Test บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รส-ยี่ห้อไหนคุ้ม อร่อยกว่ากัน
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
พฤษภาคม 29, 2024, 03:15:11 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: Test บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รส-ยี่ห้อไหนคุ้ม อร่อยกว่ากัน  (อ่าน 1561 ครั้ง)
แวมไพร์-LSVteam♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน912
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3712


..เรียนให้รู้เป็นครูเขา.Learning by doing


« เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2008, 09:49:22 AM »



“จน…เครียด…กินมาม่า”
       “ไว ไว คือปัจจัยที่ 5 ของเรา”
        “โซ้ย…ยำ ยำ ในยุคที่เศรษฐกิจ “สกรัม” คนจน…!”


หลายคนอ่านข้อความที่แปะหลังสิบล้อข้างต้นถึงกับทำเสียงครางในลำคอ เออ… ออ…!
       
       ทำนองเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับการเล่นเชิงล้อๆ ประมาณว่าในยุคที่น้ำมันแพง ข้าวแกง ก๊าซ ถุงยาง กางเกงใน กุ้ง-ปลาของชาวประมง และผงซักฟอก ฯลฯ จ่อขึ้นราคาอีกละรอกใหญ่
       
       ก็แหม...ไม่ให้พวกเขา (หมายถึงบริษัทผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป) สำคัญตัวเองอย่างนั้นได้ไง เพราะจากการประมาณการตัวเลขคร่าวๆ ปัจจุบัน
       
       คุณรู้หรือไม่ว่าต่อหนึ่งวัน เราๆ ท่านๆ โซ้ย…บะหมี่กึ่งสำเร็จวันละมากถึง 5-6 ล้านซองต่อ 1 วัน หรือหากจะคำนวณและพูดกันแบบภาษานักการตลาดปีๆ หนึ่ง ตลาดของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในบ้านเรามีมูลค่าเกือบหนึ่งหมื่นล้านเลยทีเดียว
       
       เรียกได้ว่า สินค้าไฮเทคบางชนิดฟังตัวเลขมหาศาลอย่างนี้ “มีเขิน” ครับ

   
       ทั้งนี้คงจะไม่ผิดที่จะบอกว่า ณ วันนี้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ผุดขึ้นมามากมายกำลังจะครองเมืองอยู่รอมร่อ เสนอตัว (ขณะเดียวกันก็แข่งขันกันเอง)




มาช่วยพวกเราประหยัดค่ากินค่าใช้จ่ายให้แก่มนุษย์เงินเดือนในแต่ละบาท-สตางค์ชนิดที่มนุษย์เงินเดือนเต็มใจนั้น
       
       คำถามมีอยู่ว่า ขณะที่เรามีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยืนจังก้าให้เราๆ ท่านๆ เลือกมากมาย หลาย Brand หลายรสชาติ คุณสงสัยหรือไม่ว่า ยี่ห้อไหน รสชาติไหน เป็นอย่างไร ซื้อแล้วคุ้มค่าและทุ่นเงินในกระเป๋าในช่วงเวลาหฤโหดแบบนี้มากที่สุดแล้ว
       
       นั่นซิ…?
       
       วันนี้ นอกจาก Metro life มี Scoop Test สินค้าให้แก่แฟนพันธุ์แท้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้งขาจรและขาประจำเพื่อเปรียบเทียบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หลายรส หลายยี่ห้อในท้องตลาด ที่สุดแล้วถ้าเราจะพึ่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปประทังท้อง ซื้อยี่ห้อไหนไม่เพียงคุ้มค่า
       
       และสมกับคำที่ให้ใครๆ เรียกว่า “ปัจจัยที่ 5” มากที่สุด
       ก็อย่างว่าละครับ วันนี้เราอยู่ในยุคที่น้ำมันใกล้จะแตะ 60 บาท-ดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้าน-รถทะลุ 7 % แต่ค่าแรงขั้นต่ำเพิ่งแตะ 200 บาท ดังนั้นเงินแต่ละเหรียญ แต่ละเฟื้องจะกระเด็นจากกระเป๋า
       
       มันต้องคำนวณดีๆ นะคุณ
       
       *********


   การเดินทางของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
       จากญี่ปุ่นถึงเมืองไทย


บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มีต้นกำเนิดมาจาก ประเทศญี่ปุ่น โดยนายอันโด โมโมฟุกุ ผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัท นิชชิน ประมาณปี 1958 ซึ่งเป็นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นประสบกับปัญหาข้ามยากหมากแพง ทำให้ชาวญี่ปุ่นต้องทานแต่อาหารที่ราคาถูกและสะดวกในการทำหรือหาทาน ซึ่งก็คือ ราเมน ทำให้นาย อันโด ได้พยายามคิดค้น ราเมนที่ สามารถทำทานเองที่บ้าน เก็บไว้ได้นาน และราคาถูก ขึ้นมา จนในที่สุดก็ได้ "ชิกิ้นราเมน" ขึ้นมา สำหรับประเทศไทย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้เข้ามาราวปี พ.ศ. 2514-2515 บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อแรกในประเทศคือ "ซันวา" ที่มีต้นแบบมาจากบะหมี่ญี่ปุ่นที่ต้องต้มก่อนทาน
       
       ************


เลือกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
       ยี่ห้อไหนคุ้มค่าที่สุด


บอกตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนนะครับว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้ง 5 ยี่ห้อ 5 รสชาติที่เรานำมา Test ในวันนี้ เราวัดจากความคุ้มค่าทางราคา พูดง่ายๆ เอาความ “ถูก” เป็นตัวตั้ง โดยปัจจุบันราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซองขายปลีกที่ถูกที่สุดคือ 6 บาท โดยเราจะเอาราคา 6 บาทตั้งและไล่ๆ ไปตามแต่ละยี่ห้อ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าของเงินเป็นหลัก หลังจากนั้นก็ค่อยมาว่ากันเรื่องการให้ความสำคัญกับวิธีโดยใช้วิธี Test เรื่องรสชาติ แบบที่ใครๆ ต่างเชื่อโฆษณาที่กรอกหูเราปาวๆ ว่า “ต้มยำทะเลหม้อไฟ” ของฉันนะมันอร่อยและเผ็ดร้อน



หรือกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของฉันนะเพราะว่าฉันราคาถูกที่สุดในบรรดาเซกเมนต์เดียวกัน เป็นต้น Test ดูว่ามันดีและอร่อยจริงสมคำร่ำลือหรือไม่
       
       เมื่อเข้าใจในแบบเดียวกันก็เสียบปลั๊กต้มน้ำร้อน...กำเงิน 6 บาทอย่างมีความหวัง และค่อยๆ ตามเรามา อ้อ... อย่าลืมค้นตู้เย็น หาผัก-หมูสาดเข้าไปนิดก็ได้นะครับ เพื่อประโยชน์และโภชนาที่ดีกว่ากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพียวๆ
       
       ************


ยี่ห้อที่คุ้มที่สุด
       1.ยำยำ




รายละเอียด มีรสชาติให้เลือกทั้งหมด 10 รสชาติ เช่น รสต้มยำกุ้งน้ำข้น, รสหมูสับ, รสไก่โอชา, รสต้มยำกุ้ง, รสต้มแซบตำรับอีสาน และรสต้มยำทะเลหม้อไฟ เป็นต้น

รสที่ใช้ Test
       ต้มยำทะเลหม้อไฟ เหตุผลเป็น 1 ในสี่รสชาติที่ออกมาใหม่และได้รับความนิยมสูงสุด
       = ขนาด 67 กรัม (6 บาท)
       
       จุดแข็ง
       
       1. เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ รสต้มยำทะเลหม้อไฟถือว่าคุ้มค่ามากที่สุดในตลาดกับขนาด 67 กรัม ในราคา 6 บาท
       
       2. เครื่องปรุงมีกลิ่นหอมมากๆ นอกจากจะแถมซองน้ำพริกเผาแล้ว รสนี้ยังเด็ดตรงนี้ได้นำเอา ครีมผง (โปรตีนนม) พริกป่น พริกคั่ว หอมแดง กระเทียม ซอสถั่วเหลือง เกร็ดเนื้อกุ้งและเกล็ดปลาแมคเคอเรส เอามาผสมรวมกันไว้อยู่ในซองเดียว ทำให้พอใส่ลงไปแล้ว นอกจากจะลดความมันของน้ำพริกเผาไม่ให้ดุเดือดแบบที่มันควรจะเป็น ซองเครื่องปรุงที่ว่ายังเพิ่มพลานุภาพทำให้รสชาติของต้มยำทะเลหม้อไฟกลมกล่อมแบบไม่มันอีกด้วย
       
       3.เมื่อผ่านน้ำร้อน 3 นาทีแล้ว ถือว่าหน้าตาดูดีไม่ผิดหวัง เพราะเส้นยังเรียวเล็กชวนเรียกน้ำลาย แถมกลิ่นกุ้ง กลิ่นมันกุ้งลอยหอมฉุยก็มาตามนัดแบบที่เขาโฆษณาด้วย
       
       4. น่าแปลกใจ…กับอีกหนึ่งจุดเด่น กล่าวคือ เมื่อปล่อยให้ยำยำรส “ต้มยำทะเลหม้อไฟ”คลายความร้อนมันจะยิ่งส่งกลิ่นหอมมันกุ้งฉุย แถมรสชาติยังเข้มข้นและอร่อยเพิ่มมากขึ้นอีก ใครบอกว่ากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกินได้แต่ตอนร้อนๆ เย็นแล้วก็อร่อยได้

       5.กิน “ยำยำ”จัมโบขนาด 67 กรัม เพียง 2 ซอง หรือเท่ากับ 134 กรัม ไม่เชื่อว่า มันจะอยู่ท้องไปถึงครึ่งวัน
       
       ************
ยี่ห้อที่คุ้มที่สุด 2.มาม่า



รายละเอียด
       มีให้เลือกชิมกว่า 31 รสชาติ ได้แก่ เจรสต้มยำ เจรสเต้าหู้เห็ดหอม รสต้มยำกุ้ง รสต้มยำกุ้งน้ำข้น รสต้มยำกุ้งบิ๊กแพ็ค รสต้มยำเส้นชาเขียว รสเป็ดพะโล้ รสผัดขี้เมาแห้ง รสเย็นตาโฟ รสหมูต้มยำ เป็นต้น
       
       รสที่ใช้
       Test รสชาติหมูสับ เพราะเป็นรสที่ขายดีที่สุดในบรรดาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในประเทศไทย
       = ขนาด 60 กรัม (6 บาท)
       
       จุดแข็ง
       
       1.น้ำซุปที่เข้มข้นส่งกลิ่นหอมของหมูสับอย่างชัดเจน
       
       2.รสชาติที่เป็นกลางรับประทานได้ทุกเพศ ทุกวัย
       
       3.เก็บไว้กินได้นานถึง 6 เดือน นับจากวันผลิตจากหน้าซอง
       
       4.ระยะเวลาในการเปิดถ้วยดูเส้นที่อืดน่ากินต้องประมาณ 4 นาที แล้วจะรู้สึกว่ากินอิ่มกว่าแช่น้ำร้อนเพียงแค่ 2-3 นาที เพราะเส้นจะดูดน้ำทำให้เส้นอืดขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าให้ดีอย่าแช่ไว้เกิน 5 นาที จะทำให้เส้นขาดความเหนียวนุ่ม ใช้ตะเกียบคีบทีเส้นแทบขาด
       
       5.เครื่องปรุงที่ประกอบไปด้วย ธาตุไอโอดีน 50 ไมโครกรัม, ธาตุเหล็ก 5 มิลลิกรัม และวิตามินเอ 267 ไมโครกรัม ซึ่งช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหาร
       
       **************


ยี่ห้อที่คุ้มที่สุด 3.เอฟ เอฟ



รายละเอียด
       
       
       มีหลากหลายรสชาติมาก เช่น รสปรุงเสร็จ ,รสเอ็กซ์โอซ๊อส, รสเนื้อ, รสต้มยำทะเล, รสต้มยำกุ้ง, รสเป็ดพะโล้, Oriental เป็นต้น
       รสที่ใช้ Test
       รส Oriental เพราะเป็นรสที่สามารถกินได้ทุกวัยและขายดีที่สุด
       = ขนาด 60 กรัม (6 บาท)
       
       จุดแข็ง
       
       1.เส้นเหนียวเล็กและเหนียวนุ่ม ไม่แข็งกระด้างลิ้น ที่สำคัญเส้นไม่คืนตัวและไม่อมน้ำเวลานอนอยู่ในน้ำร้อนนานๆ
       
       ************

       
ยี่ห้อที่คุ้มที่สุด 4.ไว ไว




รายละเอียด
       รสที่ผลิตมีทั้งหมด 12 รส เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปรุงสำเร็จ รสหมูสับต้มยำ รสต้มยำกุ้งน้ำข้น รสหอยลายผัดฉ่า ควิก รสต้มโคล้ง ควิกรสต้มยำกุ้ง ควิกรสต้มยำมันกุ้ง และควิกรสกุ้งนึ่งมะนาว เป็นต้น
       
