มาเลย์+อินโดฯ ตั้งสภาน้ำมันปาล์ม..งบขั้นต้น180 ล้านบาท
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
เมษายน 20, 2024, 12:25:26 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มาเลย์+อินโดฯ ตั้งสภาน้ำมันปาล์ม..งบขั้นต้น180 ล้านบาท  (อ่าน 926 ครั้ง)
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18649


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« เมื่อ: สิงหาคม 05, 2017, 09:46:10 AM »

หากอ่านบทความไม่พอดีกับจอมือถือ คลิ๊ก!!ดูเนื้อหาเกี่ยวข้อง> www.ubmthai.com เวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน >> https://www.pohchae.com

.
.


ขอบคุณภาพจาก https://www.dreamstime.com/lsv2005_portfolio_pg1#res18697728



หลังจากที่มีการเจรจากันมาระยะหนึ่งความฝันในการตั้งสภาน้ำมันปาล์มโลก แบบเดียวโอเปก กลายเป็นความจริงแล้วเมื่ออินโดนีเซียและมาเลเซีย สองผู้ผลิตน้ำมันปาล์มใหญ่สุดของโลกได้ทำสัญญาจัดตั้งสภาประเทศผู้ผลิตน้ำมันปาล์ม (Council of Palm Oil Producing Countries—CPOPC) เตรียมชวนหลายชาติเข้าร่วม

สำนักข่าวเอพี รายงานว่าตัวแทนของ 2 ประเทศได้ลงนามในสัญญาจัดตั้ง CPOPC แล้ว โดยนาย ริซัล รอมลี (Rizal Ramli) รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติของอินโดนีเซีย กล่าวว่าสภาประเทศผู้ผลิตน้ำมันปาล์ม จะเป็นตัวจักรสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มที่กำลังประสบปัญหาจากราคาตกต่ำและปัญหาการทำไร่ปาล์มที่ไม่ยั่งยืน

เอพี ระบุว่าการรวมตัวกันของสองประเทศนี้มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มมากเนื่องจาก 2 ประเทศนี้ผลิตน้ำมันปาล์มรวมกันได้ 85 % ของผลผลิตโลกและมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศทั้งสองทำให้ต้องร่วมกันแก้ปัญหาราคาน้ำมันปาล์มตกต่ำ

รายงานข่าวระบุว่าภายใต้สัญญาการจัดตั้งสภาประเทศผู้ผลิตน้ำมันปาล์มนี้ ประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซียจะลงขันประเทศละ 5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 180 ล้านบาท) เพื่อใช้ในการดำเนินการด้านต่าง ๆ ซึ่งจะต้องมีการเจรจาในรายละเอียดต่อไป โดยจะมีการชักชวนประเทศผู้ผลิตน้ำมันปาล์มอื่น ๆ เข้าร่วมได้เพื่อสร้างแรงต่อรองตลาดได้เต็มที่

Mr.Rizal Ramli กล่าวว่าสภาฯ จะทำงานแก้ไขอุปสรรคในการค้าน้ำมันปาล์มเพื่อเพิ่มการแข่งขันในตลาดโลก และสนับสนุนการทำไร่ปาล์มอย่างยั่งยืน ซึ่งจะมีผลทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของไร่ปาล์ม 4 ล้านครัวเรือนในอินโดนีเซียและ 500,000 คนในมาเลเซียดีขึ้น

"สภาจะเป็นตัวจักรในการพัฒนากรอบความยั่งยืนของน้ำมันปาล์มโดยการหนุนให้มีการทำไร่ปาล์มในมาตรฐานของความยั่งยืนระดับสูง ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการเผาป่าเพื่อพื้นที่เกษตรในอินโดนีเซียและทำให้เกิดปัญหาหมอกควันข้ามแดนทุก ๆ ปี"

ทางด้านมาเลเซีย Mr. Amar Douglas Unggah Embas รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเพาะปลูก อุตสาหกรรมและสินค้าโภคภัณฑ์ กล่าวว่า สภาฯ ที่จัดตั้งขึ้นมาไม่ได้ทำงานทางด้านการกำหนดราคาน้ำมันปาล์มแต่จะทำให้ราคามีความยั่งยืนโดยการบริหารจัดการสต็อกน้ำมันให้มีความสอดคล้องกัน

Mr. Douglas กล่าวว่าทางสภาฯ ในอันดับต่อไปจะมีการชักชวนประเทศผู้ผลิตน้ำมันปาล์มอื่น ๆ อาทิ บราซิล โคลัมเบีย ไทย กานา ไลบีเรีย ไนจีเรีย ปาปัวนิวกินี ฟิลิปปินส์และอูกานดา เข้าร่วมเป็นสมาชิก

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,108 วันที่ 26 - 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!