จริงหรือ! ทีว่าน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี อันตราย
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
เมษายน 24, 2024, 09:49:00 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: จริงหรือ! ทีว่าน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี อันตราย  (อ่าน 1163 ครั้ง)
CIVIC"
ชุมชนคนรักอาชีพช่าง
member
*

คะแนน30
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 562


« เมื่อ: เมษายน 09, 2015, 10:41:34 AM »



    น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี อันตราย! เป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน ระบบเผาผลาญอาหารเสื่อม ไทรอยด์ เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็งเต้านม โรคอ้วน โรคไต โรคไขมันในเลือดสูง โรคเกี่ยวกับลำไส้-มะเร็งลำไส้ โรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร โรคภูมิแพ้ ฯลฯ


   เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ยาววว... แต่ต้องอ่าน! อาการเจ็บป่วยร้ายแรงของคนในยุคนี้ สาเหตุอาจมาจากแค่ “น้ำมันพืช” ที่เรากินใช้กันในปัจจุบัน มันไปเคลือบระบบดูดซึมอาหารในร่างกาย คนไทยเคยใช้น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันหมู ทำกับข้าว แต่ฝรั่งมาหลอกลวงกล่าวหาว่าน้ำมันมะพร้าว และ น้ำมันหมู ทำให้คอเลสเตอรอลสูง เพราะจับตัวเป็นไข แล้วบอกว่าน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี ในระบบอุตสาหกรรมจากตะวันตกเป็นของดี ผู้คนส่วนใหญ่เลยเปลี่ยนมาใช้น้ำมันพืช เพราะความเชื่อผิดๆ ที่ถูกฝรั่งฝังหัวมา ทำให้อัตราการเป็นโรคต่างๆ มากขึ้น อาทิ ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ โรคไต โรคเกี่ยวกับลำไส้ ภูมิแพ้ ฯลฯ

  จากหนังสือมหัศจรรย์น้ำมันมะพร้าว โดย ดร.ณรงค์ โฉมเฉลา บอกไว้ว่า สาเหตุเกิดจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ลำเลียงขนส่งน้ำมันมะพร้าวจากเอเชียไปตะวันตกไม่ได้ ฝรั่งจึงต้องผลิตน้ำมันจากถั่วเหลืองและพืชอื่นๆ ที่มีอยู่ในประเทศใช้แทน เมื่อสงครามสงบลง อุตสาหกรรมน้ำมันพืชนี้เติบโตขึ้นมาก จึงต้องปกป้องด้วยการจ้างนักวิชาการออกผลวิจัยมาอวดอ้างสรรพคุณน้ำมันพืชของตนเอง ปกปิดข้อมูลที่ทำให้เกิดโทษ โจมตีน้ำมันมะพร้าว-น้ำมันหมู โดย ดร.ณรงค์ เองก็เคยเชื่อมาก่อน จนกระทั่งมีนักวิชาการกลุ่มหนึ่งทำวิจัยโดยปราศจากการครอบงำทนไม่ไหว จึงเผยแพร่ผลงานวิจัยที่เปิดเผยโทษของน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีออกมา หลังจากนั้นผู้คนจึงเริ่มตื่นตัว

*การที่น้ำมันถั่วเหลืองได้มีการผลิตและจำหน่ายไปทั่วโลกเป็นเพราะ
“American Soybean Association ได้ว่าจ้างสถาบันวิจัยแห่งหนึ่งในอเมริกา วิจัยผลเสียของน้ำมันมะพร้าว เพื่อส่งออกถั่วเหลืองในตลาดโลก” ดร.ณรงค์กล่าว
**************** ********************

หลังวงการสุขภาพของตะวันตก เผยแพร่ข้อมูลโทษของน้ำมันพืช สหรัฐฯได้ออกมาตรการลด ละ เลิก ใช้ น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี(transfat oil) ใน หลาย ๆ รัฐ โดยสามารถอ่านข่าวเหล่านี้ได้ เช่น

อาร์โนลด์ ชวาชเนกเกอร์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย กับการแบนการใช้น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี โดยกล่าวว่า “การใช้น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี ทำให้เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ…”

ht tp://gov.ca.gov/press-release/10291/

รัฐเท็กซัส ออกพระราชบัญญัติขจัดน้ำมันพืชแปรรูปให้หมดจากร้านอาหารภายใน สิงหาคม 2553
KFC เริ่มเห็นโทษของน้ำ มันพืชผ่านกรรมวิธี ออกเมนูไร้น้ำมันพืช Transfat
McDonald ประกาศเริ่มใช้ น้ำมันชนิดอื่น แทนน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีเมื่อปี 2007 เริ่ม ต้นที่ 1,200 สาขา
Dunkin Donut ประกาศ เลิกใช้น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีตั้งแต่ปี 2550
เวบไซท์ ต่อต้าน transfat ht tp://www.bantransfats.com/

โรคที่มากับน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี อาทิ ระบบเผาผลาญอาหารเสื่อม เบาหวาน ไทรอยด์ การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ โรคหัวใจ โรคอ้วน โรคไต
ht tp://transfatdisease.com/why.html

