มาฝึกการปล่อยใจให้ ว่างกันไหม
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มาฝึกการปล่อยใจให้ ว่างกันไหม  (อ่าน 4228 ครั้ง)
supoj007
member
*

คะแนน286
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1555



อีเมล์
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2008, 11:28:27 PM »

เริ่มเลยครับ
1-อาบน้ำชำระร่างการให้สะอาด นุ่งหุ่มผ้าให้เรียบร้อย
2 จุดเทียน ด้านขวา และด้านซ้ายที่เชิงเทียน
3 สวดมนต์ ทำให้สมาธิน้อมใจไปในบทสวดมนต์ (โบราณว่าเป็นการรักษาโรคได้)
4 ตั้งใจแผ่เมตตา แผ่ส่วนกุศล ที่เราสวดมนต์เมื่อตะกี้ (เพราะการสวดเป็นกุศลอย่างหนึ่งที่เรามีพลังพร้อมจะแผ่ให้สัพสัตว์ทั้งหลาย  จะรู้สึกแปลกๆว่ามีความสุขมากตอนที่เรานั่งแผ่เมตตาออกไป)
5 นั่งมองดู พระพุทธรูป รูป ร5 รูปในหลวง รูปพ่อแม่ ตลอดจนรูป พระครูอาจารย์ที่เรานับถือ จะมีความรู้สึกว่าขนหัว ขนตัวลุกมาเอง มีความปีติ น้ำตาคลอเบ้าของเราโดยไม่รู้ตัว
6 คิดดี ทำอย่างไร จิตใฝ่ดี ต้องรวบรวมความนึกคิดให้เป็นกลางๆก่อน ไม่มีมิตรไม่มีศัตรู ไม่นึกถึงใครๆทั้งนั้น ไม่นึกถึงเงินทองที่ได้วันนี้หรือวันหน้า ไม่นึกถึงว่าพรุ่งนี้จะทานอะไร ไม่นึกถึงลูกเมีย ไม่นึกถึงเจ้าหนี้ ค่าเช่า ทรัพย์สิน รถราบ้านช่อง อะไรต่างๆ(ทำได้ไหม...ไม่ได้ก็แสดงว่าต้องนับหนึ่งเลย) 
7 หากยังคิด ก็กำหนดลมหายใจ ที่เข้าออก  เข้าก็รู้ว่าลมเข้า ออกก็รู้ลมออกแตะผ่านออกทางปลายจมูกเรา  กำหนดไปเรื่อย ผ่อนคลายค่อยๆลดลง เริ่มไม่คิด  หากคิดอีกก็ค่อยๆ เริ่มทำกำหนดลมหายใจใหม่  จนเริ่มจะติดใจว่าเราทำได้แล้ว อย่าดีใจ  นิ่งแล้ว
8 จะเริ่มมีความคิดฟุ้งซ่านลดลง ไม่กังวล ต่ออุปสัคใดๆเริ่มมีความคิดที่เข้าทางฝ่ายดีแล้วครับ ความคิดฝ่ายดีนี้แหละที่ผมพบว่า
จะแผ่ให้ใครไป ก็จะมีสิ่งดีๆกลับมา แต่สำหรับคนที่มีคลื่นความดีตรงกันนะครับ  หากเราจะแผ่ให้กลับคนคิดคนละทางก็ไม่ตรงกันครับ(ปัญญาเริ่มเกิด) หากบางท่านยังสงสัยว่าพลังจิตมีหรือไม่ ไปค้นหาได้ครับ อ่านหนังสือ The secret หลายๆรอบ จะพบว่า ไม่มีอะไรที่เราไม่สามารถทำ และตั้งใจทำแล้วจะไม่ได้ เว้นเสียแต่ว่าเรายัง มืดคิดไม่ออก  เพราะอวิชชาบังไว้เท่านั้นเอง
9 เปิด CD ธรรมะฟังสักหนึ่งแผ่น อะไรก็ได้เท่าที่เรามี ได้จากพระแจกมา เพื่อนให้มา ซื้อมา ก็ตาม สำคัญต้องเปิดฟัง
10 ความรักที่มีต่อเพื่อนๆที่มีแต่อคติ ต่อคนที่โกรธและเกลียดเราจะค่อยๆเข้าใจเขา จางหายกลายเป็นความเข้าใจว่าเขาคงไม่เข้าใจเราเองนะ หากเขารู้ว่าเราไม่ได้คิดไม่ดีเลยเขาคงเข้าใจเราเอง
ความเกลียด ต่อใครๆที่เราว่าเขาไม่ดี จะเริ่มหายไปและไม่มีในที่สุด
ความเมตตาสงสารปราถนาดีและความสุขุมนิ่งเยือกเบ็น จะกลับมา เป็นคนละคน
การให้วัตถุ ของขวัญต่างๆ ร้อยให้พันให้ ก็ไม่สู้การให้คน คิดไม่ดีกลับมาคิดดีคิดถูก สำคัญที่สุด การให้แห่งการให้ คือการให้อภัยต่อกันและกัน
แต่การให้อภัยนั้นก็อยู่บนพื้นฐานแห่งความถูกต้อง เช่นให้อภัยเพราะเขายังไม่รู้เรื่องราวข้อเท็จจริงเขาเห็นผิดไป เขาไม่เข้าใจ เขาเรียนมาน้อย เขาโง่เขลาเบาปัญญา เช่นนี้เรียกว่าการให้อภัย  (แต่ปัญญาของผู้รู้แท้จริง จะอุเบกขากับเรื่องร้ายแรงผิดกฏหมาย ผิดกฏธรรมชาติ เช่นมีผู้ทำผิกกฏหมาย ค้ายา ทำหลายชาติฆ่าคนโดยเจตนา อันนี้ท่านจะไม่ใช้คำว่าให้อภัย จะต้องใช้หลักธรรม พรหมวิหาร 4 ข้อสุดท้าย คือ วางเฉย ไม่ยินดียินร้ายต่อชนพวกนี้)
เท่านี้ก่อนครับ  ยาวไป เดี๋ยวจะหาว่าเทศนาไป


บันทึกการเข้า

dekwat♥
member
*

คะแนน458
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 303



« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2008, 12:14:10 AM »

 Cheesy  Cheesy  Cheesy
บันทึกการเข้า
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1883
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13256


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2008, 05:55:08 AM »

ดีครับท่านมหา....ผมชอบเป็นการเตือนสติที่ดีในการเจริญภาวนา ที่ถูกที่ควร
ไม่อยากจะบอกเลยครับว่า...การแสดงกระทู้ของท่านในเรื่อง ธรรม ผมจะอ่านไม่ให้หลุดเลยแม้แต่ตัวอักษรเดียว
บันทึกการเข้า
winai4u-LSV team
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน673
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3025



« ตอบ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2008, 08:42:07 AM »

ด้วยความขอบพระคุณอย่างสูงครับ
กำลังหาอยู่พอดี ช่วงนี้ฟุ้งซ่านมากครับ ตอนนี้ผมเข้าตำรา "อยู่คนเดียวให้ระวังความคิด อยู่ในหมู่มิตรให้ระวังวาจา"  Smiley

บันทึกการเข้า
supoj007
member
*

คะแนน286
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1555



อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2008, 09:58:33 AM »

หากมีเวลา เราเริ่มทำ หยุดการเล่นอินเตอร์เน็ตสัก ชั่วโมงก่อนนอนครับ ท่านน้องต้นทำได้ครับ แต่ต้องทำในแนวที่ถูกต้อง พระท่านว่าทางลัดครับ ไม่ต้องไปแสวงหาที่ไหน ที่ห้องเรานั่นแหละ แล้วค่อยหาเวลาเข้าวัดที่สงบๆ หาวิธีการ
จำไว้ว่า คนคิดดีมักจะหลีกจากคนไม่ดีเสมอ หากเราคิดว่าเราจะเริ่มทำใจดี ควรอย่างยิ่งที่จะหลีเสียจากการคบกลุ่มคนชักชวนไปแนวทางอบายภูมิครับ (คบได้สังสรรค์ได้แต่ใจเราต้องอิสระ)
-การหาความรู้ร่ำเรียน จนถึง ดร. แค่บำรุงสมอง ให้เจริญให้ปราชย์เปลื่อง-แค่ฉลาดในวิธีการหาเงินทอง เพื่อร่างกายอยู่รอด ทำงานรอด เท่านั้นเอง
-แต่การหากุศลธรรม มันบำรุงจิตใจ การเจริญทำใจให้คิดดีคิดถูก มันเป็นสุดยอด เดี๋ยวค่อยว่าต่อ
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18656


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2008, 04:11:58 PM »

เยี่ยมมากครับ ...หากทุกคนทำได้ โลกเราคงน่าอยู่กว่านี้เป็นแน่แท้ครับ  Lips Sealed Tongue
อ้างถึง
จะรู้สึกแปลกๆว่ามีความสุขมากตอนที่เรานั่งแผ่เมตตาออกไป
..จริงครับ ทำเสร็จแล้วจะทำให้เรามีจิตใจสดชื่น+ดีงามมากขึ้น ....
...ทุกวันประมาณ3ทุ่มผมจะนั่งแผ่เมตตาให้ คุณพ่อ..คุณแม่(หากเน้นตั้งใจแผ่นานๆคุณแม่จะรับรู้ได้ครับ  คล้ายๆจะมีกระแสจิตอะไรซักอย่างให้มีเหตุจะโทรกลับมาหาผม ..เป็นเรื่องจริงที่ไม่น่าเชื่อครับ ....ส่วนคุณพ่อผมเสียแล้วเมื่อต้นปี50) ..และแผ่เมตตาให้คุณครูบาอาจารย์ ... เทวดา ...เปรต ...เจ้ากรรมนายเวร...สรรพสัตว์ทั้งปวง ...ญาติพี่น้อง ตลอดจนเพื่อนร่วมโลก ...เพื่อนๆในเว็บบอร์ดทุกท่านครับ  Smiley
.. ..มาปฏิบัติกันเถอะครับ ทำที่ไหนก็ได้แม้ที่โต๊ะซ่อม ..บนรถ...ฯลฯ แล้วเพื่อนๆจะพบว่าชีวิตเราจะมีความสุขเพิ่มอีกเยอะ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรียังกล่าวไว้ว่า การปฏิบัติกรรมฐานนั้นได้บุญกุศลยิ่งหาที่เปรียบไม่ได้ครับ   Lips Sealed
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: