เมนูเด็กขี้แพ้ อาหารทดแทน: ทางเลือกของเด็ก ‘แพ้’
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
เมษายน 26, 2024, 04:15:47 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เมนูเด็กขี้แพ้ อาหารทดแทน: ทางเลือกของเด็ก ‘แพ้’  (อ่าน 11624 ครั้ง)
b.chaiyasith
แก้ปัญหาไม่ตกคุยกันเวลางานline:chiabmillion
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน650
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3004


ไม้ดีไม่ลอยน้ำมาไกล


อีเมล์
« เมื่อ: กันยายน 03, 2009, 11:42:02 AM »

จะทำยังไงดี ลูกพี่กินอะไรก็ไม่ได้ นั่นก็แพ้ นี่ก็แพ้ นี่ไม่รู้จะทำอะไรให้ลูกกินแล้วนะ” เสียงบ่นจากคุณแม่คนหนึ่ง ที่ลูกน้อยแพ้อาหารอยู่หลายชนิดเลยค่ะ จนเกิดอาการตัน คิดไม่ออกว่าจะทำอะไรให้เจ้าตัวเล็กกินดี แม่ๆ บางคนคงประสบปัญหาแบบนี้อยู่เหมือนกันใช่ไหมคะ เรามาทำความรู้จักกับการแพ้อาหารของลูก พร้อมกับอาหารทดแทนที่เหมาะกับลูกเรากันเถอะค่ะ

ทำไมลูกรักถึงแพ้อาหาร

การแพ้อาหารเป็นภาวะภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นจากกรรมพันธุ์ ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของลูกซึ่งไม่ทนทานต่ออาหารที่แพ้ หรือเกิดจากปฏิกิริยาที่ไวต่ออาหารนั้นๆ เพราะมีการกระตุ้นจากระบบภูมิต้านทานของร่างกาย โดยอาการแพ้เหล่านี้มักจะพบได้บ่อยในช่วงขวบปีแรก
         อาการแพ้อาหารของเด็กแต่ละคนแตกต่างกันไป ในเรื่องของระดับของความรุนแรง ระยะเวลาที่เกิดอาการ ไปจนถึงปริมาณอาหารที่ได้รับ นอกจากนี้ อาหารบางชนิดถ้าแพ้แล้วอาจแพ้ตลอดไป แต่บางชนิดอาจหายได้เมื่อลูกโตขึ้น
สำหรับอาการแพ้เกิดขึ้นได้กับทุกระบบของร่างกาย แต่ที่พบบ่อยคือ



         • ระบบทางเดินอาหาร อาการแพ้ คือ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง อาหารไม่ย่อย ท้องเสีย ปากบวมเจ่อ คันบริเวณริมฝีปาก
         • ระบบผิวหนัง อาการที่พบบ่อยคือ มีผื่นคัน ตุ่มแดง ลมพิษ บริเวณผิวหนังหรือตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย
         • ระบบทางเดินหายใจ อาการที่พบคือ คัดจมูก น้ำมูกไหล จาม คันในจมูก คอแห้ง หายใจลำบาก แน่นหน้าอก หอบ มักพบร่วมกับอาการทางระบบทางเดินอาหารหรือผิวหนัง



         ลองสังเกตดูว่า เจ้าตัวเล็กมีอาการแบบนี้บ้างหรือเปล่า ถ้ามีอาจเข้าข่ายแพ้อาหารบางชนิดแล้วค่ะ ควรพาลูกไปทดสอบว่า แพ้อาหารชนิดไหนบ้าง และพยายามหลีกเลี่ยงอาหารชนิดนั้น



