คาถา มหารวย........รวย......รวย
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คาถา มหารวย........รวย......รวย  (อ่าน 2997 ครั้ง)
Nattawut-LSV Team
E23IUY
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน808
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3581


อีเมล์
« เมื่อ: เมษายน 25, 2009, 07:25:21 pm »

ผมเชื่อว่าความลับแห่งการร่ำรวยมีองค์ประกอบที่สำคัญตามนี้

๑. ใช้น้อยกว่าหา


ถ้าหากเราสามารถใช้จ่ายน้อยกว่าที่หาได้ วันหนึ่งเรารวยแน่ๆ ความรวยก็เป็นเรื่องแปลก ยิ่งเรามีเงินออม เรายิ่งรวยขึ้น แต่ถ้าเรามีหนี้ เราก็จะมีโอกาสจนลง

ลองสมมติว่า เราทำงานมีเงินเดือน มีเงินเก็บ สมมติว่าปีหน้าเงินเดือนเราไม่ขึ้นเลย คำถาม ปีหน้าเรามีรายได้เพิ่มขึ้นหรือไม่

คำตอบก็คือ เพิ่มขึ้น เนื่องจากมาจากดอกเบี้ยรับจากเงินออมที่ใหญ่ขึ้นจากดอกเบี้ยรับของปีนี้ หรือดอกเบี้ยทบต้นนั่นเอง และในทางกลับกันถ้าหากเราใช้มากกว่าที่หาได้ แล้วต้องกู้หนี้ยืมสินมาใช้จ่าย เราก็จะตกเป็นภาระของดอกเบี้ยจ่ายทบต้น

เมื่อเราสามารถเริ่มต้นจากการใช้น้อยกว่าหาได้ เราก็เริ่มต้นก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งความมั่งคั่ง

๒. หาได้ หักเก็บไว้ เหลือค่อยใช้

สมัยก่อนเราก็จะได้ยินว่าหาได้ หักใช้จ่าย เหลือค่อยเก็บ แต่สมัยใหม่จะกลายเป็นหาได้ หักเก็บไว้ เหลือค่อยใช้ นี่ก็มาจากการสังเกตุการณ์ความเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่อาจไม่มีความเข้มแข็งในการรักษาวินัยทางการเงิน พอมีเงินสดอยู่ก็ใช้หมด แล้วก็อาจจะเหมือนการเดินทางทางอากาศ ถ้าหากเกิดเหตุขัดข้อง มีหน้ากากอ๊อกซิเจนหล่นลงมา เราจะใส่หน้ากากให้ลูกก่อนหรือใส่ให้ตัวเราเองก่อน ตอนนี้คำแนะนำที่ถูกต้องก็คือใส่หน้ากากให้ตัวเราก่อน แล้วค่อยใส่ให้ลูก เพราะว่าถ้าหากเรามีสติอยู่การใส่หน้ากากให้ตัวเองก่อนจะใช้เวลาน้อยมากแค่เสี้ยววินาทีไม่เกินสองวินาที แต่ถ้าหากเราใส่ให้ลูกก่อน แต่ลูกตกใจ ขัดขืน ไม่ยอมให้ใส่ง่ายๆ ก็อาจเสียเวลามากกว่า อาจมากถึงขนาดที่เราหน้ามืดหมดสติไปซะก่อนก็ได้

เมื่อเราเริ่มเก็บออมได้สม่ำเสมอ เราก็เริ่มใช้อานุภาพของดอกเบี้ยทบต้น

๓. ไม่มีของฟรีในโลก

ความโลภเป็นบาปอย่างหนึ่งที่ทำให้เรามืดมัวตาบอด ตัดสินใจทำโดยขาดสติ ฝรั่งก็มีคำกล่าวว่า No free lunch สิ่งใดๆล้วนแล้วแต่มีต้นทุน น้อยครั้งที่จะมีการได้บางสิ่งบางอย่างมาฟรีๆโดยไม่มีข้อผูกมัดตามมาด้วย อีกคำที่เป็นคำเตือนใจที่ดีก็คือ Too good to be true ดีเกินกว่าที่จะเป็นจริงไปได้ เมื่อมีใครมาเสนออะไรที่ดีเหลือเชื่อ

ซื้อของครบ ๑๐๐ บาท ได้บ้านฟรี หรือ
ลงทุนกับผมได้กำไรแน่ๆ เพียงสองปีจะกำไรถึงห้าเท่าของเงินต้น รับประกันผลตอบแทน
เมื่อเราได้รับข้อเสนออย่างนี้ ซึ่งในปัจจุบันก็จะมาในรูปแบบต่างๆทั้งที่ฟังปุ๊ปต่อมระวังภัยของเราก็เริ่มทำงานหรือ หรือแบบที่แนบเนียนนำพาให้เราเคลิบเคลิ้มไปได้ ก็ต้องพยายามเปิดใจรับฟังไปพร้อมกับต่อมระวังภัยทุกครั้งไป

