class D กับ Mosfet ต่างกันยังงัยครับ
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
เมษายน 28, 2024, 11:22:25 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: class D กับ Mosfet ต่างกันยังงัยครับ  (อ่าน 8216 ครั้ง)
tery
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31



เว็บไซต์ อีเมล์
« เมื่อ: มีนาคม 10, 2008, 08:19:26 PM »

class D กับ Mosfet ต่างกันยังงัยครับ  วานใครก็ได้ช่วยบอกทีครับไม่รู้จริงๆ
ขอบคุณครับ


บันทึกการเข้า

ช่างยุทธ YTN
วีไอพี
member
***

คะแนน99
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1101


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 10, 2008, 08:33:40 PM »

class คืการจัดไบอัสของพาวเวอร์เอาว์พุทมีหลายคลาส เช่น class A ,class AB เอาว์พุทมีทั้งเฟ็ตและทรานซิสเตอร์
Mosfet คืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่ง เป็นสารกึ่งตัวนำ  Sad

ต่างกันยังไง ตอบไม่ถูกครับ มันคนละเรื่องกัน ถามใหม่นะครับ Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

1 + 1 = ?
tom ele
member
*

คะแนน62
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1306


ช่างนอกเวลาเรียน

tom_phakdee@hotmail.com
เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 10, 2008, 08:45:05 PM »

แต่ที่เห็น class D มีแต่ มอสเฟตนะ ไม่เคยเห็น TR เลย ไม่ทราบจริงๆๆ
บันทึกการเข้า

ช่างนอกเวลาเรียน ไม่ได้มีอาชีพเป็นช่าง แต่เป็นช่างมืออาชีพ
เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม ม.ราชภัฎนครศรีธรรมราช รุ่นสุดท้าย
tery
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31



เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 10, 2008, 08:54:14 PM »

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
veerasak suwanapetch
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8


« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 29, 2008, 08:26:34 PM »

Class คือ การจัดระดับของวงจรขยาย โดยแบ่งตามเส้นโหลด  เช่น Class A อยู่ที่กึ่งกลางเส้นของเส้นโหลด  Class B , Class C ,Class AB ,Class D เป็นต้น
ส่วน MOSFET : Metal Oxide Semiconductor Field Effect Transistor  เป็นสารกึ่งตัวนำ  จัดว่าเป็นทรานซิสเตอร์แบบยูนิโพล่าร์
บันทึกการเข้า
kung_sakon
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5


« ตอบ #5 เมื่อ: เมษายน 02, 2008, 10:35:03 PM »

งั้นผมขออนุญาตถามว่า class Dต่างจาก class A-B-C อย่างไร และเห็นเพาวเวอร์แอมป์ ที่ใช้ขับ ซับ ถึงโฆษณาว่า ตัวนี้แจ๋ว เป็น โมโน บล็อค class D

ขอบคุณท่านที่ตอบล่วงหน้าคึรับ
ด้วยความเคารพ
บันทึกการเข้า
dekwat♥
member
*

คะแนน458
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 303



« ตอบ #6 เมื่อ: เมษายน 02, 2008, 10:44:42 PM »

