สิบทรราชโลกไม่เคยลืม
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
พฤษภาคม 29, 2024, 10:33:31 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สิบทรราชโลกไม่เคยลืม  (อ่าน 3086 ครั้ง)
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1884
ออนไลน์ ออนไลน์

กระทู้: 13361


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« เมื่อ: พฤศจิกายน 26, 2010, 11:31:54 AM »

http://www.manager.co.th/Columnist/ViewNews.aspx?NewsID=9530000166115

ฮวน คาร์ลอส เขียนไว้เมื่อ ๔ พฤษภาคม ปีนี้ และถูกถ่ายทอดลงในกูเกิ้ลให้เราค้นสืบมาอ่านกันว่าในบรรดาทรราชที่เคยมีมา ใครเลวร้ายที่มีส่วนทำให้ประชาชนต้องเสียชีวิตไปมากที่สุดคือใครกันบ้าง พวกเขาทำอย่างไร และปฏิบัติต่อประชาชนเพราะเหตุผลใด ผมเห็นว่าข้อมูลเหล่านี้น่าสนใจแก่เราและก็คิดว่าในอนาคตก็อาจจะมีผู้นำที่ อาจจะทำเช่นนี้อีก ไม่ว่าด้วยเหตุผลทางการเมืองหรือเหตุผลอย่างอื่น
       
       จึงขอเรียงตามลำดับสอบผู้นำหรือทรราชที่โลกไม่มีวันลืมดังนี้
       
       ลำดับแรกคือ ประธานเหมา เจ๋อ-ตุง แห่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งฮวน คาร์ลอสระบุว่าโดยทั่วไปเหมาถูกประเมินว่าเหมาทำคุณความดีระหว่าง ๗๐ ถึง ๘๐ เปอร์เซ็นต์ ว่าเป็นคนดีทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ แต่ที่เหลือเขาทำนโยบายผิดพลาดไว้เช่นกัน และสิ่งนั้นทำให้ประชาชนจีนตายไปประมาณ ๔๙ ถึง ๗๘ ล้านคน จากนโยบายตั้งแต่นโยบายเขย่งก้าวกระโดด ไปจนถึงการปฏิวัติทางวัฒนธรรม
       
       ลำดับที่สองได้แก่ นายโจเซฟ สตาลิน แห่งรัสเซีย ครองอำนาจสูงสุดในปี ค.ศ. ๑๙๒๒ ถึงปี ๑๙๕๓ หลังเลนินเสียชีวิตก็ขึ้นมาเป็นผู้นำเบ็ดเสร็จ ขึ้นมาแล้วก็ทำให้นโยบายเรื่องอาหารพังพินาศจนเกิดภาวะขาดแคลนทั่วประเทศ จนถึงปี ๑๙๒๒ และ ๑๙๒๓ เลวร้ายมากทุกอย่างพังพินาศ สตาลินส่งทหารเข้าปราบปรามพวกชาตินิยมในยูเครนโดยมีผู้เสียชีวิตร่วม ๑๐ ล้านคน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองทำให้ทหารรัสเซียเสียชีวิตไปทั้งหมด ๒๓.๙ ล้านคน
       
       ลำดับที่สาม ยาคาบู โกวอน สั่งให้ปิดพรมแดนทำให้ประชาชนอดอาหารเสียชีวิตไป ๑.๑ ล้านคน เริ่มมาจากความขัดแย้งระหว่างสงครามแยกไนจีเรียกับสาธารณรัฐไบอาฟรา พวกแบ่งแยกดินแดนออกจากไนจีเรียพยายามที่จะต่อสู่ยาคาบู โกวอนสั่งทำสงครามและปิดพรมแดนที่พวกแบ่งแยกดินแดนต้องการสงครามทำให้ทหาร ตายและพลเรือนตายไปแสนคน ส่วนการปิดกั้นพรมแดนทำให้พื้นที่คนขาดอาหารตายไปอีก ๑ ล้านคน
       
       ลำดับที่สี่ เมงกิสตู เฮลี่ มาเรียม ประธานาธิบดี แห่งเอธิโอเปีย ครองตำแหน่งช่วงปี ๑๙๗๔ ถึงปี ๑๙๙๑ โดยยึดอำนาจจากกษัตริย์ เฮเล เซลัสสี และใช้วิธีทารุณกรรมกับพวกคอมมิวนิสต์ในประเทศ
       ในการเริ่มทำสงครามกับพวกศัตรูเขาประกาศทุกครั้งว่าเขาจะ “ฆ่ามันให้ตายให้หมด” ทำให้คนนับพันนับหมื่นตายเกลื่อนท้องถนน และยังมีการฆ่าคนบริสุทธิ์อีกมากมาย รวมแล้วก็ ๑.๕ ล้านคน
       
       ลำดับที่ห้า คิมอิล ซุง แห่งเกาหลีเหนือ ใช้นโยบายข่มขวัญทำให้ประเทศตกอยู่ในความหวาดกลัวมาโดยตลอด เข้าไปควบคุมระบบเศรษฐกิจของประเทศ และใช้นโยบายแบบสตาลินกำจัดศัตรูทางการเมือง ทำให้เชื่อกันว่าจากนโยบายดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตไป ๑.๖ ล้านคน
       
       ลำดับที่หก พลพต แห่งกัมพูชา นโยบายของพลพตเป็นที่น่าสนใจโดยเฉพาะการสั่งอพยพคนออกจากพนมเปญและการขจัดชน ชั้นกลางและปัญญาชนอย่างราบคาบ พลพตต้องการล้างเขมรเพื่อสร้างระบบคอมมิวนิสต์ที่สมบูรณ์แบบทั้งๆ ที่เป็นระบบคอมมิวนิสต์ที่เบสิคที่สุดเท่าที่โลกเคยเห็นมา แต่เขาอ้างว่า กัมพูชาต้องมีชนชั้นเดียวเท่านั้น คือผู้ใช้แรงงานชาวนา
       
       เขาใช้ชาวนาเยี่ยงทาส โดยเรียกว่าเป็นนโยบายรวมหมู่ครั้งใหญ่ จริงๆ แล้วคือให้ประชาชนออกไปอยู่กับการใช้แรงงานในนา ขณะที่พลพตไม่ได้ให้อาหารและปัจจัยสี่ที่พอเพียงเลยทำให้ชาวนาและประชากร ส่วนใหญ่อดอยากและเสียชีวิต ทำให้ประชากรหนึ่งในห้าเสียชีวิต รวมแล้วคนจำนวน ๑.๙ ล้านคนต้องเสียชีวิตจากนโยบายสุดโหดของเขา
       
       ลำดับที่เจ็ด อีสไมล์ เอ็นเวอร์ ปาชาห์ ทำคนเสียชีวิตไป ๒.๕ล้านคนในจำนวนนี้แบ่งเป็นชาวอาร์มีเนีย (ปี๑๙๑๕) สามแสนห้าหมื่นคน ชาวกรีกปอนเชี่ยนสี่แสนแปดหมื่นคนและชาวกรีก
       อนาตอเลี่ยน (ปี๑๙๑๖ ถึง ๑๙๒๒) และชาวอัสสีเรียนอีก ๕ แสนคน (ปี ๑๙๑๕ ถึ ง๑๙๒๐)
       
       เอ็นเวอร์ ปาชาห์ เป็นหัวหน้ายังเตอร์กในกองทัพบกตุรกี ในฐานะรัฐมนตรี ทำสงครามแพ้มามาก และพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่ซาริคาเมช แต่เขาหาแพะรับบาป โดยกลาวหาพวกอาร์มาเนียน ดังนั้นเขาจึงริเริ่มนโยบายล้างเผ่าพันธุ์ขึ้น
       
       ศัพท์คำว่า “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ถูกใช้เป็นครั้งแรก เมื่อเอ็นเว่อร์ ปาชาห์ริเริ่มสังหารพวกอาร์มาเนียนนี้เองครับ
       
       ลำดับที่แปด จักรพรรดิ์ฮิโรฮิโตแห่งญี่ปุ่น แม้จะทรงเป็นพระประมุข แต่ทรงเป็นผู้นำทัพด้วย ทรงดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีของกองทัพด้วย
       
       จึงถูกประเมินว่าต้องรับผิดชอบกับสงครามที่ญี่ปุ่นรับผิดชอบกับการทำให้มีผู้สูญเสียไป ๕ ล้านคน
       
       ลำดับที่เก้า กษัตริย์ เลียวโปลที่สอง แห่งเบลเยี่ยม ทรงมีความเชื่อในนโยบายอาณานิคมมากว่าจะทำให้เบลเยี่ยมยิ่งใหญ่ จึงทางริเริ่มองค์กรบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล อัฟริกัน โซซายตี้ ขึ้นมาและเข้ามาครอบครองประเทศคองโกซึ่งใหญ่กว่าเบลเยี่ยม ๑๔ เท่าโดยทรงปกครองด้วยกำลังทหารของพระองค์ และบังคับพลเมืองให้ใช้แรงงานอย่างทารุณในอุตสาหกรรมผลิตยาง
       
       ทรงทำให้แรงงานเสียชีวิตไปไม่น้อยกว่า ๑๕ ล้านคน
       
       ลำดับที่สิบ อะดอล์ฟ ฮิตเล่อร์ ลืมใครลืมได้ แต่ไม่ใช่ฮิตเล่อร์โดยเด็ดขาด ผู้นี้ไต่เต้าจากนายสิบ ขึ้นมาเป็นจอมทัพอลังการเพราะฝีปากในการปลุกเร้าอย่างบ้าคลั่งด้วยชาตินิยม จอมปลอม
       
       คนเยอรมันเชื่อมั่นในฮิตเลอร์เพราะเขาปลูกให้ตื่นจากการพ่ายแพ้สงครามมาแล้วถึงสองครั้ง
       
       ในฐานะเป็นหัวหน้าพรรคนาซี ฮิตเล่อร์ไต่เต้าขึ้นมาเป็นผู้นำเผด็จการระหว่างปี ๑๙๓๔ ถึง๑๙๔๕ เขาฆ่ายิวไป และทหารที่เข้าร่วมสงครามรวมแล้ว ๑๗ ล้านคน
       
       
ไม่ทราบว่าผมตกหล่นทรราชที่ไหนไปอีกหรือเปล่า ไม่นับทรราชไทยนะครับ


อันดับที่ 11 หน้าเหลี่ยม
อันดับที่ 12 หน้าหล่อหัวถุงยาง
แน่นอน






บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!