‘สมิทธ’น่าเป็นห่วง เตือนแล้งยาว!! คนไทยขาดน้ำถึงสิ้นปี
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
มีนาคม 29, 2024, 05:23:45 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ‘สมิทธ’น่าเป็นห่วง เตือนแล้งยาว!! คนไทยขาดน้ำถึงสิ้นปี  (อ่าน 1948 ครั้ง)
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18613


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2015, 09:32:00 AM »



‘สมิทธ’ ชี้ภัยแล้งวิกฤตหนักถึงปลายปี เตือนรัฐบอกความจริง ปชช.  แนะประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด ป้องกันอดตาย

วันนี้(13 ก.ค. 58) มีรายงานว่า นายสมิทธ ธรรมสโรช  ประธานมูลนิธิศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เผยถึงสถานการณ์ภัยแล้งว่า มาจากอิทธิพลเอลนีโญ และผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ทำให้ภัยแล้งจากคลื่นความร้อนรุนแรงที่เกิดขึ้นทั่วโลก

ตามการพยากรณ์อากาศของทั่วโลก ประเมินว่าถ้าโลกเผชิญภาวะโลกร้อนไปอีก 8 ปี จะทำให้คาร์บอนไดออกไซด์ เพิ่มขึ้น 400-500 เท่า จะเกิดน้ำท่วมโลก จากน้ำแข็งขั้วโลกเหนือและใต้ละลาย ส่งผลให้น้ำทะเลสูงขึ้นจนท่วมเมืองที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล เช่น กรุงเทพฯ น้ำจะท่วมสูง 4-5 เมตร  ท่วมหนักสุดจะมีคนตายเป็นพัน ๆ คน

สำหรับประเทศไทยปีนี้ภัยแล้งอยู่นานไปถึงปลายปี ตอนนี้ธรรมชาติส่อเค้าให้เห็นแล้ว จากการมีพายุคลื่นลมแรงในทะเลจีนใต้ พัดร่องฝนขึ้นไปประเทศจีนหมด ไม่กลับลงมาภาคเหนือและภาคกลางของไทย อย่าไปเชื่อนักวิชาการบางคนที่ไม่รู้จริง ออกมาบอกว่าฝนจะตก โดยไม่รู้ว่าเป็นเมฆบางอยู่ระดับสูง ไม่ใช่เมฆที่ตกมาเป็นฝนได้

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีฝนจะตกได้จากอิทธิพลร่องฝน และพายุ หากเดือนนี้และเดือนหน้า ไม่มีสองปัจจัยนี้ ประเทศไทยจบแน่ เกิดวิกฤติเลวร้ายที่สุด ไม่มีน้ำกิน คนไทยต้องช่วยตัวเอง โดยการประหยัดน้ำและคนในเมือง เตรียมหาที่เก็บตุนน้ำ ซื้อหาถังพลาสติกสำรองน้ำไว้ก่อน

ด้านเกษตรกรให้ขุดบ่อ หรือสระเล็กเก็บน้ำไว้ เพื่อให้มีกินและสัตว์เลี้ยงไม่อดน้ำตาย ช่วงอันตรายสุดในเดือน ส.ค.-ก.ย. ไม่มีพายุเข้าเลยสักลูก ทุกอย่างวิกฤติของจริง ไม่อยากนึกภาพจะขาดน้ำไปถึงปีหน้า เพราะถ้าเข้าเดือน ต.ค.-พ.ย. ร่องฝนลงใต้ไปแล้ว ไม่ตกภาคเหนือภาคกลาง อย่าไปเชื่อว่าจะใช้น้ำก้นเขื่อนได้อีก

เนื่องจากกรมชลประทาน มองเห็นระดับน้ำข้างบนว่ามีน้ำเหลือ แต่ไม่เคยลงไปดูก้นเขื่อน มีแต่กรวด ทราย ตะกอนดิน ที่สะสมมาเป็น 10 ปี จริง ๆ มีน้ำข้างบนนิดเดียว ได้แต่นั่งภาวนารอให้ฝนตก รัฐบาลและหน่วยงานราชการ อย่ามัวแต่โยนความผิดกัน ควรบอกความจริงประชาชน ชาวนาจะได้ไม่รอปลูกข้าว

