โรคไข้ขาแข็ง ในโคและแพะ+วิธีรักษา
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
มีนาคม 28, 2024, 04:22:39 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โรคไข้ขาแข็ง ในโคและแพะ+วิธีรักษา  (อ่าน 1612 ครั้ง)
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18612


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2018, 09:46:54 AM »

หากอ่านบทความไม่พอดีกับจอมือถือ ดูเนื้อหาและคลิปวีดีโอที่เกี่ยวข้อง> w ww.ubmthai.com เวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน >>คลิ๊ก!!    www.pohchae.com
.
.      โรคไข้สามวัน หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในชื่อของ โรคไข้ขาแข็ง หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Ephemeral Fever Shock เป็นโรคติดเชื้อไวรัส พบในโคได้ทุกอายุ แต่ลูกโคอายุต่ำกว่า 6 เดือนมักไม่แสดงอาการ โรคนี้มีระยะฟักตัว 2-10 วัน พบในส่วนใหญ่ของทวีปเอเชีย บางส่วนของอาฟริกาและออสเตรเลีย ความสูญเสียที่เกิดจากโรคนี้คือ ทำให้น้ำนมลด ในโคนม อาจลดลงถึง 80% หากเกิดโรคในช่วงท้ายของระยะให้นม รวมทั้งสัตว์ที่ติดเชื้อจะอ่อนแอทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่าย สำหรับการเกิดโรคนี้ในประเทศไทย ราตรีและคณะ (2527) ได้สำรวจตรวจสภาวะของโรคนี้ในภาคใต้พบอัตราการติดเชื้อโดยเฉลีย 70 และ 47.5% ในโคและกระบือ ต่อมาปราจีนและคณะ(2530) ศึกษาที่อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี พบโคมีอัตราการติดเชื้อ 93.6% และในปี 2535 สุพจน์และอารี สามารถแยกเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคนี้ได้   [embed]https://www.youtube.com/watch?v=AY2atyZxQeo[/embed] สาเหตุ - เกิดจากเชื้อแรมโคไวรัส (rhabdovirus) สามารถติดต่อได้โดยจากสัตว์ตัวหนึ่งไปสู่สัตว์อีกตัวหนึ่งโดยมีแมลงดูดเลือดเป็นตัวพาหะนำโรค จะพบโรคนี้มากในแถบทวีปเอเชียและแอฟริกา - ไม่สามารถติดต่อผ่านทางสารคัดหลั่ง(น้ำมูก น้ำตา น้ำลาย) หรือการสัมผัสได้ - ในกรณีที่เกิดกับฝูงโค-กระบือที่ไม่เคยเป็นโรคนี้มาก่อน ประมาณ 35%ของฝูงจะป่วยเป็นโรค แต่ในฝูงโค-กระบือที่เคยเป็นโรคนี้มาก่อนอาจจะมีเป็นโรคแค่ 5-10%ของฝูง เนื่องจากมีภูมิต้านทานโรคจากการป่วยในครั้งก่อนมาแล้ว(โค-กระบือที่เคยเป็นโรคนี้จะมีภูมิคุ้มกันอยู่ได้ถึง 2 ปี) - ในเขตพื้นที่ที่ไม่เคยเป็นโรคนี้มาก่อน แต่มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการระบาดของโรค คือ มีแมลงวันดูดเลือดหรือตัวเหลือบอยู่เป็นจำนวนมาก อาจทำให้เกิดการระบาดเป็นโรคทั้งฝูงเลยทีเดียว การป้องกัน - ทำได้ยากนอกจากจะจำกัดแมลงดูดเลือดให้หมดไปหรือสร้างมุ้งให้อยู่ - ในต่างประเทศมีวัคซีนสำหรับป้องกันโรคนี้ แต่ปัจจุบันยังไม่มีการใช้วัคซีนป้องกันโรคนี้ในประเทศไทย   สรุป - การที่โคยืนขาแข็งและเดินขากะเผลกนั้นมีสาเหตุมาจาก ไวรัสชนิดนี้เข้าทำให้กล้ามเนื้อและต่อมน้ำเหลืองของโคอักเสบ แต่ในโคบางตัวก็อาจมีอาการเพียงเบื่ออาหารและมีไข้บ้างเล็กน้อยเท่านั้น - ในการวินิจฉัยโรคอาจสับสนระหว่าง โรคไข้นม(Milk fever) โรคโลหะของแข็งทิ่มแทงกระเพาะ หัวใจ(Hardware disease) และโรคไข้ลงกีบ(Laminitis) เพราะอาการหลายอย่างใกล้เคียงกันมาก แต่สามารถแยกวิเคราะห์ได้ดังนี้.. 1. โรคไข้สามวัน = เป็นอย่างเฉียบพลัน 2. โรคไข้นม = เป็นกับโคเพศเมียก่อนหรือหลังคลอดเล็กน้อย โดยเฉพาะโคนม จะตอบสนองต่อการให้แคลเซียมในการรักษา 3. โรคโลหะของแข็งทิ่มแทงกระเพาะ หัวใจ = ค่อยเป็นค่อยไป และใช้เครื่องวิเคราะห์โลหะตรวจได้ 4. โรคไข้ลงกีบ = เป็นกับโคที่กินอาหารข้นมากเกินไป อาการ - อาการของโรคส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง จนทั้งผู้เลี้ยงและตัวโคไม่ทันตั้งตัว ซึ่งจะสามารถเรียงลำดับเหตุการณ์ เพื่อที่พอจะเห็นภาพคร่าวๆได้ตามนี้.. 