Top 6 Baby’s food allergy
มีอาหารอยู่หลายกลุ่มที่เด็กๆ ขวบปีแรกมักจะแพ้กัน เราเลยรวบรวม Top 6 Baby’s food allegy อาหาร 6 กลุ่มที่เจ้าตัวเล็กแพ้กันอยู่บ่อยๆ มาให้แม่ๆ ได้รู้จักกัน แต่ใช่ว่าแพ้อาหารชนิดไหนแล้ว จะขาดสารอาหารที่ควรได้รับจากอาหารชนิดนั้นไปเลย เพราะเรามีทางเลือก อาหารบางอย่างสามารถทดแทนและเติมเต็มประโยชน์ตามที่ร่างกายต้องการได้เหมือนกัน มีอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ
 1.นมแม่ทดแทนนมวัว
         ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ที่เราคุ้นเคยกันดี คงเป็นอาหารจำพวกชีส โยเกิร์ต ครีม นั่นแหละค่ะ การแพ้ก็อาจมาจาก 2 สาเหตุหลักคือ พันธุกรรม และการแพ้โปรตีนเวย์ เคซีน และ b–lactoglobulin ซึ่งเป็นการแพ้โปรตีนนมวัว หรือที่เรียกว่า Cow Milk Protein Allergy ที่ทำให้มีอาการผิดปกติทางระบบทางเดินอาหาร และอาจจะมีอาการทางผิวหนัง หรือระบบทางเดินหายใจร่วมด้วย
         ทางเลือก : นมแม่ นมถั่วเหลือง หรือนมไก่ โปรตีนในนมทางเลือกเหล่านี้ ย่อยและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายกว่านมวัว แต่มีสารอาหารใกล้เคียงกัน จึงสามารถทดแทนกันได้



2.เนื้อไก่ทดแทนถั่วลิสงและถั่วเหลือง
         นอกจากพันธุกรรมแล้ว ไกลโคโปรตีนในถั่วลิสงอาจเป็นสาเหตุของการแพ้อาหารชนิดนี้ได้ด้วย อาการที่พบเมื่อเกิดการแพ้คือ อาเจียน เป็นลมพิษ บางรายที่แพ้มากๆ อาจหายใจลำบากมากขึ้น
         ส่วนการแพ้ถั่วเหลือง อาจเกิดจากการแพ้โปรตีนที่เมล็ดถั่วเหลืองเก็บสะสมไว้เป็นอาหารเพื่อการเจริญเติบโตของเมล็ดถั่วเอง และอาจเกิดจากการกินอาหารของแม่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมลูก เช่น กินนมถั่วเหลืองมากเป็นพิเศษ นี่ก็มีส่วนส่งเสริมให้ลูกมีอาการแพ้ถั่วเหลืองได้เหมือนกัน อาการที่พบได้ คือ มีผดผื่นขึ้นตามตัว 
         ควรหลีกเลี่ยงอาหารและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของถั่วเหลือง ถั่วสิสง เช่น ซีอิ้ว เต้าหู้ เต้าเจี้ยว เนยถั่ว เค้ก คุกกี้ที่ใส่ถั่ว ควรอ่านฉลากเพื่อตรวจสอบว่ามีส่วนผสมของถั่วที่ทำให้แพ้หรือไม่
         ทางเลือก : สารอาหารที่ทดแทนโปรตีนจากถั่วได้ คือ เนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น เนื้อปลา ไก่ แพะ แกะ หมู เนื้อวัว รวมถึงนมวัว



3.ถั่วเหลืองทดแทนปลาและอาหารทะเลอื่นๆ
         ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดการแพ้ปลาคือ โปรตีน parvalbumins และ Gad c1 ซึ่งมีอยู่ในเนื้อปลาทุกชนิด ส่วนโปรตีนที่เป็นสารก่อภูมิแพ้สำคัญในสัตว์ทะเลเปลือกแข็งประเภทกุ้งและหอย คือ tropomyosin
         ทางเลือก : รับโปรตีนจากแหล่งอื่น เช่น หมู ไก่ สาหร่าย ถั่วเหลือง รวมทั้งปลาน้ำจืด เช่น ปลาช่อน ปลาทับทิม ฯลฯ ซึ่งมีโปรตีนที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย คล้ายกับโปรตีนจากเนื้อสัตว์



4.เนื้อหมูทดแทนไข่
         ส่วนใหญ่เด็กๆ มักจะแพ้เฉพาะไข่ขาว แต่เด็กบางคนอาจแพ้ไข่แดงด้วย ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดการแพ้คือ โปรตีนที่อยู่ในไข่ขาวชื่อ ovomucoid, ovalbumin และ ovotransferrin ดังนั้น การให้อาหารเสริมช่วง 6 เดือนจึงควรเริ่มด้วยไข่แดงก่อน
         ทางเลือก : รับโปรตีนชนิดอื่นจากเนื้อสัตว์ทดแทน เช่น หมู ไก่ ปลา แพะ แกะ นม รวมถึงการกินนมตามวัย