ถ้าหว่านไปเสียหายขาดทุนยิ่งแย่จะอดตายไปใหญ่ แค่น้ำจะกินยังไม่มีกันแล้ว ต่อไปมีเงินซึ้อน้ำมันใส่รถ แต่ไม่มีเงินซื้อน้ำกิน จะมีราคาแพงมาก พร้อมทั้งอยากให้รัฐบาลไปดูประเทศเวียดนาม ตอนนี้เตรียมรับปัญหาขาดแคลนน้ำดิบไว้ล่วงหน้าอย่างดี ซื้อเรือรบปรมาณู 5 ลำ ทำน้ำทะเลเป็นน้ำจืดได้

ส่วนสิงคโปร์ ไม่ต้องพูดถึงมีความมั่นคงเรื่องน้ำกินที่สุด สร้างเครื่องทำน้ำทะเลเป็นน้ำจืดไว้พร้อม แต่ของไทยซื้อเรือดำน้ำไว้ดำในอ่าวไทยลึกเพียง 60 เมตร ดำก็ไม่มิด ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เคยมีรับสั่งไว้ว่าจะซื้อทำไม ซื้อมาก็ดำน้ำไม่ได้ สู้ไปซื้อเรือตรวจการณ์ชายฝั่งช่วยชาวบ้านได้ประโยชน์กว่า จึงอยากให้รัฐบาลตั้งหลักหาทางผันน้ำโขง มาก่อนช่วงฤดูฝนนี้ เพราะเรื่องน้ำเป็นชีวิตของคนไทยทั้งประเทศ


ขอบคุณ  http://www.108kaset.com/


บันทึกการเข้า

ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18613


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2015, 10:03:09 AM »



รศ.ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ จากหน่วยปฏิบัติการวิจัยระบบการจัดการแหล่งน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยว่า แนวโน้มเดือนสิงหาคม - กันยายน จะมีฝนตก ที่คาดว่าจะเหลือมรสุมพัดฝนมาสู่ประเทศไทยอีกเพียง 2 ลูกเท่านั้น สำหรับปรากฏการณ์เอลนินโญที่จะส่งผลในระยะยาวและฝนที่จะตกเพียง 2 เดือน อาจส่งผลให้ช่วงเดือน พฤศจิกายน 58- พฤษภาคม 59 อาจจะไม่มีน้ำประปาใช้ ทำให้การปลูกข้าวนาปรังอาจเป็นเรื่องยาก

ทั้งนี้ จากการประชุมองค์การยูเนสโกที่ผ่านมา พบว่า อนาคตสภาพอากาศจะมีการเปลี่ยนขั้ว แอฟริกาที่แล้งหนักเป็นสิบปีก็จะเริ่มมีน้ำ ขณะที่ในประเทศไทยก็จะเริ่มแล้งยาวนานต่อเนื่องอาจจะเป็น 10 ปี เช่นเดียวกับแอฟริกาสมัยก่อนก็ได้

ด้านดร.ดุษฎี ศุขวัฒน์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เผยว่า จากการพยากรณ์ฝนปีนี้มีแนวโน้มน้อยลงกว่าปกติ โดยเฉพาะภาคเหนือและอีสาน ปัจจุบันการพยากรณ์เอลนินโญมีความถูกต้องมากขึ้น โดยมีโอกาสมากกว่า 90% ที่จะแล้งต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีหน้า และ 80% จะทำให้ฝนแล้งในเอเชียและออสเตรเลียถึงกลางปีหน้า ซึ่งจากหลายโมเดลพบว่า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เอลนินโญรุนแรงเพิ่มขึ้นจนถึงเดือนพฤจิกายน ที่ถือว่าอยู่ในขั้นรุนแรงมาก หลายประเทศมีการเตรียมพร้อมรับมือ

ทั้งนี้ การพยากรณ์รายฤดูยังต้องพัฒนาอีกมาก โดยเฉพาะการพยากรณ์ในพื้นที่เจาะจงที่ยังไม่สามารถทำนายล่วงหน้าเกินกว่า 9 เดือน แต่ก็สรุปได้ว่าปีนี้ฝนในประเทศไทยจะน้อยกว่าปกติ ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายนที่ผ่านมา ฝนน้อยมากกว่าปีอื่นๆ โดยเฉพาะภาคอีสานตอนล่างและภาคกลาง

ขอบคุณ http://www.108kaset.com/
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!