สนช.ปลดล็อก “กัญชา+กระท่อม”แล้ว เล็งจัดโซนนิ่งให้เสพ ไม่ผิดกฎหมาย

สนช.ปลดล็อก “กัญชา+กระท่อม”แล้ว เล็งจัดโซนนิ่งให้เสพ ไม่ผิดกฎหมาย

(1/3) > >>

ช่างเล็ก(LSV):
หากอ่านบทความไม่พอดีกับจอมือถือ ดูเนื้อหาและคลิปวีดีโอที่เกี่ยวข้อง> w ww.ubmthai.com เวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน >>คลิ๊ก!!    www.pohchae.com
.
.      ------------------------ ที่ประชุมสนช.มีมติ 166 ต่อ 0 เสียง เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ เพื่อปลดล็อกกัญชาและกระท่อมออกจากการเป็นยาเสพติดประเภท 5 พร้อมกำหนดโซนนิ่งในการปลูก เสพกระท่อมได้โดยไม่ผิดกฎหมาย.. 25 ธ.ค. 2561 การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) โดยมี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. ทำหน้าที่ประธานในการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ในวาระ 2 และ 3 ตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ที่มีนายสมชาย แสวงการ เป็นประธานฯ พิจารณาเสร็จแล้ว .. สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว เช่น การพิจารณาปลดล็อกกัญชาและกระท่อมออกจากการเป็นยาเสพติดประเภท 5 ให้สามารถนำไปศึกษาวิจัยเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และสามารถนำไปใช้รักษาโรคภายใต้การควบคุมและดูแลทางการแพทย์ได้ โดยการจะผลิต นำเข้า ส่งออก ครอบครอง หรือจำหน่ายกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ได้นั้น ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎกระทรวงกำหนด และความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ และหากมีปริมาณการครอบครองเกิน10 กิโลกรัม ให้สันนิษฐานว่ามีไว้เพื่อจำหน่าย สำหรับหน่วยงานที่จะได้รับอนุญาตให้ผลิต นำเข้า ส่งออก ครอบครอง หรือจำหน่ายกัญชาได้นั้นประกอบด้วย.. 1.หน่วยงานรัฐ ที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัยหรือจัดการเรียนการสอนวิชาด้านการแพทย์ เภสัชกรรม วิทยาศาสตร์ เกษตรศาสตร์ หรือหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ป้องกันปราบปรามแก้ปัญหายาเสพติด หรือสภากาชาดไทย 2.ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม เภสัชกรรม ทันตกรรม การแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ หมอพื้นบ้านตามเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด 3.สถาบันอุดมศึกษาที่ศึกษาและวิจัยด้านการแพทย์ 4.ผู้ประกอบอาชีพเกษตรที่รวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชน จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยวิสาหกิจชุมชน 5.ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ 6. ผู้ป่วยที่เดินทางระหว่างประเทศที่มีความจำเป็นต้องใช้ยาเสพติดติดตัวเพื่อใช้รักษาโรคเฉพาะตัว 7.ผู้ขออนุญาตอื่นที่รมว.สาธารณสุขเห็นชอบ นอกจากนี้ ยังกำหนดให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)ให้ความเห็นชอบการกำหนดโซนนิ่งในการปลูกกัญชา หรือผลิตทดสอบ เสพ หรือครอบครองในปริมาณที่กำหนด รวมถึงมีอำนาจกำหนดให้ท้องที่ใดเป็นพื้นที่เสพกระท่อมได้โดยไม่เป็นความผิด โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง บทลงโทษ- หากครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยมีปริมาณกัญชาไม่ถึง 10 กิโลกรัม มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ครอบครองเกิน 10 กิโลกรัม จำคุก 1- 15 ปี ปรับ 100,000 -1,500,000 บาท. สำหรับในร่างกฎหมายดังกล่าวยังกำหนดว่า เมื่อร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวมีผลใช้บังคับแล้ว 3 ปี ให้คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดประเมินผลการดำเนินงานเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตการผลิต นำเข้าส่งออกจำหน่าย หรือครอบครองกัญชาทุก 6 เดือนด้วย [embed]https://www.youtube.com/watch?v=j9ybKzci4N0[/embed] หลังจากที่สมาชิกสนช.ได้อภิปรายกันจนครบทุกมาตราแล้ว ที่ประชุมสนช.จึงได้ลงมติให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษด้วยคะแนน 166 ต่อ 0 เสียง และงดออกเสียง 13 เสียง ให้กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป... : www.108kaset.com เรียบเรียง ขอบคุณ https://108kaset.com/farm/2018/12/25/herb-3/  

