สูตรพริกแกงเผ็ดของกลุ่มแม่บ้านฯ ลุงเขว้า ประกอบด้วย 1. พริกแห้ง 2 กิโลกรัม
2. ข่าหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ครึ่งกิโลกรัม
3. ตะไคร้หั่นฝอย 1 กิโลกรัม
4. กระเทียม 1 กิโลกรัม
5. หอมแดง ครึ่งกิโลกรัม
6. กระชาย/ใบมะกรูด พอประมาณ
7. เครื่องปรุงอื่น ๆ เช่น น้ำปลา เกลือ และกะปิ
วิธีทำนำส่วนผสมทั้งหมด ไปบดหรือตำให้ละเอียด อาจปั่นด้วยเครื่องปั่นก่อนแล้วนำมาโขลกอีกครั้งด้วยครก เพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันดี เมื่อส่วนผสมได้ที่แล้ว เติมกะปิ น้ำปลา เกลือ ลงไปอย่างละน้อย เพื่อให้รสชาติกลมกล่อมที่สำคัญต้องใส่ใบมะกรูดหั่นฝอยลงไปด้วย จะทำให้กลิ่นของพริกแกงเผ็ดหอม โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ 60 บาท ต้นทุนการผลิตกิโลกรัมละประมาณ 40 บาท กำไร 20 บาท ขณะนี้มีสมาชิก 20 คน สามารถผลิตได้เดือนละ 300-400 กิโลกรัม นอกจากพริกแกงเผ็ดที่จำหน่ายเป็นกิโลกรัมแล้ว ทางกลุ่มยังแบ่งพริกแกงใส่ถุงพลาสติกเล็ก ๆ ประมาณถุงละ 3 มิลลิกรัม จำหน่ายปลีกถุงละ 3 บาท รวมกันเป็นมัด ๆ ละ 13 ถุง จำหน่ายให้กับร้านขายของชำทั่วไป ราคามัดละ 30 บาท ผู้บริโภคซื้อเพียง 1 ถุงเล็ก ก็สามารถนำไปปรุงอาหารได้ พริกแกงเผ็ดของกลุ่มแม่บ้านลุงเขว้า ไม่ใส่สารกันบูดใด ๆ สามารถเก็บไว้ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ส่วนใหญ่จะจำหน่ายได้หมดภายใน 1-2 วัน นับจากวันผลิต สำหรับสมาชิกกลุ่มทั้ง 20 คน นอกจากได้เงินปันผลปีละ 1 ครั้งแล้ว ยังได้รับค่าแรงในวันที่มาผลิตวันละ 100 บาทด้วย ถึงแม้จะเป็นรายได้ที่ไม่มากนัก แต่สมาชิกกลุ่มก็มีเงินจับจ่ายใช้สอยทุกวัน มีเงินค่าขนมให้ลูกไปโรงเรียนทุกวัน ทำให้สภาพเศรษฐกิจของหมู่บ้านดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน นอกจากนี้ชาวบ้านลุงเขว้ายังทำน้ำปลาจากปลาร้ารับประทานเองในครอบครัว ทำให้ลดรายจ่ายลงได้อีกเดือนละหลายร้อยบาททีเดียว ..........
--------------------------------------------------------------------------------------------
สูตรการทำน้ำปลาจากปลาร้า ป้าช้ำ ศรีหฤทธิไกรเล่าให้ฟังว่า เป็นสูตรที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากย่ายาย ตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ เพราะในสมัยก่อนช่วงหน้าแล้ง ชาวบ้านจะจับปลาก่อนที่น้ำจะแห้งหมด ปลาที่จับได้มีทั้งปลาใหญ่ปลาเล็ก ปลาตัวใหญ่ที่ขายกันสด ๆ ปลาตัวเล็กก็นำมาทำปลาร้าเก็บไว้รับประทานในครอบครัว เพราะปลาร้าถือเป็นเครื่องปรุงหลักของอาหารภาคอีสานอยู่แล้ว เมื่อปลาร้ามีเป็นจำนวนมาก แต่น้ำปลายังต้องซื้อหาจากร้านค้าทั่วไป และมีราคาแพง น้ำปลาแท้ขวดละ 20 กว่าบาท ส่วนน้ำปลาผสมขวดละ 3-4 บาท ก็เป็นน้ำเกลือปรุงรส ไม่มีคุณค่าทางอาหาร ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย รวมทั้งอาจมีอันตรายต่อสุขภาพในอนาคตอีกด้วย ดังนั้นชาวบ้านจึงคิดทำน้ำปลาจากปลาร้ากัน โดยมีสูตรการทำดังนี้
ส่วนผสมน้ำปลาจากปลาร้า 1. เกลือป่น 3 ส่วน
2. ปลาร้า 1 ส่วน
3. น้ำสะอาด 12 ส่วน
4. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
5. สับปะรด 1 หัว
วิธีทำ 1. นำเกลือไปคั่วในกะทะให้สุก โดยใช้ไฟปานกลาง เทใส่ถ้วยเก็บไว้
2. นำน้ำตาลทรายไปคั่วในกะทะให้ละลายจนเป็นสีน้ำตาลไหม้ ยกลงจากเตา
3. ตวงน้ำใส่หม้อ นำไปตั้งไฟ นำเกลือคั่วและน้ำตาลคั่วพร้อมสับปะรด น้ำตาล และปลาร้าใส่ลงไปในหม้อ ต้มให้เดือดจนกระทั่งสุก ยกลงจากเตา นำน้ำปลาที่ได้ไปกรองด้วยผ้าขาวบางเพื่อเอาก้างปลาและกากสับปะรดทิ้งไป บรรจุในขวดปิดปากให้สนิทเก็บไว้รับประทานได้ หากนำออกมาตากแดดทุกวัน น้ำปลาจะมีความใสมากขึ้น และยิ่งเก็บไว้นานรสชาติยิ่งอร่อย นอกจากเก็บไว้รับประทานในครัวเรือนแล้ว ยังจำหน่ายขวดละ 15 บาทด้วย
ที่มา
http://www.ku.ac.th/e-magazine/october46/know/soup.html