วิธีปฏิบัติกรรมฐานเบื้องต้น

วิธีปฏิบัติกรรมฐานเบื้องต้น

<< < (2/3) > >>

talapkap:
การทำสติปัฏฐานมี 2 ขั้นตอน

การทำสติปัฏฐานมี 2 ขั้นตอน ขั้นเพื่อให้เกิดสติ กับขั้นเพื่อให้เกิดปัญญา
 
ขั้นจะให้เกิดสติ พอมีสติแล้วเราจะรู้ตัวขึ้นมา (บางคนใช้คำว่ารู้สึกตัว รู้สึกตัวคือจิตมันมีสติ มี
สัมมาสมาธิขึ้นมา)
บางทีเถียงกันนะ ต้องรู้สึกตัวก่อนถึงจะดูจิต หรือว่าดูจิตก่อนแล้วรู้สึกตัว
ความจริงก็คือว่าให้รู้กาย ให้รู้ใจไป จนจิตจำสภาวะได้แม่นแล้วก็มีสติรู้สึกตัวขึ้นมาได้เอง
บางคนบอกดูจิตก่อน แล้วรู้สึกตัว ก็ถูกเหมือนกันแต่ว่ามันไม่ใช่การดูจิตแท้ๆ หรอก เป็นเบื้องต้น
เท่านั้นเอง เป็นการฝึกหัดรู้สภาวะ แล้วก็ไม่ใช่ดูแต่จิต ดูกายด้วย บางคนต้องดูกาย บางคนต้องดู
เวทนา บางคนก็ดูจิต
เบื้องต้นเอาอันเดียวก่อนเป็นหลักไว้ก่อน อันอื่นเป็นของแถม ไม่ใช่รู้อันเดียวนะ
นักปฏิบัติไม่ใช่รู้กายอย่างเดียว ไม่ใช่รู้เวทนาอย่างเดียว ไม่ใช่รู้จิตอย่างเดียว อย่าสำคัญผิดไปนะ
เพียงแต่มีอันนึงเป็นวิหารธรรมไว้
ถ้าหากต้องรู้เพียงอันเดียว (ต้องรู้กายอย่างเดียว รู้จิตอย่างเดียว) โดยไม่ให้ไปรับรู้อย่างอื่น อย่าง
นั้นก็ไม่ใช่วิหารธรรมแล้ว แต่เป็นคุก เป็นตารางขังจิตไม่ให้ไปที่อื่น เพราะฉะนั้น

คนไหนถนัดรู้กายก็รู้กายเนืองๆ บางทีจิตก็หลงไปคิดเรื่องอื่น บางทีก็เข้าไปรู้จิต
คนไหนถนัดรู้เวทนา ก็รู้เวทนาเนืองๆ บางทีก็รู้กาย บางทีก็รู้จิต บางทีก็หลงไปคิดเรื่องอื่น
คนไหนถนัดดูจิตก็ดูจิตไป ที่เป็นกุศลเป็นอกุศล บางทีก็รู้กาย บางทีก็รู้เวทนา บางทีก็ไปรู้เรื่องอื่น
หลงไป
เพียงแต่มีอันใดอันหนึ่งนั้นแหละเป็นฐาน เป็นบ้าน ไว้ดูบ่อยๆ ถนัดรู้กายก็รู้กาย ถนัดรู้เวทนาก็รู้
เวทนา ถนัดรู้จิตก็รู้จิตไป เรียนกับหลวงพ่อไม่ใช่ดูจิตนะ สิ่งที่หลวงพ่อถ่ายทอดให้มันคือหลักการ
ปฏิบัติกว้างๆ ใครถนัดแนวไหนก็เดินแนวนั้นไม่ได้ผิดอะไร
ต้องถูกหลัก พอรู้กายบ้าง รู้จิตบ้าง ถูกต้องแล้วสติจะเกิดเอง ค่อยรู้สึกตัวขึ้นมา
บางคนเลยบอกว่าดูจิตแล้วรู้สึกตัวก็ได้ ไม่ดูจิตแล้วรู้สึกตัวก็ได้ ไปดูกาย ดูกายแล้วรู้สึกตัวก็ได้
ความรู้สึกตัวที่เกิดขึ้นจากการดูกาย ความรู้สึกตัวที่เกิดจากการดูจิต เหมือนกันเปี๊ยบเลย
พอรู้สึกแล้วบังคับไม่ได้ เดี๋ยวสติก็รู้กาย เดี๋ยวสติก็รู้จิต แต่จะรู้ด้วยความรู้สึกตัว
จิตจะตั้งมั่นขึ้นมา มีสัมมาสมาธิขึ้นมา ไม่หลงไม่เผลอไป ไม่เพ่งไม่เผลอ จิตจะรู้สึกตัว ตั้งมั่นที่จะรู้สึกตัว
คำว่ารู้สึกตัว คือไม่เผลอ ไม่เพ่งนั่นเอง มีสติ แล้วก็ไม่ไปเผลอไป ไม่ไปเพ่งไว้ ปัญญามันก็เกิด
 