5.แป้งข้าวเจ้าทดแทนแป้งสาลี
         กลูเตนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบมากในอาหารที่ทำจากแป้งสาลี เช่น เค้ก ขนมปังต่างๆ รวมทั้งธัญพืชโดยเฉพาะที่นิยมกินเป็นอาหารเช้า เช่น ซีเรียล ข้าวสาลี ข้าวไรย์ ข้าวบาร์เลย์ และข้าวโอ๊ต นอกจากนี้ กลูเตนยังมีมากในเนื้อสัตว์เทียมที่ทำจากแป้งสาลี ซึ่งพบบ่อยในเทศกาลอาหารเจ ควรอ่านฉลากโภชนาการทุกครั้งก่อนตัดสินใจซื้ออาหารให้ลูก เพราะอาหารบางอย่างดูจากภายนอกอาจไม่รู้ส่วนผสมที่แท้จริง
         ทางเลือก : ควรกินอาหารประเภทแป้งที่ทำจากข้าวเจ้า ข้าวเหนียว แป้งข้าวโพด ซึ่งไม่มีคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนกลูเตน ทำให้ลูกไม่แพ้ แต่ให้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรตเหมือนกัน



         แม้ลูกจะแพ้อาหารบางอย่างหรือหลายๆ อย่าง ก็ไม่เป็นอุปสรรคให้แม่อย่างเราถึงทางตันได้หรอกค่ะ ลองดูเมนูตัวอย่างสำหรับเด็กขี้แพ้ที่นำมาฝากกัน เป็นไอเดียในการประยุกต์อาหารทั่วไปให้เหมาะกับลูกได้อย่างไม่ยากเย็นซักนิด


เมนูสำหรับเด็ก “แพ้”
ข้าวต้มปลาใบตำลึง



เครื่องปรุง



         ข้าวต้ม     ½ ถ้วย
         เนื้อปลาทับทิมหั่นสี่เหลี่ยม  2 ช้อนโต๊ะ
         ใบตำลึงลวกสับ    ½ ช้อนโต๊ะ
         น้ำซุป     1 ถ้วยตวง
         เกลือหรือซีอิ้ว
วิธีทำ
         1.ลวกปลาพอสุกพักไว้
         2.ต้มน้ำซุปให้เดือดปรุงรสด้วยซีอิ้วหรือเกลือ
         3.ใส่ข้าวต้มและตำลึงลงไปต้มต่อ ชิมรส
         4.ใส่ปลาที่เตรียมไว้ลงไป รอให้เดือดอีกครั้ง ตักเสิร์ฟได้



         Modern Mom’s tip เมนูนี้ลูกที่แพ้อาหารทะเล กลูเตน นม ถั่ว ไข่ขาว สามารถรับประทานได้ กรณีที่แพ้ปลาทุกชนิดให้เปลี่ยนเป็นไก่หรือหมูได้ตามชอบ ถ้าลูกแพ้ถั่วเหลืองก็ใช้เกลือปรุงอาหารแทนได้ค่ะ



ซุปสาคูหมูแครอต



เครืองปรุง



         สาคูเม็ดเล็ก   2  ช้อนโต๊ะ
         น้ำซุป    3  ถ้วย
         หมูบด   ½ ถ้วย
         แครอตสับหยาบ  2 ช้อนโต๊ะ
         เกลือ
         ผักชีสำหรับตกแต่ง
วิธีทำ
         1.ผสมหมูบดกับแครอต เกลือ1/2 ช้อนชา น้ำสะอาด 3 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันพักไว้
         2.ต้มน้ำซุปให้เดือด ใส่สาคูลงไปต้ม คอยคนจนสาคูสุก
         3.ตักหมูบดที่ผสมไว้แล้ว ปั้นเป็นก้อน ต้มในน้ำซุป จนสุก
         4.ชิมรสอีกครั้ง
         5 ตักเสิร์ฟร้อนๆ โรยหน้าด้วยผักชี



         Modern Mom’s tip สำหรับเด็กที่แพ้กลูเตน บางครั้งลูกอาจเบื่อเมนูจากข้าวจ้าว การนำแป้งชนิดอื่นมาปรุงอาหารนอกจากป้องกันอาการแพ้แล้ว ยังทำให้ลูกไม่เบื่ออีกด้วย