eskimo_bkk-LSV team♥:
ข่าวร้ายในข่าวดี!! ฉลุย กม.ยาเสพติดฯ ปลดล็อก“กัญชา-กระท่อม”
ทางการแพทย์ แต่ไม่ยักจะเคลียร์ “สิทธิบัตรกัญชา”ที่ “ต่างชาติ”ยื่นขอไว้ให้เสร็จก่อน
แปลกแต่จริง ขนาด“สนธิรัตน์”กระทุ้งเอง
 “กรมทรัพย์สินทางปัญญา”ยังนิ่ง
ส่อ“เตะหมูเข้าปากหมา”ให้ “ต่างชาติ”ต่อยอดสิทธิบัตรที่คาอยู่
ได้เปรียบชาวบ้าน-คนไทย
ระวังจะเดือดร้อน

eskimo_bkk-LSV team♥:
โค๊ด:

https://www.facebook.com/watch/?v=1315757885572116&aggr_v_ids

------------------------------------------------------
พรรคภูมิใจไทย พรบ. ปลูกกัญชา 6 ต้นไม่ผิดกฏหมายนั่นคือนโยบาย
ยังไม่ถูกบรรจุในกฏหมายของรัฐไทย
แต่จริงๆแล้ว 6 ต้นจึงไม่มีนัยยะอะไรในทางปฏิบัติ
มันคือ นโยบายหาเสียงเท่านั้น
มันมีกลไกมากกว่านั้นคือใครปลูกโดยไม่มีใบอนุญาติถือว่าผิดกฏหมาย
ปรับ 3แสน จำคุก 3 ปี

วันที่ 9 มิถุนานี้ 2565 กัญชาจะเป็นสิ่งที่ไม่ผิดกฏหมายเต็มรูปแบบ
ปลูกได้อย่างอิสระเสรี ปัญหามันควรจะ จบแล้ว ในวันที่ 9 มิย.นี้

แต่พรรคภูมิใจใทยเสนอ พรบ.เพื่อมาควบคุมกัญชา ครั้งใหม่
ว่าในขบวนการปลูก ต้องมีใบอนุญาติ
ใบอนุญาติใบละ 5 หมื่น ใบละ แสน

แล้วใครจะมีคุณสมบัติเป็นผู้ได้รับอนุญาติหรือ
ปลูกในครัวเรือนได้ต้องขึ้นอยู่กับ รัฐมนตรี เป็นผู้กำหนด
แล้วกฏหมาบฉบับนี้ก็สถาปนาผู้เชี่ยวชาญขึ้นมาว่า
"ใครจะได้ หรือไม่ได้" ใบอนุญาติ
ทำ นโยบาย โฆษณาปุ๊บ แล้วก็ทำ พรบ. ดัดหลังปั๊บ

การปลูกในครัวเรือนต้องมีความยากลำบากโคตรๆ
สำหรับชาวบ้านที่ใช้เป็นยา

โดย พรบ.ฉบับนี้ เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไป รื้อ ค้นตรวจ ยึด
ในบ้านบ้าน ในอาคาร ยึดอุปกรณ์ทุกอย่าง ที่ปลูก การแปรรูปฯลฯ
โดยไม่ต้องมี หมายค้น เจอ จับ เข้าห้องขัง ส่งศาล คุกหรือปรับ?

สิ่งที่พรรคพภูมิใจไทยโฆษณาวันแรก
หาเสียง ปลูกได้เสรีในครัวเรือน
พอมาถึง ณ วันนี้สิ่งที่ เค้าออกกฏหมาย
มาคุมประชาชนไม่ให้ปลูก กัญชาได้

อ้ายที่ปลูกแบบฟาร์มปิดเป็นร้อยๆไร่นั้นเค้าได้รับใบอนุญาติ
โดยหน่วยงานภาครัฐฯลฯที่เกี่ยวข้องให้ปลูกได้เพื่อ
"งานวิจัยทางการแพทย์" เป็นการกล่าวอ้าง ของพวกตนเอง

วันที่ 9 มิถุนาเราอาจจะดีใจได้ไม่กีวัน?
ถ้าพรบ.ฉบับที่พรรคภูมิใจไทย ยื่นดัดหลัง ผ่านครม. ปั๊บ
กัญชาจะถูก ควบคุม มากกว่าที่ เป็นยาเสพติด  ตาม
ฉบับกฏหมายเก่าด้วยซ้ำไป

ประโยชน์ของ กัญชา ทั้งหมด  มันอยู่ที่ ดอก
แต่ดอกทั้งหมดที่ได้จากการปลูก "ต้องส่ง รัฐ เท่านั้น"
ประชาชนมีสิทธิ์ เพียง ใบ และ ราก
ซึ่งสารที่มีคุณภาพของชีวิต มันอยู่ที่ "ดอก"
สุดท้ายแล้ว รัฐ กำลังเล่นอะไร? ปาหี่
เหมือน  เคาะกระลาให้ หมาดีใจ

งั้น วันที่ 9 มิถุนา ประชาชนปลูกกัญชา+กระท่อม
ได้เสรี ไม่่ผิดกฏหมาย
ยกเว้น THC 0.2 ย้ำ THC>0.2%.
ถ้าประชาชน มีอยู่ ก็ผิดกฏหมาย
มันย้อนแย้งในหลักการมาก
มันกำลังเล่นอะไรกันอยู่?

ถ้าเค้าหวังดีกับประชาชนจริง
เค้าจะไม่ออก กลไก ที่มันย้อนแย้ง
ให้มันตรงไปตรงมา
ไม่ต้องตีความ ไม่ต้องซับซ้อน

ถ้าไปอ่านร่างพรบ.ฉบับ ภูมิใจไทยแล้ว มันคือ พรบ.กีดกัน
ไม่ช่าย พรบ. ส่งเสริม

พูดง่ายๆคือคนกลุ่มเดียวพยายาม
"คุมมูลค่า" การตลาดนับ หมื่นล้าน
นี่คือ เป้าหมายของพรรค ภูมิใจไทย

ปรับ 3 แสน จำคุก 3 ปี นะมึง!!!

 cry2!!

eskimo_bkk-LSV team♥:
20 เมษา #วันกัญชาโลก

โค๊ด:

https://www.facebook.com/watch/?v=375934557783102

12 เคล็ดลับในการเพาะเมล็ดกัญชา 

เมล็ดกัญชาเล็ก ๆ ทุกเมล็ดแสดงถึงดอกกัญชาที่มีศักยภาพ
มันบ้ามากที่คิดว่าความอุดมสมบูรณ์มากมาย
มาจากสิ่งเล็กน้อยเช่นนี้ หากคุณต้องการปลูกพืชกัญชา
ในช่วงฤดูร้อนนี้เริ่มต้นได้เลยโดยไปที่
แผนกพันธุศาสตร์ที่ได้รับรางวัลของ KindPeoples
ซึ่งคุณสามารถเรียกดูสายพันธุ์หลายร้อยสายพันธุ์
ในรูปแบบเมล็ดและโคลนและเลือกพืชที่สมบูรณ์แบบเพื่อปลูก
เมื่อคุณพบพืชที่ต้องการแล้ว
การเริ่มต้นปลูกกัญชาก็เป็นเรื่องง่าย
เพียงทำตามคำแนะนำพื้นฐานเหล่านี้
ในการงอกเมล็ดของคุณและปลูกในดิน