คอยมีสติรู้กายรู้ใจไปเรื่อยๆ ด้วยจิตที่ตั้งมั่น อย่างนี้เรียกว่าการเจริญสติปัฎฐานเพื่อให้เกิดปัญญา
หัดตามรู้กาย หัดตามรู้ใจเรื่อยๆ จนจิตจำสภาวะได้ นี่เป็นการทำสติปัฎฐานให้เกิดสติ
มีสติรู้กายรู้ใจด้วยจิตที่ตั้งมั่นเป็นกลางทำให้เกิดปัญญา
มีปัญญาแก่รอบก็เกิดวิมุติ จิตก็จะปล่อยวางความถือมั่น
เพราะฉะนั้นบางคนบอกรู้สึกตัวแล้วถึงจะดูจิตได้ก็ถูกเหมือนกัน เป็นธรรมะที่มองคนละระดับกัน 

TAWA:
ผมว่าช่างเล็กน่าจะรวบรวมพลชาวช่างไปนั่งปฎิบัติธรรมไปเป็นส่วนรวมจะดีกว่าเป็นบุคคล

ตกอยู่350/คน/ 7วัน ชุดมีให้เช่าชุดละ 20 บาท ทั้งหญิงและชายนอนกับเสื่อไม่มีมุ้ง(กางมุ้งไม่ได้มีพัดลมไล่ยุงครับผมผมไปมาแล้ว4-5 ครั้ง)
              โดยมีพระอาจารย์เดชา เป็นพระที่รับหน้าที่สอนและบรรยายตลอดระยะ 7 วันครับ

พรเทพ-LSV team♥:
อ้างถึง

ส่วนรวมจะดีกว่าเป็นบุคคล
ไม่เข้าใจดีกว่าครงไหน

ใครพร้อมก็ไป
มันต้องไปด้วยใจ
ไม่ใช่ไปเพราะมีเพื่อน

ใครทำใครได้ ไม่จำเป็นต้องไปเป็นหมู่คณะ

ใครมีบุญก็ได้ไป ใครไม่มีบุญแค่ฟัง ยังฟังไม่รู้เรื่องเลย แค่อ่านก็ไม่ยอมอ่าน

การนั่ง กรรมฐาน ถ้าใครนั่งได้ครั้งละ 3-3 (เดิน3ชม. นั่ง3ชม.) จะสมหวังในทุกๆด้าน ภาคใน3 วัน 7 วัน  นี้คือสุดยอดวิชากรรมฐาน มีคนรู้ไม่มากนัก และมีคนทำได้ก็ไม่มากนะ (ส่วนมากนั่งแค่ไม่กี่นาที แต่หวังผลมากมาย ซึ้งมันเป็นไปไม่ได้)
เช่นตกงาน ไปนั่ง 3-3 ไม่เกิน7วันได้งานแน่ๆ
หาร้านค้าขายหรือจะเช่าร้าน มีอุปสรรค ไม่ลงตัวสักที ไปนั่ง 3-3 ไม่เกิน 3-7 วัน ได้ร้านแน่นอน