ราดหน้าปลาช่อน



เครื่องปรุง



         เส้นใหญ่ลวกหั่นเป็นเส้นเล็ก   ½ ถ้วย
         ปลาช่อนนึ่งแกะเนื้อ 2 ช้อนโต๊ะ
         น้ำซุปกระดูกไก่ 1 ½ ถ้วย
         ผักกาดขาวลวกสับ 1 ช้อนโต๊ะ
         หอมใหญ่สับ 1 ช่อนโต๊ะ
         เกลือป่น 3-4 เกล็ดเล็ก
         แป้งข้าวเจ้าละลายน้ำ 2 ช้อนชา
วิธีทำ
         1.ใส่หอมใหญ่ ผักกาดขาว กับเกลือป่นในน้ำซุปกระดูกไก่ ใช้ไฟอ่อนเคี่ยวจนผักสุก
         2.ใส่แป้งข้าวเจ้าที่ละลายน้ำคนให้เข้าจนแป้งสุกเหนียว ใส่ปลาช่อนนึ่งแกะเนื้อ
         3 ตักราดเส้นใหญ่ที่ลวกไว้



         Modern Mom’s tip เมนูนี้ใช้เนื้อปลาน้ำจืด และควรแกะเนื้อปลาช่อนเนื่องจากปลาช่อนเป็นปลาที่ก้างเล็กการแกะเนื้อเพื่อตรวจสอบก้างปลาป้องกันก้างปลาติดคอ หรืออาจใช้เนื้อไก่แทน สูตรนี้ไม่ใช่ซีอิ๊วดำและซีอิ๊วขาวหรือเต้าเจี้ยวเนื่องจากเด็กที่แพ้ถั่ว ให้งดผลิตภัณฑ์ที่ทำจากถั่วด้วย ใช้แป้งข้าวเจ้าแทนแป้งมันเนื่องจากเด็กไม่แพ้ หากทดสอบว่าไม่แพ้แป้งมันก็ใช้ทดแทนกันได้



เมนูที่ไม่มีส่วนผสมของสิ่งที่เด็กแพ้ได้
ราดหน้าห้าสี



เครื่องปรุง



         เส้นใหญ่     100  กรัม
         สันในไก่หั่นสี่เหลี่ยม  100   กรัม
         ดอกกะหล่ำหั่นสั้นๆต้มพอสุกสับ 1  ช้อนโต๊ะ
         บร็อกโคลีต้มพอสุกสับ  1  ช้อนโต๊ะ
         แครอต หั่นสี่เหลี่ยมต้ม  1  ช้อนโต๊ะ
         มันสีม่วงหรือมันเทศต้มหั่นเต๋า 1  ช้อนโต๊ะ
         กระเทียมสับ   1  ช้อนชา
         น้ำซุป     1   ถ้วย
         น้ำมันหอย      1   ช้อนโต๊ะ
         เกลือ    1/4   ช้อนชา
         แป้งมัน    3   ช้อนโต๊ะ
         แป้งข้าวโพด      2   ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
         1. ละลายแป้งมันกับแป้งข้าวโพดในน้ำแล้วพักไว้
         2. ผัดเส้นใหญ่ให้หอม พักไว้
         3. กะทะตั้งไฟใส่น้ำมัน  กระเทียมลงไปผัดให้หอม
         4.ใส่เนื้อไก่ผัดพอสุก
         5. ใส่แครอท บร็อคโคลี่  ดอกกะหล่ำลงไปผัดต่อ
         6.ปรุงรสด้วย น้ำมันหอย เกลือ น้ำตาลทราย ลงไป
         7. เติมน้ำซุปลงไปพอเดือดอีกทีก็ใส่แป้งที่เตรียมไว้แล้วลงไป ชิมรส




         Modern Mom’s tip เมนูจานนี้เหมาะสำหรับลูกวัย 1 ปีขึ้นไป ไม่มีส่วนผสมของอาหารที่เด็กๆ มักจะแพ้ ผักหลากหลายสีช่วยให้ร่างกายได้รับไวตามินและเกลือแร่ที่จำเป็น



ซุปรวมพลังเบตาแคล



เครื่องปรุง



         ฟักทองปอกเปลือกนึ่งยี   2  ถ้วยตวง
         งาขาวคั่ว    2  ช้อนโต๊ะ
         น้ำซุปไก่    1  ถ้วยตวง
วิธีทำ
         1.ต้มน้ำซุปพอเดือดใส่ฟักทองคนให้เข้ากัน
         2.ชิมรสเติมงาขาวคั่วลงไป
         3.นำส่วนผสมทั้งหมดไปปั่นให้ละเอียด
         4. นำกลับมาต้มต่อให้เดือดอีกครั้ง



