆ 200 ราย
สังหารผู้บัญชาการภาคสนามระดับอาวุโสของอเมริกา 2 ราย
รวมไปถึงฐานบัญชาการแห่งหนึ่ง
และคลังเก็บกระสุนในเรือนจำเก่าใกล้เมืองอเลปโป
ฆ่าฝ่ายอเมริกาไปอีกมากถึง 100 ราย
รวมทั้งระเหยค่ายฝึกกองกำลัง IS CIA ของอเมริกา
ในจังหวัดลาตาเคีย และอิดลิบ กลายเป็นอากาศธาตุ
ถือเป็นการจู่โจมที่หนักหน่วงที่สุดของรัสเซีย
นับตั้งแต่เริ่มโจมตี ประธานาธิบดีปูติน ที่เติบโตในอาชีพมาจาก KGB
ได้ชื่อว่าสุขุมลุ่มลึกเสมอ เขาให้สัมภาษณ์ทีวีรัสเซีย
ในการถล่มกองกำลัง IS CIA ของอเมริกาในซีเรียด้วยมิสไซด์วิถีไกล 1,500 กม.
จากเรือรบกลางทะเลว่า
"เราโจมตีด้วยแผนที่เหนือความคาดหมายของ
หน่วยข่าวกรองอเมริกา โดยตัดสินใจปล่อยขีปนาวุธจากเรือรบในทะเลแคสเปี้ยน
ข่าวกรองอเมริกาถือว่าดีที่สุดในโลก
แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถคาดการณ์แผนการโจมตีของเราได้ "
เป็นการเยาะเย้ยอเมริกาว่าฉลาดน้อย และกองทัพรัสเซียนั้น
สามารถจู่โจมอเมริกาด้วยขีปนาวุธจากทุกหนแห่งในโลกแบบที่ CIA คาดไม่ถึง
และที่แสบทรวงยิ่งกว่าขี้กลากทาซีม่าโลชั่น คือ
กลุ่ม IS CIA ของอเมริกามองผู้หญิงว่าไม่มีสิทธิเสรีภาพใดๆ
รัสเซียจึงแก้เผ็ด
โดยส่งนักบินหญิงเสืออากาศไปทิ้งระเบิดถล่มกองกำลังอเมริกา
เป็นสิ่งเดียวที่ทำร้ายจิตใจกลุ่ม IS CIA มาก
เพราะถ้าตายจะไม่ได้ไปสวรรค์ถ้าผู้หญิงฆ่าโดยผู้หญิง
และนี่คือกับตัน Svetlana Kapanina นักบินรัสเซีย
จบปริญญาโทด้านกีฬาของรัสเซีย ที่ทิ้งระเบิดใส่อเมริกาไป
เปิดเพลงฟังไปดังที่หลายคนได้เห็นในคลิปวิดีโอที่ฝ่ายรัสเซีย
เอามาเผยแพร่เยาะเย้ยอเมริกาไปทั่ว..โอ..มันช่างช้ำใจพ่อตอณ์ปิโดดำยิ่งนัก
เอาผู้หญิงมาฆ่ากัน..นี่แหละที่เขาเรียก แสบ โหดรัสเซีย !!
ส่วนจ้าวลัทธิประชาธิปไตยแถลงว่าจะยกระดับการ สนับสนุนกบฏ
ที่กำลังสู้รบกับรัสเซีย และซีเรีย โดยจะเอาภาษีคนอเมริกา
มาซื้อแพกเก็จอาวุธและยุทโธปกรณ์ อุปกรณ์สื่อสารและกระสุน
แล้วไปแจกกับแกนนำกบฏและกองกำลัง IS CIA
และจะให้การสนับสนุนทางอากาศกับกบฏเพื่อสู้กับรัสเซียด้วย
ล่าสุดสถานการณ์สู้รบในสงครามโลกครั้งใหม่
ลุกลามถึงขั้นเริ่มประจัญบานกันด้วยรถถังนานาชนิดแล้ว
โดยฝ่ายอเมริกาถูกโจมตีพ่ายแพ้ย่อยยับถูกกวาดเรียบ
และพบกองกำลัง IS CIA ขึ้นรถปิคอัพยี่ห้อโตโยต้า
ที่ฝ่ายเพนตากอนเคยจัดซื้อรถยี่ห้อนี้ราว 3,000 คัน ผ่านจากหลายประเทศ เช่น
ออสเตรเลีย หรือแม้แต่จากโรงงานในอเมริกาเองที่ญี่ปุ่นเพิ่งประกาศปิดสายการผลิต
ฝ่ายจีนก็ทำสงครามการเงินแบบเงียบๆ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
เงินหยวนของจีนได้ขยับแซงหน้าสกุลเงินสากลแล้วถึง 7 สกุล
และจนถึงเดือนสิงหาคม 2558 ที่ผ่านมาประเทศที่ใช้เงินหยวน
ชำระหนี้มีประมาณ 100 ประเทศ
มีการชำระด้วยเงินหยวนกว่า 90% เกิดขึ้นใน 10 ประเทศ
เช่น สิงคโปร์ ใช้เงินหยวนสูงถึง 24.4% รองลงมาคือประเทศอังกฤษ 21.6%