       รสที่ใช้ Test
       รสกุ้งนึ่งมะนาว เพราะเป็นรสใหม่ล่าสุด และเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น
       =55 กรัม (6 บาท)
       
       จุดแข็ง
       1. เครื่องปรุงนั้นมีส่วนผสมทั้งกุ้งผง มะนาวผง พอเติมน้ำร้อนลงไปทำให้คลุกเคล้ากันเข้าที่ คุณก็จะได้กลิ่นกุ้ง และกินมะนาวลอยหอมฉุยมาเตะจมูก
       
       2. รสชาติจัดจ้านถึงใจ
       
       3. เส้นของไว ไวควิกนั้นจะมีรสเค็มในตัวดังนั้นเมื่อใส่น้ำลงไป
       น้ำซุปที่ได้จะมีรสเค็มโดยไม่ต้องเติมน้ำปลาเพิ่ม
       
       *************


ยี่ห้อที่คุ้มที่สุด 5.เทสโก้



รายละเอียด
       มีรสชาติให้เลือกน้อย เช่น ต้มยำกุ้ง รสหมูสับ และ Oriental เป็นต้น

       รสที่ใช้ Test
       “รสต้มยำกุ้ง” เพราะได้รับความนิยมมากที่สุด
       = 55 กรัม / 6 ซอง 20 บาท เฉลี่ยซองละ 3.33 บาท (ไม่มีขายปลีก)
       
       จุดแข็ง
       1. ราคาถูกที่สุด
       2.ถือว่าเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่แฟร์มาก เพราะหากคุณไม่ถูกใจในรสชาติสินค้า ด้านหลังซองเขาระบุว่า กรุณานำมาคืนหรือเปลี่ยนใหม่ได้ที่ เทสโก้ โลตัส ทุกสาขา น่าสงสัย…ก็แค่ว่าแล้วพวกเราจะนำบะหมี่กึ่งสำเร็จที่ไม่พอใจเอาไปคืนในรูปหรือสภาพไหนเท่านั้น
       
       ************


บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กับสิ่งที่ไม่ควรเชื่อ



อย่างที่จั่วหัวละครับ บางอย่างที่แฟนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเชื่อๆ ตามกันมาเข้าข่ายเป็นความเชื่อ บางอย่างเข้าขั้นงมงาย เช่น เรื่องการใส่น้ำร้อนและทิ้งไว้ 3 นาที หรือ อย่างเรื่องบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปราศจากการใส่ผงชูรส ฯลฯ วันนี้เรา Test มาให้ทุกๆ คนดูแล้วครับว่าจริงหรือหลอก...!

ความเชื่อที่ 1 เทน้ำร้อนทิ้งไว้ 3 นาทีกินได้เลย
       
       อันนี้เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะใส่ใจตั้งคำถามว่าจริงๆ แล้วเมื่อแกะซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรสที่ชอบใส่ชาม เติมเครื่องปรุงในซองที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อนั้นๆ แล้วจึงกับกดต้มน้ำร้อนที่มีจุดเดือดอยู่ที่ 100 องศาแล้ว ปิดฝารอ 3 นาที บะหมี่จะสุกเส้นจะนิ่มนวลดูน่ารับประทาน ทั้งหมดซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดครับ เพราะจากที่เราได้ทดลองทำตามขั้นตอนดังกล่าว โดยเริ่มจากการใช้กาต้มน้ำร้อนแบบเสียบไฟยี่ห้อ “ชาร์ป” ต้มน้ำร้อนทิ้งไว้ กระทั่งปรอทวัดความร้อนหน้ากระติกระบุว่าขณะนี้น้ำมีอุณหภูมิ 100 องศาแล้ว
       
       จึงทำตามขั้นตอนที่ข้างซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูประบุไว้ ที่ละขั้นตอน
       