อาหารทั่วไปมีน้ำมันพืชทั้งนั้น อาทิ ก๋วยเตี๋ยว ผัดไทย หอยทอด ราดหน้า ผัดผักทุกชนิด ไก่ทอด ปาท่องโก๋ ข้าวผัด ขนมอบ เบเกอรี่ และอาหารทุกชนิดที่ใช้กระทะผัด - ทอด ใช้น้ำมันพืชทั้งนั้น เกือบทุกร้านใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบ ซึ่งราคาถูก แต่มันขวางระบบดูดซึม น้ำซึมผ่านไม่ได้

มีคำบอกเล่าที่หาหลักฐานไม่ได้ แต่น่าฟังไว้ คือ เจ้าของอุตสาหกรรมน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีรายใหญ่แห่งหนึ่งในไทย ที่บ้านใช้ “น้ำมันหมู” ประกอบอาหาร

อย่าให้คำว่า ‘ไม่เป็นไข’ มาหลอกท่านได้อีก
  น้ำมันพืชเมื่ออยู่ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 25 องศา จะดูสวยงามไม่เป็นไข ผิดกับน้ำมันหมูที่เมื่ออยู่ในอุณหภูมิต่ำจะเป็นไข แต่เมื่อน้ำมันพืชเข้าไปอยู่ในร่างกาย อุณหภูมิ 37 องศา จะกลายเป็นกาวเหนียว เกาะติดลำไส้ตั้งแต่ลำคอลงมาถึงลำไส้ใหญ่ไม่สามารถล้างออกได้ด้วยพืชผักที่เราทานเข้าไป และไม่สามารถล้างออกได้ด้วยน้ำชาธรรมดแต่น้ำมันจากสัตว์ และ น้ำมันมะพร้าว เมื่ออยู่ในอุณหภูมิร่างกายจะไม่มีทางเป็นไข และ จะละลายกับน้ำได้ สารอาหารต่างๆยังซึมเข้าร่างกายได้หากท่านลองนำน้ำมันพืชใส่ภาชนะ แล้วไปตั้งทิ้งไว้กลางแดดสัก 10 นาที อุณหภูมิประมาณ 30 กว่าองศาใกล้เคียงร่างกายมนุษย์ ท่านจะเช็ดน้ำมันพืชออกได้ยากมาก เหมือนกับที่เขม่ากาวติดกระทะ เครื่องครัว เขม่ากาวเหนียวนั่นคือผลของน้ำมันพืชโดนความร้อน จำเป็นต้องใช้กรดมาล้างเท่านั้น

  แต่หากท่านลองใช้น้ำมันหมู หรือ น้ำมันมะพร้าว ใส่ภาชนะแล้วตากแดด จะพบว่าล้างออกได้โดยง่าย เมื่อน้ำมันพืชเคลือบระบบดูดซึมท่านทั้งหมด น้ำก็จะไม่เข้าร่างกายท่าน เมื่อท่านดื่มน้ำ น้ำก็จะถูกไตพาไปที่กระเพาะปัสสาวะโดยเร็ว เสมือนกับท่านดื่มน้ำ 100% น้ำเกือบทั้งหมดไม่ได้ถูกดูดซึมเข้าไปใช้ในอวัยวะต่างๆเลย กลับเป็นภาระให้ไตนำไปทิ้งเกือบ 100% นี่คือเหตุผลว่า ทำไมท่านดื่มน้ำแล้วปัสสาวะบ่อย เป็นโรคไต และ โรคกระเพาะปัสสาวะตามมา

เมื่อน้ำซึมเข้าตัว ไม่ได้ วิตามินที่มากับน้ำ เช่น วิตามินบี และ ซี ก็จะไม่เข้าร่างกายท่าน ขาดวิตามินบี ทำให้สมองมีปัญหา เฉื่อยชา ความจำสั้น หากหญิงกำลังตั้งครรค์ มีโอกาสทำให้ลูกคลอดมาเป็นออทิสติค ขาดวิตามินซี ทำให้ภูมิคุ้มกันมีปัญหาเป็นภูมิแพ้ หวัด ไวรัส

เมื่อภูมิคุ้มกันมีปัญหา ท่านก็จะติดโรคอื่นๆได้ง่ายมาก จบลงด้วยการเสียเงินซื้อยาแผนปัจจุบันจากต่างประเทศ เงินทองไหลออกนอกประเทศ เพราะเพียงแค่ท่านหลงเชื่อว่าน้ำมันพืชสมัยใหม่ไม่เป็นอันตราย

น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี จำเป็นต้องผ่านกระบวนการ
- ฟอก สี (bleached) เพื่อให้สีดูสวย สดใส
- แต่งกลิ่น (deodorized) เพื่อให้ไม่มีกลิ่นหืน มีกลิ่นตามที่ต้องการ
- ใส่ ไฮโดรเจน (hydrogenated)
กระบวนการเหล่านี้ทำให้สารเคมีเปลี่ยน เมื่อกินเข้าไปแล้วเป็นพิษต่อร่างกายโดยตรง

เมื่อใดที่เห็นข้างกล่องผลิตภัณฑ์ว่า มีน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี ขอให้รู้ว่ามันมีอันตราย
Trans fats do not exist in nature. They are laboratory-designed and have adverse health consequences. They interfere with the body’s production of beneficial fatty acids and promote heart disease. As trans fatty acids offer no benefits and only clear adverse metabolic consequences, when you see the words partially

hydrogenated on the side of a box, consider it poisonous and throw it in the trash. (Ascherio, A., and W. C. Willett. 1997. Health effects of trans fatty acids. Am. J. Clin. Nutr. 66 (4 supp.): 1006S–10S.)

ht tp://www.diseaseproof.com/…/hurtful-food-dunkin-donuts-ki…

ข้อมูลเพิ่มเติม
ทำไมน้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัวสูง อย่างน้ำมันหมู และน้ำมันมะพร้าว จึงเหมาะแก่การทอด?
คำตอบก็คือ น้ำมันทั้งสองชนิดนี้เป็นน้ำมันที่มี กรดไขมันอิ่มตัวสูง (น้ำมันหมู 40% น้ำมันมะพร้าว 88%) มีสูตรโครงสร้างทางเคมีที่จับกับธาตุคาร์บอน (C) ในลักษณะแขนเดี่ยว (single bond) เมื่อโดนความร้อนสูงก็ทำให้อาหารกรอบ อร่อย ไม่มีสารเคมีเป็นพิษ และน้ำมันที่ใช้ทอดแล้วก็เก็บ ไว้ทอดซ้ำเกิน 2 ครั้งไม่ได้เพราะจะดำและเหม็นหืน ซึ่งผิดกับน้ำมันพืชอื่นๆ ซึ่งมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง ซึ่งมีโครงสร้างเคมีเป็น แขนคู่ (double bond) ในการจับกับธาตุคาร์บอน จึงสามารถจับกับ ธาตุไฮโดรเจนเพิ่มได้อีก 2 อะตอม จึงเหมาะกับการเติมไฮโดรเจน (Hydrogenation) ซึ่งเรียกว่า Trans Fatty Acid (TFA)
'Trans' นี้เป็นผลลัพธ์ของความพยายามที่จะทำให้น้ำมันพืช มีลักษณะเหมือน น้ำมันที่มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง ที่ทำให้อาหารทอด กรอบอร่อย แต่ปัญหาที่ตามมาคือ ความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วน โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคไต โรคเบาหวาน มะเร็งเต้านม เพราะน้ำมันพืชที่ผ่านกรรมวิธี เหล่านี้ไม่สามารถขับออกจากร่างกาย ได้ง่ายๆ เหมือนน้ำมันมะพร้าวที่ละลายน้ำได้
บางคนที่เป็นปู่ย่าตายายในขณะนี้ (อายุ 70 ปีขึ้นไป) จะบอกกล่าวว่า พ่อแม่ของท่านใช้น้ำมันหมู และน้ำมัน มะพร้าวทำอาหาร และท่านก็มีอายุถึง 90 ปีกว่า ก่อนเสียชีวิต ไม่ได้กินน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีเลย แต่ก็มีอายุยืนยาวได้ ในทางกลับกัน คนไทยในสมัยนี้กินน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีมานานกว่า 30 ปี กลายเป็น โรคเบาหวานกันทั่วประเทศ ทุกหมู่บ้าน เด็กๆ ก็กลายเป็นโรคอ้วน เบาหวานในเด็ก ก็ลุกลามใหญ่โต จนใน ปีนี้องค์การเบาหวานโลก ได้เน้นการรณรงค์เบาหวานในวัยรุ่น ปีหนึ่งๆ จะมีผู้ป่วยเบาหวานเพิ่มขึ้นในโลก ไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน
สารเคมีที่กินเข้าไปคือ polar compound ยังไม่มีใครประกาศออกมาเลยว่ามีผลร้ายอย่างไร แต่ที่แน่ๆ คือ มันหนืดเมื่อโดนความร้อนสูง และติดหนึบหนับในลำไส้เล็กของเรา จนทำให้ประสิทธิภาพการดูดซึม สารอาหารที่ละลายน้ำ เช่น กรดอมิโน วิตามินบี ซี เป็นต้นเหตุของการเจ็บป่วยต่างๆโดยเฉพาะ การเจ็บป่วยแบบสะสม ค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งยากต่อการสังเกตเห็น
บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมบทความนี้ เชียร์แต่น้ำมันหมูและน้ำมันมะพร้าวเคี่ยวเอง น้ำมันปาล์ม ก็มีระดับกรดไขมันอิ่มตัวสูงถึง 48% ไม่เหมาะกับการทอดหรืออย่างไร? จริงๆ แล้วก็เหมาะสม ถ้าผ่านการหีบเย็น (สกัดโดยไม่ผ่านความร้อน) แต่น้ำมันปาล์มที่ขายอยู่นั้นผ่านกรรมวิธี refined,bleached,deodorized จึงมี polar compound เมื่อทอด

 http://www.1009seo.com/


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!