ที่เลิกใช้เงินดอลลาห์ และลดการใช้เงินปอนด์และยูโร
แต่ที่น่าเสียวที่สุดท่ามกลางอุณหภูมิสงครามโลก
ในตะวันออกกลางที่เพิ่มความเดือดระอุ คือพญามังกร
ได้ส่งกองทัพช่วยพญาหมีขาวแล้ว โดยจีนส่งเรือบรรทุกเครื่องบินพร้อมฝูงบิน J-15
ไปร่วมกับรัสเซียในการถล่มฝ่าย IS CIA ของอเมริกาและนาโต้
โดยเครื่องบินรบ J-15 นี้เป็นเครื่องบินขับไล่ที่พัฒนาเองโดยจีน
เป็นเครื่องบินประจำเรือบรรทุกเครื่องบินที่พัฒนาต่อมาจากเครื่องบินรบ Su-33 Flanker ของรัสเซีย
โดยจีนได้รับอภินันทนาการตัวแบบมาจาก Su-33
โดยระบบ Avionics และระบบอาวุธที่ใช้กับ J-15 ทั้งหมด
จะเป็นระบบที่จีนพัฒนาขึ้นเอง ทั้งระบบเรดาร์แบบ AESA ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์
และจีนยังเปิดหน้ารบกับอังกฤษและนาโต้ โดยส่ง
Combat drone CH-4B มาถึงอิรักเรียบร้อยแล้วพร้อมส่งเจ้าหน้าที่
มาสอนการควบคุมถึงที่อิรัก Air Force base อีกด้วย
ถือเป็นการส่งทหารรบนอกบ้านเป็นครั้งแรกในรอบ 70 ปี
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยจีนเนียนมาก คือให้ อิรัก และซีเรียส่งหนังสือ
ขอความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการ เหมือนที่รัสเซียได้รับมาก่อนหน้า
การมาของจีนในครั้งนี้ เป็นการแสดงออกซึ่งความสัมพันธ์
ที่เปิดเผยระหว่างฝ่ายเทพอนุรักษ์นิยมตะวันออก จีน รัสเซีย และอิหร่าน
ที่จะจับมือกันทำสงคราม ต่อต้านอิทธิพลของอเมริกาและนาโต้ ในตะวันออกกลาง
และภูมิภาคอื่นๆ สงครามโลกครั้งที่ 3 ครั้งนี้จะได้เห็นแสนยานุภาพทางการทหารของจีน
ที่ผงาดขึ้นมาติดอันดับกองทัพที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้ว
แค่รัสเซียประเทศเดียว ก็กวาดกองกำลัง IS CIA
ลงไปทำรากมะม่วงแล้วกว่า 300 รายในวันเดียว
และจีนเปิดหน้ามาช่วยอิรักแล้วแบบนี้
ในไม่นานต่อจากนี้สมรภูมิรบจุดนี้จะดุเดือดเลือดพล่าน
มากกว่าเดิมอีกหลายสิบเท่า อเมริกาและนาโต้จะส่งอาวุธมาให้ทหารต่างชาติ
ของฝ่ายตนเองแบบโล๊ะสต็อค และฝ่ายเทพรัสเซีย และจีน
ก็จะหันไปใช้อาวธขนาดใหญ่ประเภทข้าวหลามยักษ์แทนปืนกลธรรมดา ทิ้งลงไป
แต่ละทีเก็บกวาดได้เรียบร้อยเนียบราบสนิท
และโลกจะตะลึงเมื่อจีนเปิดสารพัดอาวุธที่ซุ่มพัฒนาไว้หลายพันปี
เพื่อมาล้างรอยแค้นสงครามโลกครั้งที่ 2 ในครั้งนี้
เพราะจีนยังมีไม้ตายที่ฝ่ายอเมริกา และนาโต้จะต้องงงงวยแน่นอน
ด้วยกองทัพลัพ 8 เทพอสูรมังกรฟ้า , 18 ฝ่ามือพิชิตมังกร ,
ฝ่ามือฮั่งเล้งจับโป้วเจี่ย , ฝ่ามือสยบมังกรสิบแปดท่า ,
คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น , ดาบมังกรหยก , กระบี่ไร้เทียมทาน ,
ขุนศึกตระกูลหยาง , ก๊วยเจ๋ง , ฮุ้นปวยเฮี้ยง ,
วรยุทธ์ลับสุดยอดของเฮียสีคราวนี้
ไอ้กันกับนาโต้ หนาวขี้แตกขี้แตนแน่นอน..ฮา !!
ขอบคุณ
http://www.tnews.co.th/contents/y/309695