       1.นำบะหมี่ใส่ชาม ใส่เครื่องปรุง แล้วเติมน้ำเดือด 1 ถ้วยครึ่ง ปิดฝาทิ้งไว้ 3 นาที
       
       ปรากฏว่า เอาเข้าจริงแล้วบะหมี่ทุกยี่ห้อที่เรานำมา Test นั้น เส้นเหลืองของมันถือว่ายังไม่สุกดี แถมยังเกาะตัวติดกันเป็นแพ เมื่อลองเอาตะเกียบคีบเอาเส้นเข้าปาก คุณจะได้รับรู้ว่ามันไม่นิ่มและมีเสียงกรุบ กรับ คล้ายๆ กับการเคี้ยวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเล่นๆ ก่อนเอามาต้ม ที่สำคัญเครื่องปรุงยังไม่กระจายไปซึมซับตัวอยู่ในเส้น ยังเกาะกลุ่มกันเหนียวแน่นซึ่งมันจะทำให้ความอร่อยและความเข้มข้นที่ควรจะเป็นลดทอนลงไปพอประมาณครับ
       
        อย่างไรก็ดี เราลองทำตามขั้นตอนข้างต้นใหม่ คือ ขั้นตอนว่า นำบะหมี่ใส่ชาม ใส่เครื่องปรุง แล้วเติมน้ำเดือด 1 ถ้วยครึ่ง ปิดฝา ทิ้งไว้จากเดิม 5 นาที
       
       ปรากฏว่าผลลัพธ์ต่างกันมากๆ เพราะเมื่อเปิดฝาออกมา หน้าตาของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เรานำมาเทสต์ทั้งหมด สีสันของเส้นเหลืองผ่องใส แถมกลิ่นเครื่องปรุงที่แทรกซึมเข้าไปในเส้นยังแย่งกันส่งกลิ่นหอมคละคลุ้งดูน่ากิน ผิดจากวิธีแรกที่เราทำตามขั้นตอนที่ระบุหลังซอง
       
        ความเชื่อที่ 2 สวย ใส น่ากิน...ไม่ได้เป็นแบบที่คุณเห็น
       
       คุณเคยกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไม่หมด และเคยหันไปมองสภาพมันในชามไหม ถ้ายังไม่เคย
       
       เราทำผลการตัดสินมาแล้วว่า
       
       10 นาทีผ่านไป เส้นที่ถือว่า อมน้ำซุปในชามจนมีสภาพบวมเบ่งได้แก่ ยี่ห้อ ยำยำ ไวไว มาม่า มีสภาพบวมและมีสีสันผิดไป กล่าว คือมีสีขาวซีด ไม่เหลืองอร่ามน่ากิน มีสภาพคล้ายๆ กัน แต่สำหรับ เอฟเอฟ และ Tesco ไม่น่าเชื่อว่าจะมีสภาพไม่บวมน้ำมากเรียกได้ยังพอได้เห็นสภาพเมื่อตอนโดนน้ำใหม่ๆ ได้ คือเรียว เล็กและน่ากิน
       
        อย่างไรก็ดี เชื่อกันว่า พอกินเส้นที่มีลักษณะอืดเข้าไปแล้ว มันจะทำให้หิวน้ำ




ความเชื่อ 3 อย่าเชื่อโฆษณาปรุง หรือไม่ ต้องตัดสินใจเอง
       
       หัวข้อนี้คนมือหนักและชอบกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสหมูสับควรอ่านครับ เราเตือนนิดว่า
       
       ส่วนใหญ่แล้ว ควรชิมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “รสหมูสับ” ของคุณก่อนเหยาะๆ สิ่งแปลกปลองเพิ่มลงไป โดยเฉพาะน้ำปลา เพราะมันจะทำให้ น้ำซุปของรสหมูสับซึ่งมีรสเค็มนำอยู่แล้ว ยิ่งเพิ่มความเค็มเข้าไปใหญ่
       
       ส่วนถ้าเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้ออื่นๆ ที่เรานำมา Test เช่น
       
       -รสกุ้งนึ่งมะนาว เปรี้ยวนำ ซึ่งหาก ยิ่งบีบมะนาวแบบที่โฆษณาในทีวีทำให้เราดูมันน่าจะมีรสชาติจะออกมาไม่น่าภิรมย์สักเท่าไหร่
       
       -ผิดกับ Tesco ต้มยำกุ้ง ที่ว่ากันว่า รสชาติไม่จัดแถมยังออกไปในทางเค็มและเผ็ดนำนิดๆ
       
       -ส่วนเอฟเอฟ Oriental รสนี้ที่เขาโฆษณาหน้าซองว่าเป็นรสปรุงเสร็จ ซึ่งหลายคนเดาว่ารสชาติน่าจะออกมากลมกล่อม ผิดถนัดครับ มันจืดสนิท อย่างไรก็ดีในบรรดาที่เรา Test มา รสนี้เรียกร้องและเปลือง พริก น้ำปลา มากที่สุด
       
