ก้าวไกลไม่รอด ศาลรธน.ฟันเปรี้ยง แก้ 112
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
เมษายน 29, 2024, 10:46:23 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ก้าวไกลไม่รอด ศาลรธน.ฟันเปรี้ยง แก้ 112  (อ่าน 392 ครั้ง)
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1883
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13257


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2024, 10:24:52 AM »

คดีแก้ มาตรา 112 ที่มีผู้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”
อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล ยื่นร่างแก้ไข ต่อสภาฯ
และใช้เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้งนั้น เป็นการใช้สิทธิ เสรีภาพ
เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ตามรธน.มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่

ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์ออกมาแล้วว่า
เป็นการใช้สิทธิ เสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครอง
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ตามรธน. มาตรา 49 วรรคหนึ่ง

และสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสอง เลิกการแสดงความคิดเห็น
การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น
เพื่อให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
อีกทั้งไม่ให้มี การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ
ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสอง
และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย
วิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 74

ชัดเจนว่า การแก้ไข มาตรา 112 ที่พรรคก้าวไกล
ดำเนินการที่ผ่านมานั้น ศาลตีความว่า
เป็นการล้มล้างการปกครองฯ
ให้หยุดการกระทำนั้นเสีย!

ผลของคำวินิจฉัยดังกล่าว “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ”
สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ประกาศแล้วว่า
วันนี้ (1ก.พ.) จะไปร้อง “ยุบพรรคก้าวไกล”
ต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง
และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
เพราะเข้าเงื่อนไขตาม มาตรา 92 (2)
พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
ซึ่ง กกต.ต้องส่งให้ศาลรธน. พิจารณาสั่งยุบพรรค
และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
ของคณะกรรมการบริหารพรรค

นอกจากนี้ ยังอาจมีผู้นำคำวินิจฉัยดังกล่าว
ไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
เพื่อเอาผิด นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
และส.ส.พรรคก้าวไกล อีก 44 คน
ที่เข้าชื่อกันยื่นร่างแก้ไข มาตรา 112 ต่อสภาฯ
ฐานกระทำผิดมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงด้วย

หากศาลรธน.สั่งยุบพรรค ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค
และ ป.ป.ช.ชี้ว่า “พิธา และ 44 สส.”
กระทำผิดมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงด้วยแล้ว
งานนี้พรรคก้าวไกล ตายแทบจะยกพรรค

สารตั้งต้นจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญและผลพวงต่อพรรคก้าวไกล
1) ยุบพรรคก้าวไกล
2) ตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตกรรมการบริหารพรรคทั้ง 44 คน
3) ติดคุกจากคดี อาญามาตรา 116 กรรมการบริหารพรรคทั้ง 44 คน

รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 49 -- มาตรานี้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า
พิธาและก้าวไกลกระทำผิดตามวรรค 1 ล้มล้างการปกครอง
บุคคลจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมิได้

ผู้ใดทราบว่ามีการกระทำตามวรรคหนึ่ง
ย่อมมีสิทธิร้องต่ออัยการสูงสุดเพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ
วินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าวได้
ในกรณีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ
หรือไม่ดำเนินการภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ
ผู้ร้องขอจะยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญก็ได้

การดำเนินการตามมาตรานี้ไม่กระทบ
ต่อการดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำการตามวรรคหนึ่ง
ผลพวง 1 ยุบพรรคก้าวไกล โดยยื่นเรื่องให้กกต.
ร้องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล
เนื่องจากกระทำผิด พรป. พรรคการเมือง 2560 มาตรา 92 วงเล็บหนึ่งและสอง

พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92
เมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า
พรรคการเมืองใดกระทําการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น ดังนี้

1) กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ
โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

2) กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ผลพวง 2 ร้องปปช. เพื่อให้กรรมการปปช.
ฟ้องศาลฎีกาของผู้ตำรงตำแหน่งทางการเมือง
ตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตเพราะประพฤติผิดจริยธรรม
ดังกรณีของคุณพรรณิการ์ วานิช
ซึ่งจะมีกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลจำนวน 44 คน
ที่จะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต
มาตรฐานจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ
รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน
และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของ
ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ.2561

ซึ่งบัญญัติโดย รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 219
ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ
เป็นผู้กำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมขึ้นมาบังคับใช้
โดยเนื้อหาต้องระบุให้ชัดเจนในประเด็นข้อห้ามด้วย