1. มองหาเมล็ดพันธุ์อวบอ้วนที่ทำงานได้โดยมี "ลายเสือ"
ที่ด้านข้างบ่งบอกถึงความเป็นผู้ใหญ่
เมล็ดพันธุ์ขนาดใหญ่มักจะให้ผลผลิตพืชที่แข็งแรงและแข็งแรงกว่า
2. ปลูกอย่างน้อย 12 เมล็ดโดยรู้ว่า 50%
อาจกลายเป็นพืชตัวผู้ซึ่งคุณไม่ต้องการ
เฉพาะต้นกัญชาเท่านั้นที่สร้างดอกไม้เรซินที่เราต้องการ
เลือกพืชที่แข็งแรงที่สุดที่จะเก็บไว้และ
หากคุณมีพืชตัวเมียมากกว่า 6 ชนิดคุณสามารถคั้นน้ำ
หรือกินในสลัดเพื่อให้ได้ไฟโตนิวตอย
3. เริ่มต้นด้วยการแช่กระดาษทิชชู่ลงในน้ำแล้วบิดเบา ๆ
คุณต้องการให้ผ้าเปียกชุ่ม แต่ไม่ให้น้ำหยด
4. วางเมล็ดกัญชาของคุณลงบนกระดาษเช็ดมือแล้วพับไว้บนเมล็ด
ใส่ผ้าขนหนูลงในถุงพลาสติก ระบายอากาศเข้าไปในถุงและปิดผนึก
5. ให้เมล็ดอุ่นที่อุณหภูมิ 75 ถึง 85 องศาฟาเรนไฮต์
เพื่อให้ได้ระยะฟักตัวที่เหมาะสม หาสถานที่อุ่น ๆ
ที่ด้านบนของตู้เย็นบนขอบหน้าต่างที่มีแสงแดดส่องถึง
หรือบนพรมเมล็ดพืชหรือแผ่นทำความร้อน
ภายใน 48 ชั่วโมงรากแก้วจะทะลุปลอกเมล็ด
ปลูกเมล็ดของคุณในดินที่สัญญาณแรกของรากแก้ว
6. เตรียมหม้อขนาด 1 แกลลอนผสมดินอ่อน ๆ
Fox Farm Ocean Forest หรือ Black Gold ก็ใช้งานได้ดี
เช่นกันหากคุณต้องการเพิ่มการหล่อหนอนคุณสามารถทำได้
ในอัตราส่วนของดิน 4 ส่วนต่อการหล่อตัวหนอนหนึ่งส่วน
7. รดน้ำดินก่อนปลูกเมล็ดทำให้เปียก แต่ไม่ต้องแช่
8. ใช้ตะเกียบเจาะรูใต้พื้นผิว 1/2 - 3/4 นิ้ว
โดยใช้ถุงมือยางวางเมล็ดอย่างระมัดระวัง
ในรูที่รากแก้วชี้ลง คลุมเมล็ดด้วยสิ่งสกปรก
9. หลีกเลี่ยงการเทน้ำลงบนเมล็ดที่เพิ่งปลูกใหม่
เพราะอาจรบกวนการจัดวางได้ คุณสามารถเทน้ำ 1-2 ช้อนโต๊ะ
ลงไปด้านบนอย่างระมัดระวังหากต้องการ
วางเมล็ดไว้ใต้แหล่งกำเนิดแสงที่ดีและทำให้มันอบอุ่น
หลังจากนั้นอีก 48 ชั่วโมงก็จะมีหน่อออกมา!
10. ดูแลต้นกล้าในหน้าต่างที่มีแดดจัด
กรอบเย็นหรือเรือนกระจก ตราบใดที่อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 60 - 80ºF
ต้นกล้าก็จะสบายดี การจุ่มลงต่ำกว่า50ºFในตอนกลางคืน
อาจทำให้การเจริญเติบโตช้าลงได้
ดังนั้นคุณอาจต้องการนำต้นไม้ที่เปราะบางเข้าไป
ในตอนเย็นจนกว่าพวกมันจะแข็งขึ้น
11. ต้นอ่อนของคุณจะสบายดีในหม้อขนาด 1 แกลลอน
สำหรับการเจริญเติบโต 4-5 สัปดาห์ถัดไป
รดน้ำพอประมาณทุกวันจนชุ่ม แต่ไม่ต้องแช่
12. ใช้เวลาทุกวันในการสังเกตต้นไม้ของคุณ
และความใส่ใจนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหาก่อนที่จะเริ่ม