1. วันที่ 1 มีอาการซึม เบื่ออาหาร ยืนหลังโก่ง ขาแข็งไม่ค่อยอยากเดิน เวลาเดินขาจะกะเพลกลงน้ำหนักได้ไม่เต็มที่ กล้ามเนื้อสั่นเล็กน้อย น้ำมูกและน้ำลายไหลแต่ยังไม่มาก อุณหภูมิร่างกายสูงกว่าปกติ(อุณหภูมิร่างกายปกติของโคจะอยู่ที่ประมาณ 38 องศาเซลเซียส หรือประมาณ 101 องศาฟาเรนไฮต์) หัวใจเต้นเร็ว(อัตราการเต้นปกติของหัวใจจะอยู่ที่ประมาณ 60-70 ครั้ง/นาที) 2. วันที่ 2-3 โคจะนอน ลุกไม่ไหว โดยจะนอนท่าเดียวกับโรคไข้นม(Milk fever) คือ คอพับไปด้านหลังและซุกอยู่บริเวณสวาบ ขาหลังเหยียดตรง กล้ามเนื้อสั่นมาก น้ำมูกและน้ำลายไหลออกมามาก หายใจหอบ อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น ไม่เคี้ยวเอื้อง หายใจเร็ว และอาจเจ็บที่ขาอาจจะเป็นข้างเดียวหรือหลายข้าง ขาข้างที่แสดงอาการจะปวด บวม โดยเฉพาะด้านส่วนต้นๆ ของขา บริเวณขาที่บวม จะ บวมมากขึ้น และปวดมาก ผิวหนังบริเวณนั้นจะมีสีม่วงเข้มเนื่องจากมีการคั่งของเลือด ต่อมาถ้าคลำดูบริเวณนั้นจะไม่ค่อยมีความรู้สึก แต่จะมีลักษณะเหมือนมีแก๊สแทรกอยู่ตามเนื้อเยื่อ 3. วันที่ 4 โคจะหายเป็นปกติ แต่อาการขาเจ็บและอ่อนเพลียยังคงมีอยู่ ..หากมีโรคปอดบวมแทรกซ้อนก็จะไม่หายป่วย ทำให้มีปัญหาด้านระบบทางเดินหายใจและบางตัวขาหลังอาจเป็นอัมพาตได้ การรักษา - ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นโรคไข้สามวัน โดยปกติโคที่ป่วยจะหายเองภายใน 3-4 วัน หากแต่เราควรช่วยจัดสภาพแวดล้อมโดยรอบให้เหมาะสมกับโคก็พอ เช่น ให้อยู่ในที่อากาศปลอดโปร่ง ไม่อับชื้น ไม่โดนแดดโดนฝน เพื่อป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อน - แต่ส่วนใหญ่เราจะใช้ยาช่วยเพื่อให้โคฟื้นตัวเร็วขึ้นและป้องกันโรคแทรกซ้อนอยู่แล้ว ขอแนะนำการใช้ยาพอสังเขปตามนี้.. 1. กลุ่มยาบรรเทาปวดลดไข้ เช่น บูตาซิล(Butasyl), โนวาซิแลน(Novacilan) ขนาดที่ใช้คือ 1 ซีซี/น้ำหนักตัว 20 กก. 2. กลุ่มยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนโดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ แนะนำให้ใช้ อ๊อกซี่เตตราไซคลิน 20%(Oxytetracycline 20%) ขนาดที่ใช้ 1 ซีซี/น้ำหนักตัว 10 กก. 3. กลุ่มยาคลายกล้ามเนื้อ เช่น ไดฟีแนก(Difenac),ไดโคลฟีแนก(Diclofenac) ขนาดที่ใช้คือ 1 ซีซี/น้ำหนักตัว 20-25 กก. 4. กลุ่มยาบำรุง จะเสริมเพื่อช่วยกระตุ้นการกิน.. แนะนำให้ใช้ ไบโอคาตาลิน(Biocatalin) ปล. กลุ่มยาทั้งหมดที่แนะนำมานี้เป็นกลุ่มยาสำหรับฉีดเข้ากล้ามเนื้อ **ควรหลีกเลี่ยงการกรอกยาเนื่องจากเสี่ยงต่อการเกิดปอดอักเสบ - คอยหมั่นพลิกตะแคงตัวโคสลับซ้ายขวาบ่อยๆ ในรายที่ลุกไม่ไหว เพื่อป้องกันอาการท้องอืด(Bloat) แผลกดทับ และการเป็นอัมพาตที่ขาหลัง - บางตัวที่กินหญ้าได้แต่ยังลุกไม่ไหว ก็ให้ใช้ยานวดพวกเคาน์เตอร์เพนที่ใช้กับคน ช่วยนวดกล้ามเนื้อขาวันละ 3-4 ครั้ง เพื่อช่วยคลายกล้ามเนื้อครับ - ในรายที่มีโรคแทรกซ้อนโดยเฉพาะโรคปอดบวม ถ้าไม่รีบทำการรักษาอย่างถูกวิธีก็อาจถึงตายได้... : : www.108kaset.com เรียบเรียง ที่มา -http://chanmaejo68.blogspot.com/2010/02/.. -http://www.thailivestock.com/forum/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0.. -http://region7.dld.go.th/DControl/Data/Disease/Cow/.. -http://auuteetfram.myreadyweb.com/article/.. -https://www.google.com/search?q=%E0%B9%81%E0%B8..


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!