พิมพ์หน้านี้ - เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 50-100 บาทต่อเดือน เริ่ม ก.ค. 2561

LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"

นานาสาระ => หน้าที่พลเมือง => ข้อความที่เริ่มโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ กรกฎาคม 06, 2018, 09:56:01 AM



หัวข้อ: เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 50-100 บาทต่อเดือน เริ่ม ก.ค. 2561
เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ กรกฎาคม 06, 2018, 09:56:01 AM
หากอ่านบทความไม่พอดีกับจอมือถือ ดูเนื้อหาและคลิปวีดีโอที่เกี่ยวข้อง> w ww.ubmthai.com เวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน >>คลิ๊ก!!  www.pohchae.com
.
.   

เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 50-100 บาท/เดือน เริ่ม ก.ค. 2561
5 กรกฎาคม 2561 เว็บไซต์เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า นางธนาภรณ์ พรหมสุวรรณ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) มีมติเห็นชอบแนวทางการดำเนินการให้เงินช่วยเหลือเพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย..
โดยในที่ประชุมเห็นว่า ผู้สูงอายุที่จะได้เงินช่วยเหลือดังกล่าวจะต้องเป็นผู้ที่อยู่ในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 4 ล้านคน ซึ่งผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท จะได้รับเดือนละ 100 บาท และผู้ที่มีรายได้มากกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 1,000,000 บาท จะได้รับเดือนละ 50 บาท โดยระยะแรกจะจัดสรรให้ 3 เดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2561 ซึ่งผู้สูงอายุจะต้องนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปติดต่อที่ธนาคารกรุงไทย เพื่อลงทะเบียนกดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย สามารถกดได้ขั้นต่ำ 100 บาท สำหรับผู้ที่ได้รับ 50 บาทต่อเดือน(ต้องรอสะสมให้ครบ 100 บาท จึงจะสามารถกดได้) ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานกระทรวงการคลังและกรมบัญชีกลาง ในการเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คาดว่าจะสามารถติดต่อที่ธนาคารกรุงไทยได้ในวันที่ 15 กรกฎาคม นี้ และจากนี้กำลังอยู่ระหว่างการหารือเพื่อขยายระยะเวลาจัดสรรเพิ่มเติม สำหรับแหล่งเงินที่จะมาจัดสรรช่วยเหลือผู้สูงอายุนั้น มาจากเงินบำรุงกองทุนผู้สูงอายุจากภาษีสรรพสามิต ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสินค้าสุราและยาสูบในอัตราร้อยละ 2 แต่ไม่เกิน 4,000 ล้านบาทต่อปี ขณะนี้มีจำนวนเงินภาษีดังกล่าวเข้ากองทุนผู้สูงอายุแล้วประมาณ 1,402 ล้านบาท และเงินบริจาคจากผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ในส่วนนี้ได้เปิดให้ผู้สูงอายุแจ้งความประสงค์บริจาคตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560 เป็นต้นมา มีผู้บริจาคแล้วเพียง 515 ราย วงเงินประมาณ 1 ล้านบาท จึงอยากเชิญชวนให้ผู้สูงอายุที่มีรายได้พอเพียงร่วมบริจาค เพื่อนำไปสมทบช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยต่อไป. ที่มา เดลินิวส์