ผลพวง 3 ฟ้องดำเนินคดีอาญากรรมการบริหารพรรคก้าวไกล 44 คน
ว่ากระทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116
เพราะการล้มล้างการปกครองถือว่าเป็นการกระทำผิดป.อาญามาตรา 116
ทั้งวงเล็บ 1 และ 2 โดยต้องรวบรวมหลักฐานแห่งพฤติการณ์
และสืบเจตนาให้ชัดเจน โดยเฉพาะเจตนาภายใน
หลักฐานเหล่านี้มีอยู่แล้วที่ สันติบาล ควรให้
สอบสวนกลางหรือกองปราบปรามเป็นคนทำคดีนี้
โดยมีผู้ไปกล่าวโทษ
หรืออาจจะเป็นความผิดประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 113 กบฎ ด้วยครับ

ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 
ผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา
 หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายใน
ความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต
(๑) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย
(๒) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ
(๓) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี

ประมวลกฎหมายอาญา “มาตรา 113 ”
“ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ
              (๑) ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ
              (๒) ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้ หรือ
              (๓) แบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งราชอาณาจักร
              ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต”
โค๊ด:
Cr:https://mgronline.com/


ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย "พิธา-พรรคก้าวไกล แก้ไข ม.112 ล้มล้างการปกครองหรือไม่ ? | 31 ม.ค. 67

โค๊ด:
https://www.youtube.com/live/kSXx9IkhIBU?si=DNDWuZl_vBP3ySri


มติศาลรัฐธรรมนูญเป็นเอกฉันท์ 9:0

ศาล รธน. ไม่ได้บอกให้ “ยุบพรรค”
แต่เนื่องจากคำวินิจฉัยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
มีผลผูกพันทุกองค์กรทั้งในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
ต่อจากนี้ไปจึงขอให้ติดตามว่า  กกต. ปปช.
จะดำเนินการอย่างไรให้เป็นไป
ตามคำวินิจฉัยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

ก่อนเริ่มอ่าน ศาลรัฐธรรมนูญชี้แจงว่า
ศาลรัฐธรรมนูญรับคดีไว้พิจารณาเมื่อเดือนมิถุนายน 2566
ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายทราบดีว่าการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญใช้ระบบไต่สวน
ศาลมีอำนาจค้นหาความจริงไม่ว่าจะเป็นคุณหรือโทษแก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้
และการวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริง
ให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานได้ทุกประการ

ศาลได้ให้ผู้ถูกร้องชี้แจง โดยผู้ถูกร้องขอขยายระยะเวลา 2 ครั้ง
ศาลได้ดำเนินกระบวนการพิจารณารวม 62 ครั้ง
รับฟังความคิดเห็นของนักวิชาการ

พยานผู้เชี่ยวชาญที่มีความเป็นกลาง 4 ท่าน ได้แก่
1.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รณกรณ์ บุญมี
2.ศาสตราจารย์กิตติคุณ วิทิต มันตาภรณ์
3.รองศาสตราจารย์ ดร.ภูริ ฟูวงศ์เจริญ
4.รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภมิตร ปิติพัฒน์

นอกจากนี้ศาลได้รับฟังข้อมูลจาก
ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
สภาความมั่นคงแห่งชาติ
สำนักงานอัยการสูงสุด
สำนักงานศาลยุติธรรม ศาลอาญา ศาลอาญากรุงเทพใต้
ศาลอาญาตลิ่งชัน ศาลจังหวัดนนทบุรี
และศาลจังหวัดสมุทรปราการ
จึงเป็นการไต่สวนรับฟังข้อมูลรอบด้าน
และให้คู่กรณีแถลงปิดคดี เมื่อครบถ้วนจึงได้มีคำวินิจฉัย
Cr:วิรังรอง ทัพพะรังสี

สารตั้งต้น “ล้มล้าง” ตามด้วยยุบพรรค? | คมชัดลึก | 31 ม.ค.67 | FULL | NationTV22
โค๊ด:
https://youtu.be/NqlmtWUrlmM?si=wPOLqLK8CB52t_dv

ฟัง รศ.ดร. เจษฎ์ โทณะวณิก
อธิบายคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
ในกรณีที่พรรคก้าวไกลแก้ไขป.อาญา มาตรา 112
ล้มล้างการปกครอง ผิด รัฐธรรมนูญมาตรา 49
ได้อย่างกระจ่างชัดเจนที่สุด


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!