การดื่มน้ำสามารถรักษาโรคได้ (จริงหรือ?)
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
เมษายน 29, 2024, 06:05:31 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: การดื่มน้ำสามารถรักษาโรคได้ (จริงหรือ?)  (อ่าน 2177 ครั้ง)
Nattawut-LSV Team
E23IUY
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน808
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3581


อีเมล์
« เมื่อ: สิงหาคม 22, 2009, 08:58:43 AM »

ดื่มน้ำตอนกระเพาะว่าง

ทุกวันนี้เป็นที่รู้กันดีในญี่ป่นเรื่องประโยชน์ของการดื่มน้ำทันทีหลังจากตื่นนอนทุกๆเช้า นอกจากนั้น
ผลการทดสอบของนักวิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์เรื่องนี้ได้อีกด้วย
เราได้พิมพ์บทความเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากน้ำดังต่อไปนี้ ให้กับผู้อ่านทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นโรคเก่า โรคร้ายแรง
หรือโรคที่เพิ่งเป็นกันในปัจจุบันนี้
การรักษาด้วยน้ำก็ได้รับการค้นพบอย่างสำเร็จโดยสมาคมการแพทย์ประเทศญี่ปุ่น
ว่า รักษาโรคดังต่อไปนี้ได้ 100%

  โรคปวดหัว ปวดเมือยตามตัว
  โรคหัวใจ โรคข้อต่ออักเสบ
  โรคหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
  โรคลมบ้าหมู โรคอ้วนเกินไป
  โรคหลอดลมอักเสบ วัณโรค
  เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
  โรคไตอักเสบ อาเจียน
  โรคกระเพาะอาหาร ท้องเสีย
  ริดสีดวงทวาร เบาหวาน
  ท้องผูก โรคเกี่ยวกับตา
  เนื้องอก มะเร็ง
  ประจำเดือนมาไม่ปกติ
  และโรคเกี่ยวกับ หู จมูก คอ เป็นต้น

     1. เมื่อตื่นนอนแล้ว ตอนเช้าก่อนแปรงฟันให้ดื่มน้ำ 4 แก้วๆละ 160 ml
     2.แปรงฟันแต่อย่ารับประทานหรือดื่มอะไรทันที เป็นเวลา45นาที
     3.หลังจาก 45 นาทีทานได้เป็นปกติ
     4.หลังจากทานอาหารเช้า กลางวัน หรือ เย็น ไปแล้ว 15 นาที อย่ารับประทานอาหารหรือดื่มอะไรต่ออีกเป็นเวลา 2 ชั่วโมง
     5.สำหรับผู้สูงอายุ หรือ ผู้ป่วยที่ไม่สามารถดื่มน้ำได้ถึง 4 แก้วในช่วงแรกๆ ก็ให้เริ่มทีละน้อยไปเรื่อยๆ จนได้ครบ 4 แก้วต่อวัน

วิธีรักษาข้างต้นนี้
สามารถรักษาหลายๆโรคดังกล่าว และทำให้ท่านได้มีความสุขกับชีวิตที่มีสุขภาพดี
แต่ละโรคใช้เวลาในการรักษาต่างกัน ตามรายละเอียดข้างล่างนี้

1.โรคความดันโลหิตสูง – 30 วัน
2.โรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร) – 10 วัน
3.เบาหวาน - 30 วัน
4.ท้องผูก - 10 วัน
5.มะเร็ง -180 วัน
6.วัณโรค - 90 วัน
7.โรคข้อต่ออักเสบ ผู้ป่วยโรคนี้ควรทำการรักษาในสัปดาห์แรกเพียง 3 วัน และในสัปดาห์ที่สองจึงทำได้ทุกวัน

วิธีการรักษาเช่นนี้ไม่มีผลข้างเคียง แต่อย่างไรก็ตาม ระยะเริ่มต้นของการรักษาอาจทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น
ถ้าทำต่อไปเรื่อยๆจะดีขึ้นเป็นลำดับและให้ทำเป็นกิจวัตรประจำวัน
ดื่มน้ำมีสุขภาพดี กระฉับกระเฉง

ฟังแล้วดูมีเหตุผล ชาวจีนและชาวญี่ปุ่น มักดื่มชาร้อนเวลารับประทานอาหารทุกมื้อ ไม่ใช่น้ำเย็น บางที่
อาจถึงเวลาที่เราต้องฝึกนิสัยดื่มน้ำอุ่นในเวลาทานอาหารแบบพวกเขา ไม่มีอะไรต้องเสีย มีแต่ได้
 
สำหรับผู้ที่ชอบดื่มน้ำเย็นบทความนี้มีประโยชน์ทีเดียวสำหรับคุณ ใช่ มันรู้สึกสดชื่นเวลาดื่มน้ำเย็นหลังทานอาหาร แต่! น้ำเย็นจะไปทำให้อาหารประเภทไขมันที่คุณเพิ่งรับประทานเข้าไปจับตัวเป็นก้อน และไปทำให้การย่อยอาหารช้าลง เมื่อกากไขมันทำปฏิกิริยากับกรดมันจะแตกตัวและถูกดูดซึมเข้าไปโดยลำไส้เร็วกว่าอาหารประเภทที่ย่อยยากและมันจะนอนแช่อยู่ในลำไส้ไม่ช้านานมันก็จะเปลี่ยนถาพกลายเป็นไขมัน และนำไปสู่การกลายสภาพเป็นเซลมะเร็ง
ดีที่สุดให้ดื่มซุปร้อนๆ หรือน้ำอุ่นหลังอาหาร

มีข้อมูลที่น่าวิตกเกี่ยวกับโรคหัวใจวาย คือ ท่านผู้หญิงทั้งหลายควรทราบว่าอาการของโรคหัวใจไม่ใช่แค่เพียงการบอกเตือนถึงอาการเจ็บที่แขนซ้ายทุกครั้งไป
ให้ระวังอาการเจ็บอย่างรุนแรงที่แนวกราม หรือ ขากรรไกร
คุณจะไม่มีอาการเจ็บที่หน้าอกในครั้งแรกระหว่างที่คุณเป็นโรคหัวใจ
อาการคลื่นไส้ และเหงื่อออกมากผิดปกติก็เป็นอาการหนึ่งที่บ่งบอกโดยทั่วไปเช่นกัน

ประมาณ60% ของผู้ป่วยที่มีอาการหัวใจวายเฉียบพลันระหว่างนอนหลับและไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย

 อาการปวดกราม สามารถรบกวนให้คุณตื่นจากการนอนหลับสนิท
อย่าประมาท และมาเริ่มต้นระมัดระวังกันดีกว่า ยิ่งรู้มากขึ้นเราก็ยิ่งมีโอกาสปลอดภัยมากกว่า

http://www.htg2.net/index.php?topic=53781.0  Smiley


บันทึกการเข้า

kittanan_2589
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน630
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2363


NightBaron


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 22, 2009, 11:39:47 AM »

 ขอบคุณ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!