       -ส่วนรสชาติที่เราถือว่า OK มากที่สุด เห็นจะเป็น ยำยำ รสต้มยำทะเลหม้อไฟ เพราะมันได้ทั้งรสเผ็ด ร้อน หอมกรุ่นและมีเครื่องเทศแซมๆ อยู่
       
        ความเชื่อที่ 4 หลายคนคิดว่าเครื่องปรุงของบะหมี่กึ่งสำเร็จใส่ผงชูรสมาก
       
       ซึ่งจากการที่เรา Test บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาแล้วทั้งหมด 5 ยี่ห้อ ซึ่งก็ถือได้ว่า ทุกๆ ยี่ห้อมีปริมาณผงชูรสมากครับ
       
       อย่างไรก็ดีถ้าสังเกตให้ดี ปัจจุบันผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เรานำมา Test ต่างก็เลี่ยงมาใช้คำว่า “โมโนโซเดียมกลูตาเมท” (และผงปรุงรส) แทนที่จะใช้คำว่า “ผงชูรส” คนเมืองอย่าเราๆ อาจจะรู้ทัน แต่ น้องๆ หนูๆ ปู ย่า ตา ยาย เจอก็อย่าหลงเล่ห์กลของเขาเชียวล่ะ ทั้งนี้มียี่ห้อเดียวในบรรดาที่เรา Test กล้าใส่คำว่าผงชูรสลงไปอย่างชัดเจนก็คือ Tesco
       
       **************


กินอย่างไรในยุคฝืดเคือง

น่าสนใจนะครับ ว่าถ้ามนุษย์เงินเดือนเมิน อาหารตามสั่ง กระทั่งงด เมนู Junk food แล้วหันมาใช้บริการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 3 มื้อ คุณว่ามันจะทุ่นค่าใช้จ่ายของเราไปเท่าไหร่ และนี่คือตารางที่เราทำขึ้นมาเปรียบเทียบให้ดูว่าถ้าเรา “หัวหมอ” สิ้นเดือนเราจะมีเงินเหลือเท่าไหร่…!
       
       ตารางเทียบ
       
        สมมติ นางสาว ก. จบปริญญาตรีเงินเดือนเริ่มต้น 8,500 บาท ด้วยค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น แต่เงินเดือนเท่าเดิมทำให้นางสาว ก. ต้องปรับชีวิตการบริโภค โดยหันมาบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
       
       3 มื้อต่อวัน มาดูว่าการเปลี่ยนมาบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 3 มื้อต่อวันของเธอเดือนหนึ่งนั้นจะสามารถประหยัดเงินได้เท่าไร




1 เดือนเก็บเงินได้ 2,100 บาท
       ถ้า 1 ปีนางสาว ก. จะมีเงินเก็บ 25,200 บาท ลองคิดดูซิครับว่า ถ้าคุณกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากกว่านี้จะมีเงินเก็บเท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ดีเพื่อสุขภาพที่ดี มีผัก มีหมู มีไข่ไก่ หลงเหลือในตู้เย็นก็มิกซ์ๆ ใส่
       
                                                 รู้ไว้ใช่ว่า   
       
             แนะนำนิดหนึ่งนะครับว่า การกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากๆ เสี่ยงต่อการเป็นโรคไต ดังนั้นควรอ่านและพิถีพิถันซักหน่อยว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อไหน นอกจากจะดูว่ายี่ห้อไหนมีรายละเอียดว่ามีสารไอโอดีน ธาตุเหล็ก และวิตามินเอ แล้ว อย่างอ่านแล้วพานทำซื่อๆ พูดง่ายๆ คุณควรเพิ่มเติมไข่หรือเนื้อสัตว์และผักลงไปทุกครั้ง อาจเติมเครื่องปรุงครึ่งซองหรือน้อยกว่า และไม่ควรรับประทานแบบดิบ ๆ เพราะเส้นบะหมี่จะลงไปพองตัวในกระเพาะอาหาร เกิดการจุกแน่นท้องได้
             อย่างไรก็ดี ให้รับประทานอาหารไทยที่มีสารอาหารครบ 5 หมู่ สลับหรือทดแทน เช่น ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ ขนมจีน ข้าวผัด เข้าไปด้วยเพื่อสุขภาพอันดี


โดย ผู้จัดการออนไลน์


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!