สาเหตุส่วนใหญ่ของการขาดการงอกคือ
การกินมากเกินไป อย่าปล่อยให้เมล็ดเปียกเกินไป
มิฉะนั้นอาจจมน้ำได้และอย่าแช่นานเกินไป
มิฉะนั้นเมล็ดจะเริ่มเน่า ถ้าเมล็ดยังไม่แตกหลังจาก 48 ชั่วโมง
ให้ปล่อยไปวันอื่น แต่หลังจาก 5 วันเมล็ดมักจะตาย
#OrganicMan

โค๊ด:

https://www.facebook.com/%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-110586667478299/

 ping!

eskimo_bkk-LSV team♥:
Cannabis




นัดสำคัญ...20 เมษา #วันกัญชาโลก

ขอเชิญเพื่อนกัญ..พบปะสังสรรค์
ขับเคลื่อนพลักดัน..เสรีกัญชาไทย
-----------------------------------------------------------
อ่าน พ.ร.บ.อนุทินแล้วมีข้อสงสัยว่า
กัญชาเป็นพืชหรืออาวุธสงคราม ?

ทำไม พ.ร.บ.ฉบับอนุทินจึงเขียน เช่นนี้ 
คำตอบมีเพียงหนึ่งเดียวคือ
โครงสร้างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับมูลค่าเศรษฐกิจ
เกือบทุกฉบับในประเทศนี้มีปรัชญาเดียวคือ
ทำให้เสรีในหลักการแต่ควบคุมกำกับโดยกลไกต่างๆ
เพื่อกีดกัน"ประชาชน" แต่รองรับกลุ่มทุนใหญ่ เช่น 
กฎหมายเบียร์ กฎหมายไฟฟ้า 
สำหรับกัญชานั้นมีมุลค่าการตลาดหลายหมื่นล้านบาท
จึงต้องร่างกฎหมายตามปรัชญาดังกล่าว
ถึงแม้ว่ากัญชาจะไม่เป็นยาเสพติด
แต่กลไกที่ออกมาตาม พ.ร.บ.ของอนุทิน
กลับสร้างกลไกการควบคุมยิ่งกว่าตอนเป็นยาเสพติด
.
ทำไมอนุทินจึงทำเช่นนี้...
การปลดกัญชาออกจากยาเสพติด
ก็เพื่อทำให้การค้าทำได้โดยสะดวก
แต่โจทย์สำคัญคือจะทำอย่างไรให้มูลค่าทางการค้า
ตกอยู่ในมือคนกลุ่มเดียวได้อย่างไร
ฉะนั้นจึงออกกฎหมายมาควบคุม
พ.ร.บ.ของอนุทิน มี 45 มาตรา
ร้อยละ 90 เขียนถึงการควบคุมการผลิต
ส่วนการคุ้มครองผู้บริโภคพูดถึงเพียงมาตราเดียว

พ.ร.บ.อนุทิน ควบคุมอย่างไร
ขั้นแรกใครจะปลูกได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับ
รมต.สาธารณสุขออกประกาศ
หากใครมีคุณสมบัติตามประกาศ
จะต้องมีใบอนุญาตใบละ 50,000 บ.
หากแปรรูปด้วยต้องขออีกใบราคาใบละ 50,000 บาท
หากจะนำเข้าต้องจ่ายใบละ 100,000 บาท
จะส่งออกใบละ 10,000 บาท
หากจะขายภายในประเทศใบละ 50,000 บาท
ค่าคำขอครั้งละ 7,000 บาท
ค่าตรวจอาคารครั้งละ 50,000 บาท 

แม้ว่าจะยังไม่มีประกาศกระทรวงแต่เดาได้เลยว่า
คุณสมบัติของผู้ที่ได้รับอนุญาตต้องไม่หยิ่งหย่อนไปกว่าก่อนหน้านี้
ที่ลงทุนแล้วเจ๊งกันมากมาย
เพราะกำหนดคุณสมบัติแบบที่ประชาชนทำไม่ได้
และ การอนุญาตนั้นได้เฉพาะเครือข่ายของ
พรรคการเมืองนี้เท่านั้น และ ใน พ.ร.บ.อนุทิน
หากถูกเพิกถอนใบอนุญาตต้องรอสามปีจึงจะขอใหม่ได้

อนุทินสร้างกลไกชนิดหนึ่งขึ้นมาใน พ.ร.บ. คือ
กลไกของผู้เชี่ยวชาญ อันนี้คือ
กลไกแห่งผลประโยชน์ทับซ้อนหากเทียบเคียงกับกฎหมายฉบับอื่น
เพราะผู้เชี่ยวชาญย่อมใช้ดุลพินิจ ที่จะให้ใครได้รับอนุญาต
หรือ วินิจฉัยว่าใครจะมีความผิด 
ซึ่งผู้ที่กำหนดคุณสมบัติของผู้เชี่ยวชาญคือ
รมต.สาธารณสุข

ผู้เชี่ยวชาญคือคนชี้เป็นชี้ตาย
หากต้องการใบอนุญาตก็จ่ายใต้โต๊ะ 
หากไม่อยากโดนกลั่นแกล้งก็จ่ายใต้โต๊ะ
หรือไม่ก็ต้องทำงานรับใช้กลุ่มทุนกัญชา
ที่สร้างตัวเองขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว
และเป็นที่มาของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ด้วย

นอกจาก กลไกการอนุญาตที่แสนยากแล้ว
พ.ร.บ.ของอนุทินยังสร้างกลไกหนึ่งขึ้นมาเพื่อจัดการควบคุม คือ
ให้อำนาจ จนท.เข้า ตรวจค้น ยึด อายัด กัญชา กัญชง
ยึดเครื่องมือ อุปกรณ์ ฉลาก บรรจุภัณฑ์ ทุกชนิด
และหากว่า จนท.สงสัยว่า ใครจะยักย้าย ถ่ายเท
สามารถเข้าตรวจค้นได้โดยไม่ต้องมีหมายค้น
โดยให้ถือว่าการกระทำของ จนท.เหล่านี้เป็น
เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
กลไกเช่นนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอาวุธในการทำลายคู่แข่ง
และ เป็นกลไกเพื่อเรียกรับผลประโยชน์...
ทั้งนี้เพราะรายได้ที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
ฉะนั้นเมื่ออ่านกฎหมายทั้ง 45 มาตราแล้ว
ทำการสรุปว่า พ.ร.บ.อนุทินนั้นเกิดขึ้นเพื่อควบคุม
ทางการค้าสำหรับมูลค่าหลายหมื่นล้าน
หากยังสงสัยเรื่องกฎหมายกัญชา ให้
กลับไปดูกฎหมายการผลิตเบียร์
เพราะเขียนจากรากฐานปรัชญาเดียวกัน นั่นคือ
ทำให้เสรีแล้วควบคุม ให้คนกลุ่มเดียวเท่านั้นที่สามารถทำได้

ประชาชนในภาคใต้ที่เข้าร่วมเวทีล้วนมีความเห็นร่วมกันว่า
ต้องล้ม พ.ร.บ.อนุทิน

พ.ร.บ.ฉบับอนุทิน ปฏิบัติกับกัญชาเหมือนกับอาวุธสงคราม
ทั้งที่มันคือพืชพื้นเมืองที่เป็นสิทธิ
ของประชาชนที่จะเข้าถึงได้ เหมือนกับ
พริกขี้หนู กะหล่ำปลี
............
ประชาชนในภาคใต้มีความเห็นว่า
กฎหมายกัญชาต้องอยู่บนฐานปรัชญา ดังนี้

1.ต้องเป็นกฎหมายส่งเสริม วิจัย พัฒนา ไม่ใช่กฎหมายควบคุม

2.กลไกที่ออกแบบต้องยึดหลักกระจายอำนาจ
ไม่ใช่ผูกขาดอำนาจที่ส่วนกลาง

3.ให้เน้นกลไกการคุ้มครองผู้บริโภคและให้เสรีการปลูกเหมือนพืชทั่วไป
การคุ้มครองผู้บริโภคให้ยึดถือตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น
นำกัญชาไปผลิตเป็นอาหารและยา
ต้องผ่านมาตรฐานองค์การอาหารและยา เป็นต้น
ส่วนการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการให้เป็นหน้าที่
การกำหนดของคณะกรรมการระดับจังหวัด

4.การปลูกให้แจ้งที่องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นโดยแต่ละท้องถิ่น
ให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งประกอบด้วย
หน่วยงานในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคประชาชนในสัดส่วนที่เท่ากัน
โดยคณะกรรมการดังกล่าวมีหน้าที่สำหรับ
การรับจดแจ้งเท่านั้นไม่มีหน้าที่สำหรับการพิจารณาอนุญาต

5.ให้ส่งเสริมการพัฒนาพันธุ์กัญชาพื้นเมืองในแต่ละท้องถิ่น
โดยหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องร่วมมือกับสถาบันวิชาการในท้องถิ่น

6.ให้มีคณะกรรมการระดับจังหวัดขึ้นมาชุดหนึ่งประกอบด้วย
หน่วยงานราชการ วิชาการ ภาคประชาชน ในสัดส่วนที่เท่ากัน
เพื่อทำหน้าที่ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนารูปแบบการผลิต
การแปรรูป กัญชา กัญชง เพื่อการกระจายผลประโยชน์ให้เกิดขึ้นแก่ประชาชน
รวมทั้งการกำหนดพื้นที่การใช้กัญชาเพื่อสันทนาการในจังหวัดนั้นๆ

7.ในการนำเข้า ส่งออก ให้ขออนุญาตกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

8.การรวมกลุ่มของประชาชนเพื่อดำเนินกิจการ
เกี่ยวกับกัญชา กัญชง ให้เป็นไปตามกฎหมายเดิมที่มีอยู่

9.ห้ามจำหน่ายกัญชาแก่ บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีตั้งครรภ์
สตรีให้นมบุตร หรือบุคคลอื่นตามประกาศ ยกเว้น
ผู้ประกอบอาชีพเวชกรรมที่มีใบอนุญาตสำหรับการรักษา

เราจะเดินทางรับฟังความเห็นต่อ ภาคกลาง ตะวันออก อีสาน เหนือ
และ รวมตัวกันทุกภาค  วันที่ 20 เม.ย.นี้ที่ทำเนียบรัฐบาล

20 เมษา....เจอกันที่ทำเนียบรัฐบาล

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป