"ดร.พิรงรอง " กรรมการ กสทช.สายสื่อมวลชน
ให้การปฏิเสธสู้คดี "บ.ทรู ดิจิตัล" ฟ้อง กล่าวหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
ศาลอาญาคดีทุจริตนัดตรวจหลักฐาน 30 ก.ค.นี้
พร้อมยกคำร้อง ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่วันนี้ (14 พ.ค.) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
นัดฟังคำสั่งและสอบคำให้การจำเลย คดีที่ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด โจทก์
ยื่นฟ้อง ดร.พิรงรอง รามสูตร นักวิชาการสื่อสารมวลชน กรรมการ กสทช.
กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
ด้านกิจการโทรทัศน์ กล่าวหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
กรณีออกหนังสือแจ้งไปยังผู้รับอนุญาต
ประกอบกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ จำนวน 127 ราย
ซึ่งอาจทำให้ผู้ได้รับอนุญาตเข้าใจว่าโจทก์เป็นผู้ทำผิดกฎหมาย
และอาจส่งผลให้ผู้รับอนุญาตอาจระงับเนื้อหารายการต่าง ๆ
ที่โจทก์ส่งไปออกอากาศ
โดยคู่ความโจทก์และจำเลยมาศาล
ศาลอ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังโดยละเอียด
พร้อมทั้งแจ้งสิทธิต่าง ๆ ให้ทราบแล้ว จำเลยให้การปฏิเสธ
อ้างว่าไม่ได้ทำผิดตามฟ้อง และจะยื่นคำให้การ
เพิ่มเติมอีกภายใน 30 วันนับแต่วันนี้
ศาลเห็นว่า เพื่อให้การตรวจหลักฐานดำเนินไปโดยสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง
และได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วน จึงให้เจ้าพนักงานคดีและคู่ความ
ร่วมกันจัดเตรียมเอกสาร หลักฐาน
บัญชีพยานให้พร้อมก่อนวันนัดตรวจพยานหลักฐาน
โดยศาลกำหนดนัดตรวจพยานหลักฐานคดีนี้ใน
วันที่ 30 ก.ค.นี้ เวลา 09.30 น.
ส่วนคำร้องที่โจทก์ขอให้ศาลสั่งจำเลยหยุดปฎิบัติหน้าที่กรรมการ กสทช.
และประธานอนุกรรมการด้านกิจการโทรทัศน์ไว้ชั่วคราว
จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาคดีนี้หรือให้ศาลกำหนดมาตรการใด ๆ
ที่เป็นการห้ามจำเลยกระทำการที่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์นั้น
ศาลเห็นว่า หลังจากโจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้และศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้องไว้แล้ว
ไม่ปรากฏว่าจำเลยมีการกระทำใดหรือพฤติการณ์
ใดที่ส่อแสดงให้เห็นว่าเป็นปฏิปักษ์ หรือขัดขวาง
หรือกลั่นแกล้งการประกอบธุรกิจของโจทก์
หรือกลุ่มบริษัทในเครือโจทก์ จึงยังไม่มีน้ำหนักและเหตุผลเพียงพอ
ที่ศาลจะมีคำสั่งให้จำเลยหยุดปฏิบัติหน้าที่
หรือกำหนดมาตรการหรือออกข้อกำหนดใด ๆ ตามที่โจทก์ร้องขอ
แต่หากมีพฤติการณ์เปลี่ยนแปลงไป ศาลอาจมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นได้
https://mgronline.com/crime/detail/9670000041655?tbref=hp