         Modern Mom’s tip เบต้าแคโรทีนที่ได้จากฟักทองและแคลเซียมจากงา ทำให้ลูกได้รับคุณประโยชน์ทั้งสองชนิดในคำเดียว และไม่มีส่วนผสมของอาหารที่ทำให้ก่อให้เกิดอาการแพ้บ่อยๆ



ซุปไก่บด



เครื่องปรุง



         ข้าวสวยใช้ส้อมบด  ½ ถ้วย
         อกไก่  30 กรัม
         ผักกาดขาว 25 กรัม
         น้ำซุปต้มกระดูกไก่  2 ถ้วย
วิธีทำ
         ใส่เครื่องปรุงทั้งหมดลงในหม้อที่ตั้งไฟอ่อน หมั่นคนสม่ำเสมอ จนสังเกตว่าข้าวเปื่อยเละเป็นโจ๊ก เทส่วนผสมลงในโถปั่นละเอียด จากนั้นเทใส่หม้อแล้วกวนต่อด้วยไฟอ่อน เพื่อไล่ฟองอากาศ

Modern Mom’s tip สูตรนี้สำหรับเด็กอายุ 6 เดือน ที่เพิ่งลองอาหารเสริม หลังคุณแม่ให้ลองน้ำข้าวมื้อแรก 2-3 ครั้งแล้ว เด็กไม่มีอาการแพ้ วันที่ 2 ลองน้ำซุปต้มกระดูก และวันที่ 3 ลองน้ำต้มผักกาดขาว เมื่อไม่แพ้อาหารทั้ง 3 อย่าง ให้ลองซุปไก่บด โดยเมื่อเริ่มป้อนให้ครั้งละน้อย 2-3 ช้อน จากนั้นเพิ่มปริมาณเป็น 1 ถ้วยเล็ก หากเด็กรับอาหารได้หยาบขึ้นแล้ว ไม่ต้องปั่นข้าวให้ละเอียด แต่ปั่นเนื้อไก่ ผักและน้ำซุปให้เข้ากัน แล้วใส่ข้าวเคี่ยวไฟอ่อนแทน


*หมายเหตุ งานเขียนชิ้นนี้ ได้รับการคุ้มครองสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสิทธิทางปัญญา โดยลิขสิทธิเป็นของผู้เขียน ที่ให้เกียรตินำเผยแพร่ผ่าน วิชาการ.คอม เรามีความยินดีและอนุญาตให้ทำซ้ำหรือเผยแพร่ต่อเพื่อประโยชน์ทางการศึกษาเท่านั้น กรุณาให้เกียรติผู้เขียน โดยอ้างชื่อผู้เขียนและ วิชาการ.คอม (www.vcharkarn.com) ทุกครั้งที่ทำการเผยแพร่ต่อ ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อในสื่อที่เอื้อประโยชน์ทางธุรกิจก่อนได้รับอนุญาต ขอขอบคุณที่ร่วมกันช่วยสร้างให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งปัญญา
ขอขอบคุณข้อมูลภายใต้ความร่วมมือของนิตยสาร modern mom กับวิชาการดอทคอม
www.raklukefamilygr oup.com
ที่มา : นิตยสาร Modern Mom   
 ฉบับที่ 167 กันยายน 2551


บันทึกการเข้า

"CHIAB"
มนุษย์เราแต่ละคน  ต่างไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไม่มีใครรู้จักกันมาก่อนเลย  แล้ววันหนึ่งก็มาพบหน้ากัน  สมมุติเป็นพ่อ  เป็นแม่  เป็นเมีย  เป็นสามี  เป็นลูก  อยู่ร่วมกัน  ใช้ชีวิตร่วมกัน และแล้ววันหนึ่ง  ก็แยกย้ายด้วยการ  "ตายจาก"  กันไปสู่  ณ  ที่ซึ่งไม่มีใครได้ตามพบ  คืนสู่ความเป็นผู้ไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไปไหน  และคืนสู่ความเป็น  "คนแปลกหน้า"  ซึ่งกันและกันอนันกาลอีกครั้งหนึ่ง...และอีกครั้งหนึ่ง!?
ขอขอบคุณ คุณเปลว สีเงิน ที่ให้ข้อคิดดีๆ

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!