       CLASS ของแอมป์ในอดีตมีอยู่ 3 CLASS คือ CLASS A , CLASS B และ CLASS AB แต่ปัจจุบันมี CLASS D , CLASS T , CLASS G , CLASS H และอื่นๆอีก
        CLASS A วงจรขยายชนิด CLASS A นั้นออกแบบให้ทรานซิสเตอร์ทุกตัวทำหน้าที่นำกระแสไฟฟ้า นิยมใช้ในวงจรขยายความเพี้ยนต่ำที่ต้องการคุณภาพเสียงจริงๆ แอมพ์ที่มีกำลังขับ 100 วัตต์ อาจต้องการกระแสไฟภายในเกือบ 100 วัตต์ แม้ว่าไม่มีสัญญาณเข้ามาก็ตาม จึงทำให้แอมพ์คลาสนี้มีความร้อนสูง จึงต้องออกแบบให้มีการระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ
         CLASS B วงจรขยายชนิดคลาส B วงจรทรานซิสเตอร์จะทำงานเพียงครึ่งเดียว ทำให้มีความเพี้ยนสูง ปัจจุบันหายากแล้ว
         CLASS AB การทำงานคล้ายกับคลาส A คือ ทำหน้าที่ขยายสัญญาณระดับต่ำให้แรงขึ้น ก่อนที่จะส่งไปยังภาคขยายคลาส B เป็นการนำเอาข้อดีของวงจรแต่ละชนิดมาประยุกต์การทำงาน เมื่อเทียบกับการสูญเสียในเรื่องประสิทธิภาพ(ความร้อน)ที่มีอยู ่บ้าง แต่กำลังขับยังสูงกว่า CLASS Aหลายเท่า เป็นที่นิยมมากในวงการ
         CLASS D เป็นการออกแบบให้ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในการขยาย ซึ่งแทนที่จะเสียกำลังไปในเรื่องของความร้อน เนื่องจากไม่ได้ทำงานตลอดเวลา เพราะความถี่สูงจะถูกตัดออกไปในช่วงระหว่างภาคจ่ายไฟบวก และลบ ทำให้อุปกรณ์ไม่ได้ทำงานตลอดเวลา ความร้อนจึงต่ำ ในด้านประสิทธิภาพนั้นจึงสูงกว่า CLASS AB หลายเท่า แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของการตอบสนองความถี่เสียง ซึ่งเหมาะใช้งานกับซับวูเฟอร์ แต่ไม่เหมาะที่จะนำไปขับลำโพงกลางแหลม
         CLASS T แอมพ์คลาสนี้มีการออกแบบให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยใช้ตัวประมวลผลสัญญาณดิจิตอล(tripath) ทำให้วงจรทำงานได้เต็มช่องสัญญาณเสียง(20-20,000 hz) ทำให้แอมพ์คลาส T สามารถใช้งานได้ทั้งซับวูเฟอร์ และกลางแหลม แอมพ์คลาส T ให้ประสิทธิภาพสูงกว่า คลาส AB
         CLASS G เป็นการออกแบบให้มีประสิทธิภาพให้สูงขึ้นมาอีกขั้น  โดยลดการสูญเสียแรงดันของทรานซิสเตอร์ พื้นฐานใกล้เคีบงกับคลาส AB และมีประสิทธิภาพเท่าคลาส D หรือ T แต่การออกแบบวงจรจะมีความสลับซับซ้อนกว่ามาก
         CLASS H มีความคล้ายคลึงกับคลาส G ยกเว้นจุด สัญญาณไม่เกิดการคลิพ ที่ไม่มีการเปลี่ยนความถี่ของสัญญาณขาเข้า วงจรที่ใช้คล้ายกับคลาส D และทำงานเหมือนกับแอมพ์คลาส AB
บันทึกการเข้า
ช่างยุทธ YTN
วีไอพี
member
***

คะแนน99
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1101


อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: เมษายน 02, 2008, 10:51:50 PM »

Class D คือการนำสัญญาณอะนาล็อกมาแปลงเป็นสัญญาณดิจิตอล แล้วขยายสัญญาณที่แปลงด้วยระบบดิจิตอล จากนั้นแยกสัญญาณออกจากคลื่นพาหะด้วยตัวกรองสัญญาณ ก่อนที่จะส่งออกเป็นสัญญาณขั้นสุดท้าย ระบบขยายเสียงดิจิตอล Class D ยังมีประสิทธิภาพมากกว่า 90% เมื่อเทียบกับระบบการขยายเสียง AB ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นผลทำให้เครื่องขยายเสียงนี้ มีประสิทธิภาพสูง ในขนาดเล็กลง จึงใช้พื้นที่ในการจัดวางเพียงเล็กน้อย
บันทึกการเข้า

1 + 1 = ?
kung_sakon
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5


« ตอบ #8 เมื่อ: เมษายน 04, 2008, 10:18:07 PM »

 Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy
 Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy
 Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy ขอบคุณครับที่กรุณาให้ความรู้
 Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy
 Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy Cheesy
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!