โลกใบนี้ ทุกสิ่งอย่างมีเหตุและผล ไม่มีอะไรได้มาโดยบังเอิญ
สร้างกรรมอะไรไว้ก็ต้องได้รับกรรมนั่นๆ ไม่มีทางหนีพ้นได้
เพราะคนเรามีกรรมเป็นกำเนิด
มีกรรมเป็นที่ตั้ง
มีกรรมเป็นของตน
มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์
มีกรรมเป็นที่พึ่งพิงอาศัย
มีกรรมเป็นมรดก
มีกรรมเป็นทายาท

ในเวปนี้ มีคนกำลังสร้างกรรมกันอย่างเมามัน  แค่ให้เขาหยุดเขายังไม่หยุดเลย แล้วจะให้เขาไปนั่งกรรมฐาน เขาคงไปหรอก ในเวปนี้ มีคนที่เข้าถึงเรื่องนี้ไม่กี่คนเอง
แค่ทาน ยังแทนหาไม่เจอ  จะไปเอากรรมฐาน แล้วหรอ มันเป็นไปไม่ได้

ทุกสิ่งอย่างมันมีขั้นตอน
ต้องมีทานก่อน
ถึงมีศีล
ตามด้วยสามาธิ
ภวนา
ถึงจะถึง วิปัสสนากรรมฐาน 

วิปัสสนากรรมฐาน  เป็นขั้นสูงสุดแล้ว ทำดีๆก็สำเร็จเลยนะครับ

กรรมฐานแก้กรรมได้อย่างไร ?

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=2732

วิปัสสนากรรมฐานแก้กรรม
http://www.oknation.net/blog/Duplex/2008/12/01/entry-4

พรเทพ-LSV team♥:
ต่ออีกสักหน่อย

ถ้านั่ง7วัน จะมีแจกโบนัสด้วย คูณ2เท่า

แต่ผมจะไม่บอกนะว่าแจกกันวันไหน
เดียวคนที่จิตไม่ปกติ ก็จะเลือกนั่งแต่วันที่แจกโบนัสเท่านั้น การทำแบบนั้นมันผิดเพราะคุณไม่ได้นั่งด้วยจิตที่ดี แต่นั่งด้วยจิตที่มีความโลภความขี้โกง ผลที่ออกมาจะเปลี่ยนไป
ดังนั้นควรนั่งด้วย จิตบริสุทธิ์   เมื่อจิตบริสุทธิ์ ผลออกมาจึงบริสุทธิ์  จิตบริสุทธิ์ดินแดนจึงบริสุทธิ์

มีคนเป็นจำนวนมากมาย เมื่อรู้ว่าถวายผ้าไตรจีวร ได้บุญมาก แกจะตั้งหน้าตั้งตาถวายผ้าไตรจีวรอย่างเดียวเลย แบบนี้ผลที่ได้รับก็จะผิดไปนะครับ อย่าลืมว่า ทานต้องบริสุทธฺ ใจต้องบริสุทธิ์

เรื่องพวกนี้คุยแล้วยาว เอาง่ายๆคือ อย่าคิดโกง จงทำดีด้วยจิตที่บริสุทธิ์ จงทำด้วยจิตที่สัทธา แล้วผลจะออกมาดีและบริสุทธิ์ เช่นเกิดภพหน้าจะได้มีเงินมีทองมีบ้านมีหน้าตาดี ไม่ใช่มีเงินแต่เดินไม่ได้ หรือมีเงินแต่ไม่มีลูกหรือมีหน้าตาดีแต่หาคู่ไม่ได้หรือมีหน้าที่การงานดี แต่หาสุขไม่ได้ นั่นคือผลกรรมที่เราทำมาไม่บริสุทธิ์ สิ่งที่ได้มาจึงขาดๆเกินๆ

TAWA:
สุดยอดเลยครับ  สาธุ  สาธุ  สาธุ[/b]

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว