การทำบาปของผู้ที่รู้และไม่รู้
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: การทำบาปของผู้ที่รู้และไม่รู้  (อ่าน 1952 ครั้ง)
kittanan_2589
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน630
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2363


NightBaron


เว็บไซต์
« เมื่อ: ตุลาคม 05, 2010, 04:20:00 PM »



ครั้งหนึ่งขณะที่สนทนาธรรมกันอยู่นั้น พระนาคเสนได้เล่าเรื่องที่ออกไปบิณฑบาตรแล้วพบหญิงชาวบ้านไล่ตีแมวให้พระ เจ้ามิลินท์ฟัง ได้ความว่า

แมวตัวนั้นขโมยปลาที่ตากไว้ มาจากบ้านของหญิงชาวบ้านคนนั้น
เมื่อหญิงชาวบ้านพบก็โกรธแค้น และหวังว่าจะตีแมวตัวนั้นให้ตายเพื่อลงโทษ

แต่พระนาคเสนได้ขอบิณฑบาตรชีวิตแมวเอาไว้ และสอนหญิงชาวบ้านว่า
" เอาเถอะ อย่าให้ถึงกับได้ฆ่าแกงกันเลย มันจะเป็นบาป "
หญิงชาวบ้านจึงถามพระนาคเสนว่า
" แล้วที่แมวตัวนี้ มันขโมยปลาของอิฉันล่ะพระคุณเจ้า! ไม่บาปหรือ "

พระนาคเสนตอบว่า
" สัตว์เกิดมามีสติปัญญาต่ำต้อยกว่าคน ดำรงชีวิตไปตามสัญชาตญาณการอยู่รอดของมัน คนนี่สิรู้ผิดชอบชั่วดีมากกว่า
แล้วโยมจะไปทำบาปแข่งกับสัตว์มันทำไมเล่าโยม ? "

เมื่อพระเจ้ามิลินท์ทรงรับฟังเรื่องของหญิงชาวบ้าน ที่พระนาคเสนเล่าถวายจบแล้ว ก็นิ่งคิดไปชั่วครู่ แล้วจึงตรัสถามพระนาคเสนว่า
" สมมติว่า คนผู้หนึ่งรู้ว่าทำอย่างไรเป็นบาป กับอีกคนหนึ่งไม่รู้เสียเลยว่าเป็นบาป ถ้าสองคนนี้ทำบาป ใครจะได้รับบาปมากกว่ากัน ? "
" ผู้ที่ไม่รู้ย่อมบาปมากกว่าน่ะสิ มหาบพิตร "
" อ่าว!.. ไหงเป็นเช่นนั้นล่ะ พระคุณเจ้า? "

พระนาคเสนจึงอุปมาก้อนเหล็กที่ถูกเผาไฟจนร้อน แล้วทูลถามพระเจ้ามิลินท์ว่า
" คนหนึ่งที่รู้ว่าเหล็กก้อนนั้นร้อน กับ อีกคนที่ไม่รู้ว่าเหล็กก้อนนั้นร้อน ใครจะหยิบได้เต็มมือแล้วถูกความร้อนเผาได้มากกว่ากัน "
" อืม.. ก็ต้องเป็นคนที่ไม่รู้น่ะสิ พระคุณเจ้า "

พระนาคเสนจึงเฉลยว่า
" ฉันใดก็ฉันนั้น ผู้ที่รู้จักบาปบุญว่ามีผลอย่างไร ย่อมมีความเกรงกลัวละอายใจ ก็จะไม่กล้าทำบาป ที่ได้ทำอยู่ก็เลิกเสียและไม่กล้าทำบาปสถานหนัก
แต่ผู้ที่ไม่รู้ว่าทำอย่างไรเป็นบาปและบาปมีโทษเพียงไร ย่อมทำบาปได้โดยไม่ยับยั้งชั่งใจ แม้บาปหนักๆก็ทำได้โดยไม่รู้ว่าต้องรับโทษหนัก
เพราะอย่างนี้แหละ อาตมาจึงว่า คนไม่รู้บาปมากกว่า "

" โยมพอจะเข้าใจแล้วพระคุณเจ้า "

" อีกประการหนึ่งที่ว่า รู้ หรือ ไม่รู้ นั้นหมายถึงว่า รู้เท่าทันกิเลส เช่น โกรธ โลภ หลง อย่างเรื่องหญิงชาวบ้านไล่ตีแมว ที่อาตมาเล่าให้ฟังนั้น
โดยปรกติก็คงรู้ว่า การทำร้ายหรือฆ่าสัตว์เป็นบาป แต่เมื่อโกรธขึ้นมาแล้วก็ลืมตัว กลายเป็นคนไม่รู้เท่าทันโทสะของตนเอง จึงทำบาปได้เช่นกัน"

" อย่างคนที่ฆ่ากันเพราะบันดาลโทสะ ก็เพราะไม่รู้เท่าทันกิเลสของตัวเองใช่ไหม พระคุณเจ้า ? "
" เป็นเช่นนั้น ที่ว่าคนไม่รู้จะบาปหนักมากกว่า ก็เพราะอย่างนี้แหละมหาบพิตร "


 เยี่ยมมาก เยี่ยมมาก เยี่ยมมาก
เครริต:Mr.Terran


บันทึกการเข้า

พรเทพ-LSV team♥
รับติดตั้งจานดาวเทียม ลาดพร้าว บางกะปิ
Senior Member
member
*

คะแนน1453
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 12092

091-091-9196 ID LINE : tv59


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2010, 04:45:37 PM »

อ่านดูแล้ว มันแปลกๆนะครับ

เขาคงไม่เข้าใจศาสนาพุทธกระมั๊ง


ที่ถูกคือคนที่รู้จักบาปแล้วยังทำบาปจะได้รับโทษสูงกว่า

เช่น ตอนยังไม่รู้ทำผิดเขาให้อภัย หรือลดโทษให้กึ่งหนึ่ง แต่ถ้ารู้ว่าผิด ยังทำผิดอีกจะได้รับโทษมากขึ้นจากปกติ และถ้ายังทำอีกจะได้โทษหนักยิ่งๆขึ้นไป

อีกอย่างการขโมย(ปลา )กับการฆ่า(แมว) โทษมันต่างกันมาก เอามารวมกันไม่ได้  แค่ตัวอย่างก็ผิดแล้ว
บันทึกการเข้า

kittanan_2589
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน630
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2363


NightBaron


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2010, 05:15:22 AM »

อ่านดูแล้ว มันแปลกๆนะครับ

เขาคงไม่เข้าใจศาสนาพุทธกระมั๊ง


ที่ถูกคือคนที่รู้จักบาปแล้วยังทำบาปจะได้รับโทษสูงกว่า

เช่น ตอนยังไม่รู้ทำผิดเขาให้อภัย หรือลดโทษให้กึ่งหนึ่ง แต่ถ้ารู้ว่าผิด ยังทำผิดอีกจะได้รับโทษมากขึ้นจากปกติ และถ้ายังทำอีกจะได้โทษหนักยิ่งๆขึ้นไป

อีกอย่างการขโมย(ปลา )กับการฆ่า(แมว) โทษมันต่างกันมาก เอามารวมกันไม่ได้  แค่ตัวอย่างก็ผิดแล้ว

ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ผมไม่ได้ตรวจสอบมาก่อนขอโทษจริงๆครับ
 เศร้าจัง cry2!!
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: