10 อันดับ อาวุธที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์โลก
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
เมษายน 24, 2024, 07:10:50 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: 10 อันดับ อาวุธที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์โลก  (อ่าน 3073 ครั้ง)
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« เมื่อ: เมษายน 24, 2014, 07:34:17 PM »

วันนี้ผมได้เอา อาวุธที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์โลก มาฝากกันครับ  เยี่ยมมาก


บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 

nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 24, 2014, 07:37:25 PM »

10. M1 กาแรนด์



ชื่ออย่างเป็นทางการเมื่อออกแบบคือ United States Rifle, Caliber .30, M1 ต่อมาเรียกให้สั้นลงเป็น Rifle, Caliber .30, M1 มักเรียกโดยย่อว่า US Rifle, Cal. .30, M1, กองทัพไทยขึ้นทะเบียนปืนนี้ในชื่อ ปลยบ.88 ระจำกายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงสงครามเวียดนาม เป็นอาวุธที่มีความแม่นยำสูงมาก มีจุดเด่นที่เมื่อทำการยิงจนกระสุนหมดในการยิงนัดสุดท้ายปืนจะทำการดีดตลับกระสุนออกมาทำให้มีเสียงดัง "พิ้ง" ปืนนี้สามารถเสริมอุปกรณ์พิเศษได้อย่างดาบปลายปืนกล้องเล็งหรือลูกระเบิด แต่การยิงลูกระเบิดต้องอาศัยกระสุนเปล่า 1 นัดในการช่วยยิงด้วย ปัจจุบันปืนนี้ได้ถูกยกเลิกผลิตและปลดประจำการในกองทัพสหรัฐในช่วงสงครามเย็นและได้หันกลับมาใช้ปืนเอ็ม 16 แทน แต่ทางรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ขอปืนนี้นำมาใช้ในการทำพิธียิงสลุตปืนเล็กยาวในงานศพของบุคคลสำคัญของสหรัฐฯ ที่สุสานแห่งชาติอาร์ลิงตัน สำหรับประเทศไทยได้ขอซื้อมาเป็นที่สำหรับฝึกของนักศึกษาวิชาทหาร (ทีมงาน toptenthailand ว่าหลายๆคนเคยถือมาแล้ว ฮาฮา)

9. Bayonet



Bayonet หรือ ดาบปลายปืน เนื่องจากสมัยก่อนปืนไรเฟิล สามารถยิงต่อเนื่องได้น้อย การที่่มีดาบปลายปืนเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ การต่อสู้ระยะประชิดมากขึ้นอีกโขเลย

8. MG42



ปืนกล Machinengewehr MG 42 หรือปืนกลสแปนเดา (Spandau) นี้ เกิดขึ้นจากแนวความคิดของกองทัพเยอรมัน ที่ต้องการปืนกลที่มีประสิทธิภาพสูง มีสายการผลิตที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ผู้ที่รับแนวคิดนี้ไปทำให้เป็นความจริงคือ Dr. Grunow ผู้ซึ่งเป็นนักอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียงของเยอรมัน ในการผลิตแบบสายการผลิตจำนวนมาก ที่ไม่ต้องการผู้เชี่ยวชาญมาทำการผลิต ผลที่ได้ก็คือ ปืนกลที่ได้ชื่อว่า เป็นปืนกลที่ดีที่สุดในสงครามโลกครั้งที่สองชนิดหนึ่ง ปืนกล MG 42 นำเอาปืนกลแบบ MG 34 มาประกอบใหม่ ใช้หลักการเดิม คือการผสมผสานระหว่างแรงสะท้อนของกระสุน และระบบแก๊ส ปืนกล MG 42 ใช้ระบบส่งกระสุนขนาด 7.92 มม. เหมือนปืนกล MG 34 คือใช้ได้ทั้งการใช้สายกระสุนขนาด 50 นัด และกล่องบรรจุกระสุนที่เรียกว่า ดรัม (Drum) ซึ่งดรัมนี้มสองแบบ คือ แบบดรัมเดียว และสองดรัมติดกัน มีอัตราการยิง 1200 นัดต่อนาที ระยะยิงไกลถึง 2,000 ม. หรือ 2 กม. ปืนกล MG 42 มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในกองทัพเยอรมัน แม้ว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับการสั่นของตัวปืน ขณะทำการยิง ส่งผลถึงความแม่นยำของการยิงก็ตาม มันถูกใช้อย่างแพร่หลายจนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง และกลายเป็นต้นแบบของปืนกลยุคใหม่อย่างเช่น ปืนกล M 60 ของกองทัพสหรัฐอเมริกา ส่วนใหญ่มักยิงเป็นชุด ชุดละไม่เกิน 50 นัด มากกว่าใช้ยิงกราด เพราะว่ายิงเร็วมาก ทำให้นอกจากกระสุนจะหมดเร็วแล้วยังทำให้ปืน Overheat ได้ง่าย (ทหารเยอรมันกลัว MG42 ร้อน มากกว่ากระสุนหมด) แต่ก็แก้ได้ด้วยการเปลี่ยนลำกล้องที่ทำได้อย่างรวดเร็ว (ประมาณ 10-15 วิ) (หนักแทบตาย ปัญหาเยอะจริง )

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 24, 2014, 07:40:14 PM »

7. Hoplon



Hoplon หรือที่รู้จักกันดีใน "โล่กลม " โล่ฮอพลอน (hoplon) ทำมาจากไม้ หุ้มขอบด้วยโลหะสัมฤทธิ์ และอาจหุ้มด้านหน้าโล่ด้วยก็ได้ ด้านหน้าของโล่จะมีความโค้งมน เพื่อลดแรงปะทะและเบี่ยงคมของอาวุธ โล่มีหลายขนาด แล้วแต่ว่าจะเน้นใช้งานประเภทไหน แต่เรามักจะชินตากับโล่ขนาดใหญ่มากกว่า โล่ไม่ได้เป็นแค่เครื่องป้องกันเท่านั้นครับ แต่มันยังเป็นเครื่องเปิดทางในการออกอาวุธด้วย ไม่ว่าจะเป็นหอกหรือดาบ เราสามารถใช้โล่ในการกดหรือปัดอาวุธคู่ต่อสู้ กระแทก งัด และดันคู่ต่อสู้ หรือแม้แต่ฟาดด้วยขอบโล่

6. Flintlock



Flintlock หรือที่รู้จักกันใน "ปืนคาบศิลา" ซึ่งถูกพัฒนา ในช่วงกลางศตวรรษที่ 17 อาวุธชิ้นนี้ได้กลายเป็นอาวุธหลักของกองทัพยุโรปและอเมริกา เมื่อศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมได้มีการประดิษฐ์เกลียวในลำกล้องทำให้กระสุนพุ่งไปข้างหน้าในแนวตรง มีพิสัยไกลกว่าเดิม และมีความแม่นยำมากขึ้น และมีการประดิษฐ์แก๊บในตัวปืนทำให้ไม่ต้องคอยใส่ดินปืนอีกต่อไปเห็นได้จากสงครามไครเมีย การมีกล้องเล็งซึ่งทำมองเห็นเป้าหมายในระยะที่ใกล้และแม่นยำทำให้เกิดหน่วยซุ่มยิงขึ้น เห็นได้จากสงครามกลางเมืองอเมริกา

5. Gatling Gun



เป็นอาวุธยิงเร็วในยุคแรกๆ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีชนิดหนึ่ง เป็นผู้บุกเบิกปืนกลสู่รูปแบบปัจจุบัน มันเป็นรู้จักเพราะการใช้งานโดยกองกำลังฝ่ายสหพันธรัฐระหว่างสงครามกลางเมืองอเมริกันในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1860 ซึ่งเป็นการใช้งานครั้งแรกของปืนชนิดนี้ในสนามรบ ภายหลังมันเป็นที่ความนิยมมากในการใช้โจมตีในยุทธการหุบเขาแซนจัวน์ระหว่างสงครามสเปน-อเมริกา การทำงานของปืนแก็ตลิงมีจุดเด่นอยู่ที่การออกแบบลำกล้องปืนให้มีหลายลำกล้อง รวมกลุ่มแบบวงกลม ซึ่งจะช่วยในการระบายความร้อนและลำดับการยิงที่เกิดขึ้นพร้อมการบรรจุกระสุน แต่ละลำกล้องจะยิงออกไปหนึ่งนัดเมื่อถึงจุดรอบ จากนั้นจะสลัดปลอกกระสุนเปล่า บรรจุกระสุนใหม่ และระบายความร้อน โครงแบบนี้ช่วยให้ปืนมีอัตราการยิงที่เร้วโดยที่ลำกล้องไม่ร้อนเกินไป

4. Longbow



Longbow หรือ ธนูยาวถูกคิดค้นและใช้ต่อเนื่องมานับพันปี นูยาวที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จักมาจากอังกฤษ ซึ่งถูกพบที่แอสคอทท์ฮีท (Ashcott Heath) มณฑลซอมเมอร์เซ็ท ซึ่งมีอายุถึง 2665 ปี (หงำเหงือกกันเลยทีเดียว) ซึงธนูยาวเหล่านี้ มักถูกใช้ในการล่าสัตว์ และรวมไปถึงใช้ในการรบอีกด้วย ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง สามารถปลิดชีพกองทัพฝั่งตรงข้ามอย่างมากมาย
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: เมษายน 24, 2014, 07:42:21 PM »

3. กราดิอุส



จักรวรรดิโรมันเป็นอนาจักรที่มีอิทธิพลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และเจ้ากราดิอุสนี้แหละเป็นอาวุธประจำตัวของเหล่าทหารหาญ เพราะเหตุที่ทั้งเหมาะมือ และคล่องตัว จึงเหมาะแก่การรบเป็นอย่างมาก

2. Maxim gun



นกลแม็กซิม (Maxim gun) เป็นปืนกลที่ใช้กำลังตนเองกระบอกแรกของโลก ประดิษฐ์โดยชาวอังกฤษที่เกิดในสหรัฐ เซอร์ ไฮแรม สตีเวนส์ แม็กซิม (Hiram Stevens Maxim) ในปี ค.ศ. 1884 มันถูกเรียกว่า "อาวุธที่จะช่วยจักรวรรดิอังกฤษพิชิตดินแดนมากที่สุด"

1. AK-47



เอเค-47 หรือ ปืนอาก้า มันถูกสร้างขึ้นครั้งแรกโดยมิคาอิล คาลาชนิคอฟของสหภาพโซเวียต ชื่อเอเค-47 ย่อมาจาก Kalashnikov automatic rifle, model of 1947 แม้ว่าจะผ่านไปหกทศวรรษ แต่ด้วยความทนทาน ต้นทุนที่ต่ำ และง่ายในการใช้งาน ทำให้มันกลายเป็นปืนเล็กยาวจู่โจมที่แพร่หลายมากที่สุดในโลก มันถูกผลิตในหลายประเทศและอยู่ในประจำการในกองทัพส่วนทั่วไป รวมทั้งพวกกลุ่มนักปฏิวัติและองค์กรก่อการร้าย เอเค-47 ยังถูกใช้เพื่อเป็นฐานในการพัฒนาอาวุธปืนบุคคลแบบใหม่ ปืนตระกูลเอเคนั้นถูกผลิตขึ้นมามากกว่าปืนรุ่นอื่นๆ รวมกันเสียอีก
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!