ผมเชื่อว่าคนที่อ่านบล็อกนี้ก็น่าจะต้องใช้อีเมล และน่าจะเคยได้รับอีเมลจากบุคลลที่อ้างว่าเป็นผู้ที่มีความต้องการคนช่วยรับเงินจำนวนมหาศาลเป็นมูลค่าร้อยล้านพันล้านเหรียญสหรัฐอเมริกาจากต่างประเทศ เขาขอแค่ให้ช่วยรับเงินจำนวนนั้นแล้วโอนไปอีกที่ โดยสัญญาที่จะให้ค่าป่วยการเป็นล้านเหรียญ หรือที่เรียกกันอย่างเป็นทางการว่า Nigerian Mail ผมเชื่อว่าทุกคนที่อ่านบล็อกนี้คงลบอีเมลนั้นทิ้งทันทีที่ได้รับ แต่เชื่อหรือไม่ว่ามีคนตกเป็นเหยื่อเรื่องนี้เสียเงินเสียทองไปจริงๆ

เมื่อเราไม่ตัดสินใจโดยความโลภ เราก็คงไม่สูญเสียเงินก้อนใหญ่ออกไปแบบไม่มีเหตุอันควร

๔. เข้าใจความเสี่ยงและผลตอบแทน

เวลาที่เรามีเงินออม เราก็คงไม่เอาเงินเราไปเก็บในธนาคารบัญชีออมทรัพย์หรือแม้กระทั่งบัญชีฝากประจำอย่างเดียว เพราะการออมแบบไม่มีความเสี่ยงเงินต้นนี้ ผลตอบแทนก็จะพอๆกับเงินเฟ้อซึ่งก็แทบจะเหมือนกับว่ามูลค่าเงินจริงๆของเราแทบไม่เพิ่มขึ้นเลย การนำเงินไปลงทุนในรูปแบบต่างๆทั้งการซื้อพันธบัตร หุ้นกู้ หุ้น กองทุนรวม ที่ดิน หรือประกอบธุรกิจ เป็นสิ่งที่ผมอยากสนับสนุน ทั้งนี้ทั้งนั้นอยากให้เรารู้และเข้าใจความเสี่ยงของแต่ละวิธีแต่ละครั้งในเรื่องที่เราจะลงทุน การจัดสรรเงินลงทุนและการบริหารพอร์ทการลงทุนที่ดีก็จะช่วยให้เรารู้และสามารถเผชิญกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นและจัดการหรือบริหารความเสี่ยงนั้นๆได้

เมื่อเราจัดสรรเงินบางส่วนไปลงทุนก็จะช่วยทำให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นและเร็วขึ้น

๕. ความเพียร

อุปสรรคทุกประเภทจะมลายหายสิ้นด้วยความเพียร หลังจากเห็นตัวอย่างบุคคลหลายๆคนบริษัทหลายๆบริษัทที่ประสบความสำเร็จ ก็จะเห็นลักษณะร่วมอย่างหนึ่ง คือ ความเพียร หรือจริงๆแล้วก็คือ determine ที่หลายครั้งแปลว่าความมุ่งมั่น หลายตัวอย่างที่ผ่านเข้ามาก็จะเห็นว่า คนที่ประสบความสำเร็จอาจมีความฉลาดขนาดอัจฉริยะจนถึงความฉลาดแบบพวกเราธรรมดา บ้างก็มีเงินทุนมากมายตั้งแต่เกิดจนถึงปากกัดตีนถีบมาก่อน บ้างเกิดในแวดวงคนชั้นสูงมีฐานะทางสังคมจนถึงคนธรรมดาๆทั่วไป และอีกหลายๆอย่าง แต่สิ่งที่เห็นร่วมที่ทุกคนมีก็คือความเพียร

มีความเพียร ไม่ย่อท้อ ก้าวต่อไปบนเส้นทาง

๖. คิดดี พูดดี ทำดี

เรื่องนี้พูดไปก็เป็นเรื่องง่าย การมองโลกในแง่ดีหรือการคิดแง่บวก ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ชีวิตเราสดใส มีสติที่จะมองและตัดสินเรื่องราวต่างๆที่กระทบต่ออนาคต การคิดดี พูดดี ทำดี น่าจะเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตอย่างเป็นสุข ถ้าหากเรามองและคิดในแง่ร้าย ชีวิตหดหู่ สิ่งที่ทำมาทั้งหมดก็ไร้สาระสิ้นดี เมื่อเราคิดดี พูดดี ทำดี เราก็คงสร้างมิตรเป็นจำนวนมาก ช่วยเหลือจุนเจือผู้อื่นตามฐานะและศักยภาพของเรา ทำสังคมรอบข้างให้ดีขึ้นก็ยิ่งทำให้เราอยู่อย่างเป็นสุขมากขึ้น

เรื่องความรวยก็มีเรื่องแปลกอีกอย่าง เราจะรวยขึ้นถ้าสังคมรวยขึ้น ถ้าสังคมที่เราอยู่มีฐานะแย่ลงๆเรื่อยๆ เราก็จะมีฐานะแย่ลงตาม เชื่อมั้ยครับ



บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: