วิธีเช็คระบบไฟฟ้าด้วยตัวเอง

1. สายไฟ

ตรวจดูว่าฉนวนหุ้มสายไฟชำรุดหรือไม่ จากสภาพภายนอก โดยดูว่าเหลือง ขุ่น กรอบแตก ฉีกขาดหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนี้ควรรีบทำการเปลี่ยนโดยด่วนที่สุด เพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว อีกทั้งพยายามอย่านำเอาเฟอร์นิเจอร์ไปบังสายไฟถ้าไม่จำเป็น เพราะจะทำให้เราหลงลืมการตรวจการตรวจสายไฟไป และสายไฟจากสายไฟตลับ หรือเต้ารับรวมก็ควรไม่ให้มีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใดมาทับเด็ดขาดเพื่อป้องกันสายไฟชำรุด

2. เต้ารับ/เต้าเสียบ

ตรวจสอบให้มั่นใจว่าเต้าเสียบได้เสียบแน่นสนิทดีกับเต้ารับ หากไม่สนิทก็ลองขยับขาเต้าเสียบ หรือเปลี่ยนไปก็ได้ เพราะถ้าทั้ง 2 อย่างหลวมเมื่อไหร่ ความร้อนตรงจุดนี้จะเพิ่มสูงขึ้นกว่าเท่าตัว ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้ และเพื่อความปอดภัยจากไฟฟ้ารั่วจากเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็ควรที่จะใช้เต้ารับและเต้าเสียบแบบ 3 ขาสำหรับสายดิน เพื่อถ่ายไฟที่รั่วลงสู่ดิน

3. สภาพภูมิอากาศ

ควรระวังจุดเดินสายไฟ และจุดวางเครื่องใช้ไฟฟ้าของตัวบ้าน ว่าแต่ละตำแหน่งวางได้เหมาะสมหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นความร้อนจากแสงแดด ไอร้อนจากตู้เย็น หรือเขม่าควันจากการทำอาหาร เป็นต้น รวมถึงถ้าวางใกล้หน้าต่างก็ต้องระวังเรื่องฝนสาดให้ดี เพราะน้ำถือว่าเป็นตัวนำกระแสไฟฟ้าที่ดี และยังจะทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหาย

ลองนำวิธีที่แนะนำไปเช็คระบบไฟฟ้ากันดูได้ เพื่อความปลอดภัย.